ปลุกวิญญาณนักธุรกิจสาว

1458 Words
นางจึงหันหลังกลับจากนั้นก็ไปเลือกร้านอื่น เดินมาสักพักจนเจอร้านในตรอกเล็กมีป้ายเขียนง่ายๆว่า จินปู่เตี้ยน ร้านผ้าของสกุลจินเดินเข้ามาก็เจอสตรีวัยสามสิบปีลายๆลุกขึ้นมาต้อนรับ "แม่หนู เจ้ากำลังหาสิ่งใดกัน ให้ข้าช่วยดีหรือไม่"จินเหนียงทักทายเด็กสาวตรงหน้านางไม่เคยตัดสินใครจากการแต่งตัว "เถ้าแก่เนี้ย ข้าอยากได้ชุดสำเร็จเจ้าค่ะ ของเด็กผู้ชายสามขวบกว่ากับเด็กผู้หญิงห้าขวบกว่า" "มาถูกร้านแล้ว นี่เป็นเนื้อผ้าธรรมดาราคาชุดละ70อีแปะ ถูกมากแล้วปกติข้าขาย90อีแปะเชียวนะ แต่เห็นการแต่งตัวของเจ้าแล้ว คิดว่าคงมีใจซื้อจริงจึงลดให้ อย่าคิดว่าข้าดูถูกเจ้าล่ะ" "งั้นของเด็กผู้ชายข้าขอสองชุด สีฟ้ากับสีน้ำเงิน ส่วนของเด็กผู้หญิง เอาสีชมพูกับสีเหลืองเจ้าค่ะ" "แล้วของเจ้าล่ะ ถ้าเอาข้าคิดราคาเดียวกัน ปกติขนาดตัวเท่าเจ้าอยู่ที่ชุดล่ะ100อีแปะ" "เถ้าแก่เนี้ย ท่านรับงานปักหรือไม่เจ้าคะ" "เฮ้อ พูดก็พูดเถอะ เมื่อก่อนคุณหนูอวี้เซียนดูแลฮวาเหยียนนางมีน้ใจนักไม่เคยกดหัวร้านเล็กอย่างพวกเราเลย พอคุณหนูอวี้เซียนถูกปลดให้ไปดูแลร้านเบ็ดเตล็ดที่กำลังจะขาดทุน ได้ข่าวว่าหากภายในสิ้นปียังทำกำไรไม่ได้จะให้นางแต่งไปอยู่เป่ยเหลียง นายท่านจางช่างรักบุตรลำเอียงเสียจริงๆให้คุณหนูรองจางอวี้หรูมาดูแลฮวาเหยียนแทนบุตรอนุคนนั้นจิตใจคับแคบเหมือนมารดานาง กดหัวร้านเล็กๆอย่างพวกเราจนแทบจะไม่ได้ลืมตาอ้าปาก คนที่ปักผ้าส่งฮวาเหยียนหากไม่ถูกกดราคาก็หาว่าผลงานไม่ดีไม่รับซื้อ พวกเขาขายไหมขายผ้าเช็ดหน้าสำหรับนำกลับไปปักตอนขายรับปากอย่างดีว่าจะรับซื้อ ถึงเวลากลับพลิกลิ้น" "แล้วท่านจะทำเช่นไรหรือเจ้าคะ เมื่อก่อนข้าเคยปักผ้าส่งฮวาเหยียนแต่เมื่อสักครู่จะไปขอซื้อผ้าสักชุดกลับถูกไล่ตั้งแต่ยังไม่เข้าประตูร้านด้วยซ้ำ" "ข้าเองมีคนเก่าคนแก่จะทอดทิ้งพวกเขาก็ไม่ได้ แต่งานปักของฮวาเหยียนลวดลายมาจากเมืองหลวงจึงทำให้ดึงดูดลูกค้าร้านอื่นไปจนหมด' "เถ้าแก่เนี้ยข้าพอรู้เรื่องลายผ้า รับรองว่าไม่ได้คัดลอกหรือขโมยผู้ใดมาหากข้าวาดให้ท่านลองปักท่านจะยินดีไหมเจ้าคะ นี่เป็นผ้าเช็ดหน้าของข้าที่ปักเองเจ้าค่ะ" ซ่งจื่อหรูนึกขอบคุณตัวเองที่กลัวว่าอากาศจะร้อนจึงหยิบเอาผ้าเช็ดหน้าในมิติติดมือมา หากเข้าตาเถ้าแก่ร้านจินปู่เตี้ยนแปลว่าโชคช่วย ผ้าผืนนั้นปักเป็นรูปตระกร้าสานบนตระกร้าผูกโบว์สีชมพู ในตระกร้ามีกระรอกสองตัวมือกำลังถือผลเหอเถา(วอลนัท)แก้มสองข้างตุงดวงตาสดใส มีผลเฉาเหมยสีแดงและใบสีเขียวแซมประปราย จินเหนียงตาเป็นประกายน่ารักเสียจริง นางรีบเอาไปให้คนข้างในดูว่าสามารถปักได้หรือไม่ครู่เดียวก็ออกมา "แม่หนู ลายปักนี้สามารถขายได้หรือไม่ เจ้าลองบอกราคามาเถิด" "ถ้าท่านต้องการข้าจะวาดให้อีกสองลาย ส่วนเรื่องราคาอีกสิบกว่าวันจะถึงเทศกาลเชงเม้งข้าต้องมาซื่อกระดาษเซ่นไหว้ หากขายได้ถึงเวลานั้นท่านค่อยคำนวนให้ข้าก็ได้เจ้าค่ะ" จากนั้นก็วาดลวดลายให้นางสองแบบลายแรกเป็นดอกลิลลี่ป่าสีชมพูสลับขาว พร้อมกับแนะนำวิธีปักหยดน้ำเสมือนจริงอีกลายเป็นรูปดอกเดซี่รอบๆขอบผ้าสลับกับใบโคลเวอร์คนที่นี่ไม่รู้จักจึงอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น เมื่อคุยเรื่องผ้าปักเรียบร้อยก็จ่ายค่าชุดไปหกชุดเป็นเงิน420อีแปะนางยังซื้อฝ้าสะอาดสีขาวอีกสามพับๆละ60อีแปะจิน จินเหนียงถามนางว่าเอาไปทำไมเยอะขนาดนี้ นางไม่ตอบได้แต่ยิ้มทั้งหมด600อีแปะจินชุ่ยหลินใจดีแถมเศษผ้าให้นางอีกสามถุงใหญ่ นางให้คนมาส่งตรงตรอกที่ซ่งจื่อหรูบอก เมื่อคนงานจากไปนางก็เก็บทุกอย่างเข้ามิติ จางอี้เซียนเป็นคนมีน้ำใจทุกครั้งที่ซ่งจื่อหรูไปส่งผ้าก็มักจ่ายตามผลงานบางครั้งก็มีขนมให้กินเสมอ ท่านแม่ฝีมือปักผ้าดีนักจึงได้ราคาดีกว่าคนอื่นไว้ค่อยหาเวลาไปหานางดีกว่า ซ่งจื่อหรูเป็นผู้บริหารมาก่อนย่อมมีกลยุทธของตนเองและรู้ดีว่าคนแบบไหนต้องเข้าหาเช่นไร การค้าไม่สามารถร่ำรวยข้ามคืนกรุงโรมไม่สามารถสร้างเสร็จในวันเดียว ยกเว้นคนอย่างแม่เฒ่าหลี่นี่ซ่งจื่อหรูยอมในความไร้ยางอายของนางจริงๆ ซ่งจื่อหรูซื้อหมั่นโถว200ลูกกว้านซื้อมาสามร้านหมั่นโถวไม่มีใส้2ลูก1อีแปะถูกกว่าซาลาเปาลูกละ3อีแปะ จากนั้นก็ซื้อข้าวสาร10ชั่ง น้ำมัน1ไห เกลือ1ชั่ง ข้าวเหนียว20ชั่ง สามชั้น2ชั่ง มันหมู5ชั่ง เนื้อแดง2ชั่ง ไก่2ตัว ก่อนจะนำของบางอย่างออกมาจ้างเกวียนวัวกลับบ้าน ซ่งจื่อหรูกำลังจะเดินไปจ้างเกวียนวัวแต่นึกขึ้นมาได้ว่าร่างนี้มีความสามารถในการแบกของที่มีน้ำหนักกว่าตัวเองนี่นา อีกอย่างของอยู่ในมิติก็เท่ากับเดินตัวเปล่า จะเสียเงินทำไม "เฮ้อ ให้ตายสิซ่งจื่อหรูหล่อนลืมซื้อกระดูกหมู" ซ่งจื่อหรูรีบวิ่งกลับมาที่เขียง เห็นคนขายกำลังจะทิ้งกระดูกหมูก็วิ่ง8x100ทันที ตะโกนเรียกเสียงดัง "ท่านอาๆๆ กระดูกหมูนั่นข้าขอซื้อเจ้าค่ะ แฮ่กๆๆๆ" "อ้าวนังหนูคนเมื่อกี้ ไม่ต้องซื้อหรอกข้าให้เจ้าว่าแต่ที่บ้านเจ้าเลี้ยงสุนัขหลายตัวรึ" "ไม่ได้เลี้ยงๆเจ้าค่ะพอดีน้องข้าช่วงนี้กินข้าวไม่ได้ ท่านแม่ก็อ่อนแอตั้งแต่คลอดน้องเล็ก (อาสะใภ้ฮั่วข้าขอยืมชื่อท่านก่อนนะ)ท่านหมอบอกว่ากระดูกใช้ต้มน้ำแกงบำรุงได้ ท่านอาช่วยขายให้ข้าเถอะเจ้าค่ะ" "มาๆข้าให้เจ้าไม่คิดเงิน เด็กกตัญญูอย่างเจ้าสักวันต้องได้ดี"จางต้าหู่ชอบเด็กกตัญญูจึงชอบใจนางเป็นพิเศษ "ท่านอา เครื่องในท่านก็ทิ้งหรือเจ้าคะ"เมื่อเห็นจางต้าหู่กำลังเก็บเครื่องในใส่ถังไม้เตรียมนำไปขุดหลุมฝังทิ้งซ่งจื่อหรุจึงถามเขา "แม่หนูเอ๊ยปกติจะมีบางคนมาขอน่ะ พวกเขาไม่มีเงินซื้อเนื้อแต่วันนี้เศรษฐีวั่นแต่งบุตรสาวกับเศรษฐีตำบลข้างเคียงเขาจ้างข้าเชือดหมูสิบกว่าตัว หากพวกเขาไม่มาเอาข้าก็ต้องทิ้งสายแล้วจะส่งกลิ่น" "ท่านอาท่านขายอย่างไร ข้าซื้อหมดเจ้าค่ะ" "นังหนู เครื่องในมันคาวมากนะ อีกทั้งสิบกว่าพวงนี่เจ้าจะเอาไปทำอะไร" "ท่านอาท่านเอียงหูมานี่เจ้าคะ" จางต้าหู่เอ็นดูเด็กหญิงจึงยอมเล่นด้วย ทันทีที่ซ่งจื่อหรูกระซิบเขาก็ตาลุกวาว "ทำแบบนั้นได้จริงๆหรือ" นางกระซิบบอกสูตรเครื่องในพะโล้แก่เขา "จริงเจ้าค่ะหากไม่ติดว่าต้องเลี้ยงน้อง แถมท่านแม่เจ็บออดๆแอดๆการค้านี้คงไม่ยกให้ท่านหรอกท่านอาปกติท่านซื้อหมูจากที่ใดเจ้าคะ" "ตามหมู่บ้านที่ชาวบ้านเลี้ยงน่ะ ทำไมรึนังหนู" "ท่านอา ข้าเลี้ยงหมูแบบเลี้ยงเยอะๆท่านสามารถรับซื้อไหมเจ้าคะ" "ข้าเป็นร้านเล็กๆแต่สามารถหาคนรับซื้อให้เจ้าได้ขอแค่ไม่มีโรคย่อมขายได้" "ท่านอาข้ารับจ้างผู้อื่นเลี้ยงอยู่เจ้าค่ะ แต่เขาต้องไปต่างถิ่นจึงยกให้ข้า เฮ้อทุกบ้านมีบทสวดมนต์ที่ยากข้าเองยังเด็กเพียงนี้หากมีคนรู้ว่าข้ามีพวกมันอยู่เกรงว่าจะไม่ง่าย เดือนหน้าเทศกาลเชงเม้งข้าจะมาตำบลอีกรอบเราค่อยมากคุยกันอีกทีนะเจ้าคะ ข้าลาล่ะเจ้าค่ะท่านแม่กับน้องรออยู่" ซ่งจื่อหรูได้กระดูกกลับไปมากมายแถมเครื่องในอีกสิบกว่าพวก พอลับตาคนก็โยนเข้ามิตินางแน่ใจแล้วว่าของที่อยู่ในนั้นไม่เน่าเสีย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD