"นายแน่ใจนะว่ากินข้าว" ฉันก็อยากจะคิดในแง่ดีอยู่หรอกนะ แต่เพราะมันเป็นพวกเขาน่ะสิฉันเลยคิดในแง่ดีไม่ได้เลย
"หรือเธออยากกินอย่างอื่นล่ะ" ลีวายยกยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วใช้นิ้วโป้งของเขาลูบวนลงบนกรีบปากอิ่มของฉันแผ่วเบา
"ถ้านายยังไม่ยอมหยุดพูดเรื่องที่ห่างไกลจากข้าวอีกฉันก็จะไม่กินแล้วนะลีวาย" ฉันปัดแขนของเขาออกแล้วชักสีหน้ารำคาญใจใส่เขาทันที
"โอเค ฉันจะไม่พูดอีกเธอพอใจไหม"
"ก็ดี" ฉันตอบกลับพร้อมกับหมุนตัวเดินลงไปยังห้องอาหารด้านล่าง
ทันทีที่ถึงก็พบว่ามีเมนูหลากหลายวางเรียงรายกันหลายจาน นี่ลีวายทำเองคนเดียวเลยเหรอเนี้ย
"นายทำเองหมดเลยเหรอลีวาย"
"ใช่ แต่แค่จานนี้นะนอกนั้นสั่งมาหมด" เขาตอบรับแล้วยกจานไข่เจียวมาวางลงตรงหน้าฉันด้วยความภูมิใจ
"ก็ว่าอยู่แบบนายคงไม่เก่งเรื่องนี้"
"แต่เรื่องอื่นฉันถนัดนะ ยิ่งเรื่องบนเตียงฉันมั่นใจว่าฉันไม่แพ้ไอ้สองตัวนั่นแน่" ประโยคหลังเขาก้มลงมากระซิบให้ฉันได้ยินแค่สองคนเท่านั้น
"จะมีสักเรื่องไหมที่นายไม่วกเข้ามาเรื่องนี้น่ะลีวาย"
"ยากหน่อยพอดีฉันอร่อยเลยอยากเสนอ" ลีวายใช้ปลายลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองยั่วเย้า สายตาที่จ้องมองมายิ่งทำให้คนตรงหน้านั้นดูดีเป็นไหนๆ
แต่โทษทีพอดีฉันไม่ได้พิศวาสอะไรกับความหล่อของพวกเขาเลยสักนิด
"ไปนั่งแล้วกินดีๆก่อนที่นายจะได้ลิ้มรสเลือดในปากตัวเอง" ฉันขู่ให้เขาได้หยยุดการกระทำที่น่าขนลุกก่อนที่ฉันจะใช้มีดหั่นสเต็กแทงเข้าปากของเขาเข้าเสียก่อน
"ดุจังนะตัวแค่นี้" ลีวายยิ้มรับแล้วนั่งลงข้างๆฉันตามด้วยพรินซ์ที่ยังหน้าหักหน้างอเดินมานั่งลงยังฝั่งตรงข้ามของลีวาย
"ไม่ดุสิแปลก" ไคโรพูดเสริมลีวายแล้วดึงเก้าอี้ออกมานั่งลงฝั่งตรงข้ามกับฉัน
"กินนี่สิ"
"เอานี่"
"ลองอันนี้" ทั้งสามเอ่ยขึ้นพร้อมกันและตักอาหารในจานมาใส่ในจานของฉันพร้อมๆกันอีกด้วย
"กินของฉันก่อนโรซินฉันทำอาหารรอเธอเลยนะ" ลีวายคะยั้นคะยอไม่พอยังอาสาตักอาหารมาจ่อปากของฉันอีก
"หึ อาหารที่ทำมันแค่ไข่เจียวไม่ใช่เหรอวะแต่มึงตักเนื้อให้แบบนี้มันหลอกลวงผู้บริโภคไปหน่อยไหมวะ" ไคโรแค่นหัวเราะแล้วใช้ช้อนของเขาตักอาหารในจานของฉันซึ่งเป็นกุ้งที่เขาตักให้ฉันก่อนหน้านี้มาจ่อปากฉันเช่นกัน
"โรซินกินของฉันดีกว่านะปลามีประโยชน์จะได้ไม่โง่แบบสองคนนี้" พรินซ์เองก็ใช้ช้อนของเขาจ่อปากเพื่อจะป้อนอาหารให้ฉันอีกคน
นี่พวกเขาไม่มีตาหรือสมองกลับกันหมดแล้วกันแน่ถึงไม่รู้ไม่เห็นว่าฉันมีปากแค่ปากเดียว จะไปกินของพวกเขาพร้อมกันได้ยังไง
ปัง!
"หยุดสักที ขอเวลาแันกินข้าวเงียบๆได้ไหม" ฉันทุบโต๊ะเสียงดังแล้วปาดตามองพวกเขาทีละคน
"....."
"ต้องแบบนี้สิถึงจะกินลงหน่อย" ฉันยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจเมื่อทั้งสามคนเงียบไปแล้วส่งสายตาเป็นการขอโทษฉันกลายๆ
ฉันตักผัดผักในจานที่ใกล้ฉันที่สุดแล้วใส่ลงในจานของลีวายตามด้วยพรินซ์และสุดท้ายไคโร
"ฉันจะกินผักนี่ให้หมดเลยถึงแม้ว่าฉันจะไม่ชอบบล็อคโคลี่ก็ตาม" พรินซ์ยิ้มตาหยีแล้วตักบล็อคโคลี่เข้าปาก ถึงแม้สีหน้าที่ทานบล็อคโคลี่จะดูฝืนทนก็ตามแต่เขาก็ทานจนหมดจริงๆ
"นายไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้นะพรินซ์ ไม่ชอบก็ไม่ต้องกินหรอก"
"แต่เธอเป็นคนตักให้ฉันเองนะโรซิน อะไรที่เธอให้มันสำคัญกับฉันที่สุด" ดวงตาคมสีน้ำตาลเข้มมองมาด้วยแววตาจริงจัง
ฉันคลี่ยิ้มบางๆแล้วเอื้อมมือไปวางบนศีรษะของพรินซ์เบาๆ เขานิสัยอย่างกับเด็กน้อยแบบนี้น่าเอ็นดูจริงๆ
"ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิถึงจะน่ารัก"
โครม!
"ไม่เห็นมันจะน่ารักสักนิด! ฉันไม่ยอมนะโรซินถ้าเธอจะชมมันแค่คนเดียว" ลีวายลุกพรวดจากเก้าอี้แล้วชักมือฉันกลับพร้อมกับขี้หน้าพรินซ์อย่างเอาเรื่อง
"นายเป็นบ้าเหรอลีวายฉันตกใจนะ" ฉันยกมือมากุมอกข้างซ้ายที่เมื่อครู่แทบจะหล่นหายไปอยู่ตาตุ่มอยู่แล้ว
"ก็เธอชมมันต่อหน้าฉันแบบนี้จะให้ฉันใจเย็นเหรอ ทำไมไม่ชมแันบางล่ะฉันอุตส่าห์ตื่นแต่เช้าเพื่อสั่งอาหารให้เธอเลยนะ" ลีวายเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สีหน้าของเขามันดูเอาจริงเอาจังเสียเหลือเกิน
"แค่ฉันชมนายจะหยุดทำแบบนี้ใช่ไหมลีวาย"
"ใช่"
"ก็ได้งั้นนายนั่งลงก่อนสิ" ฉันบอกเสียงอ่อนอย่างเอือมๆ
ลีวายนั่งลงยังเก้าอี้ตัวเดิมอย่างว่าง่ายแล้วเอี้ยวตัวมาหาฉันด้วยสายตาเป็นประกายความหวัง
"ขอบคุณที่เตรียมอาหารให้ฉันนะ นายก็น่ารักเหมือนกัน" ฉันยิ้มบอกเขาอย่างจริงใจแม้ว่าลึกๆจะไม่ได้ยินดีขนาดนั้นก็ตามแค่คำพูดมันก็ไม่หนักหนาสาหัสอะไรอยู่แล้ว
ครืนนน!
ไคโรลุกออกไปโดยที่ไม่พูดไม่จาอะไรทำให้เราสามคนได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างของเขาที่เดินออกไปยังนอกบ้าน
"สงสัยมันจะน้อยใจ" พรินซ์พูดขึ้นในขณะที่สายตาของเขายังคงมองตามไคโรไป
"ทำไมต้องน้อยใจด้วยล่ะ ไม่มีใครไปว่าอะไรไคโรสักหน่อย" ฉันย่นคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจเขาก็นั่งเฉยๆไม่ได้มีใครไปพูดแซะหรือต่อว่าอะไรเขาเลยด้วยซ้ำเอาอะไรมาน้อยใจกัน
"ไม่คิดจะชมมันบ้างเหรอ มันก็อยากได้คำชมจากเธอนะ" ลีวายพูดเสริมขึ้นแล้วท้าวคางมองฉันนิ่งๆ
"นายรู้ได้ไง"
"ฉันรู้น่า ถึงมันจะไม่พูดใช่ว่ามันจะไม่คิด"
หลังจากมื้อเช้าจนมาตลอดบ่ายฉันก็ไม่เห็นไคโรเลย จนฉันต้องนึกคิดถึงเรื่องที่พรินซ์กับลีวายพูดที่โต๊ะอาหาร
ก๊อก ก๊อก~
สุดท้ายฉันก็หยุดความคิดที่ลีวายพูดไม่ได้จึงต้องมาเคาะประตูห้องของไคโรเพราะกลัวว่าเขาจะนอนอืดอยู่ในห้องหลังจากที่ไม่ออกมาเลยตั้งแต่ทานข้าว
ก๊อก ก๊อก~
ฉันเคาะอีกครั้งเมื่อเห็นว่ายังไร้วี่แววของคนที่จะมาเปิดประตูให้
นี่คงไม่ได้น้อยใจจนคิดอะไรบ้าๆหรอกใช่ไหม? เพียงแค่คิดว่าไคโรไม่ตอบสนองอะไรเลยฉันจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปเอง
พลั๊ก!
ฉันเปิดประตูเข้าไปกฌพบกับความว่างเปล่าจนเดินมาถึงเตียงของเขาเป็นจังหวะเดียวกันกับร่างสูงของไคโรที่เดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูที่พันรอบเอวสอบอย่างหมิ่นเหม่
หยดน้ำเกาะพราวบนลำตัวรวมถึงหน้าท้องที่มีก้อนซิกแพคเรียงตัวกันสวยงาม เส้มผมสีควันบุหรี่ที่เปียกลู่ถูกเสยขึ้นจากฝ่ามือหนาของไคโรก่อนที่เขาจะย่นคิ้วหนาเข้าหากันเพียงเล็กน้อยเมื่อสังเกตุถึงการมีอยู่ของฉัน
"มองนานไปแล้วโรซิน" น้ำเสียงเย้าแหย่ของไคโรทำให้ฉันรีบเบือนหน้าหนี
ให้ตายสิตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นซิกแพคของผู้ชายคนไหนใกล้ๆขนาดนี้เลย
"ใครมองกันแค่บังเอิญสายตามันไปอยู่ตรงนั้นพอดีต่างหาก"
"ฉันยังไม่ได้บอกเลยนะว่าเธอมองตรงไหน" ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ฉันเลยหมุนตัวหนีหันหลังให้กับเขาจะได้ไม่เห็นอะไรต่อมิอะไรที่ทำร้ายสายตา
"นายช่วยไปใส่เสื้อผ้าก่อนได้ไหมไคโร"
"เธอไม่ชอบแบบนี้เหรอ ฉันเต็มใจให้เธอได้ดูคนเดียวนะ" ไม่ว่าเปล่าร่างกายที่ไร้เสื้อปกปิดทนบนของเขากลับเข้ามาเบียดแผ่นหลังของฉันจนรับรู้ถึงความเปียกชื้นจากหยดน้ำจากตัวของเขาซึมลงที่เสื้อของฉันที่บางเอามากๆ
"....."
"เธอมาหาฉันเองนะ อย่าใจร้ายแล้วเดินหนีไปอีกล่ะ"