จุดเริ่มต้น 2

1433 Words
@ช่วงบ่ายของอีกวัน "สปาย" เสียงเรียกชื่อฉันที่ดังตั้งแต่ไกลๆ เรียกสายตาของฉันให้หันไปมองทันที สโรชา หรือโรส เพื่อนสนิทของฉันที่เป็นเจ้าของเสียงเรียก เจ้าตัวรีบวิ่งเร็วๆ เข้ามาหา หน้าตาตื่นเต้นจนฉันรู้สึกได้ "ไปไหนอ่ะ สนามบอลปะ?" "อื้อ ฉายกำลังเตะบอลอ่ะ ฉันเลยว่าจะไปดูหน่อย" "ฮันแน่ จะไปเชียร์ใช่ปะ" การแซวแบบซึ่งๆ หน้า เรียกรอยยิ้มของฉันให้หลุดออกมา "เคๆ งั้นไปด้วยกัน เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน จะไปดูหนุ่มห้องสามสักหน่อย คิกๆ" มันเป็นปกติที่แม้ว่าเราจะยังอยู่ในวัยเรียน แต่กลับไขว่คว้า และพยายามที่จะเรียนรู้เรื่องรัก ตะวันฉายเองก็เป็นแฟนคนแรก และเหมือนจะเป็นรักแรกของฉัน แม้จะยังไม่รู้ ว่าวันข้างหน้ามันจะเป็นแบบไหน แต่สุดท้ายความรักสำหรับฉันในตอนนี้ มันก็ยังสวยงาม @สนามฟุตบอล บนสนามกีฬาขนาดใหญ่ มีการเคลื่อนไหวของนักเรียนชายหลายคน สำหรับฉัน หรือแม้กระทั่งใครหลายๆ คน ตะวันฉายโดดเด่นมาก ทั้งรูปร่าง หน้าตา แม้กระทั่งโปรไฟล์ที่ใครๆ ต่างก็รู้ว่าเป็นแบบไหน มันทำให้คู่แข่งหัวใจของฉันไม่ได้น้อยเลย "พี่ฉายสู้ๆ พี่ฉายสู้ๆ" "พี่ฉายหล่อมาก กรี้ดดดด" "อย่างขาวอ่ะ ขนาดอยู่กลางแดดยังขาวเลย พี่ฉายของน้อง" "พี่ฉาย พี่ฉาย พี่ฉาย" แม้จะไม่ค่อยชอบ ที่มีการแสดงออกแบบต่อหน้าฉันขนาดนั้น แต่สุดท้ายแล้ว ฉันก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ปี๊ดดดดดดด~ เสียงนกหวีดกลางสนาม เป็นเครื่องยุติการแข่งขัน ฉันถือขวดน้ำในมือนิ่ง และหวังที่จะตรงไปยังอัฒจันทร์ แต่ทว่า "ยี๋ น้ำเปล่าธรรมดา อย่าบอกนะ ว่าเธอจะเอาไปให้ฉาย" น้ำเสียงกระแนะกระแหน แม้จะยังไม่ได้หันไปมอง แต่ฉันก็รู้ทันทีว่าเจ้าของเสียงคือใคร วาสนา หรือหวาน เพื่อนรุ่นเดียวกันที่คนละห้องกับฉัน ที่สำคัญ เราไม่ชอบหน้ากันเลย "เธอถอยไปดีกว่า น้ำแร่ในมือฉัน คงเหมาะกับฉายมากกว่าน้ำเปล่าธรรมดาในมือเธอ" หวานเดินมาหยุดที่ตรงหน้าฉัน แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ชอบหน้ากัน "น้ำแบบไหนก็กินได้เหมือนกัน ถึงของฉันจะไม่ใช่น้ำแร่ แต่ก็สะอาดไม่ได้ต่างจากน้ำของเธอ" ฉันตอบโต้เสมอ เพราะไม่มีเหตุผลที่ฉันต้องยอม "คนจนๆ แบบเธอ ไม่น่าเสนอหน้ามาเทียบฉายเลยจริงๆ" นั่นคือสิ่งที่ฉันถูกพูดใส่หน้ามาโดยตลอด ฉันคงถอดใจ ถ้าตะวันฉายคิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่ความจริงแล้วเขาไม่ได้คิดแบบนั้น และมันก็ไม่มีเหตุผล ที่ฉันจะเลิกคบกับเขา "ปาย" "ฉาย หวานเอาน้ำมาให้" ผู้หญิงที่ยืนอยู่กับฉัน รีบยื่นขวดน้ำในมือเธอให้ไป ทั้งที่เธอและฉันต่างก็ได้ยิน ว่าตะวันฉายเรียกชื่อฉันอย่างชัดเจน "ขอบใจ" เขายอมรับขวดน้ำดื่มอย่างว่าง่าย ส่งผลให้ฉันซ่อนขวดน้ำในมือทันที "ฉายเก่งมาก 2-0 ได้ เพราะฉายคนเดียวเลย" "ธรรมดา คนมันเก่งนี่นา" ปกติเขาก็เป็นคนแบบนี้ เฟรนลี่กับทุกคน "ปาย มาหาทำไมไม่ไปนั่งรอ แล้วขวดน้ำที่อยู่ด้านหลัง ของฉันใช่ไหม เอามาดิ" ไม่ว่าเปล่า เขาเลือกที่จะเลื่อนมือมาแย่งขวดน้ำไปจากฉันทันที "แล้วทำไมไม่เข้าไปหา" "ก็กำลังจะไป" "งั้นไปด้วยกันเลย" เขาเลื่อนมือมาจับมือฉัน และพาเดินผ่านฝูงชนเพื่อไปที่อัฒจันทร์พร้อมกัน ซึ่งแม้ว่าเขาจะเฟรนลี่กับทุกคน แต่เขาก็แสดงออกต่อหน้าทุกคน ว่าเราเป็นอะไรกัน . . . @หลังเลิกเรียน "วันนี้ฉันไปส่งนะ" "อื้ม" ฉันพยักหน้ารัวๆ พร้อมกับรับถุงขนมและแก้วน้ำดื่มที่หมอนั่นซื้อมาให้ "ขอบใจนะ ฉันรู้สึกว่าฉันเอาเปรียบนายเกินไปแล้ว" "คิดเยอะตลอด ค่าขนมไม่กี่บาท กินไปเถอะน่า ฉันซื้อให้เธอ" "แล้วตังค์ที่นายให้ฉัน..." "เอาไปเถอะ ฉันให้เธอ" "งั้นถ้าฉันมี เดี๋ยวฉันคืนให้" "อื้ออออ" หมอนั่นลากเสียงอย่างจงใจ ก็รู้แหละ ว่าหมอนั่นไม่อยากได้คืน แต่ฉันก็ไม่อยากได้ของคนอื่นเขาง่ายๆ เช่นกัน "เราคบกันมานานแค่ไหนแล้วปาย" "หนึ่งปีหนึ่งเดือนสามวัน" "แล้วทำไมเธอถึงเกรงใจฉันนักหนา" "ฉันไม่อยากถูกมองว่าคบนายเพื่อผลประโยชน์นี่นา" นี่คือความคิดของฉันจริงๆ "ถ้างั้นเธอก็มาติวหนังสือให้ฉัน ถือว่าฉันจ้างเธอ" "จริงอ๋อ?" "อื้อ วันเสาร์ละกัน" "ได้ๆ แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย" ฉันคลี่ยิ้มออกมา เมื่อสถานการณ์เหมือนจะดีกว่าที่คิด "ทีหลังอย่าไปรับงานแบบนั้นละกัน อยากได้ตังค์ มาติวให้ฉัน ฉันจะจ้างเธอเอง" "จริงๆ ฉันอยากติวให้นายโดยไม่เอาตังค์นะ แต่ว่าช่วงนี้ ฉันไม่อยากขอตังค์แม่จริงๆ" "ค้าบบ เด็กดีมาก" มือหนาเลื่อนมายีผมฉัน หมอนี่ชอบเล่นหัวฉันตลอดเลย . . ปกติเพื่อนๆ ที่เรียนโรงเรียนเดียวกับฉัน ส่วนมากก็ขับรถไปเรียนกันเองทั้งนั้น ฉันเองก็มากับสกายน้องชายฉัน วันไหนที่ตะวันฉายขอไปส่ง ฉันก็จะให้เขาไปส่งเป็นครั้งคราว เหมือนอย่างวันนี้ ที่ฉันยอมให้เขามาส่งแต่โดยดี เพียงไม่นาน มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ของตะวันฉาย ก็ขับพาฉันมาส่งถึงหน้าบ้าน พ่อแม่ฉันรู้ ว่าเราคบกัน ตะวันฉายเคยมาส่งฉันอยู่หลายครั้ง และบังเอิญเจอพ่อกับแม่ฉันบ้างเช่นกัน "กลับเลยก็ได้นะ ในบ้านเหมือนเสียงจะดังๆ พ่อคงเมาอีกแล้วมั้ง" "ขอเข้าไปสวัสดีพ่อก่อนได้ปะ" "พ่อเมา คุยไม่รู้เรื่องหรอก" "ไม่เป็นไร แค่สวัสดีก็ได้" "ฉาย..." คิดว่าหมอนี่จะฟังฉันไหม คำตอบก็คือ ไม่ @ภายในบ้าน "พ่อสวัสดีครับ" "คายอ่า~" ฉันที่เดินตามหลังตะวันฉายมา ใบหน้าถึงกับร้อนไปหมด พ่อฉันเมาเหมือนที่คิดจริงๆ ด้วย "ฉายเองครับ พอดีมาส่งปาย" "อ๋อ ฉาย ฉายเหรอ กินน้ามลูก ไปกินน้ามก่อน~" พ่อฉันเดินเซเข้ามาหา แต่ทว่า หมอนั่นกลับยืนยิ้มกว้าง ไม่รังเกียจกลิ่นเหล้าจากตัวพ่อฉันเลย "ปาย ปายอาวน้ามมา~" ฉันยิ้มแห้งๆ ออกมา เมื่อคนที่อาสามาส่ง หันมายิ้มให้ฉัน อายหมอนี่เหมือนกันนะ เขามาที่บ้านของฉันทีไร พ่อเมาตลอดเลย "ฉาย กลับเร็ว" "เค" หมอนั่นยิ้มเก๋ให้ฉัน ก่อนจะหันไปหาพ่อฉันที่แม้แต่นั่งยังเก็บทรงไม่อยู่เลย "พ่อครับ งั้นผมขอกลับบ้านก่อนนะครับ ต้องรีบไปทำการบ้านครับ" "กราบเหรอ แล้วกินน้ามยาง~" "กินแล้วครับ" เชื่อเลย หมอนี่เองก็ยังคุยกับพ่อฉันเป็นเรื่องเป็นราว พ่อฉันถามอะไร เขาก็รีบตอบออกไป ทำอย่างกับว่า เวลาที่พ่อฉันสร่างเมา เขาจะจำอะไรได้อย่างนั้นแหละ และกว่าหมอนั่นจะยอมเดินออกมาจากบ้านได้ เล่นเหงื่อฉันตกเลยเช่นกัน "ก็บอกแล้วว่าให้กลับ เวลาพ่อเมา พ่อพูดเก่งแบบนี้แหละ" "หรอ ฉันว่าพ่อเธอน่ารักดีนะ" ตะวันฉายเอียงคอมองสบตาฉัน ส่วนคนอายแบบฉัน ก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ กลับไป "เพี้ยนไปแล้ว กลับเลยไป" "ไล่เก่ง อยากอยู่บ้านแฟนนานๆ ไม่ได้?" ฉันกลั้นรอยยิ้มแทบไม่ไหว ใบหน้ามันร้อนวูบวาบไปหมดแล้ว "กลับ" "ยังไม่อยากกลับ" หมอนั่นใช้เสียงสองกับฉัน พร้อมกับการกระพริบตาปริบๆ "บอกให้กลับไง" "ทำไมชอบไล่นักล่ะ ขอนั่งทำการบ้านที่บ้านเธอได้ปะ" "ไม่เอา ไม่เข้าใจตรงไหนก็ไลน์มา" "ไล่เก่งว่ะ ทีพ่อยังไม่อยากให้ฉันกลับเลย" "คุยกับคนเมารู้เรื่องด้วยหรือไง" "คุยได้ พ่อตากับลูกเขยเขาคุยกัน คุยไปคุยมาก็เข้าใจกันเอง" ฉันยกมือลูบหน้าตัวเองป้อยๆ คันยุบยิบที่ปลายจมูกไปหมด มันทั้งเขิน ทั้งอาย ฉันทำตัวไม่ถูกเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD