เสียงเอ่ยทักของบุคคลที่สามทำให้เบอนันเดสหยุดหาเรื่องหญิงสาว แล้วหันไปสนใจผู้มาใหม่แทน
“หวัดดีเชส นายมาก็ดีแล้ว ฉันกำลังจะพาคนงานใหม่ไปรู้จักกับนายอยู่พอดี” เบอนันเดสทักทายผู้จัดการฟาร์มด้วยท่าทางเป็นกันเอง ช่างต่างจากคำพูดและกิริยาท่าทางที่เขาใช้กับเธอโดยสิ้นเชิง
“นายอย่าบอกนะครับว่า…เธอคนนี้” เชสชี้มาที่ร่างของโรฮันนาแล้วเลิกคิ้วเป็นคำถาม และยิ่งงงเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นสายตาของเบอนันเดสที่ใช้มองหญิงสาวตรงหน้า ถ้าดูไม่ผิดมันเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง แล้วแม่สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มไปทำอะไรให้พ่อหนุ่มเลือดร้อนโกรธเคืองหนอ
“ใช่” เบอนันเดสพยักหน้ารับเบาๆ
“เอ่อ…จะไหวเหรอครับ” เชสมองโรฮันนาแล้วก็ถามด้วยความสงสัย ผู้หญิงเอเชีย ตัวเล็กหุ่นบางร่างน้อยจะมาทำงานในฟาร์มได้อย่างไร มีหวังเธอได้เป็นลมเป็นแล้งวันละหลายๆ รอบแน่
“ไม่ไหวก็ต้องไหว” ชายหนุ่มบอกเสียงเข้มดุดัน ย้ำชัดว่ายังไงเขาก็จะให้เธอทำงานที่เขามอบหมายให้อย่างแน่นอน
“สอนงานให้เขาด้วยนะ” เบอนันเดสหันไปบอกผู้จัดการฟาร์ม แล้วขึงตาใส่หญิงสาวเหมือนจะสั่งเป็นนัยว่าอย่าบังอาจคิดออกนอกลู่นอกทางเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นจะหาว่าเขาไม่เตือน
“ครับ” เชสน้อมรับคำสั่งผู้เป็นนายอย่างนอบน้อม
สั่งงานเสร็จเบอนันเดสก็เลิกสนใจคนทั้งคู่ ก้าวขาเพรียวเดินไปดูม้าตัวโปรดที่อยู่ในคอกใกล้ๆ โดยมีเจ้าอาเทอร์วิ่งตามหลังอยู่ไม่ห่าง ส่วนเชสก็หันมาทักทายหญิงสาวในฐานะคนงานใหม่ทันที
“สวัสดีครับ ผมชื่อเชสนะครับ เป็นผู้จัดการฟาร์มของที่นี่” เขาแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มและความเป็นกันเอง ทำให้โรฮันนาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก อย่างน้อยในฟาร์มแห่งนี้ก็ยังมีคนที่พอจะญาติดีกับเธออยู่บ้าง
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อโร…เอ่อ…ลัยลา เรียกหยีก็ได้ค่ะ” แนะนำตัวกับผู้จัดการฟาร์ม แต่ยังไม่วายเกือบจะพลั้งปากบอกชื่อจริงของตัวเองออกไป คิดได้ก็รีบกลับลำทันที กลัวว่าเบอนันเดสจะมาได้ยินเข้าแล้วเอ็ดตะโรหาว่าเธอตอแหลอีก
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณ ยะ…ยี” เขาทวนชื่อเล่นของเธอเสียงติดๆ ขัดๆ ฟังดูตลก เพราะชื่อเธอช่างเรียกยากนักในความรู้สึกของเชส
“หยีค่ะ ไม่ใช่ยี” โรฮันนาหัวเราะน้อยๆ ไปกับสำเนียงแปร่งปร่าฟังทะแม่งหูนั่น แล้วบอกใหม่ช้าๆ ชัดๆ
เบอนันเดสเดินกลับมาได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกของหญิงสาวถึงกับเบ้หน้า อยู่กับผู้ชายสองต่อสองหน่อยเป็นไม่ได้ทำเป็นระริกระรี้ นี่แหละหนานิสัยของนังผู้หญิงแพศยามารยาร้อยเล่มเกวียน เขาแอบค่อนแคะด้วยความสมเพช
“ทำความรู้จักกันเสร็จแล้วก็รีบไปทำงาน” ทนไม่ไหวไม่อยากมองภาพน่าสะอิดสะเอียนตรงหน้า เบอนันเดสจึงเอ่ยขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน
“ครับ”
รับคำเจ้านายเสร็จเชสก็พาโรฮันนาไปสอนงานในฟาร์มทันที โดยมีอาเทอร์เดินคุมคนทั้งคู่ทุกย่างก้าว พอเชสจะเข้าใกล้ตัวหญิงสาวในระยะประชิดทีไร มันก็จะเข้าไปกั้นกลางกันท่าไว้ทุกที ไม่ได้เธอคนนี้มันหวงไว้ให้เจ้านายของมันคนเดียว เพราะมันอยากให้โรฮันนามาเป็นนายหญิงของมันกว่าผู้หญิงของนายทั้งหมด
“เอ่อ…คุณเชสคะ ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้องค่ะ” ในระหว่างที่อีกฝ่ายกำลังอธิบายการอาบน้ำให้ม้าอยู่นั้น หญิงสาวก็เอ่ยขัดขึ้นเสียงแผ่วเบา
“มีอะไรก็พูดมาได้เลยครับ ไม่ต้องเกรงใจ” เขาตอบรับด้วยความเต็มใจ เห็นสาวน้อยตรงหน้าแล้วก็คงไม่ต่างจากลูกหลานคนหนึ่ง เพราะตอนนี้เขาก็อายุมาก มีลูกมีเมียแล้ว เชสไม่ได้คิดอะไรกับหญิงสาวมากกว่าที่จะเอ็นดูและรู้สึกสงสาร ที่เห็นเธอโดนเจ้านายตนข่มจนหงอ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเจ้านายต้องทำอย่างนั้นด้วย
“ระหว่างที่ฉันมาทำงานกับคุณ คุณช่วยสอนฉันให้พูดภาษาอังกฤษให้คล่องกว่านี้ได้ไหมคะ” โรฮันนาพูดกับเขาด้วยท่าทีอายๆ ยิ้มแหยๆ ใบหน้างามเเดงระเรื่อ พร้อมทั้งยกมือขึ้นลูบท้ายทอยสลวยแก้เก้อ
“อ๋อ…นึกว่าเรื่องอะไร ได้สิครับไม่มีปัญหา” เชสเอ่ยด้วยท่าทางใจดี จนโรฮันนาต้องระบายลมหายใจออกมา อย่างน้อยเจอกันกับเบอนันเดสในคราวหน้าเธอก็ยังมีฟันเหลือไว้ให้เคี้ยวข้าว
“ขอบคุณมากนะคะ” เธอเอ่ยขอบคุณผู้จัดการฟาร์มใจดีด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
คนเจ้าอารมณ์เดินกลับมาหาคนทั้งคู่ เห็นหญิงสาวยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ให้คนของตนก็เกิดความหงุดหงิดเคืองนัยน์ตาโดยไม่ทราบสาเหตุ กำหมัดกัดฟันแน่น แล้วเอ่ยขัดบทสนทนาของทั้งสองขึ้นอีกครั้ง
“อ้าว…มัวแต่คุยกันอยู่นั่นแหละ ไปทำงานกันได้แล้ว” เสียงเข้มทำให้คนทั้งคู่หันไปทำงานของตนต่อ แต่ชายหนุ่มเหมือนคิดอะไรได้จึงเอ่ยรั้งหญิงสาวไว้ก่อน
“เดี๋ยวลัยลา เธอมานี่ก่อน”
หญิงสาวจำต้องเดินมาตามคำสั่งของเจ้าชีวิตอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก่อนจะยืนสงบนิ่งรอให้เขาพูด
“คุณมีอะไรกับฉันอีกคะ” เมื่อเห็นเขายังไม่พูดอะไรเอาแต่ส่งสายตาขึงขุ่นมาให้ เธอจึงเอ่ยถามให้คลายความอึดอัดที่แทบจะหายใจไม่ออกเมื่อต้องอยู่กับเขาตามลำพัง
“ไม่ต้องคิดไปอ่อยไอ้เชสมันหรอกนะ เพราะมันมีลูกมีเมียแล้ว ถ้าเธอทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกเธอตายแน่” ชายหนุ่มบอกหญิงสาวเสียงเรียบ
“ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้นซักหน่อย มีแต่คุณนั่นแหละที่คิดสกปรก” สาวเจ้าเถียงเขาหน้าดำหน้าแดง ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่เขาจงใจแดกดันปนยัดเยียดให้
“เธอกล้าว่าฉันเหรอลัยลา!” เบอนันเดสได้ยินท้ายประโยคถึงกับควันออกหู ตวาดลั่นจนร่างบางถอยกรูดไปด้านหลังหลายก้าวด้วยความหวาดกลัว
“ฉันก็แค่พูดไปอย่างที่เห็น” หญิงสาวลอยหน้าโต้ตอบทั้งที่กลัวแทบตาย แต่ทนความปากคอเราะร้ายของเขาไม่ไหวเลยจริงๆ
“ฉันขอเตือนเธออีกครั้ง อย่าคิดจะมาปีนต้นงิ้วในฟาร์มของฉัน ถึงแม้ที่นี่จะเป็นนรกสำหรับเธอก็ตาม” เจ้าของร่างทรงพลังย่างสามขุมเข้าหา แล้วพูดจาหยามหยัน
“ปากสวะ! ใจทราม!” โรฮันนากัดฟันตะเบ็งเสียงใส่เขา พร้อมกับพยายามข่มกลั้นความกลัวที่มีในหัวใจ
“นี่เธอ!” เบอนันเดสตวาดดุตาเป็นประกายไฟ น้ำเสียงทรงพลังชวนให้ขนหัวลุก กัดกรามดังกรอดๆ ตรงเข้าจะกระชากร่างอ้อนแอ้นมาลงโทษให้สาสม
“ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะเจ้านาย…ใจสกปรก” เธอกลัวเขาจนหัวหดและอยู่ไม่ได้อีกต่อไป ด่าเขาเสียงดังแล้วจึงหันหลังซอยเท้าออกไปจากบริเวณนั้นเร็วจี๋ โดยไม่ฟังคำทัดทานหรือการต่อว่าใดๆ
“ฮึ่ย…ยัยหน้าจืด ฝากไว้ก่อนเถอะ!” ชายหนุ่มเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันไล่หลังคนที่ทิ้งระเบิดไว้ หงุดหงิดโมโหจนหน้าดำหน้าแดงที่หญิงสาวริอ่านกล้าต่อปากต่อคำกับเขาอย่างไม่หวั่นเกรง