11
“ก็เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่า ต่อให้ฉันทำมากกว่านี้เธอก็ยังยืนกรานคำเดิม ฉันก็ทำอยู่นี่ไง จะสะดีดสะดิ้งทำไม”
น้ำเสียงสุดกวนดังขึ้น ท่ามกลางความพอใจกับบางสิ่งบางอย่างที่เขารู้สึกได้ กลิ่นกรุ่นสาวหอมคละคลุ้งเข้ามาในโพรงจมูก ผิวกายนุ่มนิ่มน่าจับต้อง มันกระตุ้นให้หัวใจดวงนี้ปรารถนาจะทำมากกว่าที่ทำอยู่
“ไม่ใช่ค่ะ มิแชลไม่ได้หมายความว่าอย่างนี้ค่ะ คุณลูอีสเข้าใจผิดแล้วค่ะ”
คนที่ไม่เคยตกอยู่ในอ้อมกอดของบุรุษเพศ และไม่เคยใกล้ชิดในระยะหวาดเสียวเช่นนี้ ไม่ผิดแผกที่ร่างสมส่วนจะตกอยู่ในอาการตกใจ ร่างกายสั่นเทาราวกับลูกเป็ดยืนอยู่กลางสายฝน หน้าซีดหน้าเซียวชวนให้สงสาร นิ้วมือทั้งสิบพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะปลดลำแขนของเขาให้คลายตัวออก ทว่าทุกสิ่งอย่างมันกลับไม่เป็นผล
“แต่ฉันหมายความว่าอย่างนี้นี่นา”
เขานึกสนุกกับการแกล้งพยาบาลสาว แล้วใช้ช่วงเวลาที่เธออยู่ในอาการตกใจและดิ้นรนหนีออกจากอ้อมกอดของอสูรตัวร้าย เลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นสูงจนมาถึงท้ายทอย และจับมันไว้มั่นล็อคไว้ไม่ให้เธอสะบัดหน้าหนีไปไหน จับทิศทางปากสาวกับปากของเขาตามเสียงพูดที่เธอเปล่งออกมา จากนั้นก็ทำในสิ่งที่แขวลัยไม่คาดคิด และเป็นสิ่งที่เขาปรารถนาที่จะทำเป็นที่สุด
“อย่า...อุ๊บ!!”
เสียงร้องห้ามของพยาบาลคนใหม่ขาดหาย หลังจากที่ถูกริมฝีปากหนาได้รูปสีชมพูอมแดงมีเสน่ห์ฉกจูบอย่างแม่นยำ กลืนเสียงที่จะขับออกมาจากลำคอสาวไปโดยปริยาย
วินาทีที่ลิ้นใหญ่พุ่งล้ำเข้าไปในช่องปากสาว ลูอีสได้รับรู้ถึงความหวานที่อุดมไปทั่ว หวานล้ำเลิศจนเขาไม่รู้ว่ามันมากมายแค่ไหน มาตรวัดอัตราส่วนใดใดในโลกคงไม่อาจตั้งค่าปริมาณนี้ได้ ยามที่เขาแลกรัดลิ้นน้อยๆ ที่พยายามจะพลิกลิ้นหนี ช่างอุ่นซ่านไปด้วยเปลวไฟเสน่หาที่ค่อยๆ ลุกพรึบพรับในร่างกาย จนส่วนนั้นเชื่อมโยงไปส่วนนี้ จนร่างกายเขาเริ่มสั่นจากเพลิงกามาเผาผลาญที่คืบคลานเข้ามาในความรู้สึก หลุมลึกแห่งห้วงปรารถนา
แขวลัยทำอะไรแทบไม่ถูก มันเหมือนว่าเวลาในขณะนี้หยุดนิ่ง จุมพิตแรกในชีวิตสาวถูกกระชากโดยชายหนุ่มที่เพิ่งรู้จักไม่กี่วินาที เธอทั้งอึ้ง ทั้งตกใจ ทั้งเสียใจ แล้วมีความรู้สึกบางอย่างแทรกเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเธอก็ไม่อาจผลักไสความรู้สึกนั้นให้หลุดออกไปได้ เช่นเดียวกับไม่อาจผลักร่างแข็งแรงให้ออกห่างตนได้เช่นกัน ทำได้เพียงส่งเสียงคัดค้านในลำคอ ดิ้นไปดิ้นมาเท่านั้น
ลูอีสคิดว่าตอนนี้เขากลายเป็นมด กำลังกระโจนร่างลงไปยังบ่อน้ำแสนสดชื่น เป็นบ่อน้ำตาลที่เขาสามารถแหวกว่าย เสาะหาความหวานไปทั้งบ่อได้อย่างเพลิดเพลิน อิ่มหนำกับการดื่มน้ำเชื่อมรสกลมกล่อม รสชาติสุดแสนวิเศษมากที่สุดในโลก
เขาไม่เคยได้รับกรุ่นกลิ่นสาวและความหวานหอมจากริมฝีปากสาวคู่ใดมาก่อนเท่าเธอคนนี้เลย ริมฝีปากคู่อิ่มของเธอนุ่มนิ่มยามที่บดเคล้าให้ความรู้สึกประหลาดแปลกๆ ที่ว่าประหลาดและแปลกคือ ไม่รู้สึกเบื่อ ไม่อยากจะละห่าง แล้วที่แปลกหนักขึ้นไปอีกก็คือ เขารู้สึกหวงแหนปากนุ่มคู่นี้ไม่ต้องการให้ใครมาทับซ้ำ
ลิ้นสากใหญ่กระดกรัดพันเกี่ยวลิ้นบางที่บัดนี้ถูกต้อนให้ยอมรับจูบมหาเสน่ห์ที่แรกเริ่มดุดัน เอาแต่ใจกลับกลายเป็นอ่อนโยน เรียกร้องและเชื้อเชิญ
สมองของแขวลัยหมุนราวกับลูกข่าง หมุนติ้วๆ จนเธอคิดอะไรไม่ออก สูญเสียสตินึกคิดชั่วคราว ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง เขาจับจูงเดินไปทิศทางไหน เธอก็จะก้าวเดินไปทางนั้น ไม่รู้ด้วยว่าระยะทางที่ลูอีสพาเดินจะยาวไปกี่เมตร กี่กิโลเมตร รู้เพียงว่าระยะทางนี้ช่างยาวนานเหลือเกิน
น้ำตาสาวที่หยดไหลลงมาจากดวงตาหยดกระทบกับผิวแก้มขาวของลูอีส เรียกสติของเขาที่กำลังกระเจิดกระเจิงไปไกลให้ย้อนกลับมา ชายเอาแต่ใจผละห่างเรียวปากสาวที่เขาบดจูบจนคิดว่าคงเห่อบวมขึ้นมาพอสมควร อ้อมแขนของเขาก็คลายออกแล้วผลักร่างสาวจนไปนั่งก้นกระแทกบนพื้น
“จะร้องไห้หาสวรรค์วิมานอะไร เสียอารมณ์ชะมัด”
แทนที่เขาจะกอดปลอบกลับทำให้ร่างกายของเธอเกิดความเจ็บปวด หนำซ้ำยังขับวาจาไม่ไยดีออกไปอีกด้วย
“ฮือ...ฮือ” แขวลัยไม่อาจจะพูดคำใดออกมาได้ นอกจากน้ำตาที่ไหลบ่าเป็นสาย สาวแสนดีไม่คิดเลยว่า ตนเองจะโดนหยามเกียรติ หยามศักดิ์ศรีเช่นนี้
“ถ้าจะร้องไห้คร่ำครวญจะเป็นจะตายก็ออกไปร้องนอกห้องฉันโน่น ไปเลย ไป...รำคาญจริงๆ เลยพวกผู้หญิงเจ้าน้ำตาเนี่ย ไปเลย ไป ไสหัวออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้ ไป๊”
เสียงร้องไห้ของแขวลัยทำให้ชายที่นั่งอยู่ริมเตียงเกิดอาการปวดศีรษะขึ้นมาทันทีทันใด ปวดจี๊ดๆ ลามไปถึงหัวใจก็ว่าได้ จนเขาต้องไล่ตะเพิดเจ้าของเสียงให้ออกไปจากที่นี่ ก่อนที่หัวของเขาจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
“ฮือ...คุณ...คุณลูอีส...ไป ไปอาบน้ำนะคะ ฮือ”
แขวลัยฝืนความรู้สึกต่างๆ ที่อัดแน่นในใจไว้เต็มที่ ทำตามหน้าที่ของตนเองต่อไป เธอไม่ถอยหนี ไม่ทิ้งงานกลางคันตามดังคำพูดที่ให้ไว้กับผู้ว่าจ้าง แขวลัยพยุงตัวลุกขึ้นยืน ปาดน้ำตาที่เคลือบบนผิวแก้มทั้งซ้ายขวาทิ้งไป ก่อนจะก้าวเดินไปยังร่างของลูอีสที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เพื่อพยุงร่างหนาไปยังห้องน้ำ