คนที่ไม่มีใครต้องการ (50%)
สุขุมวิท ซอย 29 กรุงเทพมหานคร
ภายในอาณาจักรของคฤหาสน์บวรเกียรติกัมปนาท
โรฮันนา บวรเกียรติกัมปนาท หญิงสาวร่างเล็ก บอบบาง น่าทะนุถนอม ใบหน้าเรียวสวยผุดผาดได้รูปรับกับจมูกโด่งรั้น ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อน่าสนิทเสน่หา คางมนกลมกลึง ผิวขาวอมชมพูราวกลีบซากุระแรกแย้ม และผมซอยสั้นรับท้ายทอยสวย ทุกสิ่งอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นตัวเธอดูงดงามเฉกเช่นประติมากรรมชิ้นเอกที่เกิดจากศิลปินฝีมือชั้นยอดของโลก ถึงแม้ว่าเรือนร่างงดงามจะถูกปกคลุมด้วยเสื้อผ้าราคาถูก แต่ความงดงามเหล่านั้นก็ไม่ได้ลดน้อยถอยลง มีแต่จะเปล่งรัศมีออกมาจนทำให้อาภรณ์ที่เธอสวมใส่ดูมีค่ามีราคาขึ้นมา
สาวน้อยหน้าหวานปานมธุรสแต่นัยน์ตาแสนเศร้ากำลังนั่งแกว่งไกวชิงช้า ปล่อยให้สายลมเย็นฉ่ำในยามย่ำสนธยาพัดมาปะทะใบหน้าแฉล้ม จนผมสั้นแต่ทว่าสลวยดุจแพรไหมปลิวไสวไปตามแรงลม สมองหวนคิดย้อนวันเวลาไปถึงเรื่องราวเมื่อครั้งยังเยาว์ อยู่หน้าเรือนหลังเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ หนึ่งในปัจจัยสี่ที่สามารถการันตีถึงฐานะของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี
คฤหาสน์บวรเกียรติกัมปนาทตั้งอยู่ในเขตทำเลทองของแผ่นดินสยาม ซึ่งมีอาณาบริเวณกว้างขวางกินพื้นที่กว่าห้าไร่ ภายในบ้านหลังใหญ่แห่งนี้ เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาล ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตกแต่งอยู่ภายในจึงอัดแน่นไปด้วยคุณภาพ มันทั้งดูโอ่อ่า หรูหรา วิจิตรตระการตา สวยงามและภูมิฐาน เหมาะสมกับฐานะและบารมีของผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างยิ่ง
ตระกูลบวรเกียรติกัมปนาทเป็นตระกูลผู้ดีเก่าที่มีพื้นเพดั้งเดิมอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย เดิมทีพ่อของเธอเป็นนายหัวสวนยางพารานับร้อยไร่ แต่เนื่องจากภาคใต้ประสบปัญหาทั้งภัยธรรมชาติ และการก่อการร้ายไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้ประมุขของบ้าน ซึ่งก็คือนายอนัน บวรเกียรติกัมปนาท ตัดสินใจย้ายถิ่นฐานเข้ามาตั้งรกรากอยู่ในกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เมื่อสิบห้าปีที่แล้ว
นายอนันเริ่มจับธุรกิจส่งออกผ้าไหมของไทย ที่ทั้งคุณภาพดี งานฝีมือประณีต โดยการเฟ้นหาผ้าไหมดีๆ ของแต่ละภาคมาเป็นจุดขายของทางบริษัท ทำธุรกิจส่งออกผ้าไหมไปยังประเทศต่างๆ ในแถบยุโรปและอเมริกากว่ายี่สิบประเทศ และในเร็วๆ นี้ยังวางแผนว่าจะนำสินค้าเข้าไปบุกตลาดของประเทศในแถบตะวันออกกลาง
จากที่ตระกูลร่ำรวยและมีชื่อเสียงอยู่แล้ว เมื่อจับธุรกิจมาถูกทางยิ่งทำให้ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลโด่งดังเป็นที่โจษจันไปทั่วในวงสังคม จนเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศและต่างประเทศ ผู้คนทั้งหลายต่างก็ให้ความนับหน้าถือตาและเกรงขามคนในตระกูลนี้กันทั้งนั้น ฉะนั้นจะเรียกว่าช่วงนั้นเป็นยุคความเจริญรุ่งเรืองหรือยุคทองของประมุขตระกูลบวรเกียรติกัมปนาทก็คงจะไม่ผิด เพราะเขาจับอะไรก็ดูเหมือนจะมีค่าและเป็นเงินเป็นทองไปซะหมด
แต่มีความลับอยู่สิ่งหนึ่งที่คนอื่นไม่ได้ล่วงรู้เกี่ยวกับตระกูลนี้ และประมุขของตระกูลไม่มีวันให้ผู้ใดได้รับรู้ นั่นก็คือเขาไม่ได้มีลูกสาวคนเดียวอย่างที่บอกใครต่อใคร คนทั่วไปต่างก็คิดว่าเขามีลูกสาวเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นทายาทของตระกูลบวรเกียรติกัมปนาท นั่นก็คือลัยลา บวรเกียรติกัมปนาท คุณหนูผู้เลอโฉม งดงามและมีความโดดเด่นในทุกๆ ด้าน เหนือกว่าคนอื่น
อันที่จริงแล้วนายอนันมีลูกสาวฝาแฝดอีกหนึ่งคน เธอชื่อโรฮันนา บวรเกียรติกัมปนาท เป็นแฝดผู้น้องของลัยลา ทั้งสองอายุยี่สิบเจ็ดปีเท่ากัน สองสาวเหมือนกันทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นเค้าโครงรูปหน้า คิ้ว จมูก ปากและตา แต่สิ่งที่สองสาวแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงคือนิสัยใจคอ โรฮันนาจะเป็นสาวน้อยแสนหวาน เรียบร้อย น่ารักและเก็บเนื้อเก็บตัว ส่วนลัยลาจะเป็นสาวมั่นเปรี้ยวเข็ดฟัน ชอบเข้าสังคม ขี้วีน ขี้เหวี่ยงและเอาแต่ใจ ตามประสาคุณหนูคนเดียวของบ้าน
ที่นายอนันเกลียดลูกสาวคนเล็กก็เพราะว่ามารดาของทั้งสองตายตอนคลอด วันที่ทั้งสองลืมตาขึ้นมาดูโลกคือวันที่มารดาได้จากไป ซึ่งนายอนันโทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดของโรฮันนา เหตุก็เพราะว่าเมื่อตอนใกล้คลอดทารกทั้งสองมีภาวะ TT TS (Twin to Twin Transfusion Syndrome) คือมีเลือดวิ่งถ่ายเทระหว่างเด็กในครรภ์ด้วยกัน โดยคนหนึ่งให้อีกคนรับ เป็นภาวะที่เส้นเลือดมาต่อกันโดยบังเอิญ ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือคนที่ให้ก็จะไม่โตสักที ส่วนคนที่รับก็จะอ้วนท้วนสมบูรณ์
ซึ่งในกรณีนี้คนที่ให้คือลัยลา แต่เนื่องจากภาวะนี้มาเกิดในช่วงที่อายุครรภ์ได้หลายเดือนแล้ว จึงทำให้ลัยลาโตตามปกติของทารกทั่วไป ไม่มีปัญหาแคระแกรนเกิดขึ้น แต่โรฮันนากลับโตกว่าปกติมาก นั่นก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากการได้รับเลือดที่พี่สาวถ่ายเทมาให้บวกกับการเจริญเติบโตตามอายุครรภ์ นี่จึงเป็นปัจจัยให้มารดาคลอดยาก หลังจากคลอดโรฮันนามารดาก็ตกเลือดขั้นรุนแรง เพราะมดลูกถูกยืดและขยายออกมากจนไม่สามารถหดรัดตัว ส่งผลให้ไม่สามารถห้ามเลือดที่ไหลออกมาได้ แม้ว่าหมอจะพยายามใช้ยาห้ามเลือดเข้าช่วยก็ไม่เป็นผล สุดท้ายผู้เป็นมารดาก็จากไปทั้งที่ยังไม่ได้มองหน้าลูกน้อยทั้งสองเลยด้วยซ้ำ
เมื่อนายอนันมองเห็นหน้าของโรฮันนาทีไร เขาก็จะระลึกถึงภาพเหตุการณ์ในวันนั้น เหมือนว่ามันเพิ่งจะเกิดขึ้น ทำให้เขาเกลียดขี้หน้าลูกสาวคนเล็กของตัวเอง ด้วยเหตุผลที่ไม่สมควรนั้นด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นโรฮันนาจึงอยู่อย่างไร้ตัวตน ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ เป็นสมาชิกของครอบครัวคนหนึ่ง แต่ก็ไม่เคยมีใครเห็นความสำคัญของเธอเลย สิ่งที่เธอได้จากตระกูลนี้มีเพียงนามสกุลที่ห้อยท้ายชื่อเท่านั้น แต่นั่นก็ดีมากแล้วสำหรับคนอาภัพอย่างโรฮันนา
พ่อไม่เคยต้องการเธอ ไม่แม้แต่จะพูดดีๆ ด้วยซักครั้ง ไม่สิท่านไม่อยากจะมองหน้าเธอเลยต่างหากล่ะ อาสาวและป้าแสดงท่าทีรังเกียจในตัวเธออย่างออกนอกหน้า เจอหน้ากันทีไรเป็นต้องพูดจากระแนะกระแหน ไม่ก็ขับไล่ไปให้ไกลหูไกลตาราวกับทนเห็นหน้าเธอแม้แต่เสี้ยววินาทีไม่ไหว ส่วนพี่สาวคนสวยก็เสแสร้งแกล้งทำดีต่อหน้าคนอื่น แต่ลับหลังกลับกลั่นแกล้งสารพัด
โรฮันนาจึงเหมือนคนที่เกิดมาโชคร้ายและอาภัพ กำพร้าแม่ตั้งแต่ยังแบเบาะ พ่อไม่รักและไม่เป็นที่ต้องการของคนในบ้าน หากไม่มีนมช้อยที่คอยเลี้ยงดูอุ้มชูเธอมาตลอดตั้งแต่เล็กจนโต เธอก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตเป็นเช่นไร จะรอดมาถึงทุกวันนี้หรือไม่ ดังนั้นนมช้อยจึงเปรียบเสมือนครอบครัวและที่พึ่งพิงทั้งทางกายและใจที่หญิงสาวยังคงหลงเหลืออยู่
คนที่คอยอยู่เคียงข้างโรฮันนามาตลอดก็มีแต่นมช้อยนี่แหละ นางไม่เคยรังเกียจในตัวนายสาวเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามนางกลับรู้สึกสงสารในโชคชะตาของโรฮันนา สิ่งที่นางมีให้สาวน้อยผู้น่าสงสารมีเพียงความรักความเอ็นดูประดุจดั่งลูกในไส้
เมื่อตอนที่ครอบครัวย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ ด้วยความที่พี่สาวของเธอเป็นเด็กที่สวยน่ารัก ฉลาด และรู้จักเข้าสังคมตั้งแต่ยังเล็ก จึงมีเพื่อนบ้านที่เป็นลูกเศรษฐีในละแวกนั้นมาเล่นด้วยทั้งชายและหญิงไม่เคยขาด แต่เธอกลับไม่เคยมีเพื่อนเลย เหตุก็เพราะว่าไม่เคยได้ออกไปไหน เอาแต่เก็บเนื้อเก็บตัวอยู่ในบ้าน นั่นก็เนื่องมาจากที่บิดาสั่งห้ามไม่ให้เสนอหน้าไปบอกใครต่อใครว่าเธอเป็นลูกสาวอีกคนของท่าน
จำได้ว่าครั้งหนึ่งพี่สาวของเธอชวนเพื่อนมาเล่นที่บ้าน แล้วทั้งหมดก็พากันรวมหัวกลั่นแกล้งเธอ โดยเรียกให้มาเล่นด้วย ขณะที่พวกเขากำลังเล่นกันอยู่ริมสระน้ำ พอเธอเดินเข้าไปหาพี่สาว ลัยลากลับผลักเธอตกน้ำ เธอว่ายน้ำไม่เป็นพยายามร้องตะโกนอ้อนวอนให้ทุกคนช่วย แต่คนพวกนั้นกลับพากันหัวเราะเยาะอย่างสนุกสนาน ไม่สงสารซ้ำยังทำเป็นเรื่องตลกขบขับ ทั้งที่เธอหายใจพะงาบๆ กำลังจะจมน้ำขาดใจตายอยู่ตรงหน้า ร่างเล็กพยายามตะเกียกตะกายขึ้นจากผืนน้ำด้วยกำลังที่มีอยู่เพียงน้อยนิด ไม่ต่างอะไรกับลูกหมาตกน้ำ แต่มันก็ไม่เป็นผลในที่สุดร่างอ่อนแรงก็หมดสติและจมดิ่งลงสู่ก้นสระ
ลัยลาเห็นอย่างนั้นจึงแสร้งทำเป็นร้องเรียกให้คนในบ้านมาช่วย ไม่นานก็มีคนมาช่วยโรฮันนาขึ้นจากสระและผายปอดสำลักน้ำออกมา เมื่อพ่อถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมเธอถึงตกลงไปในสระ ลัยลาก็ชิงเล่าให้ทุกคนฟังทั้งน้ำตาว่าโรฮันนาพยายามผลักตนให้ตกน้ำ เพราะอิจฉาที่มีเพื่อนเยอะและของเล่นดีๆ แต่ลัยลาก็พยายามขัดขืน โรฮันนาจึงก้าวพลาดตกสระน้ำซะเอง โดยทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้นต่างก็เป็นพยาน
ความผิดทั้งหมดจึงมาตกอยู่ที่โรฮันนาเพียงผู้เดียว เธอโดนพ่อตีและโดนด่าด้วยเสียงดังราวฟ้าผ่าต่อหน้าทุกคน คำด่าทอทุกประโยคที่หลุดออกมาจากปากผู้เป็นพ่อในวันนั้น มันคอยตอกย้ำว่าท่านไม่เคยรักและเห็นเธอในสายตา จวบจนกระทั่งทุกวันนี้โรฮันนายังคงไม่เคยลืมเลือนคำบริภาษอันรุนแรงที่นายอนันก่นด่าใส่หน้า ซ้ำร้ายคือเหตุการณ์ในครั้งนั้นยังคอยตามมาหลอกหลอน จนทำให้เธอกลัวสระน้ำฝังใจ ผวาทุกครั้งที่เข้าใกล้ โรฮันนาจึงว่ายน้ำไม่เป็นเลยตั้งแต่เล็กจนโต และเธอก็ไม่ปรารถนาที่จะหัดว่ายน้ำให้เป็น
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เธอก็เหมือนยิ่งห่างไกลจากผู้เป็นพ่อออกไปทุกที พ่อทำเหมือนเป็นลืมว่าเธอยังมีตัวตน ลืมว่ายังมีเธอที่เป็นลูกสาวอีกคนของท่าน ท่านหันมาประเคนสิ่งดีๆ ที่ลูกเศรษฐีคนหนึ่งพึงมีและพึงได้รับให้ลัยลาจนหมดสิ้น โดยไม่คิดที่จะหันมาเหลียวแลและเผื่อแผ่ให้แก่เธอเลยแม้แต่น้อย
เส้นทางชีวิตของลัยลาและโรฮันนาต่างกันโดยสิ้นเชิง ชีวิตของลัยลาเหมือนปูด้วยพรมกลีบกุหลาบ เกิดมาก็สวย บ้านก็รวย ฉันสวย ฉันเริ่ด ฉันต้องได้ทุกอย่าง นั่นคือความคิดที่ถูกหล่อหลอมมาจากการเลี้ยงดูตอนเด็กของลัยลา เพราะโดนปลูกฝังมาแบบผิดๆ เธอจึงเป็นคนเอาแต่ใจ เจ้ายศเจ้าอย่าง ทำตัวเหนือกว่าคนอื่นเสมอ เรียนโรงเรียนดังตั้งแต่อนุบาลยันมัธยม พอเข้ามหาลัยก็เลือกเรียนที่มหาลัยเอกชนชื่อดังและแพงที่สุดในประเทศ หนุ่มที่ควงแต่ละคนก็ต้องเลือกคนมีระดับ ใช้ชีวิตเยี่ยงเจ้าหญิงจนใครๆ ก็ต่างรุมอิจฉา
ผิดไปกับชีวิตของโรฮันนาราวฟ้ากับเหว ถึงแม้จะเกิดมาอาภัพเพราะพ่อไม่รัก โรฮันนาก็ไม่เคยท้อแท้และสิ้นหวัง พยายามต่อสู้ดิ้นรน ขวนขวายทุกสิ่งอย่างด้วยตัวของตัวเอง ต้องเรียนโรงเรียนวัดตั้งแต่ประถม เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ใช้กินอยู่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของนมช้อยทั้งสิ้น หารายได้โดยการช่วยนมช้อยทำขนมไทยฝากขายตามร้านค้า ส่งเสียตัวเองเรียนจนจบปริญญาตรีด้านคหกรรมอย่างเต็มภาคภูมิ ถึงมันจะไม่ได้ดีเด่นและสูงส่งเลยในสายตาคนอื่น แต่มันก็ทำให้นมช้อยผู้ซึ่งรักโรฮันนายิ่งกว่าลูกในไส้ ถึงกับร้องไห้น้ำตาไหลด้วยความปลาบปลื้มยินดีในวันที่เธอรับปริญญาบัตร