My doctor 6…

2095 Words
นานแล้วที่ไบรอันไม่ได้เข้ามาประชุมหรือดูแลคนในแก๊งเท่าไหร่ เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับงานที่โรงพยาบาล ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรจอห์นสามารถจัดการมันได้อยู่แล้ว และเขาบอกตั้งแต่แรกแล้วด้วยว่าเขาจะไม่มีวันเลิกเป็นหมออย่างเด็ดขาด “ฉันบอกพวกแกไปกี่ครั้งแล้ว ว่าอย่าให้คนไปเก็บเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านแถวนั้น ถ้ายังไม่ฟังกันอีก อย่าหาว่าฉันรุนแรงเกินเหตุก็แล้วกัน” เสียงจอห์นบอกขึ้นในการประชุมของแก๊ง เมื่อพวกที่ดูแลอยู่ตามเขตต่างๆเริ่มพากันนอกลู่นอกทางจนตำรวจเริ่มเข้ามาวุ่นวายกับคนในแก๊ง “ก็ผมห้ามแล้วพวกมันไม่ฟังจะให้ทำยังไง ลูกพี่ห้ามไม่ให้เราขายของแล้วพวกเราจะเอาเงินที่ไหนกินกันถ้าไม่ทำอย่างนั้น” “ใช่ๆ ตอนนี้เงินที่มีอยู่ก็เริ่มจะหมดแล้ว พอมาขอเบิกก็ไม่ให้เพิ่มอีก พวกผมต้องเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง จะให้ทำยังไง” พวกหัวหน้าหลายคนพากันไม่พอใจและสนับสนุนกันเอง ทำเอาจอห์นที่พยายามแก้ปัญหานี้มาได้สักพักเริ่มหมดความอดทนเหมือนกัน ไบรอันที่นั่งอยู่สังเกตเห็นค่อยๆยืนขึ้น “ฉันว่าฉันใจดีกับพวกนายจนเกินไป ใช่ไหม” เสียงที่ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดใดออกมาของชายหนุ่ม ไม่ได้ทำให้พวกหัวหน้าพากันสลดลงเลยสักนิด เพราะไบรอันนี่แหละเป็นคนสั่งห้ามไม่ให้พวกเขาทำเรื่องผิดกฎหมายทั้งหมด นอกจากคอยดูแลพื้นที่และรายงานเข้ามา “หึ! ถ้าพากันไม่พอใจก็ออกจากแก๊งไป ฉันไม่เคยห้ามและไม่เคยต้องการใครก็ตามที่ไม่คิดฟังคำสั่ง ส่วนเงินที่เคยให้ฉันจะระงับทั้งหมด ต่อไปนี้จะไม่มีการส่งเงินออกไปยังกลุ่มต่างๆอีก ถ้าอยากได้ก็รายงานตัวเข้ามาทำงานที่นี่ให้หมด” พูดจบไบรอันก็เดินออกไปทันที ทำเอาจอห์นถึงกับหนักใจ เพราะตั้งแต่ไบรอันเข้ามาบริหาร อะไรๆก็เริ่มเปลี่ยนไปเหมือนกับว่าต้องการทำให้สีดำกลายเป็นสีขาวมากขึ้นเรื่อยๆจนเขาแทบทำอะไรไม่ได้ เพราะคำว่ามาเฟียนั้นถ้าไม่ทำเรื่องดำมืดผิดกฎหมายแล้วจะให้ไปทำอะไรกันเขาก็ไม่แน่ใจ “นี่นายใหญ่จะทำแบบนี้กับพวกเราจริงๆใช่ไหม ไม่รู้ผลที่จะตามมาเลยใช่ไหม!” พวกที่เข้าประชุมเริ่มพากันไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่เคยเห็นด้วยที่อยู่ดีๆทายาทที่ไม่มีใครเคยรู้ของหัวหน้าคนเก่าอย่างไบรอันก็โผล่มา ถ้าเขาไม่ได้หน้าตาและรูปร่างเหมือนบิดาแทบทุกกระเบียดนิ้วล่ะก็คงไม่มีใครยอมให้เขาขึ้นมานั่งแทนตำแหน่งแน่นอน “นายครับ ถ้าเราทำแบบนี้ ผมคิดว่ามันอาจจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นก็ได้นะครับนาย” “อื้ม อยากทำอะไรก็ปล่อยไป ค่อยจัดการทีหลัง นายก็รู้ว่าฉันไม่ได้เต็มใจที่จะมาอยู่ในตำแหน่งนี้อยู่แล้ว” คำพูดของไบรอันทำเอาจอห์นถึงกับคิดหนักมากกว่าเดิม เขาเองก็ไม่รู้คิดถูกหรือคิดผิดที่ลากไบรอันเข้ามาสู่วงการนี้ แต่จะให้ทำอย่างไรในเมื่อมันเป็นสิทธิโดยชอบธรรมของชายหนุ่ม และตั้งแต่รับตำแหน่งมา ไบรอันก็ทำมันได้ดีมาโดยตลอด ถึงจะเริ่มแตกต่างจากที่เคยเป็นมาบ้างก็ตามที “แล้วเรื่องโรงงานผลิตอาวุธไปถึงไหนแล้ว” “ต้นปีหน้าคงเปิดได้แล้ว ส่วนคาสิโนของเราน่าจะได้ใบอนุญาตเร็วๆนี้ครับนาย ทีมกฎหมายกำลังเร่งมืออยู่ ไม่น่าพลาด” “อืม ดีมาก” “แต่ว่านายครับ มันจะดีขึ้นจริงๆเหรอครับนาย” “อืม ฉันคิดว่าอย่างนั้น มันมีหลายกลุ่มที่หากินแบบถูกกฎหมาย เราจะได้ถูกคุ้มครองโดยกฎหมายด้วย ถ้าจะใช้แต่กฎหมู่เมื่อไหร่พวกนั้นจะเริ่มต้นชีวิตดีๆได้สักทีล่ะ แล้วคนที่ต้องการออกจากแก๊งมีเท่าไหร่แล้ว” “เกือบร้อยแล้วครับนาย” “อืม ให้เงินพวกนั้นไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้พอ” “ครับ” พอคุยเสร็จจอห์นก็เดินออกจากห้องทำงานของไบรอันไป ปล่อยให้ชายหนุ่มได้แต่นั่งคิดอะไรเงียบๆอยู่คนเดียว กว่าห้าปีแล้วที่เขาเข้ามารับตำแหน่งนี้ เขาพยายามทุกวิถีทางที่จะเปลี่ยนความป่าเถื่อนของพวกลูกน้องให้กลายเป็นเหมือนคนปกติ ที่ทำงานสุจริตทั่วไปโดยการทำทุกอย่างให้ถูกกฎหมาย ถึงแม้จะมีหลายคนคัดค้านก็ตามที วันต่อมา ไบรอันมาทำงานตามปกติโดยที่ไม่ได้แสดงท่าทางอะไรออกมา ซึ่งตอนนี้มิรันเองก็ไม่กังวลว่าเขาจะจำเธอได้อีกแล้ว เพราะผ่านมาเป็นอาทิตย์เขายังไม่มีท่าทีนั้น เธอเลยแน่ใจว่าเขาจำเธอไม่ได้แน่นอน “เดี๋ยววันนี้คุณเข้าไปทำงานในห้องกับผมนะ พอดีผมต้องทำรายงานสรุปการทำงานทั้งปีของผม คุณน่าจะช่วยผมได้เยอะ” “ค่ะ คุณหมอ เดี๋ยวรันจะออกไปซื้อกาแฟ คุณหมอต้องการด้วยไหมคะ” “อืม เอาเหมือนเดิม” ไบรอันบอกออกมาก่อนจะมองตามร่างบางของมิรันไป นี่เขาจำเธอไม่ได้ได้ยังไงกัน ในเมื่อเธอเป็นคนแรกและคนเดียวที่เขาเป็นฝ่ายเดินเข้าหา ทางด้านมิรันพอได้กาแฟก็เดินกลับเข้ามาพร้อมหอบคอมพิวเตอร์เข้าไปในห้องทำงานของไบรอัน ก่อนจะวางมันลงที่โต๊ะทำงานของเขา หลังจากนั้นหญิงสาวก็ลงมือทำงานตามที่ไบรอันบอก เธอก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเต็มที่โดยไม่รู้เลยว่ากำลังถูกจับจ้องจากอีกคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ทำไมฉันไม่เคยรู้เลยว่าเธอคือเจ้าสาวคนนั้น ไบรอันกำลังคิดถึงวันแรกที่เจอเธอ หญิงสาวเอาแต่นั่งดื่มแต่เขากลับไม่ได้รู้เลยว่ามันเป็นวันที่แย่แสนสาหัสของเธอขนาดไหน แถมเขายังพาเธอขึ้นห้องแล้วพรากเอาความภูมิใจของลูกผู้หญิงจากเธออีก พอคิดมาถึงตรงนี้ตาคมกลับจับจ้องมองเธอด้วยความรู้สึกผิด เขาไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงหนีออกจากงานแต่งในวันนั้นทั้งๆที่เธอกับแฟนหนุ่มนั้นก็ดูรักกันดีจากที่เขารู้ข้อมูลมา ผู้ชายมันเลวทุกคนเลยรึเปล่า และคำถามนี้ของเธอก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา แสดงว่าที่เธอหมายถึงก็คือแฟนหนุ่มของเธอสินะ “หือ? มีอะไรรึเปล่าคะคุณหมอ” มิรันที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมามองเมื่อเห็นว่านายแพทย์หนุ่มดูเงียบไป ก่อนจะพบว่าเขากำลังจ้องมองเธออยู่ “คุณมีแฟนรึยัง” อยู่ดีๆเขาก็ถามขึ้น ทำเอามิรันถึงกับชะงักไปทันที “เอ่อ ไม่ค่ะ...ไม่มี” “อ้อ คนสวยๆแบบคุณไม่น่าจะโสดเลยนะครับ” เขายังถามต่อทั้งๆที่มิรันรีบก้มลงแกล้งสนใจงานตรงหน้าอยู่แท้ๆ “แล้วคุณหมอละคะ มีรึยัง” แต่ปากเจ้ากรรมดันถามออกมาตามที่เธออยากรู้มาตลอด จนมิรันต้องรีบกัดปากแน่นหลังจากที่ถามออกมาเรียบร้อยแล้วทำให้ไบรอันอดยิ้มไม่ได้ เธอคงจำฉันได้สินะ ไบรอันคิดขึ้นมาในใจ เพราะจำวันที่เธอเดินชนเขาได้แม่น เมื่อหญิงสาวมีท่าทีกระวนกระวายแปลกๆ “ผมทำงานยุ่งขนาดนี้ จะมีเวลาไหนไปหาแฟน คุณก็เห็นนี่” คำตอบของเขาทำให้แก้มเนียนสองข้างแดงสุกอย่างอัตโนมัติ “อันที่จริงผมก็เข้าวัยที่ต้องแต่งงานแล้ว คุณว่าผมควรหาแฟนได้แล้วใช่ไหม” “หือ? ก็...ไม่รู้สิคะ...” “คุณก็ยังไม่มีแฟนนี่ ไม่อยากแต่งงานบ้างเหรอ” ไบรอันลองถามจี้ใจดำของมิรัน จนท่าทีของเธอเริ่มเปลี่ยนไป เพราะดันนึกไปถึงงานแต่งงานที่เธออุตส่าลงทุนลงแรงกับมันไปจนสุดชีวิตเพราะคิดว่ามันจะเป็นแค่ครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตของเธอแต่กลับไม่ใช่อย่างที่คิดเลยสักนิด “ฉันเคยเกือบแต่งมาแล้วครั้งนึงแต่มันล้มเหลว ตอนนี้ฉันไม่คิดมีแฟนหรืออยากมีงานแต่งอีกแล้วล่ะค่ะ” มิรันบอกออกมาตามที่เธอคิดก่อนจะฝืนยิ้มออกมา ทำเอานายแพทย์หนุ่มอดรู้สึกผิดไม่ได้ที่ถามออกไปแบบนั้น จากนั้นทั้งห้องก็ปกคลุมไปด้วยความเงียบจนกระทั่งถึงเวลาเที่ยงวัน ไบรอันก็อดไม่ได้ที่จะชวนมิรันออกไปทานข้าวข้างนอก ทีแรกมิรันอยากปฏิเสธแต่สุดท้ายก็ต้องมากับเขาจนได้ “ทำไมสองคนนั้นออกไปพร้อมกันล่ะ สนิทกันขนาดนั้นแล้วเหรอ” “อือ ฉันก็ไม่รู้ แต่วันนี้พยาบาลรันหายเข้าไปในห้องคุณหมอทั้งวันเลยนะแก ฉันว่ามันแปลกๆยังไงก็ไม่รู้” “นี่พยาบาลรันกะจะแย่งคุณหมอของเราไปอีกคนเหรอ อยู่ตึกสองก็ได้ลูกชายผู้อำนวยการไปแล้ว มานี่ยังจะมาแย่งหมอไบรอันอีก” พอเห็นว่าทั้งสองออกไปด้วยกันเท่านั้น มิรันก็กลับมาเป็นประเด็นการสนทนาของพวกพยาบาลอีกรอบจนได้หลังจากเรื่องราวเก่าๆเริ่มเงียบหายไป “คุณอยากทานร้านไหนล่ะ” “ตามใจคุณหมอเลยค่ะ รันทานได้หมด” “งั้นร้านนี้แล้วกันนะ ผมมาประจำ อาหารอร่อยแถมสะอาดด้วย” ไบรอันพาหญิงสาวเดินเข้ามาในร้านอาหารไทยที่เขามาประจำทำเอามิรันรู้สึกผิดคาดเพราะหน้าออกจะฝรั่งอย่างเขาเดินเข้าร้านอาหารไทยแล้วบอกเป็นร้านโปรดซะงั้น ขนาดเธอเป็นไทยแท้ๆยังชอบพวกอาหารญี่ปุ่นเลย “ดูสิคะว่าใครมา” วาคินหันไปตามทางที่นีรนุชบอกก่อนจะนิ่งไปเมื่อเห็นมิรันกำลังเดินยิ้มเข้ามากับไบรอัน หมอร่วมโรงพยาบาลที่เขาเกลียดแสนเกลียด “ดูท่าทางสองคนนั้นต้องมีอะไรบางอย่างกันแน่เลยว่าไหมคะ” วาคินมองตามทั้งสองไม่วางตา ก่อนจะหันกลับมาแกล้งสนใจอาหารตรงหน้าต่อโดยมีนีรนุชยิ้มร้ายออกมาอย่างสะใจ “สั่งได้เลยนะครับ” “อืมมมม คุณหมอสั่งมาได้ไหมคะ เอาที่คุณหมอทานประจำก็ได้ พอดีรันไม่เคยมาทานที่นี่ เลยไม่รู้ว่าอะไรอร่อย” “โอเค งั้นผมสั่งเองแล้วกันนะ” ไบรอันบอกออกมาก่อนจะสั่งอาหารอย่างช่ำชองตามประสาคนที่มาประจำ “ปกติแล้วรันไม่ค่อยได้ออกมาทานข้าวนอกโรงพยาบาลหรอกค่ะ คนไข้เยอะ อย่างมากก็แค่สั่งมาทานกัน” “ทำงานหนักเลยนะครับ ว่าแต่ทำไมถึงเลือกมาเป็นพยาบาลล่ะ” ไบรอันถามออกมาในสิ่งที่เขาอยากรู้ เมื่อดูยังไงอย่างมิรันนี่ซื้อโรงพยาบาลเป็นของตัวเองยังได้ แต่กลับเลือกเป็นแค่นางพยาบาลเล็กๆที่แทบไม่มีเวลาทานข้าวอย่างนี้ เขาเลยอดสงสัยไม่ได้ “อันที่จริงรันจบบริหารต่างประเทศมาค่ะ แต่มาเรียนเสริมด้านพยาบาลเพราะมันเป็นความฝันเล็กๆตั้งแต่เด็กของรัน” “อ้ออออ ถึงว่า...แล้วจะทำไปถึงเมื่อไหร่ หมายถึงว่าแค่ทำตามความฝันหรืออยากทำไปตลอดอะไรแบบนั้น” “ก็...จนกว่าจะโดนไล่ออกมั้งคะ” มิรันบอกออกมาพร้อมกับก้มหน้ามองมือตัวเองนิ่ง เมื่อเธอโดนไล่ออกมาแล้วแต่เธอก็ไม่ออกอยู่ดี ก่อนจะเงียบไปจนไบรอันสังเกตเห็นเลยอดที่จะเอื้อมมือไปจับมือเล็กของเธอไม่ได้ ส่วนมิรันนั้นตกใจไม่น้อยที่เขาจับมือเธออย่างนี้โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้มีอีกคนที่กำลังเดินเข้ามาหาทั้งคู่ด้วยความเดือดดาล
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD