หลายวันต่อมา
@คอนโดไทเป
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
เสียงรองเท้าส้นสูงของฉันตกกระทบพื้นเมื่อฉันเดินกรีดกายเข้ามาภายในคอนโดของไทเป ก่อนจะเดินไปที่ลิฟต์แล้วกดไปที่ชั้นที่ไทเปพักอยู่
ติ๊ง~
เมื่อลิฟต์ถูกเปิดออกฉันก็เดินออกไปพร้อมมุ่งหน้าไปที่ห้องของไทเปทันที ที่ฉันมาถึงที่นี่เพราะวันนี้มันไม่ไปเรียนยังไงล่ะ ไม่รู้เป็นอะไรรึเปล่าขอเป็นห่วงมันหน่อยในฐานะเพื่อนที่สุดแสนจะดี
ออด~ ออด~
ฉันยืนกดออดหน้าห้องมันอยู่นานนับนาทีก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออก
แกร๊ก!
"โห่สภาพ" ฉันมองสภาพไทเปที่ทั้งตัวมีเพียงกางเกงขาสั้นพร้อมผมที่ฟูหน่อยๆ บ่งบอกได้เลยว่ามันเพิ่งตื่น
"มาทำไม" มันเอ่ยถามออกมาเสียงเรียบก่อนที่ฉันจะใช้มือไปผลักหน้าอกมันเบาๆ จนมันหลบทางให้ฉัน ฉันจึงเดินเข้าไปทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟาตัวยาวภายในห้องของมัน
ฉันเคยมาที่ห้องของมันบ่อยแล้วนะ เพราะเราสองคนค่อนข้างที่จะสนิทกันมาก เล่นกันอยู่สองคนทั้งมหา’ลัยไม่สนิทกันสิแปลก
"กูถามไม่ได้ยิน?" มันเดินมายืนอยู่ตรงหน้าของฉันด้วยใบหน้านิ่งเรียบ แต่ดูก็รู้มันรำคาญฉัน
"แกควรไปใส่เสื้อก่อนไหม ฉันเป็นผู้หญิงนะ" ฉันมองหน้ามันด้วยสายตาเบื่อหน่ายก่อนจะล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่น
"เรื่องมาก" มันบ่นออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนของมัน โดยที่ฉันก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับคำด่าของมันหรอกนอกจากนั่งกดโทรศัพท์เล่นรอมัน
ฟรึ่บ!
"ว่ามา" หลายนาทีต่อมามันก็เดินมาทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟาข้างๆ ฉันพร้อมเอ่ยถามขึ้น
"ทำไมไม่ไปเรียน" ฉันหันไปมองหน้ามันนิ่งๆ
"เมา" ฉันถึงกับส่ายหน้าไปมาให้กับคำตอบของมัน
"สรุปแกจะไม่ไปงานหมั้นมิวนิคกับฉันเหรอ?" ฉันเอ่ยถามออกไปพร้อมมองหน้ามันไปด้วย ฉันแค่อยากมีเพื่อนไปเท่านั้นเอง แต่ถึงไม่มีมันฉันก็มีใบเตยและพอร์ชไปด้วยเหมือนเดิมนั่นแหละ แต่นั่นรุ่นน้องไง
"กูเคยบอกมึงแล้วนะ" มันหันมามองหน้าฉันแวบหนึ่งก่อนจะดันตัวลุกขึ้นเดินไปที่ห้องครัวพร้อมหยิบน้ำออกมาดื่ม
"แต่ฉันไม่มีเพื่อน ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ" ฉันมองตามมันไปด้วยสายตาอ้อนวอนสุดๆ
"มึงอยากให้กูตายอยู่ฟินแลนด์รึไง มึงก็รู้ว่าใครคือคู่หมั้นมิวนิค"
"กลัวเหรอคะ?" ฉันยกยิ้มมุมปากออกไปอย่างล้อเลียนก่อนที่มันจะจ้องมองหน้าฉันด้วยสายตานิ่งๆ
"ออกไปจากห้องกูได้ละ กูจะนอน"
"น่ารำคาญจริงๆ แกเนี่ย" ฉันบ่นอุบอิบออกมาก่อนจะดันตัวลุกขึ้นยืนพร้อมหยิบกระเป๋ามาถือไว้
"เย็นนี้พวกไอ้เอ็กซ์ชวนเที่ยวมึงจะไปไหม?"
"อืม...เบื่อพอดี" ฉันบอกออกไปแค่นั้นก่อนจะหมุนตัวเดินไปที่ประตู
"ไม่ต้องแต่งเต็ม กูเบื่อพวกมันแซวมึง" มันพูดตามหลังของฉันทำให้ฉันหยุดชะงักก่อนจะหมุนตัวหันไปยกยิ้มมุมปาก
"หวงเหรอคะ?" คำพูดเล่นทีจริงทีของฉันทำให้ไทเปถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย เพราะฉันกับมันคือเพื่อนกันจริงๆ ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้น แต่ตอนปีหนึ่งโดนจับจิ้นนะเพราะเล่นด้วยกัน แต่จับจิ้นได้ไม่นานหรอกเพราะทุกคนรู้ว่าเราสองคนเป็นแค่เพื่อนกัน
"อย่าปัญญาอ่อน มึงจะแต่งอะไรก็เรื่องของมึงถ้าโดนพวกมันแซวอย่ามาขอร้องให้กูช่วยละกัน" มันพูดจบก็เดินเข้าไปในห้องนอนของมัน ซึ่งฉันก็ไม่ได้สนใจหรอกนอกจากหมุนตัวเดินออกจากห้อง
@ผับหรูใจกลางเมือง
22:00 น.
ทันทีที่ฉันเดินเข้าใปในสถานที่เริงรมย์แห่งนี้ เสียงเพลงที่มันดังกระหึ่มก็ทำเอาหัวใจของฉันเต้นแรงไปตามจังหวะของเพลง ก่อนที่ฉันจะทอดสายตามองไปที่รอบๆ ก็เจอไทเปที่นั่งอยู่ที่โต๊ะพร้อมเพื่อนต่างมหา’ลัยของมัน ฉันจึงเดินกรีกกรายด้วยชุดเดรสสายเดี่ยวรองเท้าส้นสูงเข้าไปหา
"หวัดดีจัสมิน" เอ็กซ์หนึ่งในเพื่อนต่างสถาบันของไทเปเอ่ยทักทายฉันด้วยรอยยิ้ม
"มาช้าจังนะเรารอตั้งนาน" ทีเจเพื่อนอีกหนึ่งคนของไทเปเอ่ยทักทายฉัน ที่จริงฉันไม่ได้สนิทอะไรกับสองคนนี้นะ แค่เห็นและเจอผ่านๆ ตามสถานที่แบบนี้เท่านั้น
"จะนัดมันต้องเผื่อเวลาให้มันแต่งตัวสามชั่วโมง" ฉันยังไม่ได้ตอบอะไรเพื่อนทั้งสองออกไป ไทเปก็เอ่ยพูดขึ้นทำให้ฉันหันไปจิปากใส่มันอย่างหงุดหงิด ฉันไม่ได้แต่งตัวนานขนาดนั้นสักหน่อย -__-
"มานานแล้วเหรอ?" ฉันไม่ได้สนใจคำพูดของไทเปหรอก จากนั้นก็หันไปพูดกับเพื่อนทั้งสองที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามไทเป ก่อนที่ฉันจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ไทเป
"มาได้สักพักแล้ว" เอ็กซ์ตอบออกมาก่อนจะเลื่อนแก้วเบียร์มาตรงหน้าของฉัน
"วันนี้ขอกินไม่เยอะนะ พรุ่งนี้ต้องเดินทาง" ฉันเอ่ยบอกเพื่อนออกไปด้วยรอยยิ้ม
"มินจะไปไหน" ทีเจเอ่ยถามฉันออกมาด้วยใบหน้าสงสัย
"ฟินแลนด์ มินต้องไปร่วมงานหมั้น...น้อง" ฉันเน้นคำว่าน้องใส่หน้าไทเปจนมันมองค้อนฉันก่อนจะยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม ทำให้ฉันหลุดขำออกมาเบาๆ
"มึงไม่ไปกับมินเหรอ?" เอ็กซ์หันไปถามไทเปที่นั่งเงียบพร้อมยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มก่อนที่มันจะวางแก้วลงพร้อมมองหน้าเอ็กซ์นิ่งๆ
"ยุ่งไรเรื่องกูวะ" ไทเปตอบออกมาเสียงเรียบ
"เอ้า กูแค่ถามมึงนี่"
"อย่าร้องไห้นะคะสุดหล่อ" ฉันเอ่ยแซวออกไปก่อนที่มันจะหันมามองหน้าฉันด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ซึ่งฉันก็ไม่ได้สนใจนอกจากเบือนสายตาไปทางอื่นพร้อมยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม
"ฉันกลับแล้วนะ" หลายชั่วโมงต่อมาก่อนที่ฉันจะชูนาฬิกาข้อมือขึ้นดูที่บ่งบอกเวลาเกือบจะเที่ยงคืน ฉันจึงหันไปบอกไทเปที่กำลังนั่งดื่มอยู่ข้างๆ ฉัน
"อยู่ต่ออีกหน่อยไม่ได้เหรอครับ?" ทีเจเอ่ยรั้งฉันไว้
"มันก็บอกอยู่ว่าจะเดินทาง มึงจะไปรั้งมันทำไม" ไทเปเอ่ยพูดขึ้นก่อนจะหันมามองหน้าฉัน "ฝากแสดงความยินดีด้วย"
"ไม่เปลี่ยนใจไปเองจริงๆ เหรอ?" ฉันยกยิ้มมุมปากออกไปแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆ ออกมาจากปากของมัน มีเพียงแววตานิ่งๆ ของมันที่หันมาจ้องหน้าฉัน ก่อนที่ฉันจะหลุดขำออกมา "งั้นไปแล้วนะ"
"เดินทางดีๆ นะครับ" เอ็กซ์เอ่ยบอกก่อนที่ฉันจะพยักหน้าด้วยรอยยิ้มจากนั้นก็ลุกขึ้นพร้อมเดินออกจากผับ
ตุ๊บ! พลั่ก! ผัวะ!
"โอ๊ยยยย!!" ระหว่างที่ฉันเดินออกมาจากผับพร้อมเดินมาที่โรงจอดรถ ฉันก็ได้ยินเสียงแปลกๆ เกิดขึ้นแถวนี้ก่อนที่ฉันจะหยุดชะงักพร้อมหันไปมองก็เจอกลุ่มผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่เหมือนจะมีเรื่องแต่ทำไมน่ากลัวแบบนี้ ฉันว่าฉันควรไปให้พ้นจากตรงนี้แล้วแหละ
"โอ๊ยยย..ขะ..ขอเวลา..อะ..อีกได้ไหม"
กึก!
สองเท้าของฉันที่กำลังจะก้าวไปที่รถของตัวเองก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงหนึ่งที่คุ้นหูดังขึ้นทำให้ฉันหันไปมองอีกครั้ง พร้อมใช้สายตาเพ่งเล็งอยู่กับกลุ่มคนพวกนั้น
"กูต่อลมหายใจมึงนานเกินไปแล้ว"
"ผะ..ผมขออะ..อีก..สามเดือน..ดะ..ได้ไหม" พอฉันได้ยินประโยคนี้ทำให้ฉันตกใจขึ้นมาทันที เพราะฉันรู้แล้วว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของใคร
"พี่ติน!!" ฉันร้องอุทานออกไปเสียงดังพร้อมวิ่งเข้าไปใกล้ๆ เหตุการณ์นั้นทำให้ฉันได้เห็นสภาพพี่ชายตัวเองที่นอนจ่มกองเลือด ที่ใบหน้าและตามตัวมีรอยฟกซ้ำเต็มไปหมดแถมตอนนี้พี่จัสตินนอนอยู่บนพื้นโดยมีผู้ชายคนหนึ่งท่าทางหน้ากลัวใช้เท้าเหยียบไปที่กลางหน้าอกของพี่จัสติน
"มะ..มิน..อะ..ออกไป!!" พี่จัสตินหันมาออกคำสั่งกับฉันเสียงติดขัดทำให้กลุ่มคนพวกนั้นหันมามองหน้าฉันกันหมดไม่เว้นแม้แต่ผู้ชายที่ใช้เท้าเหยียบที่กลางหน้าอกที่จัสติน
"ฟีนิกซ์" ฉันอุทานชื่อของผู้ชายอันตรายคนนี้ออกไปเบาๆ ด้วยใบหน้าหวาดระแวง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันทำไมเขาถึงต้องมาทำร้ายพี่ชายฉันขนาดนี้ด้วย!