Are you Sheik or Mafia? / Ep.4
(ไฟใกล้น้ำมันNc++ )
“พอดีฉันคุยกับหล่อนไว้แล้ว เดี๋ยวเอาเสร็จแล้วจะส่งต่อให้นะ”
มือใหญ่บีบท่อนแขนเรียวเล็กนั้นแน่นขึ้น ดวงตาเทอควอยซ์จดจ้องเขม็งไปในดวงหน้าเรียวรูปไข่ที่กำลังบิดเบ้เพราะความเจ็บปวด เพียงเท่านั้นมุมปากหยักได้รูปก็รั้งขึ้นอย่างสาแก่ใจ
เจ็บปวดหรือ?
เธอเจ็บไม่ได้ครึ่งเขาหรอก!
สองชั่วโมงกว่าที่เขานั่งรอให้เธอตื่น นั่งมองอยู่แบบนั้น มันเต็มตื้นไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวด หลากหลายความคิดและเรื่องราววันวานไหลผ่านเข้ามาในหัว
ตอนเธอนั่งฟุบหน้าเหมือนคนจะหลับ เขาเฝ้ามองตาปริบ คิดถามตัวเองในใจแล้วว่า ควรจะไปถามหรือคุยกับเธอสักคำหน่อยจะดีไหม?
อย่างน้อยๆก็แค่ถามไถ่เหมือนว่าการถามสารทุกข์สุขดิบของคนที่เคยรู้จักกัน พาลคิดไปถึงสูทที่ตัวเองถอดทิ้งไว้ก่อนเข้ามาในปาร์ตี้ลับนี้เพราะน่าจะหยิบมาด้วยเพื่อใช้มาปกคลุมเธอที่อยู่ในชุดล่อแหลม หรือจะถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวนี้ออกแล้วตัวเองสวมแค่เสื้อกล้ามดี?
“ฟู่ว”
บุหรี่มวนที่สองถูกบี้ลงบนถาดรองรับ ร่างใหญ่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง และกำลังจะเดินไป
‘มีแต่คนโง่เท่านั้นที่กลับไปหาคนเก่า’
ชารีฟอีกคนที่ใจแข็งกำลังเรียกสติเขา ถ้าเดินไปตอนนี้ก็เหมือนกลับไปโง่อีก เลยเลือกที่จะเบนเส้นทางเข้าไปในห้องน้ำ
“อาซาน ฉันเจอเธอ!”
เพียงได้ยินประโยคแรกคนที่รับฟังก็พอจะเดาได้ว่าหมายถึงใคร ก็น้ำเสียงการบอกเล่าที่ปกติคนอย่างชารีฟไม่เคยตื่นตระหนกอะไรสักอย่าง
ที่ปรึกษาคนสนิทอย่างเขารับรู้เลยว่าชารีฟนั้นกระสับกระส่ายและร้อนใจมากสักเพียงใด
‘ท่านหมายถึงคุณลัยลาฮ์?’
“ใช่ โลกมันกลมเป็นบ้า นายคิดว่าฉันจะทำยังไงดี?!”
ร่างสูงทะมึนเดินวนไปมาอย่างคนร้อนรนใจขนาดหนัก เมื่อเหลือบมองตนเองในกระจกบานใหญ่ฉายชัดเห็นความวิตกบนใบหน้าแล้วก็ต้องถอนหายใจก้มมองพื้นแทน
‘ใจเย็นๆนะครับ ผมยังไม่รู้เลยว่าคุณเจอหล่อนที่ไหน ผมเลยบอกไม่ได้ว่าคุณชารีฟจะต้องวางตัวยังไง’
ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบหน้าพลางทึ้งผมดกดำนั้นก่อนลดลงมาเท้าสะเอวด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักขณะรับฟังเสียงของอาซานลูกน้องคนสนิทของเขาที่ปกติจะติดตามเขาเสมอหากแต่วันนี้คิดว่าแค่จะมาร่วมงานแต่งและอยู่ไม่ถึงสองวันจึงไม่ใช่เรื่องยุ่งยากถึงขนาดต้องมีคนติดตาม แต่พอเจอเธอเข้าเขากลายเป็นคนที่ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว
“คือ.. ฉันเจอเธอที่ผับ เธอยังทำงานแบบเดิมไม่เปลี่ยน หรือเผลอๆอาจจะรับงานอย่างว่า เห้อ และตอนนี้ฉันคุยกับนายอยู่ในห้องน้ำ”
“เห้อ ผมไม่รู้จะบอกกับคุณยังไงดี คุณเหมือนน้ำมัน และเธอคือไฟ เอาเป็นว่าคุณอย่าเข้าใกล้กันน่าจะดีกว่านะครับ เธอคือสิ่งเดียวในโลกที่คุณคอนโทรลไม่ได้ ฉะนั้น ผมว่าไม่มีเหตุจำเป็นอันใดที่คุณควรเอาตัวเข้าไปใกล้เธอเลยครับ”
“เห้อ โอเค” การิมเพื่อนรักเองก็บอกเขาอย่างนั้น เธอคนนี้ทำให้เขาเป็นโรคไมเกรนปวดหัวแทบจะระเบิดแทนที่จะเกิดขึ้นเพราะการทำงานหนัก
เขาใจสั่นเพียงแค่ได้เจอเธออีกครั้ง หลังจากทำใจมาได้เป็นปีๆ ทุกอย่างที่ตั้งใจมันจะพังทลายลงแค่เจอเธอคืนนี้?
จากที่คิดว่าจะไม่สนใจใยดี พอเอาเข้าจริงๆมันอยู่เฉยไม่ได้หากจะต้องทนรับรู้ว่าเธอกำลังจะขายตัวให้เพื่อนของเขา อาจจะไม่ใช่แค่หนึ่งคน อาจจะเป็น สอง สาม หรือสี่
ตอนนี้มันเหลืออดเกินจะเพิกเฉยกับผู้หญิงยอมยั่วคนนี้แล้ว!!
“ฮัสมิน เอาถุงยางมา”
ชารีฟรับซองถุงยางอนามัยจากฮัสมิน เพื่อนชายอีกคนที่เดินตามยาซัดดิ่งตรงเข้ามาหาลัยลาฮ์
ภควรรณวิลาส่ายหน้าระรัวพยายามส่งสายตาเว้าวอนหาเพื่อนร่วมงานอีกสี่คนที่กำลังเสพสุขอยู่ พวกหล่อนไม่สนใจจะมองเธอเลยด้วยซ้ำ คงจะมีแค่ชายอีกสองคนที่ถอดเสื้อรอคิวทำหน้าหื่นกระหายแสดงความต้องการในตัวเธออย่างเปิดเผยเท่านั้น
“ไม่นะ ว้าย!”
เธอพยายามรั้งตัวเองเอาไว้ไม่ให้ไหลไปตามแรงฉุด แต่คิดว่าพลังน้อยนิดจากร่างบางหรือจะสู้คนตัวใหญ่เกือบร้อยเก้าสิบเซ็นติเมตรล่ะ และแล้วร่างเธอก็ลอยละลิ่วถูกเขาลากดึงเข้ามาในห้องน้ำ
“หยุดนะชารีฟ!”
“โห้ จำกันได้ด้วยเหรอ” เขาคลายมือจากแขนเธอแต่ทิ้งร่องรอยความเจ็บนั้นเป็นรอยแดงเถือก
ทั้งสองยืนจ้องมองกันอยู่ในโถงห้องน้ำขนาดใหญ่มีไฟแสงสลัวสีแดง ใบหน้าเรียวสวยเงยขึ้นถลึงดวงตาโกรธจัด
“ฉันไม่ได้มาขายตัว”
เขาแสยะยิ้มอย่างดูแคลน มองร่างบางที่แทบยืนไม่อยู่แต่ยังทำเป็นอวดเก่งใส่
“ไม่ได้ตั้งใจจะขายให้ฉันหรือ?”
ริมฝีปากบางอ้าหวอขึ้น ผงกรับเอาคำสบประมาทนั้นพลางเสหน้าออกด้านข้าง ไม่ต้องการอวดน้ำตาแห่งความอ่อนแอให้ใครเห็นหรอกนะ
“จะขายให้ใครก็ไม่ใช่เรื่องของคุณ” เธอเบี่ยงกายหลบสายตาเขาขณะจะเดินผ่าน
“ร่านดีนี่”
เปรี๊ยะ
เธอสวนกลับด้วยการตบหน้าเขาฉาดใหญ่ เอาล่ะ เมื่อสัญญาณอันตรายกำลังจะมาเธอรีบพาตัวเองหนีไปจากที่นี่ให้เร็วสุด
แต่ทว่า วงแขนล่ำสันใหญ่รีบโอบลำคอเธอไว้ก่อนกระชากเธอกลับเข้ามาหาตัว
“อย่านะ!”
เธอใช้ข้อศอกกระทุ้งไปทางด้านหลังพร้อมดีดกายดิ้นรนหนีจากการโอบรัด
พลั่ก
“โอ๊ย”
แต่คนที่ร้องออกมาอย่างเจ็บปวดกลับเป็นเธอเอง เพราะเขาสวนกลับด้วยการดันตัวเธอชิดกับผนังห้องน้ำ ฝ่ามือตะกละตะกลามบีบคลำบั้นท้ายก่อนวกขึ้นมากดลำคอเธอไว้ไม่ให้ดิ้น แก้มเนียนนุ่มด้านซ้ายกดแนบลงกับผนังห้องน้ำที่เย็นเฉียบ ทุกอย่างมันรวดเร็วมากจนเธอไม่สามารถต้านแรงมหาศาลจากเขาได้ไหว เมื่อร่างกำยำเบียดชิดเข้ามาใกล้จนสองเต้าอวบสะท้อนรุนแรงแนบกับผนังและด้านหลังเป็นตัวของเขาที่เบียดเสียดจนบั้นท้ายนุ่มสัมผัสได้ถึงอวัยวะบางอย่างที่ถูไถ
“อย่านะชารีฟ”
เธอไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากเสียงหัวใจที่เต้นรัวดังของตนเอง กับลมหายใจที่ติดขัด ส่วนคนที่กำลังลวนลามเธออยู่ด้านหลังนั้นกำลังปลดเข็มขัด แล้วเธอก็ได้ยินเสียงแกะซองถุงยาง!
“ฮึกๆ ไม่นะ”
มือใหญ่กลับมาลูบคลึงบั้นท้ายเธอพร้อมถกชายกระโปรงเธอขึ้น
“หยุดนะ ไม่ ไม่เอา” เธอหวีดร้องปะปนเสียงกระเส่าของตนเองเมื่อปลายนิ้วใหญ่เบี่ยงแพนตี้ไว้ด้านข้างและลูบไล้ร่องสวาทที่กำลังฉ่ำแฉะหลังจากการถูกสัมผัสโดยมือที่คุ้นเคย
ฉึก
“อื้อส์”
นิ้วร้ายเสือกพรวดเข้ามาพร้อมหมุนควงสู้แรงตอดรัดจากด้านใน
“โอ๊ย ซี้ดดด”
“ไง เจ็บหรือรู้สึกดี?” เขากระซิบถามข้างใบหูก่อนลากลิ้นสากจากติ่งหูไล้ลงมาตามซอกคอ
สิ่งหนึ่งที่อยู่ใต้จิตสำนึกนั้น นั่นคือความคิดถึง
‘คิดถึงสัมผัสนี้จากคุณเหลือเกิน ชารีฟ’
“ไม่ต้องกลัวนะคนสวย ฉันจะจ่ายค่าตัวให้อย่างงามเลย”
พรวด
ประโยคนั้นเหมือนดึงเธอจากสวรรค์ลงสู่ห้วงเหวลึกแห่งความทรมาน เมื่อเขาแทรกแก่นกายเข้ามาแบบไม่มีสัญญาณเตือนส่งมาให้ทราบเลยสักนิด
“กรี๊ดด”
เขาทำเหมือนกับเธอไม่ใช่คน กดหัวเธอไว้แล้วดันลำกายเข้ามาจนสุดโดยไม่สนเสียงร้องขอของเธอ
สิ่งแปลกปลอมที่ไม่เคยมีใครเข้ามาเลยนับตั้งแต่วันที่ไม่มีเขา แต่กลับถูกรุกรานอย่างเจ็บแสบจากชายที่เป็นคนแรกและคนเดียว
“โอ๊ย เจ็บ พอเถอะฉันเจ็บ”
“โอยย”
เสียงครางต่ำจากด้านหลังที่บ่งบอกว่าทรมานไม่แพ้กัน ก็ร่องเธอนั้นแน่นขนัดไม่ต่างจากวันแรกที่มีอะไรกับเธอเลยด้วยซ้ำ
“ไง แจ่มดีไหม” / “พวกเราขอแจมหน่อย”
เสียงจากชายทั้งสองที่ยืนมองจากด้านนอกทำเธออกสั่นขวัญแขวน ร่างบางยืนสั่นเทาเหมือนลูกไก่กลางสายฝน
ทั้งฮัสมินและยาซัดกำลังถอดเปลื้องกางเกงออกเตรียมจะถลาเข้ามาร่วมวงด้วย
“..!”