ให้ตายสิ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องทำหน้ายังไงตอนที่มาเจอกับเธอแล้วเมื่อคืนที่นัดกินข้าวเขาก็ลืมไปว่าไม่ได้นัดสถานที่ถ้าเขาไม่มีเบอร์เธอก็ไม่ต้องรอไปจนถึงพรุ่งนี้เช้าเลยเหรอไง
“ยิ้มอะไร ...แล้วทำไมไม่โทรมาบอกว่ารออยู่ที่นี่” เขาดุเธอไปเพราะเห็นว่าคนตัวเล็กตรงหน้ายืนอมยิ้มอย่างมีความสุข มันดูน่ารักน่าแกล้งยังไงก็ไม่รู้
“เปล่าค่ะ แก้วแค่เห็นว่านานๆทีจะเห็นลุคแบบนี้ของคุณหมอเลยยิ้มค่ะ” ม่านแก้วก็ยังเป็นเธอเหมือนเดิมคิดอะไรก็พูดออกมาแบบนั้นแต่ไม่สนใจว่าคนฟังจะใจเต้นแรงแค่ไหน
“หยุดยิ้มเดี๋ยวนี้นี่คือคำสั่ง” เธอหุบยิ้มแล้วทำหน้าจ๋อยเพราะโดนเขาดุแต่เป็นเขาเองที่แอบอมยิ้มให้กับท่าทางเด็กน้อยแบบนี้ ชุดวันนี้ที่เธอใส่มาก็สวยเหมาะกับเธอมากถึงแม้มันจะดูธรรมดาสำหรับคนอื่นแต่เขาว่าเวลาเธอใส่ชุดนี้แล้วสวยมากจริงๆ
“แล้วคุณหมอเอาเบอร์แก้วมาจากที่ไหนคะ” ซวยล่ะหว่าจะให้บอกได้ยังไงว่าไปขโมยในแฟ้มข้อมูลพนักงานมา เขาเลยเลี่ยงที่จะพูดแต่จับมือเธอให้เดินตามไปแทน
“นี่เราจะไปไหนกันคะ ...ใช่สิ เรากำลังไปกินข้าวนี่นา”
“เธออยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ยล่ะ ฉันให้สิทธิ์เธอเลือก” ถึงแม้ว่าม่านแก้วจะยังแปลกใจที่อยู่ดีๆสรรพนามที่เขาเปลี่ยนจากคำว่าผมเป็นฉันมันดูแปลกๆก็เถอะแต่เธอก็เลือกที่จะไม่สนใจมัน
“อืม แก้วไม่รู้ว่าคุณหมอจะทานแบบที่แก้วทานได้มั้ย” เขาเบี่ยงรถลงข้างทางแล้วหันมามองหน้าเธอ นี่เห็นว่าเขาเป็นคนยังไงกัน? คนถือตัวงั้นเหรอ
“ถ้าเธอกินได้ ฉันก็กินได้หมดทุกอย่างแหละ”
“งะ งั้นไปร้านข้างหลังหอพักก็ได้ค่ะ ถูกและอร่อยด้วย” ม่านแก้วก้มหน้าลงด้วยความประหม่าและหลบสายตาคมที่เขามองมาด้วย
...สายตาเขาทำฉันประหม่าจริงๆ มันทั้งอ่อนโยนและดูน่ากลัวในเวลาเดียวกัน
“ร้านนี้งั้นเหรอ” เขาค่อนข้างจะแปลกให้อยู่เหมือนกันที่เธอพาเขามาที่ร้านข้างทางแบบนี้เพราะส่วนใหญ่เพื่อนผู้หญิงที่เขาเคยไปทานข้าวด้วยมักจะเลือกร้านแพงๆและดูดี แต่ม่านแก้วกลับแตกต่างซะจนเขาเองก็ทึ่งไม่น้อย
“ใช่ค่ะ ป้าเขาทำอร่อยมากเลยนะคะแต่เสียดายที่ไม่ค่อยมีคนมาทาน แก้วก็อุดหนุนประจำเลยค่ะ”
“อืม งั้นลงไปกินด้วยกัน ถ้าอร่อยจริงเดี๋ยวจะพามากินใหม่” อีกครั้งแล้วกับสิ่งที่เขาพูดมันทำให้ใจเธอสั่น ม่านแก้วเดินก้มหน้างุดเข้าไปในร้าน โดยที่เสือยืนอมยิ้มอยู่ทางด้านหลังเพราะเห็นอาการเขินอายของเธอ
“อ้าวยัยหนูมาแล้วเหรอ ป้าไม่เห็นมาตั้งสองสามวัน” เขามองร่างเล็กที่เข้าไปคุยกับแม่ค้าอย่างสนิดสนมด้วยความรู้สึกที่ค่อนข้างแปลกใจอีกครั้งนึง
...ผู้หญิงคนนี้มีอะไรทำให้เขาอึ้งได้เยอะเหมือนกัน
“ฉันจ่ายเอง” ถึงเวลาเก็บเงินเขาก็จับมือเธอไว้แล้วหยิบเงินยื่นให้กับแม่ค้าแทน พอเธอดื้อก็ส่งสายตาดุมาให้ก่อนจะพากันกลับ
“พรุ่งนี้ตอนเที่ยงไปหาฉันที่ห้องพักแพทย์ด้วย” เขาพูดออกมาเสียงนิ่ง
“คะ?”
“ไปหาที่ห้องพักแพทย์ตอนเที่ยง ...อย่าให้ต้องพูดซ้ำอีกรอบไม่งั้นมันจะต้องมีของแลกเปลี่ยน” เขาพูดไว้แค่นั้นก่อนจะจูงมือเธอขึ้นรถ
“พรุ่งนี้มีอะไรหรือเปล่าคะ งานด่วนเหรอ”
“ถามเยอะ ...ไปถึงก็รู้เองแหละ” เธอแอบทำปากงุบงิบบ่นเขาแต่ก็ต้องหยุดทำเพราะดันเห็นสายตาคมหันมาจ้องซะก่อน
“ขอโทษค่ะ” ม่านแก้วพูดเสียงอ่อยๆเหมือนเด็กเวลาโดนดุจนเสือต้องแอบหันไปยิ้มอีกทางนึงเพราะความน่ารักของเธอ
“เข้าห้องไปเลยแล้วห้ามเดินออกมากลางคืนอีก ถ้าฉันรู้ว่าเธอออกมาเดินเล่นคนเดียว โดนหนักแน่” เขาพูดคาดโทษไว้แค่นั้นก่อนจะขับรถออกไปทันที
...แต่เมื่อกี้แอบเห็นว่าเขาหน้าแดงด้วยสิ ฉันตาฝาดหรือเปล่านะ
“ขะ เข้าบ้านดีกว่า” ม่านแก้วเดินเข้าไปในบ้านด้วยความเขินระดับสิบจนแทบจะเดินไม่ตรง ไม่รู้ว่าเพราะปฏิกิริยาของเขาหรือเพราะตัวเธอเองกันแน่ที่ทำให้มีอาการแบบนี้ออกมา
...แต่ที่แน่ๆคือคืนนี้คงหลับยากซะแล้วเพราะใจมันเต้นแรงและเลือดสูบฉีดมากซะจนข่มตานอนไม่ได้เลย
“โถ่ หยุดเต้นซะทีสิหัวใจบ้า ...แล้วคืนนี้ฉันจะนอนหลับยังไงล่ะ”
S Hospital
“อ้าว แก้ว ...วันนี้มีเวรที่แผนกศัลยกรรมเหรอ” ม่านแก้วอึกอักไม่รู้ว่าจะต้องตอบพยาบาลรุ่นพี่ไปว่ายังไง จะให้บอกว่าหมอใหญ่นัดเธอมาที่นี่ก็กลัวว่าทุกคนจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่
“อะ เอ่อ คือว่าเปล่าค่ะ งั้นแก้วขอตัวก่อนนะคะ” เธอเลือกที่จะเดินกลับไปที่ห้องพักรวมของพยาบาลจนเวลาผ่านไปจนเกือบจะบ่ายโมง
Rrrrrr(คุณหมอใหญ่ S Hos)
“สะ สวัสดีค่ะคุณหมอ” เธอรับสายด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวเพราะไม่รู้ว่าจะโดนเขาดุหรือเปล่า
(ทำไมไม่เข้ามาหาฉัน ...เห็นพยาบาลหน้าห้องบอกเธอมาแล้วก็กลับไป)
แปลกแฮะ นึกว่าเขาจะดุฉันซะอีกแต่น้ำเสียงเขาดูนุ่มนวลและอ่อนโยนมากเลย แต่ก็ดีแล้วแหละเพราะถ้าเขาดุฉันก็คงทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน
“แก้วขอโทษค่ะคุณหมอ ...คือแก้วไม่รู้ว่าจะบอกพี่เขาว่าอะไรเลยเดินกลับมาที่ห้องค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ” ม่านแก้วพูดด้วยความรู้สึกผิดเพราะจริงๆเขาอาจจะมีงานให้เธอช่วยก็ได้แต่เธอดันขี้ขลาดหนีกลับมาซะนี่
(ตอนนี้อยู่ที่ไหน)
“คะ? อ่อ ตอนนี้อยู่ที่ห้องพักพยาบาลค่ะ คุณหมอมีอะไรหรือเปล่าคะ”
(ห้านาที ...เดี๋ยวฉันไปหา) แล้วเขาก็วางสายไปก่อนจะปรากฏตัวในชุดแพทย์เต็มตัวซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาทั้งดูดีและมีสง่าราศีเหมาะสมกับชุดนี้จริงๆ
“มองอะไรขนาดนั้น? ...รู้แล้วว่าหล่อ” เขาพูดด้วยเสียงนิ่งๆได้ยังไงกันฉันขอถอนคำชมเมื่อกี้ได้มั้ยเนี่ย
“ชมตัวเองแบบนี้ก็ได้เหรอคะ” เขายิ้มอย่างพอใจก่อนจะนั่งลงตรงข้ามเธอ
“ได้สิเพราะฉันหล่อจริงๆ ...หิวข้าวชะมัดเลย ไปหาอะไรกินกัน” เขาพูดแล้วมองหน้าม่านแก้วอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเธอจะรู้มั้ยว่าเขานั่งรอเธอตั้งแต่สิบเอ็ดโมงกว่าเพื่อที่จะได้ไปกินข้าวกับเธอ
...แต่เธอดันกลัวแล้วหนีกลับมานั่งรอเขาที่นี่ซะงั้น ถ้าไม่โทรมาคงได้มีคนไข้ที่โรงพยาบาลนี้เพิ่มอีกสองคนแน่ๆ
“อ้าว คุณหมอใหญ่สวัสดีค่ะมีธุระอะไรที่ห้องพักพยาบาลเหรอคะ” หัวหน้าพยาบาลที่เพิ่งเดินเข้ามาก็ค่อนข้างที่จะแปลกใจอยู่นิดนึงที่เห็นว่าคนที่นั่งอยู่กับลูกน้องของเธอนั้นคือคนที่หมอและพยาบาลสาวทั้งโรงพยาบาลพยายามจะเข้าหาแต่ไม่มีใครเคยทำสำเร็จเลยสักครั้ง
แต่ตอนนี้เขากลับมานั่งกับลูกน้องเธอในห้องพักพยาบาลตามลำพังแถมเธอยังรู้สึกว่าบรรยากาศในห้องนี้ดูอบอุ่นแปลกๆด้วยสิ
“ผมมาหาม่านแก้วครับ ...ว่าจะไปทานข้าวด้วยกันคุณผึ้งก็ไปทานด้วยกันสิครับ” ม่านแก้วหันไปมองหน้าเขาด้วยความสงสัยทำไมอยู่ๆเขาก็สุภาพขึ้นมาได้นะ แต่ลุคแบบนี้ดูเขาฝืนทำยังไงก็ไม่รู้สิ
“ผึ้งทานเรียบร้อยแล้วค่ะ ...ขอบคุณที่ชวนนะคะแก้วไปหยิบของสิอย่าให้คุณหมอรอนาน” พยาบาลรุ่นพี่ยิ้มกริ่มก่อนจะเดินออกไปจากห้อง บางทีให้เขาได้อยู่ด้วยก็น่าจะดีเพราะท่าทางของสองคนนี้น่ารักเหมือนกับคนเริ่มจีบกันใหม่ๆเลย
“อะ ค่ะๆพี่ผึ้ง” ม่านแก้วลนลานหยิบจนของในกระเป๋าหล่นกระจายเต็มพื้น เสือเห็นแบบนี้ก็ได้แต่ขำอยู่ในใจเพราะท่าทางของเธอมันดูน่ารักไปหมดซะทุกอย่างเลย
...โก๊ะๆแบบนี้ถ้าให้เข้าไปช่วยหยิบอุปกรณ์ผ่าตัดจะหยิบให้เขาผิดหรือเปล่าเนี่ย
“นี่รูปใคร” รูปเด็กผู้หญิงอ้วน ขาว จ้ำม่ำ ช่างดูน่ารักซะจริงๆ
“รูปแก้วเองค่ะตอนเด็กๆอ้วนมาก ตอนที่เกิดมาก็หนักสี่โลกว่าแน่ะแล้วก็กินเยอะมากๆเลย ...แล้วคุณหมอจะเอาไปไหนคะ” เธอเห็นเขาหยิบรูปตอนเด็กของเธอใส่กระเป๋าเสื้อไว้ไม่ยอมคืนก็เลยถาม
“ฉันอยากได้ ...เดี๋ยววันหลังเอารูปตอนเด็กฉันมาให้แลกกัน” เขาพูดไว้แค่นั้นก่อนจะเดินนำออกไปข้างนอก แต่ใจเธอนี่สิเต้นจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว
...แบบนี้เธอก็ยิ่งชอบเขาเข้าไปใหญ่น่ะสิ