Oops! เขาหล่อ แต่แปลกนิดหน่อย 9

1109 Words
Oops! เขาหล่อ แต่แปลกนิดหน่อย 9 ฉันรีบเดินผ่านไปยังหอพักของตัวเอง ก่อนจะหยิบเสื้อผ้าชุดทำงานงานใส่กระเป๋ารวมถึงแล็ปท็อปของตัวเองที่หยิบติดมือมาด้วย จัดการอาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จ ก็ออกจากห้องเพื่อเดินทางต่อไปยังห้องของลูกกอล์ฟ ทว่าในระหว่างที่กำลังเดินไปตามถนนอยู่นั้น สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อฉันไม่ทันระวังตัวเพราะมัวแต่รีบเดิน จนทำให้มองไม่เห็นว่าพี่ ๆ ที่ร้านกะเพรากำลังยกตู้อะไรบางอย่างออกมา จนทำให้ฉันชนเข้ากับพี่คนหนึ่งจนหงายหลังล้มลงไปกับพื้น เสียง แกร๊ก ที่ได้ยิน ทำให้ฉันถึงกับตาโตรีบหยิบกระเป๋าด้านหลังขึ้นมาดูอย่างร้อนใจ “เฮ้ย เป็นอะไรไหม ขอโทษ ๆ” พี่คนที่ฉันเดินชนรีบเข้ามาใกล้ แต่ก็ไม่กล้าแตะตัวฉัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เพราะฉันก็ไม่ชอบให้ใครที่ไม่รู้จักมาแตะตัว “ไม่เป็นไรค่ะ หนูไม่ได้ดูทางเอง” รีบบอกพี่ ๆ ก่อนจะเปิดกระเป๋าออกดูแล็ปท็อปตัวเอง ภาวนาให้เสียงที่ได้ยินไม่ใช่เสียงมันตกแตก “อ่า แย่เลย” เสียงพี่คนนั้นเอ่ยพึมพำอย่างเสียใจ เมื่อเห็นฉันเปิดหน้าจอแล็ปท็อป แล้วบริเวณหน้าจอมีลายสีน้ำตาลสลับกับน้ำเงินอยู่เต็มหน้าจอสี่เหลี่ยมนี้ มีเพียงมุมซ้ายล่างที่มองเห็นหน้าเดสก์ท็อป “เกิดอิหยังขึ้นบักหยอย” เสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้ ๆ ก่อนที่พี่ๆ ในร้านอีกสองคนจะเดินเข้ามาสมทบ “กูชนน้องคนนี้ แล้วทำของน้องพัง” “ไม่ใช่หรอกค่ะ หนูเดินไม่ระวังเอง” ฉันรีบบอก พยายามใช้ความเคยชินปิดแล็ปท็อปตัวเองจนหน้าจอดับลง ยังดีที่ฉันสำรองข้อมูลเล่มจบไว้ในไดรฟ์ออนไลน์ ไม่อย่างนั้นนะ ฉันร้องไห้แน่ ๆ “เดี๋ยวพี่จ่ายค่าซ่อมให้ ขอโทษด้วยนะ อ้อ เดี๋ยวเอาเบอร์พี่ไป ค่าซ่อมเท่าไหร่บอกพี่นะ” “ไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะ มันเป็นอุบัติเหตุ...” “เกิดไรขึ้น มายืนทำอะไรกันตรงนี้” ยังคุยกันไม่เข้าใจ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้ ๆ กับจุดที่เราทั้งสี่คนยืนอยู่ ซึ่งเป็นบริเวณหน้าร้าน หันไปมองก็เจอกับผู้ชายคนหนึ่งที่ตัวสูงผิวขาว ใบหน้าหล่อเหลาคล้ายกับหนุ่มลูกครึ่ง และตอนนี้เขาคนนั้นกำลังมองฉันสลับกับพี่ๆ ทั้งสามคนอย่างสงสัย ใช่แล้ว เขาคือเจ้าของร้านกะเพราแปลก ๆ คนนั้นที่ฉันเคยเห็นตอนเลิกงาน แต่วันนี้เขาสวมเพียงเสื้อยืดกางเกงขาสั้น เกือบจะหล่อดูดีอยู่แล้ว หากไม่เหลือบไปเห็นร่มสีชมพูแสบตาในมือเขาเสียก่อน “ลูกพี่ ผมเดินชนน้องเขาแล้วทำโน้ตบุ๊กน้องเขาพัง” “สำรองข้อมูลไว้ไหม?” คนมาใหม่เอ่ยถามฉันพร้อมกับมองอย่างต้องการคำตอบ ฉันจึงพยักหน้าและตอบอีกฝ่ายเสียงเบา เขาไม่เหมือนคนที่ต่อปากต่อคำกับลูกค้าเลยสักนิด ตอนนี้ดูนิ่งๆ แลดูน่าเกรงขาม “สำรองไว้แล้วค่ะ” “อืม จะพาเอาไปซ่อม ถ้าซ่อมไม่ได้เดี๋ยวซื้อให้ใหม่เอง” “ไม่ค่ะไม่ คือไม่เป็นไร จริง ๆ มันก็เก่าแล้ว ไม่ต้องซื้อหรอกค่ะ แต่ตอนนี้หนูต้องไปแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ” ฉันรีบบอกกลุ่มคนตรงหน้าอย่างไม่รู้สึกอะไรจริง ๆ ในขณะเดียวกันโทรศัพท์ก็มีสายเรียกเข้ามาจากแพร จึงรีบบอกกลุ่มคนตรงหน้า แล้วเดินออกมาพร้อมกับรับสายที่โทร. เข้ามาในทันที “แพร” (ซินอยู่ไหนแล้ว? ฉัตรบอกว่าไปทำธุระเลยไม่ได้ไปส่งแก) “กำลังจะไปแล้ว เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยเลยช้า” ระหว่างที่ตอบเพื่อนก็ตั้งใจจะเรียกวินมอเตอร์ไซค์แต่เหมือนจะช้าไป เมื่อฉันถูกดึงมือไว้เสียก่อน ทว่าด้วยความตกใจ จึงเผลอสะบัดมือแล้วหันกลับไปมองเจ้าของมือข้างนั้นที่ถือวิสาสะจับมือฉัน (เฮ้ย! แกเป็นไงบ้าง เจ็บตรงไหนไหม อยู่ตรงไหนเนี่ย เดี๋ยวฉันไปรับ) “ไม่ ๆ ไม่เป็นไรเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะ ตอนนี้กำลังจะรีบไปแล้ว” (แน่ใจนะ?) “อื้อๆ แค่นี้ก่อนนะ ไว้เจอกัน” วางสายจากแพร ก่อนจะหันไปจ้องหน้าคนตัวสูงตรงหน้าอีกครั้ง “มีอะไรหรือเปล่าคะ?” “จะไปส่ง จะได้คุยเรื่องค่าเสียหายด้วย” คนตรงหน้าบอกมาแบบนั้น ฉันก้มมองนาฬิกาอีกครั้งและมองหน้าเขาอย่างชั่งใจ “ไม่ทำอะไรหรอกน่า พยานเห็นตั้งเยอะว่านี่เข้ามาคุยด้วยก่อน ไม่ทำอะไรสิ้นคิดหรอก” เจ้าของร่มสีชมพูแสบตาเอ่ยบอก ราวกับรับรู้ว่าฉันกำลังกลัวและไม่สบายใจที่จะต้องขึ้นรถไปกับเขา “...ก็ได้ค่ะ” ด้วยความเร่งรีบ เพราะกลัวเพื่อนจะรอนาน ฉันจึงตกปากรับคำไป “ไปขึ้นรถสิ” อีกฝ่ายชวนและเดินกลับไปยังลานจอดรถที่ต้องเสียค่าเช่ารายเดือน รถกระบะสี่ประตูสีขาวถูกเปิดประตูด้านหน้าข้างคนขับ แล้วคนที่เปิดก็ขยับตัวออก พลางส่งสายตาบอกให้ฉันขึ้นไปนั่ง “มาได้แล้ว” เจ้าของรถเอ่ยบอกเมื่อเปิดประตูรถแล้วฉันยังมีท่าทีกล้า ๆ กลัว ๆ “ขอบคุณค่ะ” ท้ายที่สุดก็ต้องก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ ภายในรถยังเย็นอยู่เลย ราวกับว่ารถเพิ่งจอดได้ไม่นาน เมื่อปิดประตูรถให้ฉันเสร็จ เจ้าของรถก็เดินเข้ามานั่งฝั่งคนขับแล้วค่อย ๆ ออกรถไป “จะไปไหนล่ะ” “คอนโดฯโบกุ ค่ะ” ฉันตอบคนใจดีที่อาสาไปส่ง “ไปทำไรที่นั่น?” คนที่ขับรถอยู่เอ่ยถามอย่างตั้งใจจะชวนคุย และพอได้มองเขาใกล้ๆ ถึงรู้ว่าผู้ชายคนนี้หน้าเด็กมาก อายุยังไม่เยอะเท่าไหร่เลย แต่ก็ไม่รู้หรอกว่าแท้จริงแล้วคนตรงหน้าอายุเท่าไหร่ “ไปหาเพื่อนค่ะ นัดทำงานที่นั่น” “แล้วจะทำยังไง โน้ตบุ๊กพังนี่” “เดี๋ยวหาข้อมูลในโทรศัพท์ก่อนก็ได้ค่ะ” “จะทำงานกับเพื่อนถึงกี่โมง เสร็จแล้วจะพาไปซ่อม” เขาถามต่อ และในจังหวะที่รถติดไฟแดง เขาก็หันมามองหน้าฉันเล็กน้อย เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเขาก็รีบหันกลับไปมองท้องถนนเบื้องหน้า ที่มีรถจอดเรียงกันอยู่เพราะติดสัญญาณไฟจราจร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD