บรรยากาศภายในห้องนอนอันโออ่ารโหฐานห้องหนึ่งของตำหนักหลี่เซียวเหยา
ปรากฎภาพของบุรุษผู้หนึ่งซึ่งกำลังนอนทอดกายยาวเหยียดตัวเกร็งแข็งค้างอยู่บนเตียงนอน
ด้วยเพราะว่าเขากำลังถูกร่างนุ่มนิ่มบางระหงของสตรีนางหนึ่งนอนซ้อนทับอยู่บนเรือนร่างของเขา
พร้อมด้วยการกระทำบางอย่าง...
เนื้อนูนเด่นหยุ่นนุ่มขยับไปมาตรงแผงอกของเขา ใบหน้าเรียวงามเคลื่อนอยู่ใกล้ๆพร้อมลมหายใจเป่ารดใบหน้าของเขา มือไม้เรียวงามของนางกำลังไล้เลื่อนลูบคลำเคล้นคลึงไปตามส่วนต่างของเขา กลิ่นหอมจางๆลอยคละคลุ้งไปทั่วม่านมุ้ง
สตรีนางนั้นกำลังกระทำการอย่างนั้นอยู่อย่างเพลิดเพลินกับเขา
ชายหนุ่มทำได้เพียงกำมือแน่นตรงผ้าปูเตียง และบางครั้งก็มีเสียงครางเบาๆผ่านออกมา
มันหลุดออกมาจากลำคอของเขา แม้ว่าเขาจะพยายามสะกดกลั้นเสียงน่าอายนั่นเอาไว้
แต่ก็ยังคง...
หลุดครางออกมาอยู่ดี
ชายหนุ่มผู้นี้กำลังถูกย่ำยีอยู่อย่างทรมาน…
“ท่านรู้หรือไม่” เจินเจินส่งเสียงแผ่วหวานขณะซุกซบอยู่บนแผงอกบึกบึนของหลี่เซียวเหยา
“ข้าน่ะ พยายามแล้ว...” นางกล่าวออกมาพลางลูบคลำเค้นคลึงไปตามส่วนต่างๆของชายหนุ่มอย่างไม่หยุดหย่อน จนเขาต้องเกร็งกล้ามเนื้อในทุกๆที่ที่มือเรียวงามสัมผัสพาดผ่าน
“ข้าพยายามแล้วที่จะไม่มองไปทางท่าน” หญิงสาวบ่นอุบอิบพึมพำบางเบาด้วยอาการมึนเมามือไม้ไล้เลื่อนไปมาอยู่ตรงแผงอกกำยำ
“บุรุษรูปงามมากหน้าหลายตา...ข้าพยายามแล้วที่จะมอง...มองพวกเขา...ข้าพยายามแล้ว...” นางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหวานแผ่วพลางเอื้อมมือมาตรงใบหน้าคมเข้มของชายหนุ่มที่กำลังขบกรามแน่นด้วยอาการเก็บข่มอารมณ์บางอย่าง
หญิงสาวใช้นิ้วเรียวสวยของตนลากผ่านส่วนต่างๆของใบหน้าของเขาตั้งแต่ริมฝีปากไปเรื่อยๆที่สันจมูก ก่อนลากขึ้นไปที่คิ้วคมเข้มแล้วไปหยุดอยู่ที่บริเวณหางตา
นางยังคงเกลี่ยนิ้วเบาๆที่บริเวณนั้นอยู่เนิ่นนาน ตรงบริเวณนี้เป็นที่อยู่ของนัยน์ตาสีดำขลับเปี่ยมเสน่ห์เหลือร้าย
นางยกมุมปากขึ้นยิ้มน้อยๆ ก่อนเอ่ยกระซิบกระซาบเสียงแหบพร่า “สายตาคมดุของท่าน...ช่างร้ายกาจ ร้ายกาจยิ่งนัก มันช่าง”
เจินเจินเหม่อมองใบหน้าของหลี่เซียวเหยาอยู่อึดใจก่อนวาดมือของตนออกไปข้างลำตัวของหลี่เซียวเหยาปล่อยเนื้อนูนนุ่มดันแผงอกของเขาอยู่อย่างนั้นเพื่อยันตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วคร่อมร่างของเขาก่อนเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงเบาหวิว “ข้าน่ะ ไม่ชอบท่านแล้ว ไม่ชอบ...”
นางกล่าวพลางส่งยิ้มบางเบาสายตาหวานเชื่อมพราวเสน่ห์เพราะฤทธิ์น้ำเมา “คนอย่างข้า...ไม่เคยพ่ายแพ้ ให้แก่บุรุษคนใด หึหึ ขอหอมแก้มทีนึง” จบคำก็ก้มหน้าเตรียมฝังจมูกเข้าที่ใบหน้าของเขา
ชายหนุ่มพยายามเบี่ยงหน้าของตนเพื่อเลี่ยงหลีกใบหน้างามอยู่อย่างยากลำบาก
“อย่าหลบเชียว หึหึ” ว่าแล้วก็ก้มหน้าไล่ตามใบหน้าคมเข้มไปมา
หลี่เซียวเหยาที่รู้ตัวแล้วว่าอาจจะพ่ายแพ้ให้แก่สตรีหน้าไม่อายนี่ แต่เขาก็ยังคง...ไม่ยอมจำนน
เขาไม่มีวัน...ยอมจำนนให้แก่สตรีร้ายกาจนางนี้เป็นแน่
ไม่มีวัน...
ไม่กี่ชั่วยามผ่านไป...
แสงแดดยามเช้าก็เข้ามาเยือน
บรรดาหมู่ภมรเริ่มโฉบบินไปมาล้อเล่นอยู่กับมวลบุปผาเหมือนเคยเหมือนดังเช่นทุกวันที่ผ่านมา
จะมีก็เพียงแต่สตรีนางหนึ่งที่มักจะชอบเดินหมุนตัวเล่นอยู่ตรงนี้ที่หายไป
นางกำลังถูกลงทัณฑ์ด้วยบุรุษผู้หนึ่งที่นางพึงใจ
บุรุษผู้ซึ่งเป็นเจ้าของสายตาสีดำนิลคล้ายเวลากลางคืนแห่งรัตติกาล…
“ข้าผิดไปแล้ว...” เสียงเจินเจินยังคงโอดครวญอยู่บนเตียงนอนขนาดใหญ่ภายในห้องนอนของหลี่เซียวเหยา
สองแขนสองขาของหญิงสาวถูกมัดตรึงเอาไว้กับมุมเสาของเตียงนอนทั้งสี่ด้าน
“ข้าพยายามแล้วนะ...แต่...แต่” หญิงสาวเอ่ยตะกุกตะกักได้แค่นั้น
“เฮ้อ!” นางถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างไม่รู้จะอธิบายแก้ตัวอย่างไรดี
เมื่อคืนนางดื่มเหล้าจนเมามายอย่างหนัก แล้วก็เข้ามาล่วงเกินลวนลามหลี่เซียวเหยาถึงในห้องนอนของเขา
ถึงเตียงนอนนี่
เตียงที่ตอนนี้กลายเป็นสถานที่ลงทัณฑ์นางอยู่ในขณะนี้
แต่นางทนไม่ไหวจริงๆ
นางพยายามแล้วนะ นางพยายามแล้วที่จะเลือกเฟ้นบุรุษอื่นเพื่อให้ลืมบุรุษผู้นี้
บุรุษผู้ที่นั่งทำหน้าตาดำคล้ำเขียวครึ้มส่งสายตาแวววาวกราดเกรี้ยวอยู่ตรงตั่งใกล้กับเตียงนอนที่นางถูกมัดตรึงติดอยู่นี่
นางพยายามบอกกล่าวแก่เขา ว่านางไม่ชอบเขาแล้ว นางจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก
แต่...
แต่ร่างกายของนาง
ร่างกายของนางกลับทำตรงกันข้ามกับสิ่งที่นางพยายามจะบอก
ใครไหนเลยจะเข้าใจเจินเจิน ฮือ...
หลี่เซียวเหยาเพียงนั่งกอดอกหรี่ตามองเจินเจินที่ถูกมัดแน่นด้วยฝีมือของเขาอยู่อย่างนั้น
เขายังคงมิได้สนใจเสียงร้องโหยหวนคล้ายสะอื้นไห้ของนางแต่อย่างใด
เพราะเมื่อคืน...
เมื่อคืนนางเข้ามาในห้องนอนของเขา
นางบอกเขาว่านางไม่ชอบเขาแล้ว
และจะไปหาบุรุษคนอื่น
แต่...
ภาพเมื่อคืน
ภาพนั้นที่นางบังอาจทรมานเขาเกือบทั้งคืน
มันยังติดตาติดใจ
ไม่สิ! มันแค่ติดตาเท่านั้น มิได้ติดใจ
เขาต้องนอนตัวแข็งเกร็งปวดหนึบไปหมดทั้งตัว
เขาต้องกำมือเข้ากับผ้าปูเตียงเอาไว้แน่นจนเส้นเลือดปูด
เขาต้องอดทนกับพฤติกรรมของนางจนถึงขั้นเผลอส่งเสียงครางออกมา
เพราะสตรีนางนี้
สตรีนางนี้ที่บังอาจเข้ามากระทำการบางอย่างด้วยความเพลิดเพลินบนเรือนร่างของเขา
ทั้งลูบคลำ ทั้งหอมแก้ม ทั้งขบเม้ม ทั้งซุกไซ้ ไหนจะจูบอีก นางจูบเขาอย่างดูดดื่ม แต่พอเขาจะจูบตอบ นางกลับหยุดเสียกลางคัน
นางหลับคาอกของเขาเสียอย่างนั้น
บัดซบ!
“ข้าจะไม่แอบเข้ามาในห้องของท่านอีกแล้ว นะ นะ ข้าสัญญา” เจินเจินส่งเสียงอ้อนวอนอยู่อย่างนั้นเพราะสังเกตเห็น หลี่เซียวเหยาที่ยังคงนั่งนิ่งหน้าตึงอย่างอารมณ์เสียฉุนเฉียว เขาคงโกรธนางเป็นอันมาก ที่นางบังอาจเข้ามาล่วงเกินเขาถึงสถานที่ส่วนตัวอย่างในห้องนอนนี่
หญิงสาวยังคงครางครวญ “ข้าจะไม่ล่วงเกินท่านอีก จริงๆน๊า”
“เจ้าควรจะเลิกดื่มเหล้า” จู่ๆหลี่เซียวเหยาที่นั่งนิ่งมานานก็เอ่ยขึ้น
“หา!” นางอุทาน
“ไม่ต้องดื่มอีกเลย ตลอดไป” เขายังคงเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำจริงจัง ใบหน้านิ่งเฉย ดวงตาเย็นชา
เจินเจินถึงกับฉงน นอนทำตาปริบๆอยู่บนเตียงใหญ่
เลิกดื่มเหล้ารึ? เพื่อนแท้เลยนะนั่น!
หลี่เซียวเหยาสังเกตเห็นหญิงสาวเงียบงันไปจึงลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้ามาที่เตียงนอนก่อนจะก้มตัวลงใช้มือยันพื้นเตียงนอนเอาไว้ในท่าคร่อมหญิงสาวที่ถูกมัดตรึงอยู่กับเตียง
เขาถามเสียงเย็น “เข้าใจหรือไม่!”
เจินเจินรีบพยักหน้าถี่รัวอย่างเร็วๆและงงๆ ก่อนเอ่ยเสียงอ่อน “ข้าจะไม่ดื่มอีก....”
“ดี...” ชายหนุ่มเอ่ยแค่นั้นขณะจ้องมองหญิงสาวใต้ร่างของเขา ดวงตาคมกริบสีดำนิลลึกลับจ้องหน้านางนิ่งงันอยู่อย่างนั้น
เขาควรจะเอาคืนสตรีน่ารังเกียจนี่อย่างสาสม เขาควรจะเอาคืนนางอย่างที่นางควรจะได้รับ
เพราะเมื่อคืน...
นางทำเขา
นอนไม่หลับ...