หาช่องทางทำการค้า

1044 Words
เมื่อทั้งคู่มาถึงร้านบะหมี่ ก็นั่งลงเจ้าของร้านเป็นชายชราท่าทางใจดีคนนึงเด็กสาวที่อยู่ข้างๆคงเป็นหลานสาว นางทำงานคล่องแคล่วเพียงพริบตาก็จัดร้านเรียบร้อยซ่งจื่อหรูนั่งลงสั่งบะหมี่ทันที "ท่านตาเอาบะหมี่เนื้อสองชาม ขอไข่ดาวด้วยนะเจ้าคะ" "อ้อๆๆ ได้ๆๆๆ อาหลิงเอ๊ยต้อนรับลูกค้าหน่อยเร็วๆเข้า"ชายชรารับคำก่อนจะหันไปสั่งเด็กน้อยที่ช่วยงานอยู่ "เจ้าค่ะท่านปู่ พี่ชาย พี่สาวสวัสดีเจ้าค่ะรับน้ำชาแล้วรอบะหมี่สักครู่นะเจ้าคะ" เด็กน้อยเจื้อยแจ้วก่อนจะรินชาใส่ชามสองใบส่งให้ทั้งคู่ คนเริ่มพลุกพล่านร้านค้าเริ่มร้องตะโกนขายของ "บะหมี่มาแล้วเจ้าค่ะทานให้อร่อยนะเจ้าคะ ลูกค้าสามท่านต้องการรับอะไรดีเจ้าคะ" เด็กน้องยกบะหมี่มาวางจากนั้นก็รีบวิ่งไปรับรองอีกโต๊ะ บนใบหน้ามีแต่รอยยิ้มหญิงชราคนนึงกำลังล้างผักอยู่ใกล้ๆคงจะเป็นย่าของเด็กน้อย ซ่งจื่อหรูหันหลังไปมองตามเด็กน้อยไป ทันใดก็เห็นสตรีคนที่ใส่หมวกคลุมผ้าเลิกผ้าขึ้นพร้อมกับยกน้ำชาขึ้นดื่มซ่งจื่อหรูตัวชา ไม่ใช่แค่เหมือนแน่ๆแต่ว่าเป็นคนๆเดียวกันชัดเจน นางไม่มีคู่แฝดเป็นลูกคนเดียว ซ่งจื่อหรูอยู่ในภวังค์จนไม่ได้ยินเสียงหลี่เหิงเรียก "น้องสี่ น้องสี่ น้องสี่ เจ้าเป็นอะไรไป อย่าทำข้าตกใจสิ"หลี่เหิงเรียกนางหลายครั้ง "พี่ใหญ่ ท่านบอกข้าทีท่านว่าคนที่ตายไปแล้วจะฟื้นคืนชีพมาได้หรือไม่" "น้องสี่ สำลักบะหมี่จนน้ำแกงขังในหัวเจ้าหรือไง คนตายที่ไหนจะฟื้น" "แล้วหากบอกคนอื่นว่าตายไปแล้วล่ะ แต่ที่จริงยังไม่ตายล่ะ" "น้องสี่เจ้าเป็นอะไรไป รีบกินรีบกลับเถอะ หากจื่อเย่วจื่อห่าวตื่นมาไม่เจอจะเสียขวัญ" ซ่งจื่อหรูพยักหน้า เมื่อทั้งคู่กินบะหมี่เสร็จก็จ่ายเงินบะหมี่เนื้อราคาชามละ7อีแปะใส่ไข่ด้วยเป็น10อีแปะ ซ่งจื่อหรูนับเงินอีแปะจ่ายร้านบะหมี่จากนั้นก็จูงมือหลี่เหิงออกมา ในหัวนางกำลังคิดถึงผู้หญิงอีกคนที่เพิ่งบังเอิญเจอ "น้องสี่ เจ้ามีเรื่องกังวลใจหรือ วางใจเถอะข้าจะไม่ให้ท่านย่าขายน้องห้ากับพวกเจ้าแน่ๆ" "พี่ใหญ่เรื่องนั้นข้าไม่ห่วงหรอกข้าย่อมมีทางออกแน่ๆ อีกสองวันพวกเราจะขึ้นเขาไปขุดมันเทศหากบ้านไหนคนเยอะก็จะได้ส่วนแบ่งเยอะ ท่านจะกลับบ้านหรือไม่" "ข้าอาจลาหยุดได้ ความจริงข้าอยากตามรอยท่านปู่เป็นช่างไม้การสอบขุนนางสำหรับข้าไม่ใช่เส้นทางที่ต้องการ น้องสี่ว่าแต่มันเทศคือสิ่งใด" "มันเทศคืออาหารน่ะท่านตาข้าทดลองปลูกมานานข้าขึ้นเขาแล้วพบว่าบนเขามีอยู่เกือบสามหมู่ พี่ใหญ่ข้ายอมรับว่าป้าสะใภ้ใหญ่บางครั้งนางน่ารังเกียจแต่บ้านเดิมนางก็ไม่มีตัวตน นางจึงอยากอาศัยท่านฉุดรั้งความน้อยเนื้อต่ำใจเหล่านั้น" "เป็นช่างไม้ไม่ดีตรงไหนท่านปู่ก็ใช้อาชีพนี้เลี้ยงดูครอบครัวได้ ท่านตาเจ้าหากไม่ล้มป่วยก็คงเหมือนท่านปู่ตอนนี้" "อย่าพูดเลยนี่เป็นเงิน100อีแปะ พี่ใหญ่เก็บดีๆอย่าให้อาสี่รู้ท่านเอาเงินนี่ไปซื้อใบสมัครสอบถงเซิงเสีย ประกาศผลหากไม่ติดค่อยคิดเรื่องลาออกหากสอบติดค่อยมาว่ากันอีกทีเรื่องอนาคต แม้ว่าพี่สามจะน่ารำคาญไปหน่อยแต่อย่างน้อยก็ไม่น่ารังเกียจ นางยังต้องการๆสนับสนุนจากบ้านเดิมหากแต่งงานออกไปจำไว้เก็บให้ดีทางที่ดีเก็บไว้กับตัว" ทั้งสองบอกลากันเดือนหน้าจะถึงฤดูการสอบ หลังจากสอบก็ถึงเทศกาลเชงเม้งเขาจะกลับบ้านสักที เขาพลาดทุกครั้งเพราะอาสี่มักมารีดไถเงินจนหมดแม้แต่ค่าใบสมัครเพียง20อีแปะก็ไม่มีจึงไม่เคยได้วัดความสามารถตนเอง เขาละอายใจต่อครอบครัวอาสามจริงๆอาสามที่คอยเอ็นดูพวกเขามาตลอด ท่านตาซ่งมักทำของเล่นมาให้แต่ทุกอย่างกลับถูกท่านย่าทำพัง ครอบครัวดีๆกลายเป็นขุมนรก ซ่งจื่อหรูจำคนได้ไม่ผิดแน่ทำไมต้องโกหกทุกคนว่าตาย เมื่อคืนนี้คงเป็นพวกเขาที่นำเงินจำนวนนั้นมาวางไว้ นางเคยอยู่หน่วยสอดแนมมาก่อนตะวันออกกลางก็ประจำมาแล้วอยู่ที่นั่นจะนอนยังต้องตื่นตัว แต่เมื่อคืนพวกเขามาหาโดยที่นางไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไม่ใช่คนธรรมดาแน่ มีเหตุอะไรที่ต้องทิ้งเด็กๆไว้ลำพัง ในเมื่อพวกเขาเลือกที่จะทอดทิ้งเหตุใดนางต้องวิ่งไขว่คว้ากัน จากนั้นก็ไม่ใส่ใจเดินซื้อของผ้าที่มีอยู่นั้นเนื้อดีเกินไปไม่เหมาะสำหรับชาวบ้าน หาซื้อผ้าธรรมดาดีกว่า จากนั้นก็อาศัยความทรงจำไปยังนางที่เคยส่งผ้าปัก เมื่อมาถึงก็ถูกคนดูแลร้านไล่ออกมา ร้านนี้ชื่อฮวาเหยียนเป็นร้านของสกุลจาง "ขอทานที่ไหน กล้ามาเหยียบร้านเราให้สกปรกแปดเปื้อน ไปๆๆๆไสหัวไป" "อาเฉิงมีเรื่องอะไรกัน" "ขอทานขอรับหลงจุ๊ ไม่รู้ว่ามาจากไหน อ้างว่าเคยมาส่งงานที่นี่ ข้าไล่ออกไปแล้ว" "อืม..ดีๆเหอะคุณหนูใหญ่นะคุณหนูใหญ่ตอนนั้นนายท่านปล่อยให้นางเป็นผู้ดูแลร้านแล้วอย่างไร กระทั่งขอทานยังกล้าต้อนรับให้เข้ามา สมควรแล้วที่ให้คุณหนูรองมาดูแทน" "จริงขอรับ นางไม่เหมาะกับแพรพรรณสวยๆงามๆหรอก เหมาะกับขายถั่วขายรำเช่นนั้นแหละ" จางเฉิงและจางลิ่วเป็นคนดูแลคนใหม่ของร้านฮวาเหยียนจึงไม่รู้จักซ่งจื่อหรู
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD