บทที่8
บอกเลิก
"เอ่อ... คือว่าเรื่องนี้ข้าวต้องปรึกษาแม่ค่ะเพราะว่าผู้ใหญ่อยากให้ข้าวอยู่กับคีตะเวลามีปัญหากันจะได้ช่วยเหลือกันได้"
"แต่ข้าวเป็นแฟนพี่นะพี่ไม่อยากเห็นแฟนตัวเองอยู่กับผู้ชายคนอื่นหรอกนะข้าว!"
เสียงของทั้งสองดังเข้ามาถึงในห้องนอนของคีตะซึ่งเจ้าตัวก็นอนลืมตาฟังการสนทนาของทั้งสองด้านนอกอยู่ ข้าวปั้นพยายามอธิบายว่าแม่ของเธอให้อยู่ที่นี่แต่คนมันหึงพูดให้ตายมันก็ไม่ฟังสุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหวจึงเปิดประตูห้องออกไปเพื่อจบปัญหานี้เอง
"พอแล้วพี่ไม่ต้องมาทะเลาะกันเอางี้เดี๋ยวผมย้ายออกเอง"
"นายจะบ้าเหรอคีตะ นี่คอนโดของบ้านนายถ้าปัญหามันเยอะเดี๋ยวฉันย้ายออกไปอยู่หอในเอง จะได้ไม่ต้องมามีปัญหาวุ่นวายกันอีก!"
"ข้าว! เดี๋ยวข้าว!!"
ข้าวปั้นเดินหนีเข้าห้องไม่ยอมฟังเสียงเรียกจากแฟนหนุ่มเลยทำให้สองหนุ่มยืนมองหน้ากันอย่างไม่สบอารมณ์คนนึงก็หึงหวงแฟนอีกคนนึงก็หวงเกินคำว่าเพื่อน
"ผมว่ามันมากเกินไปที่พี่จะให้ข้าวย้ายออกไปอยู่คอนโดพี่ พี่จะเอาข้าวไปแบบนั้นพี่ถามพ่อแม่ข้าวหรือยัง?"
"มันไม่มีผู้ชายคนไหนทนเห็นแฟนตัวเองอยู่กับผู้ชายคนอื่นได้หรอกนะ"
"แล้วผมกับข้าวเป็นมากกว่าเพื่อนหรือไง พี่ถึงได้ไม่มีเหตุผลแบบนี้"
"แล้วเรากล้าพูดกับพี่ตรง ๆ ไหมว่าไม่ได้คิดอะไรกับข้าวเกินกว่าคำว่าเพื่อน"
คีตะกลืนน้ำลายลงคอเขาไม่กล้าที่จะพูดหรือเพราะเขาขี้ขลาดตาขาวเกินไป
"พูดไม่ได้ใช่ไหมนี่แหละที่เขาบอกว่าสายตามันหลอกกันไม่ได้ พี่รู้ว่าคนเราพอมันได้อยู่ด้วยกันมันก็ต้องมีความรู้สึกดี ๆ ให้กันแต่พี่แค่ไม่อยากให้ข้าวรู้สึกแบบนั้นกับใครยังไงพี่ก็จะเอาข้าวไปอยู่ด้วย"
"พี่ให้ข้าวอยู่ที่นี่แหละเดี๋ยวผมออกไปอยู่ข้างนอกเองอีกอย่างช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยได้อยู่คอนโดสักเท่าไหร่หรอก"
คีตะตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายเดินออกมาส่วนพี่ต้นเขาพยายามง้อข้าวปั้นอยู่หน้าห้องแต่เธอตะโกนบอกให้เขากลับไปก่อนเขาจึงต้องจำใจเดินออกมาจากห้องเพื่อกลับไปตั้งหลักที่บ้านส่วนคีตะหลังจากที่เขาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าข้าวปั้นก็เดินมาเคาะประตูห้องของคีตะเขาจึงเดินไปเปิดให้เธอเข้ามาในห้อง
ข้าวปั้นมองเสื้อผ้าที่เขายัดใส่กระเป๋านอกจากไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยผ้าเก่าผ้าใหม่เขาก็ใส่รวมกันเธอจึงหยิบมันออกแล้วนำไปแขวนไว้ที่เดิม
"ถ้าจะมีใครต้องออกไปจากที่นี่มันก็ควรเป็นฉันไม่ใช่นาย"
"ฉันก็ไม่ได้อยากจะออกไปจากที่นี่หรอกนะแต่ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วเธอต้องมีปัญหากับแฟนฉันก็ต้องถอยออกไปมันก็ถูกแล้วถ้าเธอไปอยู่กับแฟนแม่เธอจะว่ายังไง"
"ถ้าให้ฉันเลือกระหว่างเพื่อนที่โตมาด้วยกันถึงจะทะเลาะกันทุกวันแต่ก็ไม่เคยทอดทิ้งกันกับแฟนที่พึ่งเข้ามาฉันว่าฉันขอเลือกเพื่อนดีกว่า"
แม้คีตะจะแอบดีใจแต่ลึก ๆ เขาก็อยากได้ยินประโยคอื่นที่มันดีกว่านี้แต่เอาเถอะอย่างน้อยเธอก็ยังอยากมีเขาในชีวิต หลังจากที่ข้าวปั้นเก็บเสื้อผ้าของคีตะแล้วทั้งสองก็เดินออกมานั่งทานข้าวด้วยกัน ข้าวปั้นถอนหายใจเกินกว่าสิบครั้งแถมยังทำสีหน้าไม่สบายใจจนคีตะต้องวางช้อนลงแล้วมองหน้าเธอเพื่อต้องการคำตอบว่าแท้จริงแล้วเธอกำลังรู้สึกยังไงกันแน่
"พูดมาเถอะถ้ามันทำให้เธอสบายใจ"
"ฉันคิดว่าฉันจะเลิกกับพี่ต้น"
"คิดดีแล้วใช่ไหม?"
"ใช่ฉันคิดดีแล้วอย่างน้อยฉันก็จะได้ไม่อึดอัดเหมือนตอนนี้"
คีตะแอบยิ้มในใจเพราะข้าวปั้นคนเดิมกำลังจะกลับมาแล้วหลังจากทานข้าวเธอก็ขอให้เขาขับรถไปหาพี่ต้นที่ร้านกาแฟของครอบครัวเขาเมื่อมาถึงเธอก็เห็นพี่ต้นกำลังยืนคุยกับลูกค้าผู้หญิงซึ่งผู้หญิงคนนั้นดูสีหน้าและท่าทางเคอะเขินคงจะมีความรู้สึกดีให้กับพี่ต้นไม่น้อย
"อ้าวข้าวมาได้ยังไงทำไมไม่โทรมาหาพี่ครับ พี่จะได้ไปรับ"
"ข้าวแค่มีเรื่องอยากจะคุยกับพี่ค่ะ"
"กินงั้นมานั่งตรงนี้ก่อนนะ รอพี่ก่อนเดี๋ยวพี่เอาโกโก้มาให้อยากกินเค้กไหมครับ?"
"ไม่เป็นไรค่ะพี่ต้นข้าวมาไม่นานเดี๋ยวข้าวก็กลับแล้ว"
พี่ต้นมองหน้าข้าวปั้นด้วยความสงสัยแต่เมื่อมองออกไปด้านนอกเห็นรถของคีบตะจอดอยู่ทั้งยังสตาร์ทเครื่องเอาไว้เหมือนรอเธอเขาก็ถอนหายใจแม้จะรู้เป็นนัย ๆ ว่าการที่เธอมาหาเขาในครั้งนี้มันมีอะไรบางอย่างที่เขาพยายามไม่คิดและไม่ได้เตรียมใจเอาไว้
"ข้าวมีอะไรจะพูดกับพี่หรือเปล่าครับดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย"
"ข้าวอยากคุยกับพี่เรื่องของเราค่ะไม่ใช่ว่าข้าวไม่รู้สึกดีที่ได้รู้จักพี่แต่ข้าวแค่ยังไม่รู้ว่าความรักมันเป็นยังไง ข้าวก็ไม่มั่นใจว่าจะเป็นผู้หญิงที่ดีของพี่ได้หรือเปล่า"
"ข้าวจะเลิกกับพี่ใช่ไหมครับ"
"มันอาจจะเป็นทางออกที่ดีก็ได้นะคะ"
ทั้งสองต่างเงียบสายตายังคงจ้องมองกันคนนึงมีความหวังเป็นความหวังที่จะได้รักกันจนตลอดรอดฝั่งแต่อีกคนกังวลใจแถมยังมีแต่ความสับสนซ่อนอยู่ภายในใจเมื่อเธอตัดสินใจแบบนี้เขาก็คงต้องยอม
"ถ้าข้าวคิดดีแล้วพี่ก็ไม่ว่าอะไรครับอย่างน้อยเราสองคนก็ได้รู้จักกันพี่อยากจะบอกกับข้าวว่าช่วงเวลาที่เราได้รู้จักกันพี่มีความสุขมากนะ หลังจากนี้พี่คงไม่ได้ทำหน้าที่ตรงนั้นแล้วพี่ขอให้ข้าวรู้ใจตัวเองหากมีอะไรก็ค่อย ๆ คิดถ้ามีอะไรที่พี่พอจะช่วยได้ข้าวบอกพี่ได้ตลอดนะครับ"
"ค่ะพี่ต้นขอบคุณนะคะที่เข้าใจข้าว ข้าวขอโทษนะคะที่เป็นคนนั้นให้พี่ไม่ได้"
“ครับ…. พี่เข้าใจ“ ถึงแม้ว่าภายในจะเจ็บเจียนตายก็ตามแต่เขาก็ต้องฝืนใจบอกเธอว่าไม่เป็นอะไร
หลังจากที่ร่ำลากันเสร็จข้าวปั้นก็เดินออกมาจากร้านกาแฟเพียงแค่เธอก้าวขาออกมาคีตะที่นั่งอยู่ในรถก็เห็นรอยยิ้มของเธอมันเป็นรอยยิ้มที่เขาไม่ได้เห็นนานแล้วแต่เมื่อมองเข้าไปด้านในร้านกาแฟเขาก็เห็นพี่ต้นมองตามแผ่นหลังของข้าวปั้นด้วยความโศกเศร้าจนเธอเปิดประตูรถเข้ามาก็รีบเอ่ยคำขอบคุณคีตะที่พาเธอมาในวันนี้
"เรากลับกันเถอะขอบใจนายมากนะที่ขับรถพาฉันมาที่นี่"
"เธอโอเคแล้วใช่ไหม?"
"อื๊ม^^"
________________
สงสารพี่ต้นจังเลยแต่เรื่องนี้ไอ้หน้าหมามันเป็นพระเอกไง