“ขอบใจนะ! เข้าใจคิดทำมาฝากดีนี่ แพงน่าดูนะโถนี้”
นวลปรางค์ตั้งใจเหน็บจังๆ เมื่อเทียบค่ารักษาหลายแสนบาทกับขนมโบราณๆ เพียงแค่โถเดียว แต่คนเสแสร้งเก่งอย่างปรียามีหรือจะจนตรอก กลับยิ้มร่าแล้วพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสทันที
“คุณหมอกับคุณปรางค์เมตตาพวกเราสามแม่ลูก เราก็ต้องทำของดีๆ มาตอบแทนบุญคุณบ้างสิคะ นี่เป็นฝีมือลูกสาวค่ะ เลิกงานมาเมื่อวานนี้ก็ทำจนดึกดื่นเลยล่ะค่ะ”
ทั้งหมดที่ปรียาพูดมาเขมินท์ท์เห็นว่ามีเรื่องจริงอยู่เรื่องเดียวก็คือ เมื่อคืนนี้มัสยาทำขนมจนดึกดื่นค่อนคืนจริงๆ จนเขารอไม่ไหวเลยเผลอหลับไปก่อน
และนั่นก็ทำให้เขาหมดโอกาสที่จะได้เชยชมนวลเนื้อนุ่มนิ่มไปโดยปริยาย แถมยังไม่อาจจะยืดเวลาให้ปรียานอนอยู่โรงพยาบาลได้อีกต่อไปแล้ว
เพราะมีคำสั่งให้กลับบ้านตั้งแต่เที่ยงวาน จะเปลี่ยนก็ยากยิ่งจะทำ เพราะอาการเจ็บป่วยหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว และแอดมิตอาทิตย์กว่าๆ ถือว่านานสุดเท่าที่คนไข้ผ่าตัดไส้ติ่งเคยมีมา เขาเลยจำใจต้องยอม แล้วคิดหาหนทางที่จะได้อยู่ใกล้ๆ ของสวยงามทีหลัง
“ความจริงฉันไม่ค่อยกินของหวานพวกนี้สักเท่าไหร่หรอกนะ แต่ก็ขอบใจแล้วกันที่อุตส่าห์ทำมา คงไม่ว่านะถ้าฉันจะเอาไปแจกเด็กๆ ที่บ้านกินแทนน่ะ”
คำว่า ‘เด็กๆ’ นั้นปรียาเดาได้ว่าน่าจะเป็นหมาในบ้านมากกว่าคน แต่ก็ไม่สน พอๆ กับที่นวลปรางค์เองก็ไม่สน เลยวางโถไว้บนโต๊ะเลขาสามี แล้วก็เดินสบัดเข้าไปรอในห้องทันที
โดยไม่หันมองสีหน้าสองแม่ลูกสักนิดเดียว เมธีเลยต้องรีบแก้ไขสถานะการณ์แทน เพราะไม่รู้จำตำหนิใครดีระหว่างภรรยากับสองแม่ลูกตรงหน้าที่เรียกร้องไม่รู้จักจบสิ้น
“ขอบคุณนะครับสำหรับของฝาก ถ้าขาดเหลืออะไรก็ติดต่อผมมาได้นะ เดี๋ยวผมขอตัวไปทำงานก่อน”
แม้จะเอือมกับสองแม่ลูกอยู่บ้าง แต่เมธีก็ยังคงรักษามารยาทอันดีเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
“ขอบพระคุณค่ะคุณหมอ ถ้าไม่จำเป็นพวกเราสามแม่ลูกก็ไม่คิดจะมารบกวนหรอกค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่แล้ว แต่ก็อย่างว่าล่ะนะคะ เราขาดเสาหลักไปก็ไม่รู้จะพึ่งพาใครถ้าไม่ใช่คุณหมอ งั้นเราลาเลยนะคะ สวัสดีค่ะ”
เขมินท์ท์ให้อึ้งทุกครั้งเมื่อปรียาเอ่ยถ้อยคำเหล่านี้ออกมา เพราะมันกระแทกใจพ่อกับใจเขาได้อย่างดียิ่ง โดยเฉพาะพ่อที่บอกเขาตลอดเวลา
ว่าลืมไม่เคยลงในวินาทีที่สามีของปรียานอนคว่ำหน้า เลือดอาบไปทั้งตัวอยู่บนรถพ่อ ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน
นั่นทำให้เขาเข้าใจพ่อในระดับหนึ่ง ว่าทำไมถึงไม่เคยทอดทิ้งสามแม่ลูกนี้ แม้จะเบื่อแสนเบื่อ เอือมแสนเอือมยังไง แต่เขาก็ไม่เคยเห็นพ่อแสดงท่าทีใดๆ ออกมาด้วยซ้ำ
ตัวเขาแม้จะพยายามทำให้ได้อย่างพ่อ แต่ก็ยังมีหลุดบ้าง อย่างน้อยๆ ก็ตอนที่เขาว่าเธอในค่ำคืนนั้นตามด้วยการหักหาญใจเธอนั่นเอง
มัสยาก้าวขาแทบไม่ออก เพราะความเหนื่อยจากงานอันยุ่งเหยิง แม้ตำแหน่งจะเป็นเพียงผู้ช่วเลขา แต่ไปๆ มาๆ ก็ไม่ต่างจากเป็นเลขาเสียเอง เมื่อลูกพี่ต้องคอยตามติดเจ้านายออกไปข้างนอกแทบจะตลอดวัน
พอตกเย็นก็เลยกลับบ้าน ส่วนเจ้านายนั้นกลับยังนั่งทำงานต่อค่ำมืดดึกดื่นต่ออีก
ตัวเองก็ต้องคอยอยู่ยงเฝ้าเจ้านายต่อ คอยทำนั่นนี่ให้ไม่หยุดหย่อน เพราะเดือนนี้เป็นช่วงสรุปผลกำไรไตรมาส บวกกับกำลังจะเปิดสาขาย่อยอีกสองที่
บางครั้งเจ้านายถึงกับนอนออฟฟิศด้วยซ้ำ ยังดีที่สั่งให้คนขับรถไปส่งเธอจนถึงบ้าน เพราะความห่วง
วันนี้ก็เช่นกันที่นั่งมากับคนขับที่ไม่ค่อยพูดจาอะไรสักเท่าไหร่ ส่วนคนโดยสารก็เงียบพอๆ กัน ในรถเลยไม่มีเสียงอะไรนอกเพลงเบาๆ ที่เจ้านายชอบฟังเวลาไปข้างนอกเท่านั้น
หญิงสาวส่ายหน้าน้อยๆ เมื่อน้องชายส่งไลน์มาบอกว่าให้แวะซื้อของกินไปฝากด้วย
แม้จะเบื่อ แม้อยากจะว่าน้องกับแม่ ที่ทำไมไม่ขับรถออกมาหากินเองสักแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ต้องทำ จะได้ซื้อให้คนขับรถด้วย เพราะยังไม่ได้กินอะไรเหมือนกัน
ส่วนเจ้านายนั้นหญิงสาวซื้อข้าวต้มเครื่องแบบแยกน้ำฝากไปให้ พอถึงบ้านได้ก็ยิ่งเหนื่อยหนักไปอีก เมื่อเห็นว่ารกเหลือเกิน
“แล้วพี่หยาไม่กินเหรอ”
น้องชายรับของแล้วก็เห็นว่ามีแค่ของตัวกับแม่
“ไม่! เหนื่อยจะอาบน้ำนอนละ”
คนพี่ตอบแบบเสียไม่ได้ เพราะหงุดหงิดที่น้องไม่ทำอะไรนอกจากนั่งๆ นอนๆ กินๆ ทั้งวี่ทั้งวันเท่านั้น
“ทำไมกลับดึกทุกวันเลยล่ะหยา งานหนักมากเหรอ”
คนเป็นแม่ที่ยังนอนแหมะอยู่กับชุดรับแขกในลักษณะคนเจ็บป่วยไม่ยอมหายร้องถามลูก แม้ตาจะจ้องอยู่กับละครหลังข่าวก็ตามที
“ช่วงนี้เจ้านายต้องทำรายงานหลายอย่างเลยยุ่งน่ะแม่”
ส่วนลูกนั้นก็เบื่อที่แม่ยังคงทำเหมือนป่วยไม่เลิก ในบ้านไม่หยิบจับอะไร ไม่ว่าจะเป็นทำอาหาร ความสะอาดบ้าน หรือแม้แต่ซักผ้า
ทุกอย่างเหมือนแม่กับน้องรอให้เธอเป็นคนทำยังไงยังงั้น อันที่จริงมัสายาก็โทษตัวเองด้วย ที่ทำอะไรต่อมิอะไรให้ทั้งสองมาตลอดจนเคยตัวไปแล้ว
เพราะเห็นว่าตั้งแต่ทำงานมา แต่ก็ไม่เคยเรียกร้องให้ตัวเองแบ่งเงินเดือนที่ได้เลยสักบาท นอกจากบอกให้เก็บไว้เผื่อต้องใช้ในวันข้างหน้า เพราะแม่กับน้องใช้เงินที่ได้รายเดือนจากอีกฝ่ายก็พอเพียงแล้ว
มัสยาเลยตอบแทนแม่ด้วยแรงงานด้วยการทำให้ทุกอย่าง น้องชายตัวดีเลยพ่วงงานซักเสื้อผ้ามาให้ด้วยโดยปริยาย
“แล้วจะทนทำไปทำไมล่ะ หาผัวรวยๆ สักคนสิ แกสวยกว่าแม่ตอนสาวๆ อีก จะได้สบายไม่ต้องไปเป็นขี้ข้าให้เขาใช้หัวไม่ได้วางหางไม่ได้เว้นอย่างนี้ไง”
ในที่สุดแม่ก็ทนไม่ได้อีกแล้ว