ในเมื่อคุณหมออยากให้เข้าไปดูก่อนเธอก็ตอบตกลงที่จะเข้ากรุงเทพในอาทิตย์ที่จะมาถึง แต่งานนี้คงไม่พ้นชวนเพื่อนสาวของเธอไปเป็นเพื่อน ในเมื่อโทรหาคุณหมอแล้วเธอก็ไม่ลืมที่จะโทรเล่าให้เพื่อนอย่างงามวิไลฟัง
(พี่ติณณ์บอกให้ไปดูก่อนหรอ จะว่าไปคลินิกของพี่ติณณ์ตั้งอยู่ในซอยที่มีที่พักเยอะนะ ของกินก็เยอะ)
สิ่งที่อยู่ในหัวของงามวิไลคงไม่พ้น เรื่องกิน ที่พักที่ไหนที่มีของกินอร่อยที่นั้นย่อมน่าอยู่ ส่วนวิลาวัลย์ที่ยกหูโทรศัพท์ขึ้นพูด ก็ลอบถอนหายใจพร้อมอาการมองบน
"สรุปที่นั้นของกินเยอะหรือที่พักน่าอยู่"
เธออดไม่ได้ที่จะถามเพื่อนรัก เสียงปลายสายหัวเราะคริๆ เธอก็พอเดาออกว่าอันไหนสำคัญ แต่ก็อย่างว่าเพื่อนเธอคนนี้เรื่องกินเรื่องใหญ่
(มันก็ดีทั้งสอง ถ้าแกหาที่พักในซอยมันก็ใกล้คลินิก อีกอยากมันสะดวกกับการมาทำงานด้วยไงหรือฉันคิดผิด!) งามวิไลไม่รอช้ารีบแก้ต่าง แต่มันก็คงจริง วิลาวัลย์เธอนิ่งฟัง จนงามวิไลต้องพูดขึ้นอีก
(พี่ติณณ์ให้แกไปอาทิตย์นี้ใช่ป่ะ ฉันจะได้บอกผัวพอดีละจะได้พาเด็กๆไปเยี่ยมปู่กับย่าด้วย)
"ใช่"
เมื่อวิลาวัลย์เธอตอบเพียงสั้นๆแล้วปลายสายก็เงียบ คงจะได้ข้อสรุปของการเดินทาง ก่อนจะวางสายงามวิไลก็ถามขึ้นอีก
(เอ่อ..แล้วแกกับครูหนุ่มนั้นคุยกันถึงไหนแล้ว)
"ครูแม็กนะหรอ วันนี้เรามีนัดทานข้าว เมื่อคืนเขาก็โทรมา ฉันก็เล่าให้เขาฟัง แม็กเขาก็ไม่อยากให้ไปหรอกนะ เขากลัวฉันเจอคนอื่น อย่าว่าแต่เขากลัวฉันก็กลัว"
(ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ พึ่งคุยกันแค่อาทิตย์สองอาทิตย์ หลงเขาซะ วันนี้ไปกินข้าวอย่างเดียวละอย่าให้เขากินตับ แกเข้าใจไหม)
"ใครจะเหมือนแก แค่โดนจูบก็ติดกับหมอแล้ว ฉันไม่เหมือนแกก็แล้วกันน่า"
ต่างคนต่างทันกัน ในเมื่องามวิไลสู้มา วิลาวัลย์เธอก็สู้กลับ เห็นท่าว่าจะแพ้เพื่อน งามวิไลรีบตัดบทสนทนาทนที
(พอๆ ไปทำงานได้แล้ว อาทิตย์นี้เจอกัน)
ทั้งคู่ต่างวางสาย เมื่อกดวางแล้ววิลาวัลย์เธอก็ยิ้มคงสมใจที่ตามงามวิไลทัน
ช่วงหลังเลิกงาน
ตามคาดที่วิลาวัลย์เธอได้บอกเพื่อนไปในช่วงกลางวันว่ามีนัดทานข้าวกับครูหนุ่มหล่อ วิลาวัลย์และครูแม็กพึ่งครบหาดูใจ การที่ฝ่ายชายมาขายขนมจีบให้มันก็เป็นธรรมดาที่จะนัดกันออกมาทานข้าวบ้างตามประสาคนจีบกัน แต่งามวิไลเพื่อนรักคงจะคิดเองไปไกลกลัวว่าวิลาวัลย์จะเผลอตัวเผลอใจให้ครูหนุ่มกินตับ
ครูหนุ่มและพยาบาลสาวทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่งในตัวจังหวัด คนที่พึ่งเริ่มจีบกันแบบนี้ คงเป็นธรรมดาที่ฝ่ายหญิงจะอายเขิน ใบหน้าขาวผ่องที่นั่งตรงหน้าครูแม็กนั้น กำลังถูกสายตาคมจับจ้องมองราวกับว่าไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นใครก็ต้องอาย
"แม็กมองเราเยอะไปแล้วนะ มองแบบนี้คงกินอะไรไม่ลง"
เธอพูดขึ้นพร้อมกับเม้มริมฝีปากอิ่มชมพูเข้าหากัน พลางก้มหน้าลงเล็กน้อย
"ก็ต้องมองสิ อีกไม่กี่วัน ถ้าวิไปอยู่กรุงเทพแล้ว เราจะได้จำหน้าวิให้ขึ้นใจ"
ยิ่งประโยคของชายหนุ่ม ยิ่งทำให้วิลาวัลย์เธอเขินม้วน ยิ่งสายตาครูแม็กหวานหยดขนาดนี้ ยิ่งไม่กล้าแม้จะตักอาหารเข้าปาก
"พูดอะไร"
น้ำเสียงแผ่วเบาที่พูดขึ้น อ่อนหวานไม่น้อย พลางยกมือขึ้นมาปัดไรผมบางๆที่ข้างแก้ม ครูแม็ก เอียงคอมองจนกระทั่ง
ตืดดดดด
วิลาวัลย์ชะงัก เมื่อเสียงมือถือที่ถูกเก็บไว้ในกระเป๋าดังขึ้นเธอล้วงมือเข้าไป พร้อมกับหยิบขึ้นมาดูเบอร์ถึงกับทำหน้างง อีกทั่งแปลกใจเพราะปลายสายนั้นคือหมอติณณ์
"สวัสดีค่ะ คุณหมอ"
เธอกล่าวสวัสดีอย่างอ่อนโยนอ่อนหวาน เพราะหมอติณณ์อายุห่างกับเธอเป็นรอบ
(คุณวิลาวัลย์ ติดขัดตรงไหนครับ)
ประโยคแรกที่หมอถามขึ้น ทำเอาวิลาวัลย์เธองงไม่น้อย ก็ธุระของเธอและหมอคุยกันจบลงตั้งแต่ช่วงเที่ยงไปแล้ว
"ตะ..ติด ขัด อะไรคะ"
(อ้าว ก็งามโทรหาผม บอกว่าวิมีเรื่องติดขัด หลังเลิกงานให้ผมโทรถาม ผมก็โทรมา)
วิลาวัลย์ที่ได้ยินหมอพูดแบบนั้น เธอก็สูดอากาศเข้าเต็มปอด ก่อนจะมองบนนึกอยากจะเขกกะโหลกเพื่อนสักที คงใช้หมอติณณ์เป็นเครื่องมือขัดความสุขตรงหน้า
"ไม่มีนะคะ คือหนูตกลงว่าจะเข้ากรุงเทพพร้อมงามอาทิตย์ หน้าแต่งามคงสื่อสารผิด ทำให้คุณหมอเข้าใจผิดค่ะ"
(อ๋อ..ครับ)
ปลายสายเว้นประโยค แล้วตอบสั้นๆ เธอไม่รู้จะพูดอะไรกับคุณหมอใหญ่คนนี้จนกระทั่ง
(งั้นผมไม่รบกวนแล้วนะครับ อาทิตย์หน้าเจอกัน)
"ค่ะ สวัสดีค่ะ"
เธอรีบลดมือถือลงแต่ทว่ายังไม่กดวางสายเสียทีเดียว ซึ่งมันเป็นจังหวะที่ทางร้านยกอาหารมาเสิร์ฟเพิ่ม ทำให้ครูแม็กต้องพูดขึ้น
"วางตรงนี้เลยครับ"
ถึงจะได้ยินได้ถนัด เชื่อเถอะว่าหมอติณณ์ก็พอได้ยินอยู่บ้าง ส่วนวิลาวัลย์หลังวางสายก็จัดการไลน์หาเพื่อนทันที
Line
วิ : แกทำอะไร ฉันรู้ทันแกหรอกนะ ฝากไว้ก่อนเถอะ
เมื่อกดพิมพ์ว่าเพื่อนแล้วเธอจัดการเก็บมือถือลงที่เดิมแต่ไม่วาย ครูแม็กก็ถามขึ้น
"มีปัญหาหรอ ทำไมทำหน้าแบบนั้นละ"
"เปล่าหรอก เพื่อนหนะ มันไม่ค่อยเต็ม"
ครูแม็กพยักหน้า ครูแม็กกับงามวิไลยังไม่ได้เจอกัน อีกทั้งคงคิดจริงที่วิลาวัลย์บอก ก็สีหน้าของเธอมันบ่งบอกได้ว่าเซ็งสุดเพื่อนสาวตัวร้ายที่กำลังวางแผนการในหัว
ส่วนงามวิไลนั้น เธอเห็นข้อความที่เพื่อนส่งมาก็กดเข้าไปอ่านพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนจะพูดขึ้นบ้าง
"แล้วไง ฝากไว้ก็ฝากสิใครกลัว"
ยัยงามวิไลกดส่งสติ๊กเกอร์กลับไปอีกครั้ง ที่ทำแบบนี้นั้นเพราะไม่อยากให้เพื่อนได้ใกล้ชิดครูหนุ่มนั้น กลัวว่าวิลาวัลย์จะเผลอตัวไปซะก่อน อีกทั้งตามที่เพื่อนเล่ามา ครูแม็กก็แพรวพราวไม่น้อย ถึงเธอจะไม่เคยเห็นแต่เชื่อเถอะว่า เซนส์เธอไม่พลาดแน่