อีกด้านนึงของทางโรงพยาบาล ขณะที่นอนหลับอยู่เธอก็ฝันถึงเรื่องแปลกๆเกี่ยวกับครอบครัวของเธอเอง ยิ้มร้ายๆของผู้ชายคนนั้นยังเฝ้าหลอกหลอนเธอมาจนถึงตอนนี้และในฝันเขาคนนั้นก็เป็นคนที่ฆ่าพ่อกับแม่ของเธอด้วย
“แฮ่กๆ ฝันเรื่องนี้อีกแล้วนะม่านแก้ว
...แล้วอย่างนี้จะหลับต่อได้ยังไงเนี่ย” สงสัยคืนนี้ก็คงต้องไปเดินเล่นเหมือนกับคืนก่อนๆซะแล้วมั้ง
ม่านแก้วเดินไปที่สวนดอกไม้ของโรงพยาบาลจิตใจที่ฟุ้งซ่านก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมทันทีที่ได้เห็นดอกไม้สวยๆพวกนี้
“ออกมาทำอะไรดึกดื่นขนาดนี้” เสียงเข้มๆดังจากทางด้านหลังเล่นเอาหัวใจของเธอแทบจะหลุดออกไปกองที่พื้นเลยทีเดียว
และคนที่มาเขย่าขวัญเธอตอนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น
“หมอใหญ่! แก้วตกใจหมดเลยค่ะ
...อยู่ๆก็มาเงียบๆเกิดหัวใจวายไปจะทำยังไง” ประโยคหลังนั่นเธอพึมพำอยู่คนเดียวแต่ยังไงเขาก็ได้ยินอยู่ดีเพราะที่นี่เงียบอย่างกับป่าช้าแถมยังเป็นเวลากลางคืนอีก
...ใครไม่ได้ยินก็หูหนวกแล้วป่ะวะ
“ผมนั่งตรงนี้ตั้งนานแล้วนะ ...มีแต่คุณที่เดินเข้ามาไม่มองใครเลย ระวังจะโดนฉุดไปปล้ำ” หน้าของม่านแก้วเห่อร้อนขึ้นมาทันทีเพราะไม่คิดว่าเขาจะพูดคำนี้ออกมาซึ่งเสือพอร็ตัวว่าพูดอะไรออกไปก็กระแอมเสียงเบาๆเป็นการแก้เขิน
...แค่คิดในหัวแล้วพูดออกไปทำไมวะไอ้เสือ
“งะ งั้นแก้วไม่รบกวนแล้วดีกว่าค่ะ”
หมับ!
“เดี๋ยวก่อนสิ ...นั่งเป็นเพื่อนผมก่อน”
ม่านแก้วนั่งลงข้างๆเสือแล้วก็ได้แต่นั่งเงียบเพราะไม่รู้ว่าควรจะต้องพูดอะไรออกไปทำให้บรรยากาศยิ่งน่าอึดอัดเข้าไปใหญ่
“ทำไมคุณถึงเลือกที่จะมาเป็นพยาบาล” เสือทำลายความเงียบมาด้วยคำถามนั้นและเขาก็เฝ้าดูปฏิกิริยาของเธอเวลาพูดไปด้วย
“อืม เพราะย่าค่ะ
...จริงๆแก้วตั้งใจที่จะเป็นหมอเพราะอยากดูแลย่าให้หายป่วยแล้วก็อยู่สบายมากกว่านี้
แต่ว่าดันสอบติดพยาบาลก็เลยอ่านหนังสือเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วยเพื่อหาความรู้เพิ่มเติมค่ะ
แล้วหลังจากเรียนจบและได้เป็นพยาบาลเต็มตัวแล้วก็จะได้กลับไปดูแล่ย่าได้เต็มที่ค่ะ”
แววตาของม่านแก้วเปล่งประกายเวลาพูดถึงเรื่องอนาคตที่ตัวเองวางไว้ซึ่งเสือมองว่ามันน่าอัศจรรย์มาก
เพราะเขาไม่เคยทำมันได้ อันที่จริงต้องพูดว่าเขาไม่สามารถทำมันได้ต่างหากตั้งแต่ก่อนเกิดชีวิตของเขาก็มีแผนที่วางไว้ให้อยู่แล้วนั่นคือการฝึกให้เขาและน้องชายเป็นนักฆ่า
“อุ๊ย ขอโทษค่ะแก้วพูดเยอะอีกแล้ว”
เสือส่ายหน้าแล้วยิ้มออกมาบางๆ เขาแค่ยิ้มเพราะเรื่องที่แก้วคิดมันก็เคยอยู่ในหัวเขาเหมือนกันแต่นั่นมันก็นานมาแล้ว
...นานมากจนเขาลืมเลือนความคิดพวกนั้นไป
“ไม่เป็นไรหรอกผมชอบฟังดูมีความฝันดี ...แล้วพรุ่งนี้ไม่มีเวรเหรอ” เขาถามเพราะเห็นว่าเธอออกมาเดินกลางดึกแบบนี้ถ้ามีเวรคงต้องง่วงมากแน่ๆ
“ไม่มีค่ะ พรุ่งนี้เป็นวันหยุด”
เธอตอบกลับมาทันที
“พรุ่งนี้ผมมีคิวผ่าตัดถึงหกโมงกว่าๆ ...ตอนทุ่มนึงเราไปหาอะไรอร่อยๆทานกัน” เขายิ้มอีกแล้วยิ่งเห็นยิ้มเขา เธอก็ยิ่งใจสั่นไม่รู้ว่าเพราะอะไรแล้วการที่เขามาชวนเธอแบบนี้อีก
...อย่าคิดไปไกลนะม่านแก้วเขาแค่อัธยาศัยดีแค่นั้น
“ว่าไง?”
“อะ เอ่อ ได้ค่ะ
ทุ่มนึงนะคะงั้นเดี๋ยวแก้วกลับเข้าห้องก่อนดีกว่า
ฝันดีค่ะคุณหมอ” ม่านแก้วยิ้มเขินแล้วหันหลังวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที
ด้านเสือเองก็ใจเต้นไม่แพ้กันกว่าจะพูดออกไปได้แต่ละคำก็ยากเย็นเหลือเกิน
ถ้าตอนนี้เป็นเวลากลางวันม่านแก้วจะต้องเห็นแล้วแน่ๆว่าหน้าเขาแดงขนาดไหน
...แล้วถ้าเมื่อกี้เสียงหัวใจเขาเต้นดังจนเธอได้ยินล่ะ
เธอคงจะรู้แน่นอน
“สงบอารมณ์หน่อยสิไม่งั้นเธอคงจะรู้หมดว่ามึงตื่นเต้นขนาดไหน
ไอ้เสือ!” เขาจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบอีกครั้งก่อนจะเดินกลับเข้าที่พักหมอไป
“หวา ใจเต้นไม่หยุดเลยม่านแก้วเอ้ย”
เป็นเวลาเกือบชั่วโมงแล้วหลังจากกลับเข้ามาในห้องแต่เธอก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้เลยเพราในหัวเอาแต่คิดเรื่องของเขาอยู่อย่างนั้น
...เหมือนฝันเลยที่เธอได้คุยได้อยู่ใกล้เขาแบบนี้
จริงๆแล้วความฝันที่อยากเป็นหมอของเธอส่วนนึงก็มาจากเขาด้วยเขาอาจจะจำไม่ได้เพราะตอนนั้นเธอยังเด็กและตัวเล็กกว่านี้มาก
ยิ่งนึกถึงเรื่องนั้นทีไรก็อดที่จะปลื้มใจไม่ได้เลย
‘คุณหมอคะ! เลือดเปื้อนเสื้อหมดแล้วนะคะ
ลุกเถอะค่ะแล้วให้พวกเจ้าหน้าที่ทำกันเอง!’ หมอใหญ่อยู่ในชุดสูทสีเข้มเตรียมตัวจะไปงานสัมมนาของแพทย์แต่ว่าดันมีเคสด่วนเข้ามาและไม่มีหมอเพียงพอทำให้พวกพยาบาลต้องวิ่งวุ่นกันใหญ่แล้วตอนนั้นฉันก็เพิ่งจะม.6เท่านั้นเอง
‘แก้วดูสิ
น่ากลัวจัง ...แต่หมอคนนั้นเท่ห์เนอะ’เธอเองก็ไม่ได้ละสายตาไปจากเขาเลยแม้แต่นิดเดียวแต่เธอไม่ได้มองหน้าตาที่หล่อเหลาของเขาแต่กลับมองสิ่งที่เขากำลังทำอยู่มากกว่า
...มันดูมีเสน่ห์มากเลย
‘มองตาค้างเลยนะเดี๋ยวไอ้อัถมันก็หึงหรอก’
เธอหันไปส่ายหน้ากับเพื่อนสนิทใครๆก็ต่างคิดว่าเธอกับอัถเป็นเหมือนแฟนกันแต่ที่จริงแล้วทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันแถมอัถยังแอบชอบเพื่อนเธอคนนี้ด้วยซ้ำ
‘ไม่ใช่สักหน่อย อย่าล้อเราสิมาแตร์
...ฉันว่าเราไปกันเถอะอยู่ตรงนี้เดี๋ยวจะเกะกะพื้นที่เขาเปล่าๆ’
จากที่ไม่เคยคิดถึงเรื่องการสอบเป็นหมอแต่พอได้เห็นเหตุการณ์วันนี้แล้วความคิดของม่านแก้วก็เปลี่ยนไปทันทีแต่ด้วยความที่เธอมีระดับผลการเรียนกลางๆเลยทำให้สอบติดแค่พยาบาลเท่านั้น
‘ไม่เป็นไรยังไงก็ใกล้เคียง’ ม่านแก้วยิ้มแล้วปลอบใจตัวเองแบบนั้น
ช่วงที่ปิดเทอมของมหาวิทยาลัยเธอก็มักจะไปออกค่ายอาสาอยู่บ่อยๆเผื่อว่าจะได้เรียนรู้วิชาของหมอแบบเฉพาะกิจดูบ้าง
...แต่จากวันนั้นเธอก็ไม่เคยได้เจอเขาอีกเลยแต่ก็ยังเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์บ้างและเขาก็ดันติดหนุ่มฮอตสิบคนในประเทศไทยด้วยเลยทำให้เขายิ่งดังเข้าไปใหญ่
“เหมือนความฝันเลยม่านแก้วได้เจอไอดอลด้วย” เธอดีดดิ้นอยู่บนเตียงอย่างตื่นเต้นก่อนที่จะหลับไปในที่สุด
“แก้วทำไมวันนี้แต่งตัวซะสวยเชียว มีเดทเหรอ” พวกรุ่นพี่พยาบาลที่เดินผ่านก็แซวและทักเธอจนตัวเธอเองหน้าแดงและเขินอายจนตัวม้วน
“มะ ไม่ใช่นะคะพี่ คือแก้วมีนัดทานข้าวเฉยๆค่ะ
ไม่ใช่เดทค่ะ” พวกรุ่นพี่ก็ยิ้มแบบขำๆแล้วก็เดินแยกออกไปส่วนตัวเธอเองก็ไปนั่งรอเขาที่สวนดอกไม้ของโรงพยาบาลตั้งแต่ห้าโมงกว่าจนเกือบจะทุ่มนึงแต่เขาก็ยังไม่เห็นจะมา
“หรือเขาจะติดธุระกันนะ ...แต่โทรไปถามก็ดูจะน่าเกลียดไปหน่อยหรือเปล่า”
ไม่ทันสิ้นความคิดเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นพร้อมกับปรากฎเบอร์แปลกๆโทรเข้ามา
“สวัสดีค่ะ ม่านแก้วพูดสายค่ะ”
(ทำไมยังไม่มาอีกฉันรอเธอที่ห้องพักแพทย์นานแล้วนะ)
เธอดึงโทรศัพท์ออกจากหูตัวเองแล้วมองไปที่เบอร์เขาอย่างอึ้งๆ
ทำไมหมอใหญ่ถึงได้มีเบอร์เธอได้ล่ะ
“อะ แก้วคิดว่าคุณหมอจะมารอที่สวนดอกไม้น่ะค่ะเลยมานั่งรอที่นี่”
ฉันตอบเสียงอ่อยกลับไป หมอใหญ่ก็ถอนหายใจออกมาดังฟู่
(โอเครอตรงนั้นนะ ฉันกำลังไปหา)
แล้วเขาก็วางสายไปก่อนจะมาปรากฏตัวตรงหน้าในเวลาไม่ถึงห้านาที
...ทำไมเขาถึงมาได้เร็วแบบนี้นะ
“วันหลังเข้าไปนั่งรอในห้องพักของฉันเลยเข้าใจมั้ย”
“คะ?”