อะไรกันเนี่ย!
“หวัดดีเลโอ” ฉันกล่าวทักทายเพื่อนในกลุ่มอีกคนที่มักจะมาเรียนแค่วันที่เช็กชื่อ แต่ทำไมถึงมีแต่เขาที่มาอยู่ที่นี่นะ แล้วคนอื่นไปไหนกันหมด
สีหน้าฉันคงจะบอกทุกอย่าง เลโอเลยนั่งลงและตอบคำถามฉัน
“ฉันเห็นในแชตว่าเธอโดนพวกนั้นเท เลยมากินเป็นเพื่อน” เสียงนุ่มทุ้มของเขาทำให้ฉันเองที่อยากจะยกเลิกนัดนี้เผลอพยักหน้ายอมรับ
“ขอบใจนะ”
“อือไม่เป็นไร”
เขาพูดน้อยเสมอเลยแฮะ
“อ่า...งั้นจะสั่งอะไรเลยไหม เดี๋ยวฉันไปหยิบเมนูให้นะ” ฉันบอกอย่างอึดอัด เลโอไม่ค่อยพูดถามคำตอบคำ ฉันเองก็พูดน้อยบรรยากาศรอบตัวจึงไม่ค่อยดีนัก
“ไม่ต้องหรอกดูด้วยกันเนี่ยแหละ”
“เอางั้นเหรอ”
“อือ อึดอัดอะไรรึเปล่าถ้าเธอไม่อยากกินฉันกลับก็ได้นะ” เขาพูดด้วยท่าทีสบาย ๆ แต่กลายเป็นฉันเองนี่แหละที่ร้อนรนแทบบ้า
ฉันส่ายหัวปฏิเสธก่อนจะย้ำไป
“ไม่สิเดี๋ยวก่อน ฉันอยากกินอยู่แล้ว แต่พวกเราซื้อไปกินที่สวนสาธารณะกันไหม ฉันอยากไปเดินเล่น” ฉันมองเขาอย่างขอความคิดเห็น
เขาพูดน้อยไม่เหมือนแอชตันที่มีเรื่องมาพูดตลอดเวลา สถานการณ์ที่อยู่ด้วยกันสองคนเลยอึดอัดนิดหน่อย ฉันเลยคิดว่าถ้าไปเดินเล่นสวนสาธารณะน่าจะดีสำหรับเราสองคนมากกว่า
เลโอพยักหน้าเข้าใจ
เขาเดินไปรับไอศกรีมมายื่นให้ฉันก่อนจะพาเดินข้ามทางม้าลาย
“เดี๋ยวเลโอ...” ฉันกระตุกเสื้อเลโอเบา ๆ
“ขอมือ”
“ห้ะ”
“เอามือมาเดี๋ยวฉันพาข้ามถนนเอง”
“ขอบคุณนะ” ฉันหัวเราะเบา ๆ ยื่นมือไปจับมือของเลโอโดยไม่รีรอ ปกติฉันมักถูกหัวเราะอยู่ตลอด เมื่อทุกคนพากันข้ามไปกันหมดแล้วฉันยึกยักอยู่เพียงคนเดียว
ฝ่ามือของเลโออุ่นจนร้อน ฉันรู้สึกถึงเหงื่อที่หยดบนฝ่ามือของตนเอง ไหลกลิ้งไปบนมือของเขา สัญญาณไฟข้ามถนนสว่างขึ้น พร้อมแรงกระตุกทำฉันเดินไปพร้อมกับเลโอ กระเป๋าในมือก็ถูกเขาแย่งไปถือไว้ด้วยมืออีกข้าง ฉันเบิกตากว้างอย่างไม่เข้าใจ กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามขายาว ๆ ของเขา
“รอด้วยสิ เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันไม่ยึกยักตอนข้ามถนน”
“แอชไม่พาเธอข้ามเหรอ”
“ฮะ ๆ เขาเนี่ยนะ” ฉันถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดกับเลโอด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เขามักจะข้ามไปรอหัวเราะเยาะฉันที่ฝั่งนู้นน่ะสิ แล้วก็ไม่ได้กระชับมือฉันแน่นเท่านี้ด้วย”
ฉันยกมือเลโอที่เหงื่อไหลพอกันกับฉันให้เลโอดู
ดวงตาเรียวของเขาเบิกกว้างเล็กน้อย ก่อนจะรีบปล่อยมือออกจากมือฉัน
“ขอโทษทีฉันร้อนน่ะ” ใบหน้าเขาแดงเล็กน้อยคล้ายกับอายที่ถูกทัก ฉันเลยรีบบอกให้เขาสบายใจ
“ไม่เป็นไรฉันก็ร้อนเหมือนกัน ขอบคุณนะถือว่ามื้อนี้ฉันเลี้ยงไอติมนายแล้วกัน”
“ขอบใจ”
“อะไรเนี่ยนึกว่านายจะปฏิเสธซะอีก”
“จะปฏิเสธทำไมในเมื่อเธอเป็นคนเสนอนี่” เขาตอบกลับแล้วใช้มือแตะศอกฉันเบา ๆ ให้เดินด้านในฟุตพาท ส่วนเลโอขยับไปเดินด้านนอก
ความใส่ใจเล็ก ๆ ทำให้ฉันที่เคยมองว่าเขาน่าอึดอัด ต้องลบความคิดน่าอายไปเลย
เลโอมาอยู่กลุ่มฉันได้ปีกว่า ๆ เพราะอลิซเห็นเขาเดินอยู่คนเดียว และในตอนที่ทำงานเขากับกันย์ก็ไม่มีกลุ่ม เลยชวนมาทำงานด้วยกัน จึงกลายเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันไปโดยปริยาย
ฉันเหลือบมองคนสูงกว่าก่อนจะพบว่าดวงตาของเลโอสีเดียวกับไอศกรีมในมือ เส้นผมเขายาวกว่าผู้ชายปกติ แถมชอบทำหน้านิ่ง ๆ แต่ตัวจริงดันอ่อนโยนมากจนฉันนึกภาพไม่ออก
“มองอะไรอยู่”
“ตานายเหมือนสีซอฟต์เสิร์ฟเลย” ฉันยื่นโคนไอศกรีมไปเทียบ เท่านั้นร่างสูงก็ฉีกยิ้มกว้างทำเอาฉันตาพร่า ฉันลืมไปได้ยังไงนะว่าเขาหน้าตาดีมาก
“ลูกจันทร์”
“อื้มมมม” ฉันอ้าปากงับยอดไอศกรีมแล้วเดินไปตามทาง สวนกับคนที่มาวิ่งเพื่อเข้าไปในสวนสาธารณะ พอได้ยินเสียงเรียกชื่อก็หันไปถามเขาทันที
“เรื่องแอชตันน่ะไม่เสียใจแน่เหรอ” เขาถามไม่มีปี่มีขลุ่ย
ฉันเม้มปากอย่างปลง ๆ เหลือบตาสบกับเลโอ ก่อนก้มลงเลียไอศกรีมที่เลอะรอบปาก เรื่องของแอชตันทำฉันอ่อนแรงและกำลังลงไปเรื่อย ๆ แม้พยายามทำตัวไม่งี่เง่าไม่ใส่ใจแต่มักร้อนรุ่มเสมอ เขามักจะละเลยอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ และมองข้ามความรู้สึกของการเป็นแฟนไป และยังติดเพื่อนมากอีกต่างหาก
ไม่เสียใจเหรอ ฉันโคตรเสียใจเลยต่างหาก
แต่จะพูดไปก็เท่านั้น
ฉันยิ้มก่อนตอบตรงข้ามกับความในใจ
“ไม่นะเดี๋ยวเขาเล่นบอลเสร็จก็มาง้อ ฉันรู้นิสัยเขาดี”
“งั้นก็ดีแล้ว”
“งั้นฉันถามนายบ้างตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา...นายมีแฟนรึยังเหรอ ไม่เคยเห็นนายอัปรูปหรือพามาแนะนำเลย” ฉันมองเขาตาแป๋ว
“ไม่มีนะ” เขาตอบสบาย ๆ ไม่มีท่าทีอึดอัดแม้แต่น้อย ฉันเลยถือวิสาสะพูดต่อ
“จริงเหรอทำไมล่ะ ชอบอยู่คนเดียวหรือว่ายังไม่มีคนที่ถูกใจ”
“คนที่ถูกใจน่ะมีแล้วแต่มาช้าไปหน่อย”
เลโอพูดเสียงเรียบพลางเสยผมสีเดียวกับดวงตาขึ้น นัยน์ตาสะท้อนแสงแดดดูวิบวับจนน่ายื่นมือเข้าไปแตะ ฉันกะพริบตาปริบ ๆ มองเลโอที่กำลังมองฉันคล้ายกับคอยสังเกตสีหน้าเมื่อได้ฟังคำตอบ
ฉันเลยได้แต่ยิ้มก่อนจะยกมือแตะไหล่เขา
“ไม่เป็นไรนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกกำลังหาทางแย่งอยู่”
“ห้ะ...เอาจริงดิ” ฉันเบิกตาโต “ฉันไม่อยากคบเพื่อนที่แย่งแฟนชาวบ้านนะ”
“ล้อเล่นน่า ถึงจะอยากแย่งก็เถอะ”
เลโอพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย ไม่ได้จริงจังมากนัก เลโอก็เป็นแบบนี้เสมอเขาดูเบื่อทุกอย่างในโลกตลอดเวลา เสียงทุ้มของเขาทิ้งประโยคนั้นแล้วก้มกินไอศกรีม เขาลดจังหวะการเดินพร้อมกับฉันที่เพิ่มความเร็วให้เร็วขึ้น
“ฉันอยากวิ่งจัง”
“เอาสิฉันจะวิ่งเป็นเพื่อน” เลโอตอบอย่างไม่คิดจะห้ามปราม
“ชุดนี้เนี่ยนะ”
“รองเท้าพร้อมก็พอแล้ว ลูกจันทร์โทรศัพท์เธอสั่นรึเปล่า” เลโอยื่นกระเป๋าคืนให้ฉัน
ฉันนั่งลงบนเก้าอี้ข้างทางก่อนจะแกว่งเท้าไปมา แล้วเปิดกระเป๋าเพื่อหยิบโทรศัพท์ เลโอที่ยืนกัดโคนซอฟต์เสิร์ฟหันไปทางอื่น คล้ายกับทิ้งระยะห่างให้ฉันรับสาย พอเห็นบนหน้าจอว่าเป็นใครฉันก็รีบรับสายทันที
“คุณแฟนนน” ฉันกรอกเสียงลงไปและมันคงดูน่าหมั่นไส้มากเลโอเลยหันขวับมามอง
กุกกัก กุกกัก
[เอามานี่ แฮก...ฮัลโหลลูกจันทร์ มีอะไรเหรอ] เสียงเขาทั้งหอบและเหนื่อย ต้นประโยคฉันไม่รู้ว่าเขากำลังคุยกับใคร แต่คงเป็นเพื่อนในสนามนั่นแหละ
แต่ลืมรึเปล่าว่าตัวเองเป็นคนโทรมา
“นายโทรมานะทำไมถามเหมือนฉันโทรไปล่ะ”
[ฉันโทรไปเหรอ]
“ใช่สิ นี่ซ้อมอยู่เหรอเสียงหอบเชียว” ฉันเอ่ยแซวฟังเสียงขึ้นจมูกพร้อมเสียงลมหายใจแรงของแอชตัน
[เดี๋ยวโทรกลับได้ไหม...]
“อะไรของนายเนี่ย โอ๊ะ! จะละลายแล้ว...” ฉันเบิกตากว้างมองไอศกรีมที่กำลังจะย้อยลงมือ แต่ยังไม่ทันได้รีบเอามันเข้าปาก ร่างสูงของเลโอก็คุกเข่าตรงหน้า เขาอ้าปากงับไอศกรีมของฉันเข้าปากเพื่อหยุดการละลายของมัน ทั้งที่ดวงตาสีเฮเซลนัตยังจ้องฉันด้วยประกายวาววับ
แผล็บบบบ
ใบหน้าที่ใกล้จนแทบจะเกยอยู่บนตัก กับริมฝีปากแดงที่เลอะด้วยไอศกรีมทำฉันใจแกว่งกวัด เต้นแรงขึ้นมาไม่มีสาเหตุ
ใจฉันเป็นบ้าอะไรเนี่ย!!!
[ฟังอยู่รึเปล่าลูกจันทร์เดี๋ยวฉันโทรกลับได้ไหม]
“อะ...อ๋อ...อื้อแอชตันเล่นบอลให้สนุกนะ”
ฉันตอบกลับอย่างไร้สติพยายามบอกตัวเองว่ามีแฟนอยู่แล้ว มือที่ถือโทรศัพท์สั่นไหวไม่น้อย ฉันกำมันแน่นขึ้นเม้มปากหยุดชีพจรและรอยยิ้มของตัวเอง ก่อนจะส่งเสียงเตือนใส่เลโอที่กำลังจะอ้าปากงับคำที่สอง
“พอแล้วเลโอนายจะกินของฉันหมดเลยเหรอ”
กรอบ!
“รสที่เธอเลือกอร่อยกว่าจริงด้วย” เขาพูดทั้งที่ไอศกรีมฉันยังเต็มปาก แล้วงับมันอีกคำ ทำให้ฉันโมโหจนลืมเรื่องของแอชตันไปซะสนิท
กรอบ!
“เลโอ!!! ฉันอุตส่าห์เลี้ยงไอติมนายแล้ว นายยังมาแย่งฉันด้วยเนี่ยนะ”
“ไปละ” เขาเอากระเป๋าสะพายฉันคล้องคอก่อนจะออกวิ่ง ทำให้ฉันที่กำลังถือไอศกรีมที่แหว่งเพราะเขา ต้องกินไปวิ่งไปเพื่อตามเลโอให้ทัน ท่ามกลางเสียงหัวเราะลั่น เพราะไอศกรีมที่ควรอยู่ในโคนปลิวว่อนเลอะเต็มหน้าฉันเลยเนี่ยสิ
“นายตายแน่เลโอ!!!”
ตุบ!
“โอ๊ยยยลูกจันทร์ ฮ่า ๆ ทำอะไรของเธอ” เขาลูบไหล่ที่ถูกฉันทุบป้อย ๆ พอเห็นฉันมองค้อนทั้งที่ไอศกรีมเลอะเต็มหน้า เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นจนฉันหน้าแดง
“ฮ่า ๆ ๆ”
“นี่หยุดหัวเราะนะ”
“หน้าเธอตอนนี้ดูไม่ได้เลยลูกจันทร์” เขาเอ่ยเสียงทุ้ม
ร่างสูงเดินเข้ามาชิดฉันแล้วใช้นิ้วโป้งไล้ข้างแก้มฉันไปมาเพื่อเช็ดคราบไอศกรีม นัยน์ตาสีน้ำตาลของเขาอ่อนโยนกว่าปกติ นั่นทำให้ฉันรู้สึกประหลาดไปหมด
“ไม่เอาแล้วฉันเช็ดเอง” ฉันยกมือประกบแก้มทั้งสองข้าง หลังจากยกโคนไอศกรีมให้เขา เลโอหันมามองหน้าฉันแล้วยิ้มกว้างก่อนจะเคี้ยวโคนเละ ๆ นั่นตุ้ย ๆ ไม่รู้สึกรังเกียจเลยแม้แต่น้อย
เป็นผู้ชายที่ประหลาดชะมัด
“อร่อยดีแต่เค็มไปหน่อย”
“เกลือจากมือฉันเองแหละ สมน้ำหน้า!”