ห้าโมงเย็น พลอยวารินทร์เก็บของกลับบ้านทันที เธอคิดถึงลูก และคิดเมนูอาหารไว้รอให้ลูกสาวกินแล้ว เธอหิ้วโน้ตบุ๊กกลับบ้าน ลงลิฟต์มาถึงหน้าบริษัทก็มีคนขับรถเดินมารับกระเป๋าโน้ตบุ๊กของเธอ แล้วเปิดประตูรอให้เธอขึ้นไปนั่ง
นี่เป็นหนึ่งในออฟชั่นเสริมของเธอที่มีในฐานะแม่ของลูกของเฮย์เดน เพื่อนร่วมงานไม่มีใครรู้ว่ารถที่มารับเป็นคำสั่งของเฮย์เดน เพื่อน ๆ ที่ทำงานของเธอต่างเข้าใจว่าแฟนเธอคงเป็นเศรษฐีคนไหนสักคนที่ส่งรถมารับ เพราะตัวพลอยวารินทร์เองก็บอกทุกคนเสมอว่าเธอเป็นแค่พนักงานคนหนึ่งไม่ใช่ลูกสาวเศรษฐีที่ไหน แถมยังมีลูกแล้วด้วย ครั้นเพื่อนร่วมงานจะถามอะไรอีก พลอยวารินทร์ก็มักจะเปลี่ยนเรื่องทันที ไม่ตอบเรื่องครอบครัว เพื่อน ๆ เลยไม่มีใครรู้และไม่อยากถามอีกเพราะถามไปพลอยวารินทร์ก็ไม่ตอบ
พลอยวารินทร์เดินนำหน้าบอดี้การ์ดขึ้นไปที่ห้องพักบนชั้นที่สามสิบสาม พอเข้าไปแล้วก็ต้องยิ้มกว้างเมื่อลูกสาวคนสวยเดินแกมวิ่งเข้ามาหา
“คิดถึงมามี้จังเลยค่ะ” เด็กหญิงพริซซิลล่า แบรดฟอร์ดหรือไข่มุกกระโจนเข้าหาแม่แล้วซุกใบหน้าออดอ้อนกับอกแม่จนพลอยวารินทร์ยิ้มไม่หุบ
“แม่ก็คิดถึงไข่มุกเหมือนกันค่ะ สาวน้อยมาให้แม่หอมแก้มสักทีสิคิดถึงทั้งวันเลย” พลอยวารินทร์หอมแก้มยุ้ย ๆ ของลูกสาวฟอดใหญ่ หอมทั้งแก้มซ้ายแก้มขวา แล้วเพิ่งสังเกตว่าที่ปากเล็กมีรอยเลอะไอศกรีมสตรอว์เบอร์รีสีชมพูที่กำลังหกย้อยลงมา “กินไอศกรีมอยู่หรือคะไข่มุก นีน่าขอกระดาษเช็ดปากให้น้องไข่มุกด้วยจ้ะ”
นีน่าพี่เลี้ยงของไข่มุกได้ยินก็รีบเดินมาดู “ขอโทษทีนะคะคุณเอพริล นีน่าไม่ทันเช็ดปากให้น้อง เลยเลอะไปหมดเลย”
“ไม่เป็นไรจ้ะ เอากระดาษมาให้ฉันก็พอ เดี๋ยวฉันดูลูกเอง”
นีน่ากำลังจะหันไป แต่เห็นแก้มใสของเจ้านายสาวเลอะคราบไอศกรีมด้วย “คุณเอพริลคะ แก้มคุณก็เลอะไอศกรีมค่ะ เดี๋ยวนีน่าไปหยิบกระดาษมาให้นะคะ”
พลอยวารินทร์พยักหน้า เธอใช้มือที่ไม่ได้อุ้มลูกจับคราบเลอะที่แก้มมาดู “เลอะเทอะหมดเลยเพราะใครกันนะ ไข่มุกทำแม่เปื้อนแล้วเห็นไหม” ว่าแล้วคุณแม่ยังสาวก็หยิกแก้มยุ้ยน่าหยิกของลูกสาวเบา ๆ ดวงตาเคลือบไว้ด้วยความหลงลูก
แม่หนูน้อยส่ายหน้าหัวเราะคิก ไม่รู้ว่ารู้เรื่องหรือไม่รู้เรื่องแต่พลอยวารินทร์ก็ชอบใจ เห็นลูกสาวหัวเราะได้เธอก็มีความสุขมากกว่าอะไรในโลก
“ไข่มุกคะ วันนี้แม่จะทำซุปไก่ให้กิน ไข่มุกอยากกินไหม”
“หิว หิว มามี้ของไข่มุกสวยและทำอาหารอร้อย อร่อยที่สุดในโลก”
“เอาอีกแล้ว เรามันชอบอวยแม่ แต่แม่ก็ชอบนะ” สองแม่ลูกหัวเราะกันอย่างอารมณ์ดีพอได้ยินเสียงท้องร้องของเด็กน้อยซึ่งทำหน้าเหวอ พี่เลี้ยงรีบอธิบาย
“ก่อนออกมานีน่าป้อนข้าวให้น้องแล้วนะคะคุณเอพริล”
พลอยวารินทร์ยิ้มให้พี่เลี้ยง “ฉันเข้าใจจ้ะน้องไข่มุกกินเก่ง หิวเก่ง กินได้ตลอดวัน” ลูกสาวของเธอกินเก่งจริง ๆ แต่ก็ไม่ได้อ้วนกลมตัวใหญ่มาก รูปร่างน่ารักสมวัยแต่ค่อนข้างไปทางอวบและมีแก้มมากหน่อย
“ไข่มุกเรานี่หิวตลอดเลย ถามกี่ครั้งก็หิว กินเก่งเกินเด็ก ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวอยู่กับพี่นีน่านะคะ แม่จะไปทำซุปไก่ให้กิน”
พลอยวารินทร์ชอบทำอาหารเอง แม่บ้านของเธอจึงมีหน้าที่แค่ทำความสะอาด ซักผ้า รีดผ้าให้เท่านั้น และอาจจะทำอาหารให้บางมื้อที่เธอขอร้อง แต่ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ได้หนึ่งเดือนแล้วเธอเพิ่งให้แม่บ้านทำอาหารให้แค่ครั้งเดียวคือวันแรกที่มาถึงที่นี่
“ไข่มุกไปด้วยค่ะมามี้”
“แม่ไม่ได้ไปเที่ยวซะหน่อย แม่จะไปเข้าครัว จะตามแม่ไปทำไม ไหนบอกว่าหิวไงคะ”
“นะคะ มามี้คนสวยให้ไข่มุกไปด้วย ไข่มุกอยากทำ” การช่วยทำของลูกสาว พลอยวารินทร์เดาได้ไม่ยากถึงครัวที่จะเลอะขึ้นกว่าที่เธอทำคนดียวอีกหลายเท่าแต่สายตาของสาวน้อยที่ออดอ้อนแล้วเขย่าแขนเบา ๆ ก็ทำให้ใจอ่อน “มามี้คนสวย ให้ไข่มุกทำด้วยนะ นะ...”
พลอยวารินทร์ถอนใจก่อนส่งยิ้มเอ็นดูให้ลูกสาว “ใจอ่อนตอนที่ชมว่าแม่สวย ให้เข้าครัวด้วยก็ได้ยัยหนูเจ้าเล่ห์”
พลอยวารินทร์หัวเราะที่ลูกสาวจะตามเข้าครัวแล้วจูงมือน้อย ๆ ตามไป
“ไป ไป...” พลอยวารินทร์หัวเราะ แต่ต้องขมวดคิ้วเมื่อจู่ ๆ ใบหน้าลูกสาวก็เปลี่ยนจากยิ้มกว้างเป็นเบ้หน้าเหมือนจะร้องไห้
“เป็นอะไรคะไข่มุก ร้องไห้ทำไมลูก” เธอถามอย่างเป็นห่วงพอหันสายตาไปมองด้านหลังเพราะรู้สึกเหมือนมีคนยืนอยู่ และสายตาของลูกสาวมองจ้องไปข้างหลัง เธอจึงรู้ว่าอะไรเป็นต้นเหตุทำให้ไข่มุกทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
เฮย์เดนยืนอยู่ตรงนั้นนั่นเอง เขามาเงียบ ๆ จนเธอที่มัวเล่นกับลูกไม่ทันได้ยิน เขาทำให้ลูกของเธอกลัว พลอยวารินทร์จึงทำสีหน้าไม่น่ามองนักผิดกับสายตาที่สนทนากับลูกสาวเมื่อครู่
เฮย์เดนถามขึ้นเสียงขรึม พร้อมกับก้าวเท้ามาใกล้ ๆ “ไข่มุกเป็นอะไรทำไมถึงทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ตอนเห็นผม”
“ไม่น่าถาม ไข่มุกกลัวคุณไงคะ”
“กลัวผมทำไม ผม...มีอะไรให้ลูกต้องกลัว”
เฮย์เดนงุนงง ใช่ ถึงเขาจะหล่อดูดีแค่ไหน แต่ไอ้ใบหน้านิ่งที่เหมือนใครเอาน้ำยามาสตาฟเอาไว้ก็ทำให้เด็ก ๆ กลัวได้ทุกคน พลอยวารินทร์หน้าบึ้งมองเขา
‘ลูกนะไม่ใช่บริวารใต้การปกครอง’
“คงไม่ใช่ไข่มุกคนเดียวที่กลัวคุณ ฉันว่าเด็กคนอื่นเห็นคุณคงอยากวิ่งหนีมากกว่าวิ่งเข้าหาจริงไหมคะ” พลอยวารินทร์ได้ทีเลยผสมโรง เลยถูกเขาจ้องตาถามกลับ
“เอพริล คุณว่าผม”
พลอยวารินทร์แกล้งเสมองไปทางอื่นทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ พลางพูดเปลี่ยนเรื่อง “ปกติคุณไม่เคยมาที่นี่ พอคุณมาไข่มุกก็เลยตกใจคิดว่าคนแปลกหน้าที่ไหน สงสัยไข่มุกกลัวพวกจับเด็กไปขาย ฉันเคยขู่แกเอาไว้เพราะกลัวแกชอบหนีจากสายตาพี่เลี้ยง”