5. คุณหนูไป๋

1024 Words
“ นี่ฉันได้ยินมาว่า หล่อนใช้แซ่ไป๋ล่ะ สามีของฉันบอกง่าหล่อนอาจจะเป็นลูกหลานของนายพลไป๋ พวกเราห้ามไปก่อความวุ่นวายเชียวนะ “ ” เรื่องจริงหรอเนี่ย “ ชาวบ้านยังคงพูดคุยถึงเรื่องราวที่ได้ยินมา แม้แต่ไป๋เฟิ่งจื่อเองก็ยังมึนงง ว่าตนเองไปเป็นญาติกับนายพลไป๋ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ? แล้วชื่อนี่เธอก็ไม่ได้เป็นคนตั้งมันสักหน่อย เพียงแค่หนึ่งเดือนบ้านอิฐหลังใหญ่ที่สุดในหมู่บ้านก็สร้างเสร็จแล้ว เหลือเพียงแค่ตกแต่งก็พร้อมที่จะย้ายเข้าอยู่ได้แล้ว ส่วนรั้วนั้นก็เหลืออีกไม่มากแล้ว คาดว่าไม่เกินสัปดาห์นี้ ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์หรือแม้แต่เตียงนอนนั้นเธอก็สั่งมาจากร้านในเมือง ซึ่งวันพรุ่งนี้ทางร้านก็จะนำมาส่งให้ที่บ้านในช่วงสายๆอีกด้วย เมื่อชาวบ้านเห็นบ้านของเธอที่ส้รางเสร็จแล้วก็พากันตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก ยิ่งได้รู้ว่าบ้านหลังนี้ราคาเท่าไหร่ก็ทำให้ชาวบ้านบางคนถึงกับเป็นลมไปหลายตลบ เพราะเงินจำนวนนี้ชาวบ้านสามารถใช้กินใช้อยู่อย่างประหยัดได้นานถึงสิบปีเชียวนะ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชาวบ้านต่างพากันเรียกเธอว่า คุณหนูไป๋กันทั้งสิ้น แม้หญิงสาวหลายคนในหมู่บ้านจะอิจฉาในความร่ำรวยของเธอแต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปวุ่นวายด้วย ส่วนหนึ่งก็เพราะข่าวลือที่ว่า เธอเป็นหลานสาวของนายพลไป๋ …! “ นี่เธอดูสิบ้านของหล่อนน่ะ ใหญ่กว่าบ้านพักหัวหน้าหน่วยซะอีกนะ “ นางจงซื่อเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังจับกลุ่มพูดคุยกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งเป็นที่นั่งพักผ่อนของชาวบ้านในหมู่บ้านหลวนชุน “ นั่นสิ ไม่รู้ว่าต้องตายแล้วเกิดใหม่กี่หน ถึงจะร่ำรวยแบบหล่อนบ้าง “ นางตงซื่อเอ่ยขึ้นอย่างเห็นด้วย ซึ่งชาวบ้านต่างก็พยักหน้าหงึกๆ เพราะเห็นด้วยกับคำพูดของนางตงซื่อ ส่วนเจ้าตัวต้นเรื่องนั้นไม่ได้สนใจเรื่องที่ชาวบ้านพูดคุยกันเท่าไหร่ เพราะตราบใดที่พวกเขาไม่ได้มาวุ่นวายกับเธอ เธอก็ไม่จำเป็นต้องสนใจพวกเขาเหล่านั้นเธอถือคติที่ว่า … ‘ห้ามคนนินทา ก็เหมือนห้ามหมาไม่ให้มันเห่า’ นั่นแหละนะ “ เสี่ยวอี๋ วันนี้เธออย่าลืมชวนพี่สาวของเธอไปที่บ้านของพี่นะ ” ไป๋เฟิ่งจื่อเอ่ยเตือนเด็กสาว เพราะวันนี้เธอตั้งใจจะทำเนื้อตุ๋นให้เด็กๆกิน อีกไม่ถึงเดือนก็จะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เธอตั้งใจอีกด้วยว่าจะเรียกเด็กๆมานอนที่บ้านจนกว่าฤดูหนาวจะผ่านพ้นไป เมื่อเอ่ยบอกกับเด็กหญิงตัวน้อยไปแล้ว เธอก็เข้าครัวจัดการนำเนื้อมาตุ๋นเอาไว้ในหม้อดินที่สามารถเก็บความร้อนเอาไว้ได้ดีกว่าหม้อสแตนเลสที่เธอมีมากมายในมิติ กลิ่นหอมของเนื้อตุ๋นลอยฟุ้งออกไปถึงนอกบ้าน ชาวบ้านที่อยู่ในระแวกนั้นต่างก้นด่าไป๋เฟิ่งจื่อในใจ ‘ โอ๊ย ฉันเกลียดคุณหนูไป๋คนนี้จริงๆเชียว กลิ่นหอมมากขนาดนี้ไม่รู้ว่าใช้อะไรบ้างนะ ‘ ‘ กลิ่นเนื้อตุ๋น แม่ผมอยากกินเนื้อ แม่ ‘ และอีกหลายบ้านที่เด็กๆต่างร้องงอแงเพราะอยากกินอาหารจานเนื้อเช่นบ้านไป๋ แม้แต่พวกผู้ใหญ่เองก็ยังต้องกลืนนำลายเหนียวๆลงคออย่างยากลำบาก เพราะกลิ่นหอมจากเนื้อตุ๋น …! “ พี่ใหญ่ กลิ่นเนื้อล่ะ พี่สาวจื่อทำอาหารด้วยล่ะ เรารีบไปกันเถอะ “ เหวินอี๋เอ่ยชวนพี่สาวของตนเอง แต่ถูกพี่สาวดุ จึง_ด้แต่กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา “ เสี่ยวอี๋ เธอเป็นคนเห็นแก่กินหรือไง อะไรก็จะเอาแต่กินๆๆๆ หัดเกรงใจพี่สาวจื่อบ้างสิ เราไม่ควรจะไปรบกวนบ้านของเขาตลอดเวลา “ แม้เธอจะอยากกินเนื้อนั้นมากแค่ไหนก็ต้องห้ามใจ ไม่ไปรบกวนบ้านไป๋ให้มากนัก เธอได้ยินชาวบ้านพูดกันว่า ลุงซูสั่งห้ามชาวบ้านไม่ให้ไปรบกวนบ้านไป๋ ไม่เช่นนั้นอาจถูกทหารจับตัวไปขังในคุกได้ และเธอก็ไม่ต้องการให้ร้องสาวต้องถูกจับไปขังคุก หลังจากที่พักจนหายเหนื่อยแล้วสองพี่น้องก็กลับไปทำงานแลกแต้มกันต่อ ไม่รู้ว่าถ้าหากไป๋เฟิ่งจื่อรับรู้ความคิดของเด็กหญิงเข้าจะทำหน้ายังไง ? หลังจากที่รอสองพี่น้องจนตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว เมื่อมองดูนาฬิกาที่ข้อมือก็พบว่าตอนนี้เกือบจะหนึ่งทุ่มตรงแล้ว ด้วยความไม่สบายใจและเป็นห่วงสองพี่น้องบ้านเหวิน เธอจึงเดินไปหาที่บ้าน และพบว่าบ้านปิดสนิทราวกับว่าทั้งสองไม่อยู่บ้านยังไงอย่างนั้นเลย “ ไปไหนกันนะ “ เธอเดินไปมาอย่างร้อนใจอยู่หน้าบ้านเหวิน จนกระทั่งอดทนไม่ไหว เปิดประตูเข้าไปดูในบ้านก็พบว่าทั้งสองหลับสนิทไปแล้ว ไป๋เฟิ่งจื่อถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่ทั้งสองไม่เป็นอันตรายอะไรอย่างที่เธอกลัว เธอเข้ามาดึงผ้าห่มให้ถึงหน้าอกของทั้งสองก่อนจะกลับไปที่บ้านของตนเอง และกินมื้อเย็นก่อนที่จะอาบน้ำและเข้านอน เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้ามืดเธอจึงตักเนื้อตุ๋นใส่ถ้วยแล้วเดินไปที่บ้านเหวินก่อนที่สองพี่น้องจะออกไปทำงานแลกแต้มกัน “ พี่สาวจื่อ “ เหวินอี๋ร้องทักอย่างดีใจ “ เมื่อวานพวกเธอไม่จอมไปหาพี่ที่บ้าน พี่เป็นห่วงแทบแย่ กินอะไรกันหรือยัง “ เธอเอ่ยถาม พร้อมกับมองไปที่น้ำต้มผักก้นหม้อคาดว่าสองพี่น้องเพิ่งจะกินไปเมื่อครู่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD