“หมายถึงพวกเพื่อนนางเอก หรือเอ็กซ์ตร้าเดินผ่านกล้องเหรอครับ”
“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้า
พูดออกไปแล้วอคิราห์ก็รู้สึกโกรธตัวเอง หากเธอจะโลภมากอีกสักหน่อย พยายามออดอ้อนเขาบทใหญ่ ๆ คงไม่พ้นเป็นของเธอ แต่เธอคงไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรในชีวิตเลย เพราะต้องใช้เรือนร่างปรนเปรอคนตรงหน้าไปจนกว่าเขาจะเบื่อ
“อายของผมต้องการมากกว่านั้นนะ” นัยน์ตาสีฟ้ากวาดทั่วใบหน้าสวย ยื่นมือแตะท่อนขาสวย
“อย่าค่ะ”
หญิงสาวปัดฝ่ามือที่ลูบบนเรียวขาออก
“ก็ได้ครับ” อเล็กซ์ลูบปอยผมที่ปรกหน้าหญิงสาว แล้วโน้มตัวหมายจะแนบชิด หากแต่หญิงสาวขยับตัวหลบ ริมฝีปากที่แย้มยิ้มกว้างแต่กลับยกมือดันเขาออกอย่างทันท่วงที ไม่งั้นริมฝีปากแดง ๆ นั่นคงจูบไหล่เธอไปแล้ว
“ผมตามใจอายทุกอย่างเลย ผมจะดูบทเล็ก ๆ ให้แต่ถ้าอยากเป็นนางเอกเมื่อไหร่มาหาผมนะ ผมรับข้อเสนออายได้ทุกข้อ อย่าลืมนะครับ” หนุ่มลูกครึ่งเอ่ยน้ำเสียงอ้อยอิ่ง คว้าฝ่ามือเล็กยกขึ้นจูบแทน
“งั้นวันนี้อายจะช่วยชงเหล้าให้ มากกว่านี้อายไม่รับนะคะ”
“ได้สิครับ ยกเว้นอายจะยินยอมเอง ผมยอมจ่ายอายหมดตัวเลย...” สายตาเว้าวอนสื่อความหมายทำเอาคนฟังขนลุกเกรียวไปทั้งตัว
ใบหน้าหวานฉายแวววิตกเพียงชั่วครู่ ก็รีบส่ายศีรษะเบา ๆ
กังวลเกินไปแล้วก็แค่ชงเหล้า
ร่างบางขยับตัวเข้าใกล้โต๊ะขึ้นอีกนิด เธอคีบน้ำแข็งลงในแก้วแล้วเทน้ำสีอำพันใส่ลงไป อเล็กซ์มองภาพนั้นอย่างพึงพอใจ
“อายก็ดื่มด้วยนะครับ นิด ๆ หน่อย ๆ พอสนุกก็พอครับ อีกเดี๋ยวพอคนอื่น ๆ มาผมคงกวนอายมากไม่ได้”
“ค่ะ” อคิราห์มองแก้วเหล้าที่ถูกยื่นให้ก่อนจะรับมันมาไว้ในมือ “ขอบคุณนะคะ”
นัยน์ตาสีฟ้ามองแก้วแอลกอฮอล์ที่กำลังถูกยกชิดริมฝีปากบางอย่างพึงพอใจ ถ้าเธอดื่มมันนิด ๆ หน่อย ๆ เขาคงจะยกเลิกงานในคืนนี้แล้วใช้เวลาสนุกกับร่างตรงหน้าทั้งคืนก็ได้
พลั่ก!
ประตูที่เปิดพรวดพราดเข้ามาไม่ดูจังหวะ ทำให้อเล็กซ์ได้แต่กัดฟันกรอด อคิราห์เองก็ไวราวกับนกรู้เธอรีบวางแก้วในมือ พลางลุกขึ้นทักทายคนที่เข้ามาใหม่ตามมารยาท หากเผื่อเข้าตาใครบ้างเส้นทางในวงการบันเทิงของเธอคงไปได้ดีกว่านี้
“หึ นึกว่าใคร”
ร่างสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเจ็ดก้าวเข้ามาอย่างมั่นคง ดวงตาเขายังคงเสน่ห์เหลือล้นอยู่เสมอ ฝ่ามือฝ่าเท้าของเธอเย็นเยียบ ขั้วหัวใจถูกน้ำแข็งเกาะกะทันหันจนหายใจไม่ออก ร่างกายเธอเหมือนถูกแช่แข็งเมื่อเห็นคนที่ไม่ควรพบหน้า ปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งในรอบหลายปี
คิมหันต์!
คนควรจะอยู่ต่างประเทศมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
อคิราห์!
เขาจะจำคนที่กกกอกทั้งตอนใส่เสื้อผ้าและตอนเปลือยเปล่าไม่ได้ยังไง เจ้าของเสียงครางแสนหวานที่พาเขาเพ้อเมื่อหลายปีก่อน
ชายหนุ่มกระตุกยิ้ม แสร้งไม่สนใจพลางหันไปคุยกับอเล็กซ์แทน “เรียกมาคนเดียวไม่ใจแคบไปหน่อยเหรอวะ”
“แล้วดาราดังอย่างมึงไม่กลัวเป็นข่าวเหรอ มันจะเป็นเรื่องเอานะไอ้คุณคิม” อเล็กซ์หัวเราะร่วน ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เขาหัวเราะง่ายจนดูจะหัวเราะเยอะเกินไปแล้วเสียด้วยซ้ำ “เข้ามาก่อนสิเดี๋ยวกูเรียกให้”
ดาราเหรอ?
นั่นสินะพ่อเขาเป็นถึงเจ้าพ่อบริษัทสื่อ
“…” นัยน์ตาสีเข้มยังจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าอคิราห์ กลายเป็นคนถูกมองหลุบตาหลบอย่างไม่สบายใจแทน
“มึงชอบแบบไหน”
“แบบคนข้าง ๆ มึงมั้ง”
“อ้าาา” อเล็กซ์ครางอย่างกระอักกระอ่วน เขาและคิมหันต์รู้จักกันผ่านกลุ่มเพื่อนที่อเมริกา แต่ใครจะรู้กลับมายังมีโอกาสจะได้ร่วมงานกัน ช่องของเขาต้องการรายการของบริษัทบิดาคิมหันต์เพื่อมาดึงเรตติ้ง แถมยังมีแผนสร้างละครร่วมกันในอนาคตอีก
แต่หญิงสาวในอ้อมแขนที่สูดกลิ่นไม่เท่าไหร่ หากต้องปล่อยไปก็เสียดายใช่เล่น “อย่าเลยเพื่อน คนนี้ของกูว่ะ”
“ของมึง?”
“เออสิวะ”
“ของที่ใคร ๆ ก็ได้กันทำซะมีค่าเชียว ก็นึกว่าเลิกขายไปแล้ว ยังขายอยู่อีกเหรอ”
น้ำเสียงเหยียดหยามดังขึ้นเท่านั้นอคิราห์ก็ตัวแข็งทื่อ นัยน์ตาเศร้าแสร้งทำเป็นเสแสร้งไม่เข้าใจ
“คุณคงจำคนผิดแล้วค่ะ”
“ไม่ผิดนี่”
“เราเคยเจอกันมาก่อนเหรอคะ เหมือนว่าเรายังไม่เคยร่วมงานกันนะคะ”
ร่างสูงแสยะยิ้มร้ายกาจหากแต่ดวงตากลับฉายแววเย็นชา อคิราห์ไม่ใช่คนเดิมเธอสวยขึ้นแต่นั่นใช่เหตุผลที่ปฏิเสธการรู้จักเขาอย่างหน้าด้านรึไง ชายหนุ่มแสยะยิ้มเขาวางแก้วเหล้าบนโต๊ะอย่างแรง น้ำแข็งเพียงหนึ่งก้อนถูกเทเหล้าลงไปจนท่วม ก่อนเจ้าตัวจะยกจิบอย่างไม่รีบร้อน แล้วถามเธอด้วยน้ำเสียงเย็น “หมายความว่าแขกเยอะ จนจำไม่ได้เหรอว่าขายให้ใครไปบ้าง”
!!!