“...” เขาเป็นมนุษย์ที่ยั่วโมโหได้เก่งมาก เกลียดตอนที่ยิ้มแล้วหัวเราะขึ้นจมูกหลุดออกมาเหมือนพวกมาเฟียในหนัง ตอนนี้แค่เห็นหน้าเขาอารมณ์ของฉันมันก็พุ่งปรี๊ดจนต้องเบือนหน้าไปมองทางอื่นแทน
“บัตรนักศึกษามันไปทำใหม่ได้ เธอคงรู้อยู่แล้วนะ”
“…” ฉันเงียบ เพราะว่าเขาดันมารู้ความคิดที่เคยผุดขึ้นมาในหัวเมื่อเช้า
“ค่ะ ก็รู้”
“แต่เธอจะทำไม่ได้ จนกว่าจะเอาเงินมาใช้ฉันจนหมด”
“ค่ะ จะรีบหามาใช้”
“งวดแรกเมื่อไหร่”
“ไม่รู้ หนูบอกแล้วว่ากำลังจะไปทำงาน ถ้าพี่ยังถ่วงเวลาแบบนี้หนูคงไม่มีเงินมาจ่ายแน่” ฉันพูดความจริงไม่ได้โกหก เพราะตอนนี้เวลามันเดินมาเกือบหนึ่งทุ่มแล้ว คืนนี้คงโดนผู้จัดการร้านดุอีกแน่
“งั้นก็เชิญ อีกสามวันมาจ่ายด้วย ที่นี่ตอนเย็นไม่เกินหกโมง ฉันจะรอ”
“ค่ะ” ฉันรับปากแล้วก็เดินออกมา
พอก้าวพ้นประตูบานนั้น ก็เหมือนหลุดออกมาอยู่อีกโลกหนึ่ง เพราะห้องนั้นมันเต็มไปด้วยแรงกดดันจนน่าอึดอัด รีบสูดอากาศเข้าเต็มปอดก่อนจะนึกได้ว่าตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีจึงสลัดเรื่องบ้า ๆ น่าโมโหนั้นออกไปแล้วรีบไปทำงานของตัวเอง
ฉันเรียกรถออกมาจากมหาวิทยาลัยตรงไปยังร้านที่ทำงานอยู่ ที่นี่เป็นร้านเหล้าแบบนั่งดื่ม บรรยากาศค่อนข้างดีเลยทีเดียว เป็นร้านที่ไม่ใหญ่แต่ก็ไม่เล็กมาก ผู้จัดการร้านชื่อว่าพี่สา แกเป็นคนใจดีมากกับพนักงานทุกคน แต่ฉันก็ไม่ได้คิดว่าจะใช้ความใจดีของแกเอาเปรียบอะไรหรอก วันนี้มันจำเป็นจริง ๆ ที่ต้องเข้าร่วมกิจกรรมของคณะแกก็เข้าใจดี
“สวัสดีค่ะพี่สา ขอโทษที่มาช้านะคะพอดีติดทำธุระให้รุ่นพี่ชมรม”
“ไม่เป็นไรจ้ะ ลูกค้าเพิ่งทยอยเข้าร้าน ค้างไปดูเลย”
ฉันโค้งศีรษะให้เพื่อรับคำสั่ง เดินไปเปลี่ยนชุดที่เป็นเดรสรัดรูปสีดำซึ่งเป็นยูนิฟอร์มของร้าน แต่ละวันจะใส่ไม่เหมือนกัน หรือบางวันที่เป็นวันพิเศษของร้านก็จะมีแจ้งให้พนักงานเตรียมชุดนอกเหนือจากที่ร้านมีให้
ในแต่ละวันจะมีพนักงานหญิงและชาย บริการลูกค้าอยู่ราว ๆ สิบคน ถ้าเป็นวันศุกร์และเสาร์จะเรียกให้มาสิบห้าคน หรือถ้าวันไหนที่ร้านมีกิจกรรมพิเศษพนักงานของร้านก็อาจจะต้องมาทุกคนเลย ส่วนใหญ่พนักงานของร้านก็เป็นนักศึกษาเหมือนกับฉัน แต่มีคนที่อายุน้อยสุดเท่ากับฉันแค่คนเดียวนั่นคือหมวย
“ค้าง มาแล้วเหรอ”
หมวยเรียนอยู่คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกัน เป็นคนที่ฉันสนิทที่สุดในหมู่พนักงานเพราะอายุเราเท่ากัน กิจกรรมในมหาวิทยาลัยของเราก็ไม่ได้ต่างกันนัก ดังนั้นพวกเราจึงลงเวลาและเลือกวันทำงานให้ตรงกัน ส่วนนิสัยของหมวยเท่าที่ฉันรู้จักมาเธอก็เป็นคนที่ดีคนหนึ่งเลย
“โดนรุ่นพี่ใช้งานนิดหน่อยเลยมาช้า”
“วันนี้ลูกค้าน้อย ไม่เป็นไรหรอก”
เพราะวันนี้เป็นวันจันทร์และลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านนี้ก็เป็นนักศึกษา ไม่แปลกที่วันนี้จะไม่ค่อยมีคนมาเที่ยว แต่ถ้าเป็นวันศุกร์หรือเสาร์ล่ะก็บอกเลยว่าพวกเราเดินจนขาแทบฉีกแน่
“หมวย เราว่าจะขอพี่สาเพิ่มวันทำงานให้ จะได้ไหมนะ”
“ได้ยินว่าพี่แพงกับพี่กุ๊บกิ๊บจะออกสิ้นเดือนพอดี น่าจะได้นะ”
“งั้นเดี๋ยวจะลองไปถามพี่สาดู”
ฉันพยักหน้ารับรู้พลางยิ้มให้หมวยก่อนจะเดินไปรับลูกค้าที่กำลังเดินเข้ามาในร้าน หน้าที่ของพวกเราก็คือรับออเดอร์จากลูกค้า เอาเครื่องดื่มที่พวกเขาสั่งมาบริการ คอยดูว่าเขาจะสั่งอะไรเพิ่มและเก็บเงินเท่านั้น จะไม่มีการนั่งดื่มกับลูกค้าหรือเอนเตอร์เทน เพราะส่วนนั้นจะมีพนักงานบริการอยู่แล้วหากลูกค้าต้องการ
กฎสำคัญของร้านก็คือพนักงานอย่างพวกเราห้ามนั่งดื่มกับลูกค้า เพราะนั่นจะทำให้เสียงาน เป็นเรื่องที่พี่สาเน้นย้ำมากที่สุด แต่ถ้าลูกค้าขอและไม่สามารถปฏิเสธได้ก็แค่แกล้งดื่มตามมารยาท
“ทำไมถึงจะเพิ่มวันทำงานล่ะ จะไหวเหรอนอนดึกทุกวันเลยนะ”
“มีเรื่องต้องใช้เงินน่ะ”
“งั้นเราทำเป็นเพื่อน เพราะยังไงพวกพี่เขาก็ออกพร้อมกันสองคน” หมวยบอกแล้วยิ้ม
“จะหาเงินซื้อมือถือใหม่ ฮ่า ๆ”
“ขอบคุณนะเพื่อนคนสวย” ฉันรวบเอวหมวยมากอดเป็นการขอบคุณแล้วยิ้มให้ ถึงแม้ชีวิตจะไม่ได้เกิดมาเจอเรื่องดี ๆ มากมายอย่างคนอื่นแต่ฉันก็เจอแต่มิตรภาพดี ๆ ที่น่าอิจฉาแล้วกัน
ช่วงสองถึงสามทุ่มจะมีลูกค้าทยอยเข้ามาเยอะมากกว่าเวลาอื่น มันเป็นอย่างนี้ทุกวัน แต่วันนี้คนก็ดูบางตากว่าวันหยุดอยู่ดี ฉันเลือกดูแลโซนกลางส่วนหมวยก็จะอยู่ใกล้ ๆ กันนี้
ครู่ใหญ่ฉันก็เห็นว่ามีผู้ชายกลุ่มหนึ่งมานั่งโซนที่ฉันกับหมวยยืนอยู่ใกล้ที่สุด พวกเขามาด้วยกันราวสี่ถึงห้าคน ทีแรกก็ไม่ได้เอะใจอะไรแต่พอเดินมาใกล้เท่านั้นแหละฉันแทบจะถอยหลังกลับไปยืนที่เดิม
แต่มันไม่ทันเสียแล้ว เพราะคนพวกนั้นกำลังหันมามองฉันกันหมด หนึ่งในนั้นคือพี่ฟิวส์ ไอ้นายกสโมสรคู่กรณีของฉัน ส่วนที่เหลือคือเพื่อนของเขาที่ฉันจำได้ว่าเพิ่งเห็นหน้าพวกเขาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว
“สะ...สั่ง อะไรดีคะ” ฉันถามออกไป แต่เสียงที่ดังออกมามันกลับสั่นโดยไม่ได้ตั้งใจ
พี่ฟิวส์จ้องหน้าฉันพร้อมกับคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน สายตาคมคู่นั้นเลื่อนตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนที่เขาจะเลื่อนสายตาคู่นั้นกลับมามองที่หน้าของฉันอีกที ถึงแม้ว่าแววตาของเขาจะไม่ได้แสดงความรู้สึกใดออกมา ทว่ามันกลับทำให้ฉันรู้สึกประหม่าเหลือเกิน
สงสัย สมเพช ดูถูก
ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้ชายคนนั้นกำลังคิดแบบไหน ทำไมต้องมองขนาดนั้น
“เอา XXX หกขวด น้ำแข็งหนึ่งครับคนสวย” หนึ่งในรุ่นพี่กลุ่มนั้นเอ่ยพอมองคนพูดก็เห็นว่าเป็นรุ่นพี่คณะตัวเอง ท่าทางเขาดูเจ้าชู้
“ค่ะ” ฉันรีบหันหลังกลับมาเพื่อที่จะได้ออกห่างแต่เสียงหนึ่งก็เรียกไว้
“เดี๋ยว !”
คนที่เรียกไว้ไม่ใช่ใครเพราะดูจากสายตาของเขาที่มองมากับสายตาที่เพื่อนทั้งโต๊ะมองเขาอยู่รู้เลยว่าเป็นพี่ฟิวส์
“สั่งอะไรเพิ่มดีคะ” ฉันปั้นยิ้ม พยายามจะไม่แสดงให้อีกฝ่ายรู้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกยังไง
“XXX อีกขวด กับน้ำเปล่า”
“ค่ะ”