เดินทาง

1094 Words
หลังจากที่ทานอาหารค่ำเสร็จ ครูแม็กก็ได้มาส่งวิลาวัลย์ที่หอพักของโรงบาล ทั้งคู่ไม่ได้ไปไหนต่อ อีกอย่างวิลาวัลย์เธอรู้ตัวดีว่าพึ่งคบกันเรื่องนิสัยใจคอคงต้องศึกษากันไปก่อน "แล้วเราจะโทรหานะ" หนุ่มหล่อดีกรีครูพูดขึ้นเมื่อมาส่งสาวที่หน้าตึกหอพัก วิลาวัลย์พยักหน้าพลางยิ้มหวาน ก่อนจะก้าวขาลงจากรถ เธอโบกมือลารถยนต์ของครูหนุ่มที่หน้าตึก ก่อนที่ตัวเองจะสาวเท้าขึ้นบันไดของหอ มือเรียวเอื้อมมือไปเปิดประตูห้อง แต่ยังไม่แทรกตัวเข้าห้องด้วยซ้ำ โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าข้างก็ดังขึ้นอีก วิลาวัลย์ล้วงมือเข้าไปหยิบ ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นเบอร์ พร้อมกดรับปลายสายที่โทรเข้ามา "อะไรของแกอีก" (แฮ่ ฉันก็ลุ้นอยู่ว่าแกจะรับไหม เอ่อ รับเบาใจหน่อย) "สรุปแกจะขัดขวางไม่ให้เพื่อนมีแฟนเลยหรือไง แหม ที่ตัวเองมีผัวจนมีลูก" วิลาวัลย์เธออดไม่ได้ที่จะว่าปลายสายคือเพื่อนรักของเธอ ในเมื่อตัวเองชิงมีสามีไปก่อน พอถึงทีเธอบ้างเพื่อนก็ดูไม่เป็นใจซะงั้น (บ้า แกก็พูดไปขัดขวางอะไรกัน ฉันแค่เป็นห่วงเอง แก...กลับห้องแล้วใช่ป่ะ) "อืม...กลับแล้ว เอ่อ เอาเวลาที่จับผิดฉันเนี่ยไปดูแลลูกดีกว่าไหม ป่านนี้หลานฉันกินข้าวหรือยัง ไม่ใช่แม่มันนั่งคิดวิธีขัดความสุขอยู่หรอกหรอ" สิ่งที่วิลาวัลย์พูดดูเหมือนจะถูกงามวิไลเงียบไปสักพัก แต่ได้ยินเสียงขำเบาๆ ในเมื่อเพื่อนรู้ทัน มีหรือจะอยู่ให้ว่า เธอรีบวางสาย จนวิลาวัลย์นั้นถอนหายใจ "ยัยเพื่อนบ้า" .......................................................... หลายวันผ่านไป วันที่ต้องเข้ากรุงเทพก็มาถึง วิลาวัลย์ขับรถมาจอดไว้ที่บ้านของงามวิไล เนื่องจากคุณหมอจิณณ์นั้นเป็นคนขับพาเหล่าสาวๆพยาบาลและลูกๆเข้ากรุงเทพ วิลาวัลย์นั่งเล่นเป็นเพื่อนคุยให้เจ้าสองแสบม่านมุกและม่านเมฆ ส่วนงามวิไลเธอก็นั่งข้างสามีของเธอ การเดินทางที่ใช้เวลาเพียง 4-5 ชั่วโมง แต่หลานตัวน้อยที่นั่งกับน้าวินั่นสิ ชั่งพูดจนวิลาวัลย์ไม่ได้หยุดพักปากเลยสักครั้ง "น้าวิครับ น้าวิจะไปอยู่กับลุงติณณ์หรือครับ" "ใช่จ่ะ" วิลาวัลย์เธอหันไปตอบเด็กชายตัวน้อยที่แหงนมองหน้าน้าวิคนสวยที่นั่งเคียงข้าง วิลาวัลย์ตอบหลายแล้วก็เผยรอยยิ้มสดใส แต่ทันใดคำถามที่สองก็ถามขึ้น "น้าวิขา ถ้าน้าวิไปอยู่ด้วยกันก็ต้องเป็นแฟนลุงติณณ์ใช่ไหม" "หือ..ใครบอกเนี่ย น้าวิไปทำงาน" เธอหันมาทางคนนั่งข้างคนขับทันที "ฉันไม่ได้พูดอะไรนะ" งามวิไลรีบแก้ตัว เพราะกลัวว่าเพื่อนจะต่อว่า ไม่รู้ว่าลูกสาวตัวน้อยนั้นเอามาจากไหน งามวิไลหมุนตัวมาเล็กน้อย พร้อมเอี้ยวหน้ามาถามลูกสาวที่นั่งด้านหลัง "ม่านมุก ไปเอามาจากไหน น้าวิไปทำงานให้คุณลุงต่างหาก" งามวิไลถามขึ้น เด็กน้อยวัยชั่งพูด มองหน้าแม่พร้อมคำตอบ "ม่านมุกเห็นในโทรศัพท์ค่ะ คนที่อยู่ด้วยกันต้องเป็นแฟนกัน คุณพ่อคุณแม่ก็อยู่ด้วยกันก็เป็นแฟนกัน" คราวนี้หมอจิณณ์คงต้องออกโรง บอกลูกสาวตัวน้อย "บางครั้งก็ไม่ใช่นะครับลูก เป็นเพื่อนกันก็อยู่ด้วยกันได้ น้าวิไปอยู่ที่คลินิกเพื่อไปดูแลคลินิกให้คุณลุง ฉะนั้นน้าวิไปเพื่อทำงานเข้าใจไหมคะ" "เข้าใจค่ะ" ม่านมุกเธอไม่ใช่คนชอบซักถามอะไร ถ้าหากผู้ใหญ่อธิบายแล้ว เธอก็ตอบเข้าใจในทันที ต่างจากน้องชายฝาแฝดที่นั่งข้างวิลาวัลย์ เจ้าจอมแสบม่านเมฆที่พ่ออธิบายแบบนั้นแทนที่จะจบ ก็พูดขึ้นอีก "พ่อครับ ลุงติณณ์ยังไม่มีคุณป้าเลย ทำไมน้าวิไม่เป็นคุณป้าให้ลุงติณณ์ละครับ" "ม่านเมฆ!!" วิลาวัลย์หัวจะปวดกับหลายชาย จอมแสบ อย่าว่าแต่วิลาวัลย์เลยประโยคของลูกชายทำเอางามวิไลหัวเราะชอบใจ ส่วนหมอจิณณ์ถึงกับถอนหายใจ ไปต่อไม่ถูก "สมกับเป็นลูกแกจริงๆ" วิลาวัลย์พูดกระทบเพื่อนสาว ที่นั่งข้างคุณหมอแล้วหัวเราะอยู่ เด็กน้อยเองก็หัวเราะตามแม่ไม่รู้ว่า มันน่าหัวเราะหรือเสียงหัวเราะของแม่ มันเร่าใจเด็กๆ รถยนต์ของคุณหมอวิ่งเข้าเขตที่พัก หมอจิณณ์โทรถามพี่ชาย คืนนี้ต้องค้างที่บ้านของพ่อแม่ พร้อมด้วยวิลาวัลย์เอง เธอรู้สึกตื่นเต้น แต่การมาของเธอนั้นเป็นการมาดูงาน แต่ที่ตื่นเต้นคงเป็นการมาบ้านคุณหมอใหญ่อีกทั้งต้องค้างที่นี่ ถึงแม้เธอจะบอกเพื่อนให้เปิดโรงแรมให้เพราะเกรงใจ แต่คุณหมอจิณณ์นั้นห้ามไว้ ให้พักบ้านตัวเอง พอมาถึงบ้านของหมอทุกคนเดินลงจากรถ สองแสบที่มาบ่อย ไม่รอช้ารีบวิ่งไปหาคุณปู่กับคุณย่าที่รออยู่ด้านในบ้าน ส่วนวิลาวัลย์ที่พึ่งเคยมาบ้านหมอ เธอก็ไม่ต่างจาก งามวิไลที่มาในครั้งแรก เธอกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ จนกระทั่งเจ้าของบ้านออกมาต้อนรับ นั้นก็คือหมอติณณ์ "พี่ติณณ์สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ" ทุกคนยกมือไหว้หมอ เพราะความอาวุโสกว่า หมอติณณ์ยกมือไหว้ตอบ พร้อมเชิญแขกเข้าบ้าน เมื่อเข้ามาด้านใน หมอติณณ์ก็แนะนำวิลาวัลย์ให้รู้จัก ในฐานะเพื่อนร่วมงาน เธอยกมือไหว้ผู้ใหญ่ตรงหน้า เธอเคยเจอคุณพ่อคุณแม่หมอมาก่อนก็จริง แต่ครั้งนั้นแทบไม่ได้คุยกัน อีกอย่างวันงานแต่งของเพื่อนคนก็เยอะ คุณวิภาและคุณสุทิน อาจจะไม่เห็นเธอด้วยซ้ำ "นั่งก่อนจ่ะหนู มาถึงเหนื่อยๆค่อยคุย" หญิงวัยอาวุโสบอกแม่บ้านยกน้ำเข้ามาเสิร์ฟ พร้อมขนมของหลานทั้งสอง ทั้งหมดนั่งรวมตัวกันในห้องรับแขก พักผ่อน ให้หายเหนื่อย ก่อนจะถามถึงเรื่องราวต่างๆ เรื่องที่จะมาช่วยลูกชาย อย่างที่รู้คุณวิภาเป็นคนใจดี ทุกคำพูดต้องมีรอยยิ้มทุกครั้ง วาจาก็อ่อนหวานไพเราะ ทำให้วิลาวัลย์เธอไม่ค่อยเกร็งเท่าไหร่นัก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD