“ไอ้เมียบ้า ไอ้เมียใจจืดใจดำ มันไม่คิดแม้แต่จะชายตามามองผัวมันบ้างเลยเหรอวะ กูต้องเล่นให้ใหญ่กว่านี้”
ผมใช้มือขย้ำผมที่ตอนนี้มีฟองอยู่เต็มหัวแล้วก็บ่นพึมพำออกมา อารมณ์ผัวขนาดนี้ละ ยัยสลอธแม่งยังไม่คิดจะหันมาสนใจผัวตัวเอง สงสัยจะยังเล่นใหญ่ไม่พอ ต้องมากกว่านี้อีก ผมอาบน้ำสระผมอยู่สักพักก็ล้างตัวแล้วก็หยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่มาพันที่เอว แล้วก็หยิบผ้าสีขาวผืนเล็กๆ ที่พับเอาไว้บนชั้นตรงโซนอ่างล้างหน้าขึ้นมาเช็ดผม จากนั้นผมก็เดินออกมาข้างนอกโดยที่เดินเช็ดผมออกมาด้วยและปิดประตูห้องน้ำแรงๆ
ปั้ง!!!
“ไอ้บอย! แกหยุดการกระทำที่แกกำลังทำอยู่เดี๋ยวนี้เลยนะ! ถ้าฉันยังเห็นว่าแกลงกับข้าวของในห้องของฉันอีก! แกเจอฉันแน่!”
ฉันถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งและหันไปมองคนตัวสูงพร้อมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่จริงจังในทันที มันโหโห ฉันเองก็มีขีดจำกัดในการโมโหเหมือนกัน ฉันไม่ใช่นักบวช แน่นอนว่า รัก โลภ โกรธ หลง ฉันก็มีเหมือนกัน จะให้มานอนนิ่งๆ แล้วทนในสิ่งที่มันทำฉันก็ไม่ไหวปะ
“ทำไม! เจอไอ้สัสเอิร์ธวันเดียวจะย้ายไปอยู่ทีมมันหรือไง!”
พรึ่บ!
ผมปาผ้าผืนเล็กๆ ทิ้งลงไปที่พื้นก่อนจะเท้าเอวแล้วก็ถามยัยสลอธออกไปด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เอาเรื่อง แล้วเจอไอ้สัสเอิร์ธวันเดียวทำเป็นของขึ้น
“เหอะ ถ้าสันดานของแกแบบนี้ก็ไม่แน่! ไปส่องกระจกดูตัวเองไป ว่าตอนนี้เหมือนหมาบ้าที่ไม่ได้รับวัคซีนขนาดไหน ทำอะไรไร้สาระ”
พรึ่บ!
พอฉันพูดจบนายนี่ก็เม้มปากก่อนจะกระชากแขนของฉันให้ขยับเข้ามาหาและกดฉันให้ล้มลงบนที่นอน แล้วผมนายนี่มันก็ยังไม่แห้ง น้ำมันก็หยดลงมาโดนฉัน แล้วไหนจะการที่พยายามกักขังก็ทำให้ฉันดิ้นแล้วก็พยายามบิดแขนทั้งสองข้างของตัวเอง
“ปล่อยฉันนะ!”
“ไรสาระ เหอะ แล้วที่ฉันเป็นบ้าทำอะไรไร้สาระมันไม่ใช่เพราะเธอเหรอวะ! ห๊ะ!!”
ผมสวนยัยนี่กลับไปเต็มเสียงแล้วก็ใช้มือบีบแขนของยัยตัวแสบแน่นขึ้นจากเดิม แล้วที่ผมโมโหแล้วก็บ้าขนาดนี้ก็เพราะว่าหึงมันปะ แม่งทั้งหึงทั้งรัก แล้วพอโดนยัยนี่ด่าผมแม่งก็ยิ่งโมโห
“โอ๊ยย ปล่อย! แล้วฉันทำอะไรหรือยังล่ะ! ไอ้บ้า!”
ฉันพยายามขยับมือแล้วก็บิดแขนของตัวเองจากนั้นก็ใช้เล็บจิกลงไปที่หลังมือของเขา แล้วมันโมโหให้ใคร ฉันเองก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลยปะ จะไม่ให้ด่าว่ามันบ้าได้ยังไง คุยกับไอ้เอิร์ธไม่กี่ประโยค แล้วก็ไม่ได้ทำท่าทีว่าสนิทสนมกับมัน แบบนี้จะให้ฉันได้เหรอ เกินไปแล้วมันอะ
Rrrrr
ในขณะที่ผมกับยัยตัวแสบกำลังมีสงครามลูกเล็กที่เกิดขึ้นภายในห้องโดยที่ผมนั่งคร่อมยัยนี่อยู่ด้านบนจากนั้นก็ได้ยินเสียงของโทรศัพท์ดังขึ้น พอผมหันไปมองก็เป็นเครื่องของยัยตัวแสบผมเลยใช้มือรวบแขนทั้งสองข้างของยัยนี่เอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวจากนั้นก็ให้อีกมือหยิบโทรศัพท์มาดู พอเห็นว่าเป็นไอ้เห็นเอิร์ธโทรเข้ามาทาง Messenger ผมเลยกดรับสายและเปิดสปีกเกอร์โฟน จากนั้นก็ได้ยินเสียงของไอ้ส้นตีนนั่นพูดขึ้นมา
{แยมไม่สบายดีขึ้นบ้างหรือยัง เราเป็นห่วงนะ เป็นเพราะเราหรือเปล่าที่ทำให้แยมอึดอัดใจ เราขอโทษนะ}
ฉันถอนหายใจออกมาแล้วก็กำลังจะตอบไอ้เอิร์ธกลับไปแต่คนตัวสูงสวนออกไปก่อน แล้วเอิร์ธก็เคยโทรมาหาฉันเหมือนกัน แต่ฉันไม่เคยรับสายหรืออ่านข้อความเลย ปล่อยให้มันแจ้งเตือนไปนั่นแหละ เพราะฉันเองก็รำคาญแล้วก็ไม่อยากคุยเพื่อให้อีกฝ่ายคิดไปไกล
“เป็นห่วงเมียกูถามส้นตีนของกูหรือยัง!! จะเอาไหมล่ะ!! ถ้าไม่กล้าก็อย่าโทรมาหาเมียกูอีก!! ไม่งั้นไม่จบ!!”
{เหอะ คนแบบมึงไม่ได้รักแยมจริงหรอก มึงแค่อยากจะเอาชนะกู! ไอ้คนสันดานเลวๆ แบบมึงอะ ไม่คู่ควรกับแยมหรอก!}
“เสือก!! กูรักเมียกูแค่ไหนคนที่ตอบได้ไม่ใช่มึง!! ปากดีจังเหรอมึง! มึงเจอกู!! อยากแดกตีนกูจังใช่ไหม!!”
ผมพูดและกำลังจะลุกขึ้นด้วยอารมณ์ที่โมโหแบบเต็มสูบ แล้วแม่งมันกล้าโทรกล้ามาพูดส้นตีนแบบนี้ผมไม่เอามันไว้แน่ แล้วเสือกพูดว่าผมไม่รักเมีย เดี๋ยวจะไปกระทืบให้ปากมันแดกข้าวไม่ได้สักเดือนสองเดือน
“บอย ไม่ต้องไป นายไปบุกรุกบ้านเขามันเอาผิดนายได้! ถ้ามันไม่ออกมานานจะพาตัวเองไปติดคุกเพื่ออะไร! มีสติบ้าง! ถ้านายพาตัวเองไปติดคุกฉันจะมีผัวใหม่ ฉันไม่มีเวลาเอาข้าวไปให้นายหรอกนะ บอกให้รู้ไว้ซะ แล้วถ้าวันนี้นายออกไปก็เลิกกันไปเลย แล้วฉันบอกกับนายไว้เลยนะ ฉันเลิกจริง ถ้านายอยากเลิกกันก็ออกไปกระทืบไอ้เอิร์ธมันเลย”
ฉันดึงแขนของไอ้บ้านี่เอาไว้หลังจากเขากำลังทำท่าจะลุกขึ้นไป แล้วไปบุกรุกบ้านคนอื่นข้อหามันเล็กๆ ที่ไหน มีเงินหรือมีคนช่วยแต่มันก็ต้องเป็นเรื่องเป็นราวและเสียประวัติ จะมาเสียอนาคตกับเรื่องแบบนี้ฉันไม่เอาด้วยหรอก ถ้ามันไปฉันก็จะเลิกจริงๆ เออ ถ้านัดกันที่ไหนสักที่ฉันก็จะไม่ห้ามมันหรอก แต่ไปแบบที่เราเสียเปรียบคนบ้าเท่านั้นแหละที่จะออกจากบ้าน แล้วทั้งๆ ที่ก็ยังหยุมหัวกันอยู่นะ แต่จะทำยังไงได้ ยังไงก็ผัวเรา แล้วฉันก็รักแล้วก็เป็นห่วงไอ้บ้านี่มากเหมือนกัน
“จิ๊ เธอขู่ว่าจะเลิกกับฉันเหรอวะยัยสลอธถ่านน้อย”
“ฉันไม่ขู่ ฉันพูดจริง”
ผมถอนหายใจออกมาแล้วก็มองยัยสลอธที่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง แล้วแน่นอนว่าผมกับยัยตัวแสบก็รู้จักกันมันมานาน เห็นท่าทีของเมียก็รู้ได้ทันทีว่ายัยตัวแสบทำได้จริงตามที่พูด ใจก็อยากจะกระทืบไอ้สัสเอิร์ธให้ปากบิด แต่ถ้าจะต้องเลิกกับยัยนี่ผมก็ไม่เอาหรอก ผมเลยพูดกับไอ้สัสเอิร์ธที่คงอยากจะรู้เรื่องของผม เพราะตอนนี้แม่งยังไม่เสือกว่างสายเลย
“ฮึ รอบนี้กูฝากไว้ก่อนเถอะมึง ถ้าเป็นเมื่อก่อนกูไม่เอามึงไว้ทำพ่อกูแน่ แต่พอดีกูมีเมียแล้ว และเมียกูก็เป็นห่วงกู ไม่เหมือนมึงที่คอยแต่จะเสือกเป็นห่วงเมียคนอื่น มึงนี่ก็น่าสงสารนะ ไม่เคยชนะกูสักที”
ติ๊ด
ผมพูดออกไปด้วยเสียงที่กวนประสาท แล้วผมมันคนบ้า มันกวนตีนมาผมก็กวนตีนกลับ ให้มันรู้กันไป แล้วถ้าไม่ติดว่าเมียผมห้ามเอาไว้ป่านนี้ผมออกไปแล้วจริงๆ จากนั้นผมก็ขมวดคิ้วขึ้นมาหลังได้ยินเสียงของเมียผมถามขึ้นมา
“นี่ สรุปว่านายเอาฉันเป็นเมียเพื่อที่จะชนะไอ้เอิร์ธมันเหรอ”
ฉันถามคนตัวสูงออกไปหลังได้ยินเขาพูดกับไอ้เอิร์ธ ตอนแรกฉันก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่มันก็เหมือนจะรู้สึกขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ไอ้เรื่องที่เขาบอกว่าชนะรวมถึงฉันด้วยหรือเปล่าวะ อืม นี่ฉันจะเป็นนางเอกละครไทยเหมือนที่ไอ้บ้านี่พูดเอาไว้เข้าไปทุกทีละ ซึ่งอีกใจหนึ่งฉันก็ไม่อยากคิด แต่มันว้าวุ่นว้าใจอะ มึงรู้สึกเหมือนหน่วงๆ อยากจะร้องไห้ ซึ่งฉันเป็นอะไรฉันก็ยังไม่รู้ตัวเองเหมือนกัน
“อืม”
“อึก อือออ นายเลิกกับฉันไปเลย อึก”
อ้าว ฉิบหายละ ผมยังตอบไม่ทันจะจบเลย น้ำตาของเมียผมแม่งทะลักออกมาเหมือนเขื่อนแตก ซึ่งผมเองก็ยังงงๆ เลยรีบห้ามยัยสลอธออกไปอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยว เธอจะร้องไห้ทำไมวะ เงียบเลยนะ”
“อึก ไม่ ฉันจะเลิกกับ อึก นาย”
พอฉันได้ยินเขาตอบกลับมาก็ทำเอาความรู้สึกของฉันมันตีตื้นขึ้นมา แล้วมันเหมือนว่ามันทั้งเสียใจแล้วก็เศร้ามากและฉันเองก็ห้ามน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ก็เลยร้องไห้ออกมา แล้วก็พยายามใช้มือเช็ดน้ำตาของตัวเอง
“เลิกอะไร ฉันยังพูดไม่จบ”
“ไม่ต้องพูด!! นายเอาฉันเป็นหมากในเกมส์ คำว่ารักนายก็โกหก นายต้องการที่จะเอาฉันแล้วก็ต้องการที่เอาชนะไอ้เอิร์ธ อึก ออกไปเลย!”
“เดี๋ยวนะ นี่ คุณแม่นางเอกในละครสมัย 90 เธอกลับมาก่อน ฉันจะพูดว่า ที่ฉันเอาเธอมาเป็นเมียได้ฉันชนะมัน ฉันพูดผิดตรงไหน ก็ฉันกับมันชอบเธอเหมือนกัน แล้วไอ้คำว่ารักที่ฉันพูดฉันบอกฉันไม่ได้โกหก เธอใจเย็นๆ แล้วคิดตาม ถ้าฉันคิดจะทำแบบที่เธอพูดฉันจำเป็นต้องทำให้เธอเหมือนที่ผ่านๆ มาไหม เธอกับฉันรู้จักกันมันกี่ปีละ ตอบฉันมา”
ผมพยายามดึงเมียผมมันออกมาจากบทละครที่มันได้พูดออกมา แล้วไอ้เรื่องที่ผมบอกว่ามันเป็นนางเอกละครไทยสมัยก่อนนี่ไม่เกินจริงนะ ดูมันตอนนี้ ร้องไห้ประหนึ่งว่าผัวตายทั้งๆ ที่เรื่องมันไม่ใช่แบบที่เมียผมมันคิด แล้วไอ้คนแบบผมถ้าไม่รู้สึกหรือมั่นใจจะบอกรักมันได้ยังไง
“หลาย อึก สิบปี”
“เออ แล้วเธอไม่รู้สันดานผัวตัวเองเลยหรือไง”
“คนเรามันเปลี่ยนกันได้”
“แล้วฉันเปลี่ยนไปตอนไหนอีกล่ะ!”
เพี๊ยะ!
ฉันใช้มือเช็ดน้ำตาก่อนจะใช้มืออีกข้างตีลงไปที่แขนของคนตัวสูงที่ใช้มือจับหน้าฉันเอาไว้ด้วยความหมั่นไส้มัน แล้วสิ่งที่ฉันพูดมันผิดตรงไหนล่ะ คนเรามันก็เปลี่ยนกันได้ตลอดแหละ
“อย่ามายุ่ง ฉันจะนอน”
“จะนอนอะไรตอนนี้ ฉันไม่ให้เธอนอน พูดกันยังไม่รู้เรื่อง ฟัง แล้วเธอเอาเรื่องราวน้ำเน่าที่เธอคิดทิ้งไปซะ ฉันก็ฉัน ฉันเคยเปลี่ยนไปตอนไหน ฉันแอบชอบเธอมาตั้งนานแต่มากล้าบอกเพราะกลัวจะเสียเพื่อนจนวันหนึ่งฉันตัดสินใจและมั่นใจฉันเลยบอกรักเธอ เธอคิดว่าฉันจะแสดงเพื่ออะไร ฉันได้อะไรจากตรงนี้ ถ้าฉันไม่รักเธอฉันจะยอมเธอ จะตามใจเธอ จะไปกระทืบไอ้คนที่มาแกล้งมายุ่งกับเธอให้เหนื่อยทำไม ทำขนาดนี้ฉันไม่รักเธอตรงไหนวะ ไหนเธอบอกฉันดิ๊ เงียบ มันไม่ใช่เรื่องที่น่าจะมาร้องไห้ ผัวเธอยังอยู่ ฉันยังไม่ตาย เก็บน้ำตาเข้าไปซะ”
ผมอธิบายให้ยัยตัวแสบเข้าใจ แล้วผมก็ไม่คิดว่าเมียผมมันจะคิดไปหลายขั้นตอนขนาดนี้ แต่เมื่อก่อนถึงยัยนี่มันจะนุ่มนิ่มและขี้แยไปบ้างบางทีแต่มันก็ไม่ได้ขนาดนี้นะ
“อึก จะมานั่งทับฉันทำไม ฉันหิว”
ฉันเช็ดน้ำตาแล้วก็ผลักเขาให้ขยับออกหลังจากเริ่มรู้สึกหิวขึ้นมา แล้วของกินที่แม่ๆ ทำเอาไว้ก็มีเยอะมาก ลงไปหาอะไรกินดีกว่า ส่วนไอ้เรื่องที่ฉันกำลังนอยก็หายละ เพราะคิดไปคิดมาที่นายนี่พูดก็ถูก ถ้าเขาไม่ชอบไม่รักฉันเขาไม่ต้องทำให้ฉันขนาดนี้ก็ได้ ฉันอาจจะคิดเยอะเกินไป แต่พอเขาพูดก็ทำให้นึกขึ้นมาได้ ก็เลยหายแล้วก็รู้สึกดีขึ้นจากเดิมแบบมากๆ
“เดี๋ยว ไอ้เรื่องที่ฉันเธอเข้าใจหรือยัง”
“เข้าใจแล้ว”
“เออ ต่อไปเธอหยุดดูละครหรือซีรีส์อะไรของเธอไปเลยนะ”
“ฉันอยากดู ทำไมฉันจะดูไม่ได้”
“โอโหหห ยังกล้าถามเนาะ บทนางเอกเข้าเก่ง คิดว่านางเอกละครหลังข่าวสมัยก่อนมาเข้าสิง”
“ฉันไม่อยากทะเลาะกับนายละ ลุก ฉันจะลงไปหาอะไรกิน วันนี้มีแต่เรื่อง ไม่รู้อะไร ไปเก็บผลงานที่ทำเอาไว้ให้เรียบร้อย ถ้าไม่ทำคืนนี้นายไปนอนข้างนอก”
“สั่งๆ ไม่รู้ว่าเมียหรือแม่”
“ไม่ต้องบ่น นายทำเอง แล้วถ้าต่อไปมีเหตุการณ์แบบนี้อีก โมโหแล้วกล้าลงกับข้าวของอีก นายจะได้รู้ถึงรสพระธรรม”
อืม พอมันเริ่มมีพลังแล้วผมปล่อยให้เป็นอิสระยัยตัวแสบก็ลุกขึ้นจากที่นอน แล้วตอนนี้เขาก็เท้าเอวแล้วก็ยืนด่าผัวโดยที่ผมก็ก้มลงเก็บผ้าที่เกลื่อนห้องใส่ตะกร้าผ้า แล้วยอมมันมาทั้งชีวิตละ ยอมมันอีกหน่อยก็คงจะไม่เป็นไร แต่เดี๋ยวนะ
“การเล่นใหญ่ของกูคือการมาเก็บเสื้อผ้าเนี่ยนะ”
“ทำให้เรียบร้อยด้วย ถ้ากลับขึ้นมาแล้วไม่เรียบร้อยนายเจอ”
“จะไปไหน รอก่อน”
“ไม่รอ ถ้าจะลงไปก็ทำให้เสร็จก็ตามลงไป หิวมากแล้ว”
ฉันบอกให้คนตัวสูงเก็บเสื้อผ้าให้เรียบร้อยจากนั้นก็หมุนตัวเพื่อจะลงไปกินขนมจีนน้ำยาข้างล่าง แล้วตอนนี้ไม่มีใครละ จะได้เวลากินแบบฟินสักที แล้วฉันก็ยังมีความโมโหผัวเล็กๆ อยู่ บวกกับความหิวแล้วจะให้ยืนรอ แม่ไม่รอจ้า
“วันๆ ก็ขู่แต่กู เมื่อกี้แม่งยังร้องไห้เหมือนเด็กสามขวบร้องไห้ตาปูดตาบวม ตอนนี้แม่งเหมือนนางร้ายมาสิง บ่นได้ บังคับได้ ข่มขู่ได้แต่ก็กูนี่แหละ ยัยสลอธใจดำ กูก็ยอมแม่งจัง แล้วกูจะเสือกเตะมันทำไมวะ กะจะเล่นอย่างใหญ่แต่กูลืมไปเมียกูมันใหญ่กว่า ไม่ได้เกิดเลยกู เสร็จสักที ตามไปเตะเมียสักทีดีกว่ากู ให้มันรู้ว่าจริงๆ แล้วใครใหญ่”
ผมเก็บผ้าใส่ตะกร้าไปด้วยแล้วก็บ่นไปด้วย บ่นแหละ แต่มือก็ทำ ไม่ทำเดี๋ยวยัยนั่นก็หยุมหัวผมอีก พอเก็บเสื้อผ้าใส่ตะกร้าตามที่คุณนายเขาสั่งจนเสร็จเรียบร้อยผมก็เลยเดินตามยัยตัวแสบลงไปข้างล่าง