bc

แพ้รักนายรุ่นพี่

book_age18+
4.8K
FOLLOW
26.3K
READ
family
HE
goodgirl
sweet
bxg
highschool
assistant
like
intro-logo
Blurb

“ค้างนอนดิ้นนะ จะรบกวนพี่ฟิวส์ไหม”..... “เดี๋ยวจะกอดไว้ไม่ให้ดิ้นเลย”

chap-preview
Free preview
Intro
บทนำ “ให้เธอได้กับเขาแล้วจงโชคดี อย่ามี อะไรให้เสียจาย...” “ไหวไหมวะน้ำค้าง ฉันว่ารีบพามันกลับเถอะ” “เรียกรถแล้ว เดี๋ยวเราไปรอตรงนั้น” ฉันบอกหนึ่งในเพื่อนสนิทที่คบกันตั้งแต่มาเรียนมหาวิทยาลัย ส่วนอีกคนที่กำลังเมาหัวทิ่มอยู่นั้นคือ ระริน เราสามคนเรียนอยู่คณะนิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 สนิทกันมากที่สุดก็คงมีแค่นี้ ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ ก็พอมีไปไหนมาไหนด้วยกันบ้างส่วนมากก็ไปด้วยกันเพราะทำงานเป็นกลุ่ม เราเรียนอยู่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่ติดอันดับท็อปทุกโพล ค่าเทอมแพงในระดับหนึ่งแต่ที่ฉันเข้ามาเรียนได้เพราะสอบชิงทุนจากผู้ใหญ่ใจดี ซึ่งฉันเองก็รู้จักแค่ชื่อ ลำพังตัวฉันคงไม่สามารถจ่ายค่าเทอมแพงๆ แบบนี้ได้หรอก เพราะฉันอาศัยอยู่กับยายและน้องชายอีกคน ยายขายขนมไทยเลี้ยงดูเราและส่งเสียให้เรียนในโรงเรียนรัฐบาลจนจบก็ถือว่าท่านเก่งมากแล้ว พอขึ้นมหาวิทยาลัยฉันก็ต้องทำงานพิเศษเพื่อแบ่งเบาภาระของท่านด้วย เพราะตอนนี้ ‘น้ำหนาว’ น้องชายของฉันที่เรียนอยู่ชั้นมอห้า กำลังหาที่เรียนพิเศษเพราะอยากสอบติดคณะที่ตัวเองใฝ่ฝัน ครืด~ ครืด~ “จิน แกพาระรินข้ามไปรอฝั่งนู้นเลย” ฉันบอกเพื่อนแล้วก็ล้วงเอามือถือขึ้นมากดรับสายจากน้องชายตัวเอง “ว่ายังไงหนาว” (พี่ค้างอยู่ไหน) “อยู่ข้างนอกกับเพื่อน แต่กำลังจะกลับหอแล้ว มีอะไรหรือเปล่า” ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มกว่า ปกติฉันไม่ได้ออกมาข้างนอกจนดึกดื่นอย่างนี้หรอกเพราะไม่ใช่คนชอบเที่ยวอะไร จะมีก็แค่ออกไปทำงานร้านเหล้าซึ่งเป็นงานพิเศษที่ทำอยู่ตอนนี้ อีกอย่างอายุพวกเราก็ไม่ใช่ว่าจะเข้าร้านเหล้าได้ นอกเสียจากว่าแอบเข้าเพราะมีคนที่ยัยจินมันรู้จักอย่างวันนี้ เพราะระรินอกหักรักคุดจากรุ่นพี่ที่มันแอบชอบมา (วันศุกร์นี้ผมต้องไปนอนบ้านเพื่อนพี่ค้างจะกลับมานอนกับยายไหม) “...กลับ ไม่น่าจะมีกิจกรรมอะไร” เพราะช่วงเทอมหนึ่งที่ผ่านมานี้กิจกรรมของคณะค่อนข้างเยอะพอสมควร ส่วนเทอมสองนี้ก็มีเพลาๆ ลงบ้างแต่ก็เหลือกิจกรรมของชมรมที่พวกเราเข้าร่วมกันเพราะถูกรุ่นพี่ในคณะชักชวน (โอเค...) “มีอะไรหรือเปล่า” ฉันถามน้องเมื่อรู้สึกได้ว่าน้ำหนาวอยากจะพูดอะไรหรือมีเรื่องลำบากใจบางอย่าง (ผมไม่กล้าขอเงินยาย กลัวยายจะไม่มีให้) “เดี๋ยวพี่เอาให้ เงินพี่ออกพรุ่งนี้ เอาไว้ติดตัว” (...ขอบคุณครับ ผมรักพี่นะ) “ที่เรื่องตังละปากหวานเชียว” ฉันแซวน้องแล้วเผลอยิ้มออกมาคนเดียว แล้วสายตาก็เห็นว่ายัยจินกำลังโบกมือให้เป็นสัญญาณว่ารถกำลังมาถึงแล้ว ฉันจึงรีบเดินข้ามถนนตามพวกมันไป เอี๊ยด!! เพราะมัวแต่ดูยัยสองคนนั้นกับคุยโทรศัพท์ทำให้ฉันไม่ระวังมองเห็นรถที่กำลังแล่นมา เสียงล้อรถบิ๊กไบก์คันใหญ่ที่บดกับถนนสร้างความตกใจจนต้องหันไปมอง รถคันนั้นที่วิ่งมาด้วยความเร็วก่อนหักหลบตัวฉันไปจนทำให้ตัวเองเสียหลักล้มลงข้างทาง ที่เป็นโพลงหญ้าสีเขียวกลุ่มหนึ่ง วินาทีนั้นมันทั้งตกใจและกลัวจนขาขยับไม่ได้ ทั้งมือทั้งขามันแข็งทื่อไปหมด “ยัยน้ำค้าง!!” (พี่ค้างเป็นอะไรไป พี่!) เสียงของยัยจินและเสียงจากปลายสายเรียกสติของฉันแต่ก็กลับคืนมาไม่หมด จากที่ร่างกายแข็งทื่อตอนนี้มันเริ่มสั่น สายตาจับจ้องไปที่รถคันนั้นที่ล้มอยู่ พอตั้งสติได้ฉันก็รีบบอกกับน้องว่าไม่เป็นอะไรก่อนจะตัดสายแล้ววิ่งไปดูคนที่กำลังเจ็บ “คุณ...เป็นอะไรไหมคะ” “อืม...” ชายคนนั้นครางเบาๆ ในลำคอแล้วพยายามหยัดตัวลุกขึ้น เขาสวมเสื้อและกางเกงยาวทั้งชุดสวมถุงมือและหมวกกันน็อคแบบปิดทั้งหน้าจนมองเห็นแค่ตา แต่แค่นั้นก็ทำให้ฉันตัวชาวาบเมื่อเขาตวัดสายตาคู่นั้นมองมาพร้อมกับก้าวขายาวๆ ราวกับนายแบบนั้นตรงมาหาฉัน “ยัยน้ำค้าง เป็นอะไรไหม เอ่อ...” จินทิ้งระรินนั่งตรงนั้นแล้ววิ่งมาหาฉันอย่างกังวลแต่พอเจอสายตาอำมหิตจากอีกฝ่ายตรงหน้า มันก็นิ่งค้างไปไม่ต่างกัน “จะข้ามถนนทำไมไม่มองรถวะ!” “ขะ...ขอโทษจริงๆ ค่ะ คุณเจ็บตรงไหนไหม ไปโรงพยาบาลดีไหม” “ไม่ตายก็บุญแล้วมั้ง” น้ำเสียงหงุดหงิดนั้นทำให้ฉันไม่กล้าพูดอะไรต่อ จะบอกว่าขอรับผิดชอบทั้งหมดก็ไม่กล้าพูดได้เต็มปากเพราะฉันมีปัญหาเรื่องการเงินมาโดยตลอด ทำงานเสริมก็แค่พอใช้จ่ายของตัวเองช่วงเรียน เขาเดินไปดูรถของตัวเองก่อนจะดึงถุงมือข้างหนึ่งออกแล้วเอาโทรศัพท์ออกมาโทรหาใครบางคนแล้วจึงเดินกับมาหาฉันแล้วสั่งเรียบ “เอาบัตรมา เบอร์โทรด้วย” ฉันฝืนใจหยิบเอากระเป๋าของตัวเองออกมาหยิบบัตรประชาชนและบัตรนักศึกษาที่มันติดมาด้วยแล้วยื่นมันไปให้เขา เผื่อว่าเขาจะเห็นใจที่ฉันยังเป็นนักศึกษาอยู่ จะได้รู้ว่าฉันไม่มีปัญญารับผิดชอบรถราคาแพงของเขาแน่ “แล้วรถเป็นอะไรมากไหมคะ” เขาไม่ตอบ ดึงบัตรทั้งสองใบของฉันไปถ่ายรูปก่อนจะคืนบัตรประชาชนมาให้ ย้ำว่าแค่บัตรประชาชนใบเดียว ส่วนบัตรนักศึกษาเขายัดมันลงกระเป๋าหลังของตัว “บัตรนักศึกษาหนูค่ะ” “ฉันต้องใช้เผื่อเธอทำเนียนหาย เอาเบอร์มาด้วยฉันจะให้ประกันติดต่อไป” “แต่หนูคงไม่มีปัญญาจ่าย” “พวกเรายังเป็นนักศึกษาอยู่เลยค่ะ ขอโทษแทนเพื่อนหนูด้วยนะคะพี่” ยัยจินที่เงียบไปนานรีบพูดเพื่อช่วยฉันบ้าง “...” เขามองฉันกับเพื่อนผ่านหมวกกันน็อคใบนั้นนิ่ง ไม่รู้ว่ากำลังตำหนิด้วยคำไหนในใจ จนต้องหลบสายตาแล้วขอโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาก่อนจะบอกเบอร์ของตัวเองไป “คราวหลังก็หัดระวังหน่อย เดี๋ยวก็ได้ตายเพราะคุยโทรศัพท์” พูดจบเขาก็เดินกลับไปที่รถก่อนที่จะมีรถซุปเปอร์คาร์ของใครบางคนแล่นมาจอดเทียบข้างทาง ผู้ชายที่รุปร่างหน้าตาดีคนหนึ่งลงจากรถก็หันมามองพวกเราแวบหนึ่งแล้วเดินไปหาคู่กรณีของฉัน “พวกหนูขอกลับก่อนนะคะ ถ้ายังไงพี่ติดต่อมาหน่อย” “อืม อย่าหนีแล้วกัน” เขาพูดแล้วก็มองฉันด้วยหางตา ส่วนเพื่อนเขาที่หน้าตาดีมากๆ นั้นก็มองพวกเราด้วยสายตาที่ไม่ต่างกันนัก นั่นคือสายตาตำหนิ ฉันไม่ได้อยากหนีปัญหาหรอกแต่อยู่ไปก็เหมือนจะช่วยอะไรไม่ได้แถมยังโดนมองแรงจนรู้สึกไม่ดี ขนาดเห็นแค่ตายังขนาดนี้ดีแล้วที่ไม่ยอมถอดหมวกนั่น “ไม่หนีหรอกค่ะ ไม่ต้องห่วง ถ้าหนีก็ตามจากบัตรได้เลย” “...” เขาปรายตามองแล้วก็หันกลับไปคุยกับเพื่อน “กลับกันเถอะน้ำค้าง” จินกระซิบแล้วรีบดึงแขนฉันออกมาจากตรงนั้น ส่วนระรินไม่รู้เรื่องอะไรเลย นั่งร้องเพลงอกหักอยู่คนเดียวตรงฟุตบาท ยังดีรถที่เรียกมานั้นรอเราสามคนอยู่ ไม่อย่างนั้นคงได้ลำบากใจอยู่ตรงนี้อีกนานแน่ ---------------

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.0K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
37.2K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
12.8K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
11.7K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
3.6K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook