Oops! เขาหล่อ แต่แปลกนิดหน่อย 3

848 Words
Oops! เขาหล่อ แต่แปลกนิดหน่อย 3 Zin Talk เล่มรายงานวิจัยตัวร้ายกับคนง่วงนอนแบบเธอ ตบตีกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ที่เริ่มเลือกหัวข้อ ไปจนถึงการสืบค้นข้อมูล และต่อด้วยความทรมาน อย่างการต้องมานั่งเขียนบทที่หนึ่งและสองให้อาจารย์ตรวจ เพราะเธอยังต้องเรียนแล้วก็ไปทำงานพิเศษ ทำให้ต้องจัดสรรเวลาทุกอย่างให้ลงตัว ถึงแม้เวลานอนจะน้อยนิดไปบ้างในบางวันก็ตาม “จะหลับแล้ว” ช่วงบ่ายสองเป็นเวลาแห่งความง่วงงุน เสียงโอดครวญของลูกกอล์ฟเพื่อนในกลุ่มก็ดังขึ้นอย่างงอแง เมื่อเรานั่งทำงานกันมาได้เกือบสามชั่วโมงแล้ว แต่ก็ทำงานไปด้วยพักไปด้วย แอบอู้งานมาคุยกันบ้าง ไม่ได้หักโหมทำงานอย่างหนักเพียงแค่อย่างเดียว “เรา...เราแยกกันกลับไปพักดีไหม ไม่ไหวแล้วเหมือนกัน” แพรคู่ทำงานของลูกกอล์ฟ ทั้งยังเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกันเอ่ยถามความคิดเห็น ฉัตรที่ได้ยินแบบนั้นถึงกับหลุดหัวเราะ เมื่อเพื่อนๆ เริ่มงอแงกันอีกแล้ว “ยังไงซิน วันนี้เอาแค่นี้ก่อนไหม?” ฉัตรหันมามองหน้าฉันและเอ่ยถามอย่างขอความเห็น พอมองหน้าเพื่อนอีกสองคนก็หลุดหัวเราะน้อย ๆ เมื่อทั้งคู่กำลังจ้องหน้าฉันและอ้อนขออย่างน่าเห็นใจ “ได้สิ วันนี้พอแค่นี้เนอะ” ฉันบอกเพื่อนอย่างจำยอม วันนี้ก็รู้สึกเหนื่อยจริง ๆ นั่นแหละ ถ้าได้กลับหอเร็วหน่อย ก็คงจะนอนพักสักนิดก่อนออกไปทำงานพิเศษช่วงสี่โมงเย็น ฉันทำงานพิเศษที่ร้านอาหารวันละห้าชั่วโมง ซึ่งจะเริ่มตอนสี่โมงเย็นและเลิกงานตอนสามทุ่ม เจ้าของร้านให้ทำงานวันละห้าชั่วโมง คิดชั่วโมงละหกสิบบาท หนึ่งเดือนก็ได้ถึงแปดพันบาทอยู่นะ เพราะไม่ได้ไปทำทุกวัน หักค่าห้องค่ากินก็ยังมีเงินเหลือติดกระเป๋า และในส่วนนี้ ฉันจะไม่ยุ่งกับเงินค่าครองชีพหนึ่งหมื่นสองพันบาทที่เจ้าของทุนมอบให้เลย หากไม่ฉุกเฉินจริง ๆ ฉันก็จะไม่เอามาใช้ อ้อ หมื่นสองน่ะแค่หกเดือนแรก เพราะหลังจากนั้นจู่ ๆ ทางมหาวิทยาลัยก็บอกว่าเจ้าของทุนเพิ่มให้เป็นหนึ่งหมื่นห้าพันบาท “กลับยังไง ให้ไปส่งไหมทุกคน” ลูกกอล์ฟเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น เมื่อเจ้าตัวจะได้กลับไปพักแล้วหลังจากที่นั่งทำเล่มจบสุดแสนจะเครียดมาหลายชั่วโมง “ไปส่งทุกคนเลยได้ไหม” ฉัตรถาม “ได้ เดี๋ยวฉันไปส่ง ไป ๆ เก็บของกันเถอะทุกคน พอแล้ววว” ลูกกอล์ฟเอ่ยเร่งเพื่อนๆ อย่างติดตลก “ไม่ค่อยรีบเลยนะ” แพรแซวอย่างขบขัน มือก็เก็บของใส่กระเป๋าสะพายอยู่ดังเดิม เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เราทั้งสี่คนก็เดินลงมานั่งใต้ตึกคณะเตรียมเดินไปลานจอดรถ “กะเพราร้านนี้อร่อยนะ แต่เปิดอินดี้เกิน” ระหว่างทางที่ไปส่งฉัน ลูกกอล์ฟก็ชี้นิ้วไปยังร้านอาหารร้านหนึ่งที่เป็นอาคารพาณิชย์สามชั้น แต่ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง “เออ เคยกิน เปิดกี่โมงนะจำได้ไหม?” ฉัตรที่นั่งอยู่เบาะด้านหน้าข้างลูกกอล์ฟทวนถามอย่างสงสัย “สี่ทุ่มถึงตีสองมั้ง แต่บางวันตีหนึ่งก็ปิดแล้วนะ” “เลิศ! ไว้วันไหนเราทำงานดึก ๆ มากินกันไหม อยากกินอะ” แพรชวน ฉันไม่ได้ตอบรับอะไร แต่พยักหน้าหงึกหงักแทนคำตอบ แพรที่หันมาเห็นถึงกับหลุดหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูทันที “ขอบใจนะที่มาส่ง” เพราะหอพักของฉันอยู่ใกล้มหา’ลัยมากที่สุด ไม่ต้องยูเทิร์นอะไรให้ยุ่งยากก็มาถึงแล้ว ลูกกอล์ฟเลยมาส่งฉันเป็นคนแรก หลังจากที่โบกมือลาเพื่อนๆ และรอกระทั่งเขาขับรถห่างออกไปไกล ฉันถึงได้เดินกลับเข้าไปในอาคารที่ทรุดโทรมไปตามเวลา เมื่อเดินเข้ามาในห้องได้ ก็รีบปิดประตูลงกลอนหลายชั้นอย่างแน่นหนาเท่าที่ตัวฉันจะทำได้ ยังดีที่แดดส่องไม่ค่อยถึง ห้องจึงไม่ค่อยร้อนมากนัก ห้องพักนี้เป็นห้องพัดลม ซึ่งพัดลมที่ว่าก็คือพัดลมเพดาน หาความเย็นไม่ค่อยจะเจอหรอก ฉันเลยซื้อพัดลมตัวเล็กให้ตัวเองอีกหนึ่งตัวไว้คลายร้อน พอกลับมาถึงห้องก็คล้ายกับคนแบตหมด ฉันเดินไปเปิดประตูระเบียงห้องไว้ให้ลมพัดเข้า เป็นเพราะห้องอยู่ชั้นสาม และมีตาข่ายกั้นอยู่หน้าระเบียงจึงกล้าเปิดมันทิ้งไว้ ก่อนจะเดินสะโหลสะเหลไปทิ้งตัวลงนอนบนฟูกนอนอย่างหมดสภาพ พักสักหน่อย แล้วค่อยออกไปทำงานก็แล้วกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD