01 ผู้ชายน่ากลัว
@สนามบินสุวรรณภูมิ
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
เสียงรองเท้าส้นสูงของฉันตกกระทบพื้นในขณะที่ฉันกำลังลากกระเป๋าเดินทางใบโตออกมาจากสนามบิน เพราะช่วงปิดเทอมเล็กที่ผ่านมาฉันได้กลับไปเยี่ยมคุณแม่ที่ฝรั่งเศส ที่จริงฉันกลับไปพร้อมพี่จัสติน พี่ชายของฉันนะ แต่พี่จัสตินก็ไม่กลับไทยมาพร้อมฉันทำให้ฉันได้กลับมาที่ไทยเพียงคนเดียว แต่ฉันว่าไม่เกินสามสี่วันหรอกเดี๋ยวพี่จัสตินก็ตามมา
"ไอ้ไทเปมายังเนี่ย" ฉันบ่นพึมพำออกมาเบาๆ เพราะฉันไม่มีทางนั่งแท็กซี่กลับแน่นอน ซึ่งฉันได้บอกไทเปเพื่อนของฉันแล้วว่าวันนี้ เวลานี้ฉันมาถึงไทยให้มันมารับฉันหน่อย ซึ่งคนอย่างมันต้องเรทแน่นอน
เฮ้อ..ฉันล่ะเบื่อมันจริงๆ
ตุ้บ!
และจังหวะที่ฉันกำลังก้มหน้าลงเพื่อล้วงเอาโทรศัพท์ที่อยู่ภายในกระเป๋า ทำให้ฉันไม่ได้มองทางแล้วดันไปชนกับใครก็ไม่รู้
"ขอโทษค่ะ พอดีฉันไม่ทันได้มอง..." จังหวะที่ฉันเงยหน้าขึ้นมองหน้าคนที่ฉันชนทำให้ฉันพูดอะไรไม่ออกเลย เพราะคนที่ฉันชนมีใบหน้าที่คุ้นมากเหมือนฉันเคยเจอที่ไหน แต่ฉันว่าฉันคงจำคนผิดแหละมั้ง เพราะผู้ชายคนนี้ดูน่ากลัวแปลกๆ สายตาของเขามันนิ่งจนฉันไม่รู้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่ ทำให้ฉันก้มหัวขอโทษเขาอีกครั้ง "ขอโทษค่ะ"
"..." ไร้ซึ่งวี่แววใดๆ หลุดออกจากปากของเขา ฉันจึงใช้สายตาหันไปมองที่ข้างหลังของเขาก็เจอกับผู้ชายชุดดำมากมายยืนอยู่
"รถมาแล้วครับนาย" ผู้ชายหน้าตาดีอีกหนึ่งคนที่ยืนอยู่ข้างหลังของเขาเอ่ยขึ้นก่อนที่ฉันจะเบือนสายตาหันไปมองหน้าผู้ชายคนนี้อีกครั้ง แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมานอกจากเดินผ่านหน้าของฉันไป
"เฮ้อ" ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเขาเดินผ่านหน้าฉันไปแล้ว ฉันยังคงติดใบหน้าของผู้ชายคนนี้อยู่เลย ฉันเคยเจอที่ไหนนะ! แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก
"จัสมินมึงมายืนทำไรตรงนี้วะ ทำไมไม่ออกไปรอข้างหน้า กูต้องไปหาที่จอดรถแล้วเดินมาตามมึงเนี่ย" ฉันหมุนตัวกลับไปมองยังต้นเสียงก็เจอไทเปเพื่อนของฉันเดินบ่นเข้ามาแต่ไกล หน้าตาก็ดีบ่นเก่งฉิบหาย
"ฉันกำลังจะเดินไป แกนี่บ่นเหมือนพ่อฉันทุกวัน" ฉันจิปากใส่มันอย่างหงุดหงิดก่อนจะเดินตามมันไปขึ้นรถที่โรงจอดรถ
ปึก!
ทันทีที่ประตูรถปิดลงแล้วรถก็เคลื่อนตัวออกจากโรงจอดรถ สายตาของฉันก็มองไปเห็นผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว เขากำลังเดินไปที่รถของเขาโดยมีผู้ชายหลายคนเดินตามไปติดๆ
"ไทเป..." ฉันเอ่ยเรียกไทเปออกไปแต่สายตายังคงจับจ้องผู้ชายคนนั้น
"อะไร"
"ฉันเหมือนเคยเจอหน้าผู้ชายคนนั้นเลย" ฉันชี้ไปที่ผู้ชายคนนั้นก่อนที่ไทเปจะนิ่งไปครู่หนึ่งจนรถเคลื่อนตัวออกจากสนามบิน
"มึงไม่คุ้นสิแปลก"
"ทำไมวะ" ฉันหันไปมองหน้าไทเปนิ่งๆ แสดงว่าฉันเคยเจอสินะ แต่ทำไมฉันจำไม่ได้
"มันคือเพื่อนไอ้มาร์คัสแฟนมิวนิค"
"แล้วฉันเคยเจอเหรอ?"
"เออ มึงเป็นคนความจำสั้นตั้งแต่เมื่อไหร่" มันหันหน้ามามองหน้าฉันด้วยใบหน้านิ่งเรียบก่อนจะหันไปสนใจการขับรถต่อ
"เอ้า ก็ฉันจำไม่ได้นี่"
"มันคือมาเฟียที่เพิ่งมาทำธุรกิจที่ไทย แต่แม่งโคตรรุ่ง กูก็อยากรู้มันทำยังไง"
"มาเฟีย? แสดงว่าน่ากลัวเหมือนแฟนมิวเหรอ?" ฉันถามออกไปด้วยใบหน้าซีดเชียว เพราะฉันก็พอรู้เรื่องแฟนมิวนิคเหมือนกัน คนนั้นก็น่ากลัว น่ากลัวมากๆ แต่ฉันไม่ได้คุยหรืออะไรด้วยหรอก เห็นแค่เพียงหน้าตาและตอนทำร้ายไทเปเฉยๆ แต่เล่นไทเปนอนโรงพยาบาลขนาดนั้นคงไม่ใช่เล่นๆ หรอก
"อือ..อาจจะน่ากลัวกว่า"
"..." ฉันนิ่งไปทันที นี่ฉันไปเดินชนเขาเมื่อกี้แล้วมีชีวิตรอดกลับมาถือว่าฉันต้องมีบุญเยอะมากพอตัวแหละ แต่ฉันว่าหลังจากนี้ฉันต้องไปทำบุญแล้วแหละ
"มึงอย่าไปยุ่งก็พอ"
"เขาชื่อไร?"
"อยากรู้ไปทำไม?" ไทเปหันมามองหน้าฉันแวบหนึ่งก่อนจะเบือนหน้าหนี แต่รู้ไว้ก็ไม่เสียหายหนิ
"ประดับสมองมั้ง" ฉันตอบออกไปกวนๆ
"กูขอให้มึงไปอยู่ในกำมือมัน"
"ไอ้ไทเป!!" ฉันทำเสียงดุใส่มันทันที มีที่ไหนมาแช่งให้เพื่อนไปอยู่ในกำมือผู้ชายอันตรายคนนั้น จะบ้ารึไง ชีวิตฉันไม่ได้มีอะไรที่ต้องเข้าไปยุ่งกับผู้ชายคนนั้นเลย
"หึ..." ไทเปมันก็หัวเราะขึ้นเบาๆ "มันไม่ยุ่งกับมึงหรอก ถึงมึงจะหน้าตาดีนิดหน่อยแต่มันก็ไม่ได้สนใจผู้หญิงขนาดนั้น"
"ย่ะ..จะชมว่าสวยก็ชมเถอะ" ฉันเบือนสายตาจากใบหน้าของไทเปหันไปมองข้างหน้า ที่ฉันถามเพราะอยากจะรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครเฉยๆ ไม่ได้อยากจะเข้าไปยุ่งสักหน่อย
"หน้าอย่างมึงสวย มิวนิคนี่นางฟ้าเลย"
"ตัดใจไม่ได้เหรอคะสุดหล่อ" ฉันหันไปยกยิ้มมุมปากให้มันจนมันเงียบไป "ระวังได้นอนกินข้าวต้มโรงบาลอีกนะคะ"
"เดี๋ยวกูจอดให้มึงลงตรงนี้ พูดมากฉิบหาย" ฉันก็หัวเราะขึ้นเบาๆ ให้กับท่าทางของคนข้างๆ ก็อย่างว่าแหละคนมันชอบหนิ แต่สุดท้ายก็แพ้ให้กับคนอื่น
"สรุปแกจะไม่บอกฉันเหรอว่าผู้ชายน่ากลัวคนนั้นชื่ออะไร?" ฉันยังไม่จบนะ เพราะฉันอยากรู้เพราะถ้าฉันได้ยินชื่อของเขาฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเลย
"ฟีนิกซ์ อย่าไปยุ่งกับพวกมันกูขอเตือน" มันหันมามองหน้าฉันด้วยใบหน้าที่จริงจังก่อนที่ฉันจะพยักหน้าเบาๆ เพราะฉันก็ไม่ได้อยากจะยุ่งอยู่แล้ว
อีกด้าน
"ผู้หญิงคนนั้นคือน้องของไอ้เด็กผู้ชายคนนั้นครับ" ปืนลูกน้องคนสนิทของมาเฟียหนุ่มอย่างฟีนิกซ์เอ่ยบอกขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ
"บอกกูทำไม" ฟีนิกซ์หันไปจ้องมองใบหน้าลูกน้องคนสนิทเพียงนิดก่อนจะเบือนสายตาออกไปนอกหน้าต่างภายในรถคันหรูคันนี้ เพราะเขาไม่ได้สนใจผู้หญิงคนนั้นเลยแม้แต่น้อย และที่สำคัญเขาก็รู้อยู่แล้วว่าเธอคือน้องของจัสติน
"แล้วนายจะเอายังไงต่อกับมันครับ ตอนนี้มันยังไม่มีท่าทีว่าจะกลับไทยเลย" ลูกน้องคนสนิทมาเฟียหนุ่มพูดขึ้นด้วยใบหน้านิ่งเรียบ
"เดี๋ยวมันก็กลับมา"
"ผมว่ามันคงไม่มีเงินให้นายแน่นอน เพราะทาง..."
"ไม่มีเงินก็เอาชีวิตมันมาแลก" ไม่รอให้ลูกน้องคนสนิทพูดจบ มาเฟียหนุ่มก็เอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาจนภายในรถคันหรูคันนี้ไม่มีเสียงใดๆ หลุดออกมาอีกเลย เพราะพวกเขารู้ดีว่าเจ้านายหนุ่มของพวกเขานั้นโหดร้ายขนาดไหน