ตอนที่ 11

1244 Words
11 ยามนี้ภรรยาที่เพิ่งแต่งเข้ามา มิมาหาเขาอีกเลย จวบจนดวงตาของเขาหายดีในอีกสามวันต่อไป กลายเป็นว่ายาอันแสนล้ำค่านั้น มีท่านหมอมาตรวจดูบอกกล่าวเพียงแค่ว่า ราคาแพงมหาศาล อาจซื้อเมืองใหญ่ ๆ ได้สักสาม สี่เมืองกระมัง ทั้งบัวหิมะพันปี และโสมคนหมื่นปีอีก ยังไม่รวมยาตัวอื่น ๆ ในนั้น และยาขวดสุดท้ายเหลือเพียงแค่เม็ดเดียวแล้วในตอนนี้ หยางจงหมิงแม้ดวงตาจะหายแล้ว แต่เขายังคงมีท่าทางเช่นเดิม เขาเริ่มต้นการทดสอบฮูหยินข้างกายของเขา หลังจากแต่งงานแล้ว นางไม่เคยเข้ามาหานอกจากความจำเป็น เขาหลงไว้เนื้อเชื่อใจนางมาตลอด และคิดว่านางเป็นคนที่ดีแสนดี ส่วนสตรีอีกคนที่เขาปรามาสเอาไว้ นางกับเป็นสตรีที่ดีงามทั้งกายและใจ ผิดกับตัวเขาเองในตอนนี้ที่รู้สึกผิดต่อนางมันช้าไปแล้ว องค์ชายรองควบม้ากลับไปยังพระตำหนัก แต่...เขาจะแวะไปหานางในดวงใจเสียก่อน ทว่าได้ยินเสียงพิณแว่วหวานมาแต่ไกล ก็พบว่าแม่สาวน้อยคนงามกำลัง บรรเลงเพลงพิณ คล้ายว่าดูเศร้าสร้อยอย่างไรชอบกล ข้างกายของนางมีพี่ใหญ่นั่งจิบชาด้วยใบหน้าอันเป็นสุข “พี่ใหญ่จะตัวติดนางไปถึงไหนกัน” องค์ชายรองกระเซ้าเย้าแหย่พี่ชาย จนทำให้ไท่จื่อผู้ที่เย็นชาต่อสตรีกลับต้องมานั่งเฝ้าเด็กสาวคนนี้ คนที่ขึ้นชื่อว่าโหดเหี้ยม เย็นชาไร้ความรู้สึก พลันยามมีความรักเขาไม่ปล่อยให้ใครมาใกล้ชิดนางสักคน ถึงชายคนนั้นจะเป็นน้องชายของตนก็ตามที “มาทางไหนออกไปทางนั้นเลย” เสียงคำรามดังก้อง ทำให้สตรีน้อยกำลังบรรเลงอยู่ตื่นตกใจจนสายพิณนั้นขาด ชายหนุ่มเสสายตามองยังยอดดวงใจจากนั้นรีบลุกพรวดไปดูนาง เห็นว่ากำลังยกนิ้วขึ้นมามีรอยเลือดไหลซึมอยู่ปลายนิ้ว “ทำอะไร ไม่รู้จักระมัดระวังเอาเสียบ้าง มานี่ข้าจะทำแผลให้” น้ำเสียงอ่อนโยนผิดกับยามพูดจากับน้องชาย เมื่อครู่แทบจะกินหัวน้องชายอย่างองค์ชายรอง ยามนี้กลับดูอบอุ่นพูดจาอ่อนหวาน เห็น ๆ ว่าเลือกข้าปฏิบัติชัด ๆ “ไท่จื่อ หม่อมฉันเป็นหมอย่อมดูแลตนเองได้ พระองค์เถิด วัน ๆ เอาแต่มาอยู่กับหม่อมฉันไม่มีงานราชการหรืออย่างไรเพคะ” หญิงสาวช้อนสายตามองใบหน้าไท่จื่อ ที่ทุกคนต่างก็กล่าวว่าชายผู้นี้น้อยคนนักจะเข้าใกล้ได้ เขาถือตัวและเย่อหยิ่งเป็นที่สุด อีกทั้งยังเป็นไร้ความเมตตาอีกด้วย ไม่อบอุ่นอ่อนหวานกับสตรี เคยมีบุตรีของขุนนางท่านหนึ่งเดินไปยืนหน้าพระพักตร์ ส่งจดหมาย ไท่จื่อผู้นี้รับมา จากนั้นเขายกยิ้มที่มุมปากฉีกจดหมายทิ้งต่อหน้าต่อตา หากสตรีนางใดคิดเข้าใกล้ละก็ ได้เห็นดีกัน แต่ทว่าหลัวเนี่ยเจินคือข้อยกเว้น จากไป๋เหม่ยเจินบุตรีท่านราชครูไป๋ ยามนี้นางเป็นท่านหญิงหลัวเนี่ยเจิน หลานสาวของไทเฮาเจ้าของตำหนักอันกว้างใหญ่แห่งวังหลัง ผู้ได้ครอบครองแหวนหยกอันล้ำค่าของอดีตหวงตี้พระองค์ก่อนทรงมอบให้กับฮองเฮา หรือไทเฮาในยามนี้ “มีแต่ว่า...ข้าอยากเห็นหน้าของเจ้าอย่างไรเล่า เมื่อไหร่จะใจอ่อนรับรักข้าเสียที” ไท่จื่อประคองหญิงสาวขึ้น เขาจับเพียงแค่ท่อนแขนของนาง สัมผัสผิวของหญิงสาวผ่านเนื้อผ้าอันงดงาม ใบหน้าแต้มแต่งอย่างงดงาม เป็นโฉมสะคราญที่เขาได้พบเมื่อนานมาแล้ว เด็กสาวคนนี้แท้จริงเป็นบุตรีของท่านราชครู เขาจะต้องพิชิตใจของนางให้ได้ แม้จะถูกมารดาคัดค้านแล้วอย่างไร เป็นสตรีหม้าย หรือเป็นภรรยาสวมรอยของแม่ทัพหยางแล้วอย่างไร เขายินดีจะยืนเคียงข้างนางไม่ถอดทิ้งให้นางอยู่อย่างเดียวดายเพียงลำพัง “เจ้าไม่รับรักข้า ข้าก็จะมาตามดูแลเจ้าเช้าเย็นเช่นนี้ อีกไม่ถึงห้าราตรีจะมีงานเลี้ยงต้อนรับราชทูต ยามนั้นเหล่าชายหนุ่มจะต้องหมายปองเจ้าเป็นแน่ หากเจ้าเป็นคู่ควงของข้าแน่นว่าย่อม...” “พี่ใหญ่ ข้าเจอนางก่อน เหตุใดจะต้องให้เจินเอ๋อร์เดินไปกับท่านด้วยเล่า ข้าต่างหากที่จะต้องเป็นฝ่ายควงนาง” องค์ชายรองก็ไม่ยินยอม สองพี่น้องทะเลาะกันเพียงแค่อยากอยู่ใกล้ชิดกับท่านหญิงหลัวเนี่ยเจิน แท้จริงแล้วพวกเขานั้นทำเพื่อให้นางหายโศกเศร้าเสียใจ ให้ลืมเรื่องที่ผ่านมาเสีย พวกเขาล้วนยินดียืนเคียงข้างนางและพร้อมจะปกป้องนางให้ถึงที่สุด หลัวเนี่ยเจินแคะหู พลางทำสีหน้าเบื่อหน่าย “พวกท่านเชิญทะเลาะกันให้พอใจ ท่านยายกำลังมองหาว่าที่สามีให้ข้า แน่นอนว่าพวกท่านไม่อยู่ในรายชื่อนั้น” นางระบายยิ้มอ่อนหวาน พลางโบกมือไปสองครั้ง เดินออกไปจากศาลาไม้ข้างสระบัว ไม่ว่านางจะไปที่ไหน ล้วนมีไท่จื่อและองค์ชายรองสร้างเสียงหัวเราะ และทำให้นางปวดหัวได้ในเวลาเดียวกัน ไท่จื่อได้ยินเช่นนั้น จึงได้ตรัสขึ้นมาว่า “ข้าจะไปเขียนเทียบแนะนำตัวกับท่านย่า” “พี่ใหญ่ท่านคิดดี ๆ นะ หากท่านย่าหมายตาเป็นท่านแล้วไม่มีทางที่จะรับสนมเพิ่มได้แน่ ๆ ไม่เช่นนั้นในวังหลังคงไม่วังเวงเช่นนี้” องค์ชายรองผู้รักสนุกกล่าวถามขึ้น “ข้าพร้อมยินดีจะรักเพียงแค่นาง ตราบชั่วชีวิตจะหาไม่ หวังเพียงแค่ท่านย่าเปิดใจ” แม้มารดาจะขัดขวางเขาจะฝ่าฟันมันไปให้ได้ “หากท่านแม่ไม่ยินยอม ข้าพร้อมจะสละตำแหน่งเพื่อนาง” “ยอดวีรบุรุษต้องยกย่องให้พี่ใหญ่แล้ว น้องรองเลื่อมใสศรัทธายิ่งนัก แต่ผ่านด่านเจินเอ๋อร์ให้ได้เสียก่อนค่อยมาพูดข่ม” องค์ชายรอง ยืนกอดอก ยังจดจำวันที่พบนางได้ดี หัวใจเขาหวั่นไหวและเต้นแรงนัก แต่หากมีพี่ชายเป็นคู่แข่งย่อมสมน้ำสมเนื้อ แต่สมน้ำหน้าหยางจงหมิง เห็นหยกล้ำค่าเป็นกรวดดินทรายไปเสียดาย กลับชมชอบโคลนตมอย่างโม่อวี้เฟย ช่างดูเหมาะสมกันนัก ผีเน่ากับโลงผุช่างเหมาะเหม็งดีเหลือเกิน “ถึงอย่างไรข้าก็ต้องปกป้องนาง ไม่รู้ว่าทางแคว้นนั้นจะมาไม้ไหนกันแน่ หากท่านอ๋องแคว้นเหลียนหมายตาเจินเอ๋อร์จะทำอย่างไร ข้าไม่มีทางยอม” ท่านหญิงหลัวเนี่ยเจินวันนี้มาเดินเล่นในตลาด สวมหมวกคลุมปกปิดบังอำพรางใบหน้าของตนเอาไว้ ด้วยเพราะเกรงว่าจะพบกับพี่สาวลูกของกวนซื่อเข้าให้ นางไม่อยากพูดอะไรให้อีกฝ่ายรู้สึกขุ่นเคืองใจ และไม่อยากให้พี่สาวผู้นี้พ่นคำก่นด่าใส่นาง ที่เป็นเช่นนี้เพราะตนเองเสนอหน้ายื่นตัวเข้าไปหมายอยากจะดูแลรักษาชายคนนั้นให้หายดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD