“ที่นี่มัน.... ทำไมคุณหมอถึงมาที่นี่ถูกล่ะคะ” สถานที่ตรงหน้าคือบ้านของม่านแก้วเองซึ่งเธอไม่ได้กลับมาค่อนข้างนานเลยทีเดียว เพราะแค่เรียนกับฝึกงานก็แทบจะไม่มีเวลานอนอยู่แล้ว
“ย่าจ๋า ...หนูมาหาแล้ว” เสือมองคนตัวเล็กที่วิ่งเข้าบ้านไปเหมือนกับเด็กสิบขวบอย่างนั้นแหละ ถ้าหกล้มขึ้นมาก็คงจะไม่แปลก
“สวัสดีครับคุณย่า” หญิงชรามองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรจนเขาเองก็รู้สึกได้ อาจจะเพราะหวงหลานสาวตัวเองหรือเปล่าเลยทำให้ท่านมองเขาแบบนี้
“กลับมาที่นี่อีกทำไม ...ที่ได้จากพวกเราไปยังไม่พออีกเหรอ!” ม่านแก้วตกใจกับย่าของตัวเองมากเพราะท่านไม่เคยที่จะแสดงอาการเกลียดชังใครเลยแม้แต่คนเดียว
แต่ทำไมถึงได้แสดงออกว่ารังเกียจและหวาดกลัวคุณหมอใหญ่ได้ขนาดนั้นกันล่ะ
“ย่าจ๋า ...นะ นี่ คุณหมอเจ้าของโรงพยาบาลที่หนูฝึกงานอยู่ไงคะ เขาไม่เคยมาบ้านเรานะ” ม่านแก้วพยายามที่จะอธิบายให้กับย่าของเธอเข้าใจแต่เหมือนว่าย่าของเธอจะไม่ฟังอะไรเลย
“งั้นเดี๋ยวฉันไปรอที่รถดีกว่า ...สวัสดีครับ” เขาไหว้อีกครั้งแล้วหันหลังเดินออกไปจากตรงนั้น เขาไม่แปลกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว
สายตาเกลียดชังแบบนั้นเขาเคยเห็นมาจนชินตาเมื่อตอนยังเด็ก สายตาแบบที่ทุกคนทำใส่พ่อของเขามันคงจะแย่น่าดูถ้าเรื่องในอดีตที่พ่อเขาทำจะส่งผลมาถึงตัวเขาในตอนนี้ด้วย
ก๊อก ก๊อก
“คุยกับย่าเสร็จแล้วเหรอ” ม่านแก้วพยักหน้าแล้วยิ้มเจื่อนๆให้กับเสือ เหมือนว่าย่าเธอจะไม่พอใจมากที่เห็นว่าเขาเป็นคนพาเธอมา ท่านเกลียดโดยที่ไม่บอกสาเหตุด้วยซ้ำ
“เสร็จแล้วค่ะ ...แก้วขอโทษแทนย่าด้วยนะคะ ปกติย่าจะไม่เคยพูดแบบนี้กับใครแต่วันนี้สงสัยมีคนมาทำให้ย่าโมโหแน่ๆเลย” ไม่ใช่ใครแถวนี้ๆหรอกแต่เป็นใครที่อยู่ไกลซะมากกว่า เขาเลือกที่จะยิ้มกลบเกลื่อนแล้วขับรถออกไป
...อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดสินะ เขาคงห้ามไม่ได้
“เราไปดูหนังกันต่อมั้ยหรือเธออยากจะกลับหอแล้ว”
“แล้วคุณหมออยากทำอะไรล่ะคะ”
“อยากทำหลายอย่างเลยแหละ ...ไม่รู้ว่าจะให้ทำมั้ย” ม่านแก้วตาโตกับคำพูดสองแง่สามง่ามของเขา ยิ่งพอเสือเห็นแบบนั้นแล้วก็ยิ่งแกล้งโดยการยื่นหน้าเข้าไปใกล้กว่าเดิมจนเธอเผลอเอามือจับหน้าของเขาไว้
“มะ หมอ เล่นอะไรเนี่ยแก้วไม่ตลกเลยนะ” เขาจับมือเธอให้กุมหน้าเอาไว้แล้วจูบหนักๆที่ฝ่ามือเพื่อดูปฏิกิริยาของเธอ ซึ่งมันก็เป็นไปตามคาดเจ้าของมือหน้าแดง หูแดง แถมชีพจรยังเต้นแรงมากจนน่ากลัวจะหัวใจวาย
“ก็ไม่ได้ทำให้ตลกซะหน่อย ทำให้เขินต่างหาก” ฉ่า!!! เสียงหน้าของเธอทันทีที่เขาพูดจบประโยคนั่นแหละ ทำไมมันถึงได้ร้อนขนาดนี้นะแค่เพราะเขาพูดเนี่ย มือไม้ก็อยู่ไม่สุขแถมเขายังดึงไปประสานนิ้วไว้อีกต่างหาก
...หัวใจจะวายอยู่แล้วทำไมเขาถึงได้แกล้งฉันหนักขนาดนี้เนี่ย
“ปล่อยมือสิคะ ไม่ต้องจับมือแล้ว” เขายักไหล่ก่อนจะดึงเอามือเธอไปวางที่หน้าขาของตัวเองอย่างเอาแต่ใจ จนคนตัวเล็กหน้างอเพราะโดนเขาแกล้งติดกันแบบถี่ๆ
“ฉันอยากดูหนังผี”
“แก้วไม่อยากดูหนังผี”
“แต่ฉันอยากดูและเธอต้องดูเป็นเพื่อนฉันด้วย” เอาแต่ใจที่สุด แบบนี้ไม่เรียกเดทแล้วเรียกเธอมาให้เขาแกล้งได้อย่างอิสระต่างหาก
ม่านแก้วพยายามขืนตัวตลอดทางแต่ก็โดนเสือลากเข้าไปในโรงหนังจนได้ เธอกำมือแน่นเพราะกลัวเสียงเพลงประกอบและกรี๊ดลั่นโรงตอนที่ผีโผล่มา เสือได้แต่นั่งขำแล้วก็จับมือของม่านแก้วไว้แน่น
หืม มือเย็นได้อีกสงสัยจะกลัวจริงๆ
“กลัวเหรอ” ลมหายใจอุ่นๆมาพร้อมกับเสียงกระซิบเบาที่ข้างหูเธอ ม่านแก้วพยักหน้าแล้วหันไปมองหน้าเขา
“อ๊ะ ขะ ขอโทษค่ะ” ริมฝีปากเธอไปแตะกับริมฝีปากของเขา เธอดีดตัวออกแต่เสือกลับล็อคคอเธอแล้วประกบปากเข้าไปจูบอย่างร้อนแรง มือเล็กกำที่สาบเสื้อของเขาไว้แน่น
“อึก อืมม” ลิ้นร้อนของเขาแทรกเข้าไปในปากเล็กของเธอก่อนจะเกี่ยวกระหวัดไปมาอยากโชกโชน สัมผัสของเขาทำเอาเธอหัวหมุนไปเลยทีเดียว จนในที่สุดเขาก็ถอนจูบออกแล้วยิ้มกริ่มอย่างพอใจ
“หวานจัง” ยิ่งรู้ว่าเธออายเขาก็ยิ่งแกล้งให้เธอหน้าแดงมากขึ้นไปอีก
..หมอบ้า
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยนะหมอ” เขาทำปากจุ๊ให้เธอเงียบเสียงลงอีกนิดนึงเพราะไม่งั้นคนทั้งโรงต้องหันมาด่าพวกเขาแน่ ม่านแก้วทำหน้างอเหมือนจะร้องไห้เพราะตั้งแต่เข้าโรงหนังมาก็โดนคุณหมอตัวโตแกล้งไม่หยุดเลย
“หันไปดูหน้าจอสิคะ มามองหน้าแก้วทำไม” วันนี้ดูคุณหมอจะคึกแปลกๆแกล้งเธอแบบไม่เหน็ดเหนื่อยเลย แถมตอนนี้ยังนั่งเท้าคางมองหน้าเธอโดยไม่สนใจหนังที่ตัวเองอยากดูอีก
“ก็ชอบมอง หน้าเธอน่ามองกว่าหนังอีก” แล้วม่านแก้วก็โดนเขาก่อกวนตลอดเวลาที่หนังฉายดีที่เขาเลือกที่นั่งบนสุดไม่อย่างนั้น จะต้องมีคนโดนด่าเพราะเล่นแผลงๆกันในโรงแน่
พอออกมาจากโรงหนังม่านแก้วก็เดินหนีเขาไปอีกทางเพราะกำลังโกรธที่เขาทำแบบนั้นกับเธอ ...นั่นมันจูบแรกของเธอเชียวนะ ทำไมเขาถึงทำแบบนี้
“เดี๋ยวสิ จะไปไหน” พอเห็นว่าร่างเล็กไม่ยอมตอบก็เริ่มใจเสียหน่อยๆแล้วสิ สงสัยว่าตอนที่อยู่ในโรงเขาแกล้งเธอหนักเกินไป
...ก็น่ารักขนาดนี้จะให้เขาอดใจไหวได้ยังไงกัน
“จะแกล้งอะไรแก้วอีกคะ แก้วไม่สนุกด้วยแล้วนะแบบนี้” ม่านแก้วหน้างอง้ำเหมือนจะร้องไห้ออกมาจริงๆ ...นี่เธอไม่รู้จริงดิว่าเขาคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงได้ซื่อขนาดนี้นะ
“ฉันแกล้งอะไรไหนพูดซิ”
“กะ ก็เมื่อกี้คุณหมอ... ไม่พูดแล้ว” ยิ่งคิดถึงเรื่องเมื่อกี้เธอก็ยิ่งหน้าแดง แถมตัวเองยังจูบตอบเขาไปอีก
ม่านแก้วเอ้ย!!! ทำไมถึงเป็นแบบนี้
“ที่ทำแบบนี้น่ะเหรอ” เสือก้มลงไปจูบริมฝีปากบางอีกครั้งและเขาทำให้จังหวะมันร้อนแรงมากขึ้นจนม่านแก้วขาแทบไม่ติดพื้น ลิ้นเล็กที่เกี่ยวไปมาอย่างคนไม่ชำนาญยิ่งทำให้เขารู้สึกดีมากขึ้น
“อื้มม อื้อ ...พอแล้วค่ะ แฮ่กๆ” ม่านแก้วตัดสินใจดันเขาออกแล้วยืนพิงรถไว้อย่างกับคนหมดแรง เขาสูบพลังเธอไปเยอะมากมันนานกว่าตอนที่อยู่ในโรงหนังซะอีก
ยิ่งเห็นลิปกลอสของเธอติดที่ปากเขาเป็นมันวาวก็ยิ่งอายเข้าไปใหญ่ เสือลูบมันออกด้วยนิ้วโป้งแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งมาให้เธอ
“ทีนี้ยังคิดว่าฉันแกล้งอยู่หรือเปล่า?” ให้ตายเถอะ ถ้าเธอยังคิดอยู่แบบนั้นจริงๆเขาจะทำยังไงดีวะเนี่ย ไม่คิดว่าการจะมีแฟนสักคนนี่มันยากขนาดนี้
“แก้วไม่อยากคุยกับคุณหมอแล้ว ...แก้วจะกลับบ้านเอากระเป๋าคืนมานะ” เขาชูกระเป๋าของเธอไว้เหนือหัวซึ่งม่านแก้วไม่มีทางที่จะหยิบถึงแน่ๆ จนในที่สุดเธอก็ยอมแพ้ไปเองแล้วยอมกลับขึ้นไปนั่งบนรถ
“เธอเคยมีแฟนมั้ย” อะไรของเขาอีกเนี่ยจะมาอยากรู้ทำไมว่าเธอมีแฟนหรือเปล่า ถ้ามีแล้วมันทำไมเหรอเขาจะขอโทษฉันใช่มั้ย
...คำตอบมันก็คือไม่ ยังไงเขาก็ไม่ขอโทษอยู่แล้ว
“ม่านแก้ว ฉันถามก็ตอบมาหรือต้องให้ง้างปากด้วยอย่างอื่น” ม่านแก้วถอนหายใจเสียงดังอย่างขัดใจจนเขาขำกับท่าทางของเธอ แล้วไหนจะปากที่ยื่นออกมาอย่างกับเป็ดนั่นอีก
...อืม น่ารักจริงๆด้วย
“เคยมีตอนอนุบาลสามค่ะ ทำไมคะ!”
“รู้สึกเหมือนถูกเอาเปรียบเลยแฮะ ...ฉันไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย” บ้าน่า! คนหน้าตาหล่อแบบเขานี่นะที่ไม่เคยมีแฟน พูดให้ลิงฟังลิงยังไม่เชื่อเลย
“บางทีนินทาฉันในใจก็ไม่ต้องแสดงออกทางสีหน้าแบบนั้นก็ได้นะ”
“แก้วเปล่าซะหน่อย”
“เถียงคอเป็นเอ็นเลยนะ ...สักวันจะทำรอยให้เถียงไม่ได้เลย” หมอบ้า! ทำไมวันนี้เขาถึงได้พูดจาทะลึ่งกับเธอตลอดเลยเนี่ย
“หมอ!! ขับรถไปเงียบๆเลย ...เอ๊ะ ปล่อยมือแก้วเดี๋ยวนี้” เขาดึงมือเธอไปจับอีกแล้ว วันนี้จับมือกันทั้งงงวันจับจนมือจะหลอมเป็นอันเดียวกันแล้ว
“ไม่อยากปล่อยอ่ะ ปล่อยแล้วหายใจไม่ค่อยออก” ยิ่งเห็นม่านแก้วหน้าแดงเขาก็ยิ่งสนุก เขารู้สึกดีกับการได้แกล้งเธอ ได้แหย่ให้เธอแว๊ดใส่ ทุกอย่างมันดูน่ารักสำหรับเขาไปหมดเลย
...นี่ขนาดไม่ได้เป็นอะไรกันนะเนี่ยเขายังเป็นได้ขนาดนี้เลยแล้วถ้าเป็นขึ้นมาล่ะ
เขาคงต้องหลงเธอมากแน่ๆ!!
“คุณหมอ เลิกพูดแหย่แก้วซะทีเถอะค่ะ” ...แก้วไม่อยากคิดอะไรเกินตัวไปมากกว่านี้ แน่นอนว่าประโยคหลังเธอไม่ได้พูดออกไป
...ก็ใครจะกล้าพูดล่ะ เธอไม่ได้สำคัญกับเขาขนาดนั้นซะหน่อย
“นี่เธอเห็นว่าฉันเป็นพวกผู้ชายเจ้าชู้ที่ชอบแหย่ผู้หญิงไปทั่วอย่างนั้นเหรอ” เสียงเขาดูจริงจังแถมยังทำเสียงดุตำหนิเธออีก ม่านแก้วรีบหันหาไปปฏิเสธแต่ก็ต้องวืดอีกรอบเพราะคนตัวโตยิ้มอย่างพอใจกับท่าทางของเธอ
“หลอกแก้วได้เนี่ย สบายใจมั้ยคะหมอ!” ครั้งนี้เธอโกรธเขาจริงจังด้วยเพราะเขาชอบแกล้งเธอโดยไม่สนเลยว่าเธอแคร์เขามากขนาดไหน
“...ม่านแก้ว”
“อะไรอีกล่ะคะ จะแกล้งอะไรแก้วอีก” ไหนๆรถก็จอดถึงหน้าหอเธอแล้วจะโดนเขาแกล้งอีกครั้งก่อนไปก็ไม่เป็นไรหรอกมั้ง
“ฉันชอบเธอ ...เรามาคบกันมั้ย”