ข่าวคราวท่านอ๋อง1

1157 Words
ห้องตกแต่งวิจิตรงดงาม เชิงเทียนลวดลวยอ่อนช้อน เครื่องเรือนดูบรรยาดาศในห้องล้วนดูมีพลัง ด้านบนชายคนหนึ่งสวมชุดสีทองลายมังกรนั่งอ่านฎีกาที่วางอยู่บนโต๊ะ ข้างๆมีชายชราคอยโบกแส้พัดให้ มีเสียงจากคนที่อยู่ด้านนอก "ทูลฝ่าบาท หลิวกุ้ยเฟยขอเข้าเฝ้าพะย่ะค่ะ"หานกงกงกราบทูล "หลิวกุ้ยเฟยหรือดึกป่านนี้นางมีธุระอะไร หานกงกงให้นางเข้ามา" บุรุษชุดทองสั่งคนข้างๆ "แต่ว่าฝ่าบาทองครักษ์ทั้งสองรอรายงานอยู่นะพะย่ะค่ะ" "เชิญนางเข้ามาเถอะกงกง ให้เกาฟ่านกับเกาหม่ารอก่อน" หรือ"รับด้วยเกล้าพะย่ะค่ะ เชิญหลิวกุ้ยเฟยเข้าเฝ้าได้" เสียงแหลมคล้ายสตรีก็ไม่เชิงของหานกงกงตะโกนอนุญาติคนด้านนอก ชั่วอึดใจก็มีสตรีร่างระหงเกินเข้ามายามที่นางก้าวเดินนั้นเหมือนดั่งเทพธิดา อ่อนช้อยอ่อนหวานยิ่งนัก ด้านหลังมีสตรีอีกสองคนถือถาดทองเหลืองตามในถาดมีชามวางอยู่ "ฝ่าบาท ดึกมากแล้วยังทรงอ่านฎีกาอยู่อีกหรือเพคะ หม่อมฉันทำน้ำแกงไก่ตุ๋นโสมมาถวาย ไห่ถังยกเข้ามาให้ข้า"หลิวกุ้ยเฟยสั่งนางกำนัลที่เดินตาม "เพค่ะกุ้ยเฟยเหนียงเหนียง" สาวใช้ประคองถาดมาใกล้อีกคนยกชามน้ำแกส่งให้หลิวกุ้ยเฟย นางรับมาจากนั้นก็เดินมาข้างจ้าวเทียนหยู ก่อนจะวางลงพร้อมตักน้ำแกงใช้มือพัดเบาเพื่อให้คลายร้อน "กุ้ยเฟยเจ้าวางไว้เถอะข้ายังไม่หิวห้องเครื่องเพิ่งจะส่งของว่างมามื่อสักพักเอง นี่ก็ดึกแล้วใยจึงยังไม่นอนอีก" "หม่อมฉันเป็นห่วงฝ่าบาท ได้ยินว่าจ้าวอ๋องยังมีชีวิตอยู่ และติดต่อมาแล้วเป็นเรื่องจริงหรือเพคะ นั่นเป็นเรื่องดีจริงๆหากฮองเฮาทราบคงดีพระทัยไม่น้อย" "กุ้ยเเฟยเจ้าไปเอาข่าวจากที่ใดมา หากหย่งเอ๋อร์ติดต่อมาเหตุใดข้าจึงไม่รู้มิใช่สกุลหลิวของเจ้าคิดว่าพวกเขาตายแล้วหรอกรึจึงได้ขอถอนหมั้นกับหรงเอ๋อร์ " "ฝ่าบาท อย่าทรงกริ้วเลยพะย่ะค่ะถนอมพระวรกายด้วย" หานกงกงเอ่ยเตือน "หม่อมฉันเองแค่สงสารนาง ปีนี้หลิวเยี่ยนเอ๋อร์อายุ15แล้ว หากนานวันแต่งไม่ออกชีวิตนี้ของนางคง" "หลิวซิ่วเอ๋อร์ ข้าเห็นแก่ที่เราร่วมเรียงเคียงหมอนกันมายี่สิบปีเรื่องวันนี้จะถือว่าข้าไม่ได้ยิน" ยังไม่ทันจะได้พูดต่อข้างนอกก็มีขันทีด้านนอกขานกล่าวเข้ามา "ฝ่าบาท เฉินหมัวมัวขอเข้าเฝ้าพะย่ะค่ะ" "หานกงกงท่านไปเชิญนางเข้ามาที" หญิงชราอายุประมาณหกสิบปีแต่ยังดูแข็งแรงเดินเข้ามา จ้าวเทียนหยูละจากโต๊ะทรงอักษรเดินลงมารับนางสีหน้ายิ้มแย้ม เหมือนว่าเมื่อสักครู่เขาไม่ได้มีเรื่องขุ่นมัวแต่อย่างใด จับมือเหี่ยวย่นคู่นั้นเอ่ยวาจาอ่อนโยน จ้าวเทียนหยูประคองเฉินหมัวมัวให้นั่งเก้าอี้ด้านข้าง คนทั้งหมดจึงต้องยืนข้างๆ อีกด้าน "แม่นมเฉิน ดึกแล้วเหตุใดยังไม่นอนอีกสุขภาพสำคัญยิ่งหรือว่าตำหนักซู่ฟางเกิดเหตุอันใด" "หม่อมฉันถวายพระพรฝ่าบาทพระสนมเองก็อยู่ที่นี่ด้วย ฝ่าบาทไทเฮาช่วงนี้เสวยน้องลงหม่อมฉันเกลี้ยกล่อมก็ไม่เป็นผล อยากจะขออนุญาติพระองค์ ให้ไท่จื่อหยุดพักสักสามวันไปคุยเป็นเพื่อนไทเฮาได้หรือไม่เพคะ" "เสด็จแม่ทรงคิดถึงฉีเอ๋อร์หรือ ได้ข้าจะให้เขาพักสักสามวันแล้วกัน " "ฝ่าบาทตั้งแต่เกิดเรื่องท่านอ๋องขึ้นพระองค์ก็ไม่ไปหาพระนาง ฝ่าบาทฟังหม่อมฉันสักหน่อยเถอะสายใยแม่ลูกตัดไม่ขาด ไทเฮาแค่เป็นห่วงท่านอ๋องที่ยังไม่ทราบชะตากรรมตอนนี้บุตรที่ยังอยู่ก็มีเพียงพระองค์ อย่าทรงทิฐิอีกเลยเพคะ" จ้าวเทียนหยูพยักหน้าพร้อมกับรับปากแม่นมเฉิน นางเลี้ยงเขากับน้องชายมาตั้งแต่ยังเป็นองค์ชายนอกวังหากมิใช่เฉิงอ๋อง ก่อกบฎรัชทายาทองค์ก่อนมีส่วนร่วม ตำแหน่งฮ่องเต้คงไม่ใช่ของเขา เขาและน้องชายยังคงเป็นอ๋องนอกวัง "ได้ข้ารับปากท่านข้าจะหาเวลาไปเฝ้าเสด็จแม่ ช่วงนี้ลำบากแม่นมแล้วท่านค่อยๆเดินนะ หานกงกงรบกวนท่านแล้วช่วยส่งแม่นมเฉินที" หลังจากพ้นห้องทรงอักษรหลิวหมัวมัวก็ต่อว่าเฉินหมัวมัวทันที "แม่นมเฉิน ไทเฮาไม่เสวยท่านกลับไม่มีปัญญาถึงขั้นต้องมารบกวนฝ่าบาทเชียวหรือ ในวังคงไม่ใช่ขาดแคลนหมอหลวงกระมัง" "หลิวหมัวมัว คำพูดเจ้าช่างระคายหูนักมารดาคิดถึงบุตร ผู้อาวุโสคิดถึงหลานๆมีสิ่งใดไม่ถูกหรือ ไทเฮาคิดถึงไท่จื่อไม่เกี่ยวกับที่ข้ามีปัญญาหรือไม่" "ท่านเป็นแม่นมของฝ่าบาทหรือเซียวฮองเฮากันแน่ ข้าเห็นเข้าออกตำหนักฮองเฮามากกว่าตำหนักคุณหนิงเสียอีก" "กุ้ยเฟยเหนียงเหนียง ฮองเฮาพระวรกายอ่อนแอแต่ไม่ได้หมายความว่าวังหลังจะละเลยกฎเหล่านั้นได้ เหนียงเหนียงหากทรงสั่งสอนคนของพระนางไม่ได้ก็มิสู้ให้ตำหนักฉางชิงช่วยสั่งสอนดีหรือไม่เพคะ"เฉินหมัวมัวไม่ตอบคำถามหลิวหมัวมัวแต่หันมาถามหลิวกุ้ยเฟยแทน "แม่นมหลิว เฉินหมัวมัวกล่าวถูกแล้ว ไทเฮาอายุมากย่อมที่โรคหว้าเหว่เป็นธรรมดา ท่านอย่าตำหนิเฉินหมัวมัวเลย ตั้งแต่ท่านอ๋องหายไปไทเฮาก็ประชวนทุกสามวัน อีกอย่างองค์ชายสามไม่ได้เจอหน้าไทเฮานานแล้วพรุ่งนี้มิสู้ไปเข้าเฝ้าไทเฮาเสียพร้อมกัน จะได้คลายความเศร้าของพระนาง ท่านว่าอย่างไรเฉินหมัวมัว" "กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงดึกแล้วกระหม่อมมีหน้าที่ส่งแม่นมให้ถึงตำหนักซู่ฟาง ขอตัวก่อนนะพะย่ะค่ะหากฝ่าบาทเรียกใช้แต่กระหม่อมไม่อยู่กระหม่อมอาจมีโทษได้ กระหม่อมทูลลา" หานกงกงเอ่ยขัดจังหวะทั้งสองก่อนจะผายมือเชิญเฉินหมัวมัวให้เดินนำหน้า "เหนียงเหนียง นางก็แค่แม่นมคนนึง มีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนท่าน"หลิวหมัวมัวเอ่ยกับเจ้านายอย่างไม่พอใจคนที่เพิ่งเดินจากไป เฉินหมัวมัวไปไกลแล้ว หลิวกุ้ยเฟยหน้าดวงตาแดงก่ำ แค่ขี้ข้าของไทเฮากล้าไม่ไว้หน้านาง "ขนาดข้าฝ่าบาทยังไม่เคยประคองแต่กับอ่อนโยนกับนางท่านคิดว่าอย่างไร ป้าหลิวพรุ่งนี้ท่านกลับบ้านเชิญท่านพ่อเข้าวังสักหน่อย" "เพคะเหนียงเหนียง"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD