ลงทัณฑ์

1376 Words
บรรยากาศภายในห้องนอนอันโออ่ารโหฐานห้องหนึ่งของตำหนักหลี่เซียวเหยา ปรากฎภาพของบุรุษผู้หนึ่งซึ่งกำลังนอนทอดกายยาวเหยียดตัวเกร็งแข็งค้างอยู่บนเตียงนอน ด้วยเพราะว่าเขากำลังถูกร่างนุ่มนิ่มบางระหงของสตรีนางหนึ่งนอนซ้อนทับอยู่บนเรือนร่างของเขา พร้อมด้วยการกระทำบางอย่าง... เนื้อนูนเด่นหยุ่นนุ่มขยับไปมาตรงแผงอกของเขา ใบหน้าเรียวงามเคลื่อนอยู่ใกล้ๆพร้อมลมหายใจเป่ารดใบหน้าของเขา มือไม้เรียวงามของนางกำลังไล้เลื่อนลูบคลำเคล้นคลึงไปตามส่วนต่างของเขา กลิ่นหอมจางๆลอยคละคลุ้งไปทั่วม่านมุ้ง สตรีนางนั้นกำลังกระทำการอย่างนั้นอยู่อย่างเพลิดเพลินกับเขา ชายหนุ่มทำได้เพียงกำมือแน่นตรงผ้าปูเตียง และบางครั้งก็มีเสียงครางเบาๆผ่านออกมา มันหลุดออกมาจากลำคอของเขา แม้ว่าเขาจะพยายามสะกดกลั้นเสียงน่าอายนั่นเอาไว้ แต่ก็ยังคง... หลุดครางออกมาอยู่ดี ชายหนุ่มผู้นี้กำลังถูกย่ำยีอยู่อย่างทรมาน… “ท่านรู้หรือไม่” เจินเจินส่งเสียงแผ่วหวานขณะซุกซบอยู่บนแผงอกบึกบึนของหลี่เซียวเหยา “ข้าน่ะ พยายามแล้ว...” นางกล่าวออกมาพลางลูบคลำเค้นคลึงไปตามส่วนต่างๆของชายหนุ่มอย่างไม่หยุดหย่อน จนเขาต้องเกร็งกล้ามเนื้อในทุกๆที่ที่มือเรียวงามสัมผัสพาดผ่าน “ข้าพยายามแล้วที่จะไม่มองไปทางท่าน” หญิงสาวบ่นอุบอิบพึมพำบางเบาด้วยอาการมึนเมามือไม้ไล้เลื่อนไปมาอยู่ตรงแผงอกกำยำ “บุรุษรูปงามมากหน้าหลายตา...ข้าพยายามแล้วที่จะมอง...มองพวกเขา...ข้าพยายามแล้ว...” นางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงหวานแผ่วพลางเอื้อมมือมาตรงใบหน้าคมเข้มของชายหนุ่มที่กำลังขบกรามแน่นด้วยอาการเก็บข่มอารมณ์บางอย่าง หญิงสาวใช้นิ้วเรียวสวยของตนลากผ่านส่วนต่างๆของใบหน้าของเขาตั้งแต่ริมฝีปากไปเรื่อยๆที่สันจมูก ก่อนลากขึ้นไปที่คิ้วคมเข้มแล้วไปหยุดอยู่ที่บริเวณหางตา นางยังคงเกลี่ยนิ้วเบาๆที่บริเวณนั้นอยู่เนิ่นนาน ตรงบริเวณนี้เป็นที่อยู่ของนัยน์ตาสีดำขลับเปี่ยมเสน่ห์เหลือร้าย นางยกมุมปากขึ้นยิ้มน้อยๆ ก่อนเอ่ยกระซิบกระซาบเสียงแหบพร่า “สายตาคมดุของท่าน...ช่างร้ายกาจ ร้ายกาจยิ่งนัก มันช่าง” เจินเจินเหม่อมองใบหน้าของหลี่เซียวเหยาอยู่อึดใจก่อนวาดมือของตนออกไปข้างลำตัวของหลี่เซียวเหยาปล่อยเนื้อนูนนุ่มดันแผงอกของเขาอยู่อย่างนั้นเพื่อยันตัวเองให้ลุกขึ้นแล้วคร่อมร่างของเขาก่อนเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงเบาหวิว “ข้าน่ะ ไม่ชอบท่านแล้ว ไม่ชอบ...” นางกล่าวพลางส่งยิ้มบางเบาสายตาหวานเชื่อมพราวเสน่ห์เพราะฤทธิ์น้ำเมา “คนอย่างข้า...ไม่เคยพ่ายแพ้ ให้แก่บุรุษคนใด หึหึ ขอหอมแก้มทีนึง” จบคำก็ก้มหน้าเตรียมฝังจมูกเข้าที่ใบหน้าของเขา ชายหนุ่มพยายามเบี่ยงหน้าของตนเพื่อเลี่ยงหลีกใบหน้างามอยู่อย่างยากลำบาก “อย่าหลบเชียว หึหึ” ว่าแล้วก็ก้มหน้าไล่ตามใบหน้าคมเข้มไปมา หลี่เซียวเหยาที่รู้ตัวแล้วว่าอาจจะพ่ายแพ้ให้แก่สตรีหน้าไม่อายนี่ แต่เขาก็ยังคง...ไม่ยอมจำนน เขาไม่มีวัน...ยอมจำนนให้แก่สตรีร้ายกาจนางนี้เป็นแน่ ไม่มีวัน... ไม่กี่ชั่วยามผ่านไป... แสงแดดยามเช้าก็เข้ามาเยือน บรรดาหมู่ภมรเริ่มโฉบบินไปมาล้อเล่นอยู่กับมวลบุปผาเหมือนเคยเหมือนดังเช่นทุกวันที่ผ่านมา จะมีก็เพียงแต่สตรีนางหนึ่งที่มักจะชอบเดินหมุนตัวเล่นอยู่ตรงนี้ที่หายไป นางกำลังถูกลงทัณฑ์ด้วยบุรุษผู้หนึ่งที่นางพึงใจ บุรุษผู้ซึ่งเป็นเจ้าของสายตาสีดำนิลคล้ายเวลากลางคืนแห่งรัตติกาล… “ข้าผิดไปแล้ว...” เสียงเจินเจินยังคงโอดครวญอยู่บนเตียงนอนขนาดใหญ่ภายในห้องนอนของหลี่เซียวเหยา สองแขนสองขาของหญิงสาวถูกมัดตรึงเอาไว้กับมุมเสาของเตียงนอนทั้งสี่ด้าน “ข้าพยายามแล้วนะ...แต่...แต่” หญิงสาวเอ่ยตะกุกตะกักได้แค่นั้น “เฮ้อ!” นางถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างไม่รู้จะอธิบายแก้ตัวอย่างไรดี เมื่อคืนนางดื่มเหล้าจนเมามายอย่างหนัก แล้วก็เข้ามาล่วงเกินลวนลามหลี่เซียวเหยาถึงในห้องนอนของเขา ถึงเตียงนอนนี่ เตียงที่ตอนนี้กลายเป็นสถานที่ลงทัณฑ์นางอยู่ในขณะนี้ แต่นางทนไม่ไหวจริงๆ นางพยายามแล้วนะ นางพยายามแล้วที่จะเลือกเฟ้นบุรุษอื่นเพื่อให้ลืมบุรุษผู้นี้ บุรุษผู้ที่นั่งทำหน้าตาดำคล้ำเขียวครึ้มส่งสายตาแวววาวกราดเกรี้ยวอยู่ตรงตั่งใกล้กับเตียงนอนที่นางถูกมัดตรึงติดอยู่นี่ นางพยายามบอกกล่าวแก่เขา ว่านางไม่ชอบเขาแล้ว นางจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก แต่... แต่ร่างกายของนาง ร่างกายของนางกลับทำตรงกันข้ามกับสิ่งที่นางพยายามจะบอก ใครไหนเลยจะเข้าใจเจินเจิน ฮือ... หลี่เซียวเหยาเพียงนั่งกอดอกหรี่ตามองเจินเจินที่ถูกมัดแน่นด้วยฝีมือของเขาอยู่อย่างนั้น เขายังคงมิได้สนใจเสียงร้องโหยหวนคล้ายสะอื้นไห้ของนางแต่อย่างใด เพราะเมื่อคืน... เมื่อคืนนางเข้ามาในห้องนอนของเขา นางบอกเขาว่านางไม่ชอบเขาแล้ว และจะไปหาบุรุษคนอื่น แต่... ภาพเมื่อคืน ภาพนั้นที่นางบังอาจทรมานเขาเกือบทั้งคืน มันยังติดตาติดใจ ไม่สิ! มันแค่ติดตาเท่านั้น มิได้ติดใจ เขาต้องนอนตัวแข็งเกร็งปวดหนึบไปหมดทั้งตัว เขาต้องกำมือเข้ากับผ้าปูเตียงเอาไว้แน่นจนเส้นเลือดปูด เขาต้องอดทนกับพฤติกรรมของนางจนถึงขั้นเผลอส่งเสียงครางออกมา เพราะสตรีนางนี้ สตรีนางนี้ที่บังอาจเข้ามากระทำการบางอย่างด้วยความเพลิดเพลินบนเรือนร่างของเขา ทั้งลูบคลำ ทั้งหอมแก้ม ทั้งขบเม้ม ทั้งซุกไซ้ ไหนจะจูบอีก นางจูบเขาอย่างดูดดื่ม แต่พอเขาจะจูบตอบ นางกลับหยุดเสียกลางคัน นางหลับคาอกของเขาเสียอย่างนั้น บัดซบ! “ข้าจะไม่แอบเข้ามาในห้องของท่านอีกแล้ว นะ นะ ข้าสัญญา” เจินเจินส่งเสียงอ้อนวอนอยู่อย่างนั้นเพราะสังเกตเห็น หลี่เซียวเหยาที่ยังคงนั่งนิ่งหน้าตึงอย่างอารมณ์เสียฉุนเฉียว เขาคงโกรธนางเป็นอันมาก ที่นางบังอาจเข้ามาล่วงเกินเขาถึงสถานที่ส่วนตัวอย่างในห้องนอนนี่ หญิงสาวยังคงครางครวญ “ข้าจะไม่ล่วงเกินท่านอีก จริงๆน๊า” “เจ้าควรจะเลิกดื่มเหล้า” จู่ๆหลี่เซียวเหยาที่นั่งนิ่งมานานก็เอ่ยขึ้น “หา!” นางอุทาน “ไม่ต้องดื่มอีกเลย ตลอดไป” เขายังคงเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำจริงจัง ใบหน้านิ่งเฉย ดวงตาเย็นชา เจินเจินถึงกับฉงน นอนทำตาปริบๆอยู่บนเตียงใหญ่ เลิกดื่มเหล้ารึ? เพื่อนแท้เลยนะนั่น! หลี่เซียวเหยาสังเกตเห็นหญิงสาวเงียบงันไปจึงลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้ามาที่เตียงนอนก่อนจะก้มตัวลงใช้มือยันพื้นเตียงนอนเอาไว้ในท่าคร่อมหญิงสาวที่ถูกมัดตรึงอยู่กับเตียง เขาถามเสียงเย็น “เข้าใจหรือไม่!” เจินเจินรีบพยักหน้าถี่รัวอย่างเร็วๆและงงๆ ก่อนเอ่ยเสียงอ่อน “ข้าจะไม่ดื่มอีก....” “ดี...” ชายหนุ่มเอ่ยแค่นั้นขณะจ้องมองหญิงสาวใต้ร่างของเขา ดวงตาคมกริบสีดำนิลลึกลับจ้องหน้านางนิ่งงันอยู่อย่างนั้น เขาควรจะเอาคืนสตรีน่ารังเกียจนี่อย่างสาสม เขาควรจะเอาคืนนางอย่างที่นางควรจะได้รับ เพราะเมื่อคืน... นางทำเขา นอนไม่หลับ...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD