ตอนที่ 4
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีเจอกันอีกแล้วนะ มาริสา ดิลกภัทธ” เขาเอ่ยชื่อเต็มของเธอแล้ววางแฟ้มนักศึกษาฝึกงานลง
“ต่อไปนี้เดี๋ยวฉันจะเป็นพี่เลี้ยงเธอเอง”
“ทำไมเหรอคะ” หญิงสาวถามขึ้น
“ถ้าเธออยากฝึกงานจบ ก็ไม่ต้องถาม”
“ค่ะ”
“แล้วเรื่องไวน์ที่เธอทำตกแตก ราคามันก็เกือบ ๆ ห้าแสนได้ ถ้าเธอไม่มีเงินชดใช้ ก็ต้องทำงานแลก แต่ต้องเป็นหลังฝึกงานเสร็จนะ เพราะฉันไม่นับชั่วโมงฝึกงานที่เธอจะต้องทำอยู่แล้ววันละ 8 ชั่วโมง เธอจะต้องใช้หนี้ฉันจนครบทุกบาททุกสตางค์
“แล้วฉันต้องทำไปถึงเมื่อไหร่กัน ถึงจะใช้หนี้คุณหมด”
“ฉันให้เธอทำงานให้ฉันจนครบหนึ่งปี โอเคมั้ย”
“ตกลงค่ะ” มาริสาคิดในใจอย่างน้อยก็ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสินหรือทำให้แม่เธอต้องเดือดร้อน
“วันนี้เธอเริ่มฝึกงานที่ห้องทำงานฉันเลย”
“ค่ะ” ผ่านไปหนึ่งเดือน มาริสาฝึกงานเสร็จ ก็ยังต้องคอยมาทำงานใช้หนี้ให้กับกฤตดนัย เรื่องที่ทำไวน์เสียหาย เธอต้องกลับไปเรียนต่ออีกหนึ่งเทอมถึงจะจบ แต่ช่วงเย็นหรือวันหยุดก็ต้องมาทำงานให้กฤตดนัยไปด้วย
มาริสาถูกกฤตดนัยใช้ให้ทํางานบ้านอย่างหนักเหมือนเขาจะแกล้งเธออย่างไงไม่รู้ แต่เธอก็ไม่ปริปากบ่นก้มหน้าทําตามที่เขาบอก
วันหนึ่งมาริสามีเวลานอนพักแค่สี่ชั่วโมง ทั้งเรียน ทั้งงานที่โรงแรมแล้วต้อง มาต่อที่ห้องของเขาอีกด้วย
“นี่เธอ! ตรงนี้ยังไม่สะอาดเลยนะ” กฤตดนัยบ่นเธอที่กําลังเช็ดโต้ะกินข้าวอยู่ความจริงมันก็สะอาดอยู่แล้ว แต่เขาต้องการแกล้งเธอเพราะหมั่นไส้ที่เธอเอาแต่เช็ดๆ ถู ด้วยใบหน้าบึ้งตึง เขาพูดด้วยก็ไม่ยอมพูดด้วย
มาริสามองเขาตาขวาง แต่ก็ยอมไปเช็ดตรงที่เขาบอกว่าไม่สะอาด เธอเหนื่อยขี้เกียจเถียงเขาอยากทําให้เสร็จๆ ไป
“คุณพรุ่งนี้ ฉันขอหยุดนะคะ”
“ทําไม”
“มันเรื่อง..ของฉันไหม” มาริสาย้อนเขาแค่บอกให้เขารู้ ไม่ต้องการให้เขารู้เรื่องส่วนตัวของเธอจริงๆ
“ไม่บอกก็ไม่ให้หยุุุุด” กฤตดนัยบอกเสียงเข้มอย่างไม่ยอมเหมือนกัน
“ถึงคุณไม่ให้หยุด ฉันก็จะหยุด เพราะฉันทํางานครบหนึ่งสัปดาห์ ที่ไหน ๆ ก็มีวันหยุดทั้งนั้นแหละ” มาริสาเถียงแบบไม่ยอมพร้อมทั้งเดินไปเก็บอุปกรณ์ทําความสะอาด แล้วถือกระเป๋าตัวเองเดินออกจากห้องเขาทันทีเพราะครบชั่วโมงตามที่ตกลงกันไว้แล้ว
กฤตดนัยอ้าปากค้าง คาดไม่ถึงว่าเธอจะไม่ฟังเขาเลยเพราะปกติเขาพูดอะไรเธอ ไม่มีเถียงไม่มีบ่น เขาใช้ทําอะไรก็ทําหมด เขารู้สึกขัดใจที่ทําอะไรเธอไม่ได้ เพราะเธอก็พูดถูก
กฤตดนัยคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่แปลกมากๆ ตลอดเจ็ดวันที่เธอมาทํางานบ้านให้เขา เธอพูดนับคําได้ เขาใช้อะไรเธอก็ทํา เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลย รู้แค่ชื่อและสถานที่เรียนตามแฟ้มฝึกงานของโรงเรียนรู้ว่าเขาเป็นต้นเหตุให้เธอมาทํางาน ใช้หนี้ให้เขา
กฤตดนัยอยากรู้ว่ามาริสาจะไปไหน เขาจึงไปดักรอดูเธอมหาวิทยาลัย จนเจอเธอนั่งคุยกับผู้ชายคนหนึ่งอย่างสนิทสนมหัวเราะต่อกระซิกกันอย่างอารมณ์ดีผิดกับที่อยู่กับเขา เขายังไม่เคยเห็นเธอยิ้มหรือหัวเราะสักครั้ง ถึงเขาจะไม่สนิทกับเธอแต่ก็เคยยิ้มให้เขาบ้างสิ
“นึกว่ามีธุระสําคัญอะไร ที่แท้ก็มาระริกระรี้กับผู้ชาย เธอมันก็ไม่ต่างจากผู้หญิงอื่นหรอก ที่ฉันทำเป็นปฏิเสธ” กฤตดนัยบ่นหญิงสาวที่เป็นแค่ลูกหนี้ของเขา ไม่รู้ทําไมเขาต้องมาหงุดหงิดแบบนี้ด้วย เขาหลงคิดว่าเธอหวงเนื้อหวงตัวเพราะตั้งแต่เธอไปทํางานกับเขารู้สึกเธอจะพยายามไม่เข้าใกล้เขาเลย แต่พอเขามาเห็นวันนี้แล้ว สงสัยเขาจะคิดผิดไป
“สงสัยต้องสั่งสอนสักหน่อยแล้ว” กฤตดนัยยังปากเสียบ่นมาริสาโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย
เช้านี้กฤตดนัยมาที่ห้องทำงานเดินไปเดินมา ยกนาฬิกาข้อมือมาดู พอเดินไปอีกสี่ห้ารอบ เขาก็ได้ยิน เสียงเคาะห้องดังขึ้น เขายืนถอนใจคล้ายโล่งอก แล้วเดินไปเปิดประตูเหมือนรู้ว่าเป็นใคร