11.35 นาที
“ไอ้บอย มึงจะรีบไปไหนวะ”
หลังจากอาจารย์ปล่อยผมก็เห็นของใส่กระเป๋าสะพายแล้วก็ถือไอแพดเดินออกมาจากห้อง เพราะจะรีบไปรับยัยตัวแสบ แล้วถ้าไปช้าแล้วยัยนั่นหิวข้าวเขาก็จะงอแงอีก พอได้ยินเพื่อนถามผมเลยหันไปตอบพวกมันแล้วไอ้เพื่อนเลวมันก็พากันหัวเราะออกมา
“กูก็รีบไปรับเมียกูสิ ไปรับช้าเดี๋ยวมันหิวกูก็งานเข้าอีก”
“พรืด กูว่าแยมมันก็ปกตินะ มึงนั้นแหละที่ชอบโอเวอร์”
“เออ เวลามันงอลมันงอลกูไม่ได้งอลพวกมึงนิ กว่าจะง้อให้มันหายไม่ใช่เรื่องง่ายๆ”
“ไอ้บอย กูถามมึงจริงๆ เถอะนะ มึงกลัวแยมขนาดนี้แล้วอาการมึงหนักมากๆ เพราะว่ามึงแอบชอบแยมมานานแล้วใช่ไหม”
ผมมองเพื่อนผมก่อนจะพยักหน้าแล้วก็ตอบมันออกไปตามความรู้สึกตัวเองที่รู้สึกกับยับตัวแสบมานานมากแล้ว แต่มันติดที่ว่าเวลาจะบอกชอบปากมันพูดออก
“อือ”
“เชี้ยยย นั่นไง กูว่าแล้วทำไมอาการแม่งหนักตลอด”
“แล้วมึงได้บอกแยมยัง”
“ต้องบอกด้วยเหรอวะ ทุกวันนี้กูก็ว่าการกระทำของกูแม่งก็ชัดเจนไปแล้วนะ”
ผมถามไอ้พวกนี้ออกไปแบบงงๆ แล้วตอนนี้ผมก็ยืนคุยกันอยู่ใต้ต้นไม้หลังเดินลงมาจากตึก และแน่นอนว่ากับคำถามนี้ผมเองก็จริงจังกับคำตอบมากๆ เหมือนกัน แล้วพอได้ยินพวกมันตอบกลับมาก็ทำให้ผมเห็นด้วย
“เอ้า ก็ต้องบอกสิวะ ไม่งั้นแยมมันจะรู้ได้ไงว่ามึงชอบ มึงหาโอกาสดีๆ แล้วบอกเลย”
“เออ กูเห็นด้วย มึงกับแยมรู้จักกันมานานตั้งแต่มัธยมบางทีแยมมันอาจจะคิดว่ามึงไม่ได้คิดอะไรกับมันก็ได้ เพราะสนิทเลยทำทุกอย่างเหมือนเป็นเรื่องที่เคยชินอะ”
“อืม เดี๋ยววันนี้กูกลับไปแล้วบอกเลย”
“ห๊ะ!! ไอ้บอย มึงทำไมเร็วทุกอย่างเลยวะ”
“อ้าว แล้วทำไมต้องช้า กูรักเมียกูก็แค่บอกไป บอกวันไหนกูก็รักมันอยู่ดี”
“ง้วววววว พี่บอยรักเดียว”
“ไอ้เพื่อนเลว เออ พรุ่งนี้กูว่าจะพาเมียกูไปเที่ยวงานฤดูหนาวที่ลพบุรีพวกมึงไปด้วยกันปะ”
“มันจะรบกวนเวลาหวานๆ ของคู่มึงไหมล่ะ”
“จะมารบกวนอะไร ยังไงกูก็เดินจับมือเมียกูอยู่ละ”
“ไอ้บอย เรื่องที่กูจะทำโล่ให้มึงพวกกูไม่เคยพูดเล่นเลยจริงๆ”
“พวกชั่ว แล้วจะไปไม่ไป ถ้าไม่ไปกูจะได้ไม่ต้องรอ”
“ไปครับผม”
“เออ ก็แค่เนี่ย กูไปละ เจอกันพรุ่งนี้ แล้วเหมือนเมียกูมันบอกว่าเขาใส่ชุดไทยกันด้วยมั้ง”
“แล้วมึงจะใส่ไหม”
“คงไม่หรอก เมียกูมันคงจะแต่งเผื่อกูแล้วแหละ ยังไงจะบอกอีกที กูไปละ”
“เออๆ ว่าแต่ มึงไม่อยู่กินข้าวก่อนเหรอวะ อย่ากลัวเมียดิวะ”
“ถ้ากินข้าวกับมึงถึงบ้านเมื่อไรเมียกูมันคงจะกินหัวกู”
“ฮ่าๆ แม่งโคตรได้”
ฉันกับเพื่อนพากันลงมาจากตึกหลังเลิกเรียน แล้วพอเดินมาข้างหน้าคณะใต้ร่มไม้มองไปตรงถนนก็เห็นรถของคนตัวสูงขับเข้ามาพอดี พอเขาจอดรถเสร็จก็เดินลงมาหาฉันที่ตอนนี้ยืนอยู่กับเพื่อนๆ
“อือหื้อ ผัวมึงเหมือนรู้เนาะ สงสัยกลุ่มเราต้องเสียสมากชิกไปหนึ่งคนแล้วแหละ ดูอาการของพี่บอยแล้วก็หวงมึงเหมือนไข่ในหินแน่ๆ อิแยมเอ๊ย”
“รอนานหรือยัง”
ผมขับรถเข้ามาที่หน้าคณะแล้วก็เห็นยัยตัวแสบยืนอยู่กับเพื่อนเลยรีบลงจากรถแล้วก็เดินเข้ามาหาพร้อมถามร่างบางออกไป
“ยัง เพิ่งลงมาเมื่อกี้ อาจารย์เพิ่งปล่อย”
“อืม แล้วหิวข้าวยัง”
“ก็นิดๆ”
“ปะ งั้นไปหาอะไรกิน นี่ แล้วพวกมึงได้ล้อเมียกูหรือเปล่า”
ฉันมองคนตัวสูงที่จับมือฉันเอาไว้ก่อนจะหันไปถามเพื่อน แล้วกลุ่มฉันคือคบกันมาตั้งแต่มัธยมอะ มีเพื่อนใหม่เพิ่มมาแค่สองคน แล้วกลุ่มฉันกับเขาก่อนหน้านี้คือสนิทกันมาก เพื่อนฉันมันเลยมองบนแล้วก็ตอบคนตัวสูงออกไปซึ่งฉันก็ได้แต่หัวเราะออกมาเบาๆ
“โอ๊ย ใครจะกล้าแกล้งตุ๊กตาตัวโปรดของพี่ล่ะคะ”
“เออออ นี่ ไอ้บอย พอมีเมียแล้วมึงคลั่งรักเมียจังวะ ตอนกูเห็นมึงโพสต์กูขยี้ตาดูแล้วดูอีกอะว่าใช่มึงหรือเปล่า”
ผมมองเพื่อนยัยตัวแสบก่อนจะยิ้มที่มุมปากแล้วก็ตอบพวกมันไปแบบกวนๆ
“ก็ไม่ได้อะนะ พอดีกูมีเมียแล้ว กูก็ต้องรักต้องหลงเมียกูสิ”
“อือหื้อ ให้ตายเถอะ ความรักทำให้เพื่อนกูเปลี่ยนไป๊ เมื่อก่อนเพื่อนหนูมันไม่ใช่แบบนี้เจ้าค่ะ”
“เอ้า คนเขามีเมียก็ต้องเป็นคนที่ดีขึ้นเว้ย ว่าแต่ พวกมึงหนาวปะวะ”
“ทำไมวะ”
“เอ้า เห็นโพสต์นอนขวดเหล้ากันทุกวัน”
“บอย นิสัย”
“อร้ายย พระแม่เจ้าขา ลงโทษมันเลยเจ้าค่ะ”
“หึหึ กูไปละ เดี๋ยวจะมากวนพวกมึงใหม่ ตอนนี้ต้องรีบพาเมียกูไปกินข้าวก่อนเดี๋ยวโรคกระเพาะถามหา”
“จ้า ไปเถอะจ้า ยิ่งอยู่กูไม่รู้จะพูดสู้อะไรมึงได้ ว่าแต่ พี่บอยไม่ปากหมาแล้วเหรอคะ”
“แค่กับเมียครับ คนอื่นเหมือนเดิม”
“โอโหหหหห ขอร้องงงงง มึงหยุดคลั่งเมียมึงให้พวกกูรู้สึกอิจฉาสักทีเถอะค่ะ”
“หึหึ พวกมึงก็ชอบส่งให้กูตอบเองอะ”
อืม หลังจากคนตัวสูงต่อสู้ด้วยคำพูดกับเพื่อนของฉันจากนั้นเขาก็พาฉันเดินมาที่รถพร้อมเปิดประตูฝั่งคนนั่งให้ พอฉันเข้ามานั่งคนตัวสูงก็ปิดประตูก่อนจะเดินอ้อมมานั่งฝั่งคนขับและถามฉันขึ้นมา
“แล้วอยากกินอะไร จะไปกินที่ไหน”
“อยากกินปลาหมึกย่างร้านประจำที่เยาวราชอะ แต่กว่าเขาจะเปิดขายก็อีกหลายชั่วโมง”
“ไปดูที่ห้างปะล่ะ ร้านนั้นที่เคยลองไปซื้ออะ”
“ร้านนั้นน้ำจิ้มไม่ค่อยอร่อยอะ ไปห้างก็ได้ เดี๋ยวซื้อมาทำกินเอง เตาก็มี”
“เคร”
ผมพยักหน้าจากนั้นก็ขับรถออกมาจากมหาวิทยาลัยตรงไปที่ห้างสรรพสินค้า พอมาถึงห้างผมก็นึกขึ้นมาได้เลยบอกยัยตัวแสบที่กำลังจะเลือกของตรงโซนของสด
“เดี๋ยวฉันมานะ ไปซื้อของแป๊บหนึ่ง ถ้าซื้อเสร็จแล้วก็รออยู่แถวนี้ก่อนนะ”
“แล้วจะไปซื้ออะไร”
“ของสำคัญ เดี๋ยวมา”
“อือ”
ฉันพยักหน้าแล้วก็มองอาการของคนตัวสูงที่ดูมีลับลมคมใน แต่เขาอาจจะไปซื้อของใช้ส่วนตัวนั่นแหละมั้ง ฉันก็เลยหันกลับมาสนใจเลือกซื้อของ ตอนแรกก็ว่าจะทำแค่ปลาหมึกย่างแต่พอเริ่มหิวก็อยากกินหลายอย่างมากขึ้นมาเรื่อยๆ
“เดี๋ยวนายนั่นมาไปซื้อพิซซ่ากับไก่ทอดดีกว่า น้ำอัดลมจ๋าแม่มาหาหนูแล้ว เอาไปหลายๆ ขวดเลย มันต้องฟินมากแน่ๆ เลยอะ อืม ขนมด้วย”
ใช่ค่ะ ตอนนี้ฉันหิวมากอะไรที่อยากกินก็หยิบมาใส่รถเต็มไปหมด แล้วอะไรพวกนี้มันก็เก็บเอาไว้กินวันอื่นได้ บางทีอาจจะชวนเพื่อนเขากับเพื่อนฉันมากินด้วยกัน เพราะเพื่อนเขาก็อยู่คอนโดเดียวกันกับคนตัวสูงห้องติดกัน เพื่อนฉันก็อยู่คอนโดที่ฉันเคยอยู่ขับรถแป๊บเดียวก็ถึง
“ใส่หลังรถเลยครับ”
“ได้ค่ะ”
ผมเดินไปสั่งซื้อดอกกุหลาบช่อใหญ่มาช่อหนึ่ง 999 ดอก สีกระดาษที่ห่อเป็นสีดำซึ่งสีกุหลาบที่ผมเลือกก็คือสีแดง แล้วก็มีตุ๊กตามีตัวใหญ่สองตัว กล่องกระเป๋าอีกสองใบ พอจัดการของเสร็จเรียบร้อยก็รีบเดินเข้ามาหายัยตัวแสบที่ห้าง พอเดินเข้ามาก็เห็นเมียผมมันยืนอยู่ช้างรถเข็นแล้วก็ยืนกอดอกส่วนในมือก็มีแก้วชานมอยู่ ผมเลยเดินเข้าไปหาพร้อมถามออกไป
“รอนานยัง”
“ก็พอได้ อะ น้ำ”
ฉันส่งแก้วชาไข่มุกให้คนตัวสูงไปแก้วหนึ่งแล้วก็ดูดของตัวเองไปด้วย ซึ่งร้านที่ฉันไปซื้อก็อยู่แถวๆ นี้แหละ แต่ไม่ได้เข็นรถไปหรอกนะ เอาวางไว้ตรงใกล้ๆ โซนที่พนักงานพอจะเห็นและมหาเกะกะคนอื่นพอซื้อเสร็จก็เดินกลับมา ส่วนไก่ทอดกับพิซซ่าฉันก็สั่งแบบเดลิเวรี่ ตอนนี้เขาก็เอามาส่งให้เรียบร้อยละ
“ปะ งั้นกลับกัน”
“อือ ปะ”
ผมถือของทุกอย่างแล้วก็พากันเดินมาที่รถ พอเอาของใส่ตรงเบาะหลังเสร็จก็เดินอ้อมมานั่งฝั่งคนขับและขับออกมาจากห้าง พอนึกขึ้นมาได้ผมเลยถามยัยตัวแสบออกไป
“แล้วถ้าเรียนจบเธอจะกลับไปอยู่บ้านหรือจะอยู่นี่”
“ทำไมอะ”
ฉันที่ตอนแรกก็กำลังสนใจไข่มุกในแก้วพอได้ยินเขาถามฉันก็เลยหันไปมองคนตัวสูงแบบงงๆ
“เอออ ตอบมาเถอะ”
“ไม่รู้อะ มันมีข้อดีกับข้อเสียต่างกัน ในกรุงเทพฯ มันวุ่นวายก็จริงแต่ความเจริญและความสะดวกสบายก็ยืนหนึ่ง แต่ก็อยากกลับไปอยู่บ้านเหมือนกันนะ เพราะเรียนที่นี่สี่ปีก็เบื่อแล้วเหมือนกัน”
ผมขมวดคิ้วหลังได้ยินยัยตัวแสบตอบกลับมา ก็คือ เหมือนเมียผมมันก็ยังตัดสินใจไม่ได้ ผมเลยถามร่างบางกลับไปอีกครั้ง เพราะผมจะได้วางแผนหลังจากนี้ถูก
“แล้วเปอร์เซ็นที่ชอบล่ะ”
“ก็คงอยากกลับไปอยู่บ้าน อีกอย่างบ้านเรากับกรุงเทพฯ ก็ห่างกันแค่นี้เอง แต่ถ้ากลับบ้านฉันต้องหางานทำยากแน่ๆ เลยอะ”
พอจะเริ่มจบฉันก็คิดอยู่กับตัวเองว่าจะเอายังไงดี คือถ้ากลับไปอยู่บ้านมันก็ไม่ลำบากหรอก เพราะที่บ้านฉันพ่อกับแม่มีกิจการแล้วฐานะก็ค่อนข้างจะดี แต่ฉันก็อยากทำงานหาเงินด้วยตัวเอง จบแล้วก็อยากลองทำงานในกรุงเทพฯ สักสองสามปีถ้ามันไม่ดีก็ค่อยกลับบ้าน แต่คนตัวสูงก็สวนกลับมาอย่างรวดเร็ว
“ใครจะให้เธอทำงาน ฉันบอกเธอตอนไหน”
ผมถามยัยตัวแสบกลับไปแทบจะทันที เพราะใจผมเองผมไม่ให้ยัยนี่ไปทำงานแน่ๆ แล้วผมมีเงิน ผมมีปัญญาดูแลเมียผม ซึ่งผมตัดสินใจเอาไว้แล้วว่าจะไม่ให้ยัยตัวแสบไปทำงานในโรงงาน
“อ้าว เรียนจบก็ต้องทำงานเพืิ่อหาเงินใช้สิ ไม่ทำงานจะกินเกลือแล้วขอตังค์พ่อกับแม่อยู่หรือไงล่ะ”
“ฉันมีเงิน แล้วเธอไม่ต้องไปทำงาน ฉันไม่ให้เธอทำ ต้องตื่นแต่เช้าไปทำงานให้ตรงเวลา กว่าจะได้กลับบ้าน ไหนจะไปเจอคนร้อยพ่อพันแม่ แค่ไปฝึกงานก็พอละ งั้นก็กลับไปอยู่นครนายกกัน ที่ถามเพราะถ้าเธอบอกว่าจะอยู่ที่นี่ฉันจะก็จะซื้อบ้าน พอฉันมีเมียฉันก็รู้สึกว่าคอนโดมันเล็กเกินไป ฉันอยากมีที่ให้ลูกเดินเล่นได้ แต่ถ้ากลับไปอยู่นครนายกฉันก็จะทำบ้านแยกออกมา เรียนจบบ้านก็เสร็จพร้อมอยู่พอดี”
“นายจริงจังขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย”
ฉันหลุดถามเขาออกไปในทันที เพราะตอนแรกฉันก็คิดว่าเขาจะถามฉันทำไม แล้วหลังจากฟังเขาก็เหมือนเขาจะจริงมากๆ กับการคุยเรื่องบ้าน ไม่สิ เรื่องของฉันแล้วก็เขา
“อ้าว แล้วทำไมฉันจะไม่จริงจัง จะว่าไป อาทิตย์นี้เรากลับบ้านกันดีกว่าว่ะ ฉันจะเข้าไปหาพ่อแม่เธอด้วย ให้ผู้ใหญ่เขารู้ว่าเราคบกัน เออ เมื่อวานเงินปันผลเข้ามาละ รอบนี้ได้ 208 ล้าน”
ผมบอกยัยตัวแสบถึงรายได้ที่เข้ามา ซึ่งเงินปันผลนี้เป็นเงินที่ผมมีหุ้นอยู่ในบริษัทของพ่อ ที่บ้านผมทำบริษัทน้ำตาลทรายแล้วก็น้ำตาลต่างๆ ขายในประเทศแล้วก็มีส่งไปขายต่างประเทศด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีโรงงานผลิตเหล็กและขายส่งเหล็กในรูปแบบต่างๆ ซึ่งครอบครัวผมทำกันมาอย่างยาวนาน แล้วสมากชิกในบ้านผมก็มีน้อย มีแค่ผมกับพี่ชายของผมอีกคนหนึ่ง พ่อเขาก็เอาชื่อผมไปอยู่ในผู้ถือหุ้นตั้งแต่ผมอยู่มัธยมศึกษาก็เลยมีรายรับเข้ากระเป๋าทุกปีที่เงินปันผลโอนเข้า ผมถือหุ้นอยู่ที่ละ 20% ถ้าจบแล้วถ้าเมียผมไปอยู่บ้านผมก็กลับไปทำงานกับที่บ้านหรือไม่ก็เปิดกิจการเป็นของตัวเอง เรื่องเงินผมเลยไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ ส่วนพี่ขายของผมตอนนี้เขาถือหุ้นอยู่แล้วเขาก็ทำเต็นท์รถ
“ทำไมได้เยอะจัง”
“ก็ช่วงผ่านมามีดราม่าเรื่องน้ำตาลไง ที่เขารวมตัวกันขอขึ้นราคาอะ แล้วมันจะมีช่วงที่น้ำตาลขาดตลาดใช่ปะล่ะ พอหาข้อยุติได้ออเดอร์ที่ปล่อยออกไปเลยเยอะมาก”
“แล้วสรุปเขาก็ยอมขึ้นราคาให้ใช่ไหม”
“ขึ้นดิ ขึ้นมา 4 บาท จากตอนแรกน้ำทรายขาวที่โรงงานจะส่งขายอยู่ที่กิโลละ 20 บาท ปรับขึ้นมาเป็น 24 บาท แต่ราคาที่ห้างขายแม่งขาย 27 บาท เจ็บปวดฉิบหาย”
“คิกๆ ก็ธรรมดาปะคะ เขาเอาไปขายก็ต้องได้กำไรสิ”
ฉันหัวเราะออกมาเบาๆ หลังคนตัวสูงอธิบายให้ฟัง แล้วตอนนี้อารมณ์เขาก็ขึ้นละเรียบร้อย แล้วตอนที่มีประเด็นนายนี่ติดตามข่าวทุกวันเพื่อรอดูข้อสรุป
“แล้วคนที่น่าสงสารกว่าคือชาวไร่ที่เขาปลูกอ้อยอะ มีคนที่เขาขายอ้อยให้พ่อมาคุยให้ฟังว่าที่ผ่านมาก็ได้กำไรน้อย บางทีไม่ได้กำไรหรอก ได้แค่พอดีตัว”
“น่าสงสารเนาะ”
“อืม พอละ คุยเรื่องนี้มากเดี๋ยวของขึ้น แต่โรงงานเหล็กแม่งโคตรดีอะ ยอดขายพุ่ง กำไรขึ้น เงินปันผลได้เยอะ อาจจะเพราะเป็นซับให้บริษัทก่อสร้างหลายบริษัทด้วยแหละ แล้วไหนจะร้านที่เขาสั่ง เออ มีคนเขาจะขายหุ้น เพื่อนพ่อนั้นแหละ เขามีอยู่ 5 หุ้น ฉันเลยให้พ่อซื้อมาให้ฉันละ โอนเงินให้เขาไปละ ทำสัญญากันเรียบร้อย“
“ทำไมอยู่เขาขายล่ะ เพราะกำไรเยอะเขาไม่น่าจะขายนะ“
“เขาก็เสียดายนั่นแหละ แต่เห็นว่าจะเอาเงินไปใช้หนี้ให้เมียมั้ง เมียเขาเล่นแชร์แล้วโดนโกง แชร์ที่เล่นเห็นวงเงินหลายแสนอยู่เหมือนกัน แล้วแม่งโคตรจะหลายวง เขาเลยหาเงินเอาไปใช้หนี้ ลุงบรูณ์อะ ที่เขาเพิ่งผ่าตัดขาอะ”
“อ่อ งั้นก็แย่เลยเนาะ”
“อือ แล้วไหนจะหนี้อย่างอื่นอีก เงินที่ได้ไปจะเหลือกี่บาทก็ไม่รู้”
ผมแชร์เรื่องราวให้ยัยตัวแสบฟัง เพราะมีอะไรผมก็จะพูดให้กันฟังตลอดจนตอนนี้มันชินไปแล้ว หลังจากผมก็ขับรถมาจอดที่โซนจอดรถ VVIP เป็นที่จอดเฉพาะของผมเอง แล้วไม่ใช่แค่ผมหรอก คนอื่นก็มีสิทธิ์ที่จะได้โซนจอดนี้ถ้าราคาห้องที่ซื้อมันถึงเกณฑ์ที่เขาตั้งเอาไว้ แต่สำหรับผมมันก็คุ้มนะ เพราะที่นี่เขาทำถึงอะ สวย หรู วิวดีมาก แล้วส่วนมากถ้างานละเอียดขนาดนี้อยู่ในย่านดีๆ เขามักจะไม่ขาย แต่ที่นี่เขาขายผมรู้เลยรีบซื้อเอาไว้ แล้วถ้าผมขายออกไปตอนนี้ก็ได้กำไรพอสมควร
“เดี๋ยวฉันมา ลงไปเอาของอีกรอบก่อน”
“เค”
ฉันพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้จากนั้นก็หยิบเอี๊ยมกันเปื้อนที่เพิ่งซื้อมาใหม่ขึ้นมาใส่แล้วก็เริ่มลงมีทำความสะอาดน้องหมึกแทบจะทันที เพราะฉันหิวมากๆ