“เธอคือมิแชล มิแชลของฉัน” ลูอีสตะโกนพูดลั่นห้อง
“ไม่ใช่ ฉันไม่ใช่มิแชลของคุณ คุณจำคนผิดแล้ว” แขวลัยปฏิเสธเสียงแข็ง ถอยหนีร่างหนาที่ก้าวเข้ามาหา
“ใช่ เธอคือมิแชล ฉันจำไม่ผิดแน่ ทั้งกลิ่นตัว ทั้งน้ำเสียงฉันจำได้อย่างแม่นยำไม่ผิดเพี้ยน”
เขายังคงมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า เธอคือมิแชลพยาบาลสาวที่คอยดูแลเขาไม่ห่าง ในวันที่ดวงตาของเขามืดบอด ทุกสิ่งอย่างของมิแชลเขาจำได้ดีไม่มีลืมเลือน แม้ว่าจะมองไม่เห็นใบหน้าของเธอก็ตาม
“คุณจะแน่ใจได้ยังไงว่าฉันคือมิแชล ตอนนั้นคุณตาบอดไม่ใช่เหรอ?” เธอสวนกลับ และนั่นทำให้เขามองเห็นช่องโหว่ที่จะกล่าวโต้ตอบกลับไป
“ฉันยังไม่ได้บอกเธอเลยสักคำว่าฉันเคยตาบอดมาก่อน เธอรู้ได้ยังไง?” แขวลัยถึงกับอึ้งเมื่อเห็นข้อผิดพลาดของตนเอง วินาทีเธอยอมรับอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น นอกจากยืนกรานคำเดิม
“ฉันไม่ใช่มิแชลของคุณ คุณเข้าใจผิดแล้ว ถอยไปนะฉันจะกลับบ้านแล้ว”
เธอกล่าวจบก็เดินเลี่ยงไปทางด้านข้างลำตัวของเขา แต่เธอเพียงแค่คิดเท่านั้น ยังไม่ทันจะก้าวเท้าออกไป ร่างของเธอก็ถูกเขาพาดบ่า แล้วพาเดินขึ้นไปบนห้องนอนทันที
“ปล่อยนะ ปล่อยสิ ปล่อย คุณลูอีสปล่อยฉันนะ” เธอทั้งร้องและดีดดิ้นร่างกาย เพื่อให้หลุดพ้นจากร่างหนา
“ปล่อยแน่ รอให้ถึงเตียงนอนก่อนเถอะ ฉันจะรื้อฟื้นความทรงจำให้เธอตั้งแต่ต้นจนจบเลย”
ชายหนุ่มร่างใหญ่อย่างหมายมั่น ใช้มืออีกข้างเปิดประตูห้องนอน แล้วเดินไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่ของเขา ทุ่มร่างสาวลงบนเตียงนั้นตามด้วยร่างกายของตนเอง
“ไม่นะคะคุณลูอีส อย่าทำอย่างนี้ ปล่อยฉันเถอะคะ”
เธอพยายามขอร้องอ้อนวอนหนุ่มรูปงาม ทว่าลูอีสที่คิดถึงสาวน้อยใต้ร่างจับใจไม่มีวันปล่อยหญิงเดียวในดวงใจของเขาให้หนีห่างเขาไปเป็นครั้งที่สองแน่
“ฉันจะทำให้เธอยอมรับให้ได้ว่า เธอคือมิแชลของฉัน”
วิธีพิสูจน์ตัวตนของหญิงนามว่ามิแชลเกิดขึ้นในทันที ริมฝีปากใหญ่ทาบทับกลีบปากนุ่มที่กำลังเปิดปากค้าน และนั่นเป็นโอกาสที่ทำให้เขาสอดแทรกลิ้นใหญ่เข้าไปในช่องปากสาวอย่างว่องไว ฉกเฉวียนลิ้นพันรัดลิ้นเล็กของเธอ รสชาติหวานหอมของปากที่เขาบดจูบนี้เอง ที่ทำให้ลูอีสมั่นใจว่า เธอคือพระจันทร์ที่ส่องสว่างกลางใจของเขาไม่มีผิดเพี้ยน บทพิสูจน์ตัวตนขั้นต่อไปจึงดำเนินตามติด