บุษกรเดินเข้ามาภายในร้าน เหลือบมองพี่เลี้ยงหนุ่มสลับกับหมอโรสแวบหนึ่งแล้วเดินผ่านโต๊ะไปนั่ง ซึ่งห่างจากโต๊ะที่ทั้งสองนั่ง ห่างออกไปอีกสองโต๊ะก็เป็นบอดี้การ์ดที่เดินตามเธอมา
“มาที่นี่บ่อยหรือคุณญา”
“ก็ไม่บ่อยหรอกค่ะคุณใบบัว ส่วนใหญ่ฉันจะมากับคุณโรส”
เธอไม่มีปัญญามากินอาหารหรูขนาดนี้หรอก อาหารก็แพง เครื่องดื่มก็แพง ระดับเธอคงกินตามร้านอาหารข้างทางมากกว่า สำหรับโรสิตานั่นไม่ใช่ จากประวัติที่เธอเห็นบนโต๊ะทำงานของฉีเทียน ครอบครัวของหมอโรสถือว่ารวยไม่น้อย ส่งลูกๆ หลานๆ ไปเรียนต่างประเทศแทบทุกคน
บุษกรนั่งฟังเงียบๆ ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรกับคำตอบของอรัญญา เพราะเธอเองก็รู้ประวัติของหมอประจำตัวเป็นอย่างดี ก่อนหน้านี้พี่เลี้ยงหนุ่มได้นำข้อมูลทั้งหมดของหมอโรสมาให้เธอดูแล้ว
“ที่นี่มีอะไรอร่อยบ้างคุณญา”
“ก็มีหลายอย่างเลยค่ะ คุณใบบัวชอบอาหารรสจัดหรือเปล่าคะ”
“ก็พอทานได้ แต่อย่าให้จัดไป เพราะฉันไม่ทานเผ็ด อะไรที่คุณญาคิดว่าอร่อยก็สั่งมาได้เลย” บุษกรบอก
ขณะที่สายตากวาดมองเมนูอาหารที่บริกรส่งมาให้ก่อนหน้านี้
“คุณใบบัวอยากทานอะไรก็สั่งได้เลยนะคะ”
อรัญญาถามเมื่อกวาดสายตามองรายการอาหารในเมนูเล่มใหญ่ในมือ
“คุณญาสั่งเถอะ ฉันทานได้หมดถ้าไม่เผ็ดเกินไป”
บุษกรบอกพร้อมกับปิดเมนู วางลงบนโต๊ะแล้วกวาดสายตามองไปรอบร้าน เธอก็พบว่าร้านอาหารแห่งนี้มีลูกค้าเต็มไปหมด ท่าทางรสชาติของอาหารคงอร่อยอย่างที่อรัญญาบอก
‘ทานข้าวเสร็จก็ไปเอาชุดสูทที่ร้านคุณมินนี่ แล้วก็ค่อยไปร้านหนังสือ จากนั้นก็ไปดูหนังสักเรื่อง’
หญิงสาวคิด พลางเหลือบสายตามองไปยังพี่เลี้ยงหนุ่มกับหมอโรส ที่เอาแต่จ้องหน้ากันตลอดเวลา ท่าทางทั้งสองคงเริ่มก่อสงครามประสาทกันอยู่
ทุกครั้งที่เธอออกมาเที่ยวในวันหยุด ฉีเทียนก็มักใช้ข้ออ้างนี้แสดงเป็นแฟนกับหมอโรสเสมอ จนเธอชักสงสัยในพฤติกรรมของพี่เลี้ยงหนุ่ม หากเดาไม่ผิดเธอมั่นใจว่าชายหนุ่มต้องชอบหมอประจำตัวของเธอ
/////////////////
บุษกรเดินลงจากรถ หยิบกระเป๋าสะพายและหนังสือที่ต้องเรียนในช่วงเช้าขึ้นมาถือ ปิดประตูรถอย่างเบามือ ซึ่งเธอทำแบบนี้มาเกือบตลอดสี่ปีเต็ม หากมีเรียนช่วงเช้าเธอก็จะเข้าบริษัทตอนบ่าย แต่ถ้ามีเรียนตอนบ่ายเธอจะเข้าไปทำงานในช่วงเช้า หรือถ้าไม่มีเรียนแน่นอนว่าเธอคงนั่งทำงานที่บริษัทตั้งแต่เช้าจนกระทั่งเย็น
หญิงสาวเดินลัดเลาะผ่านตึกคณะบัญชีไปยังตึกคณะบริหารด้วยความรู้สึกที่ปลอดโปร่ง นี่ก็เป็นอีกวันที่เธอรู้สึกมีความสุขกับชีวิตนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังของเมืองไทย หลายคนบอกว่าหากมาเรียนที่นี่ จบออกไปก็สามารถหางานทำได้ทันที
เนื่องจากอาจารย์ผู้สอนและเครื่องไม้เครื่องมือในการศึกษา มีทั้งคุณภาพและศักยภาพที่ดีเยี่ยม อีกทั้งหลักสูตรเกี่ยวกับบริหารยังเป็นที่ยอมรับจากกระทรวงศึกษาธิการ และยังเป็นที่ยอมรับของนักธุรกิจชั้นนำของเมืองไทย
อาจารย์ส่วนใหญ่ที่มาสอนก็จบมาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองไทย มีทั้งอาจารย์ที่จบมาจากมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน หรือแม้แต่จบมาจากต่างประเทศก็มีอยู่หลายคน
บางครั้งก็เชิญนักธุรกิจชั้นนำของเมืองไทย หรือแม้แต่นักธุรกิจระดับเอเชียมาให้ความรู้แก่นักศึกษาเหมือนกัน อีกทั้งเจ้าของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ยังมีหนี้ที่ต้องชดใช้ให้กับเธอและบิดาอยู่
ตลอดสี่ปีเธอพยายามสืบหาและค้นหาประวัติข้อมูลทุกอย่างของศัตรู ทำให้ผู้เป็นบิดาต้องเจ็บปวดอย่างเงียบๆ โดยไม่บอกให้พี่เลี้ยงหนุ่มและบอดี้การ์ดส่วนตัวรู้ บุษกรยังจมอยู่กับความคิด จึงทำให้ไม่เห็นเจ้าของร่างสูงกำยำที่เดินเลี้ยวออกมาจากมุมตึก
“ว้าย!”
ตุ๊บ!
เสียงร้องออกมาอย่างตกใจ พร้อมกับหนังสือในมือร่วงไปนอนนิ่งอยู่บนพื้น บุษกรเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของร่างสูงที่เดินชนกับเธอ ก่อนยิ้มหวานเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
“ขอโทษครับ” ดอกเตอร์หนุ่มเอ่ยขอโทษคู่กรณีด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ย่อตัวกระวีกระวาดเก็บหนังสือที่หล่นเกลื่อนอยู่บนพื้น
“ไม่เป็นไรค่ะ ดอกเตอร์ล่ะคะเป็นอะไรหรือเปล่า”
บุษกรตอบ แล้วรีบรับหนังสือจากดอกเตอร์หนุ่ม ดวงตาคู่คมสวยแอบพิจารณาชายหนุ่มตรงหน้า พลางแอบนินทาในใจ หากเปลี่ยนจากแว่นไปใส่คอนเทคเลนส์ ดอกเตอร์หนุ่มคนนี้ก็หล่อไม่น้อย ด้วยรูปร่างที่สูงกำยำ หน้าตาก็จัดว่าหล่อเหลา ผิวสีแทน ถ้าแต่งตัวดีๆ ก็สามารถทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ใจละลายยอมสยบอยู่แทบเท้าแน่
“ผมไม่เป็นอะไรครับ”
“ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวจะเข้าเรียนสาย”
“เชิญครับ”
แทนไทมองลูกศิษย์สาวไปจนลับสายตา เขาก็รีบเดินไปยังตึกของคณะบริหารธุรกิจ ขณะที่เดินก็คิดไปถึงหญิงสาวที่เขาเดินชนเมื่อไม่กี่นาทีมานี่ด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
ตลอดสี่ปีที่ผ่านมาเขามักเจอหญิงสาวอยู่ในห้องสมุดเสมอ ชอบอยู่คนเดียว จะเรียกว่ามีโลกส่วนตัวสูงก็ได้ เพื่อนสนิทข้างกายก็มีแทบนับคนได้ สิ่งที่เขารู้สึกประทับใจในตัวลูกศิษย์คนนี้คงเป็นท่าทางมั่นใจในตัวเอง และความเก่งกาจในการเรียนและด้านกีฬา
เขาก็มั่นใจอีกว่าหญิงสาวคงจบด้วยเกรดที่สูงที่สุดในรอบหลายสิบปี อาจารย์ที่เคยสอนหล่อนมักมาเล่าให้เขาหรืออาจารย์ในคณะฟังเสมอ ว่ามีนักศึกษาจากคณะของเขาคนหนึ่งทำข้อสอบทุกครั้ง เธอจะได้คะแนนเต็มร้อยทุกครั้ง อีกทั้งยังมีความสามารถด้านกีฬาที่ดีเยี่ยม ถ้าเขาจำไม่ผิดลูกศิษย์สาวคนนี้เป็นนักกีฬายิงปืนของมหาวิทยาลัยด้วย
“คุณพ่อคุณแม่คงภูมิใจในตัวเธอมากสินะบุษกร”
ชายหนุ่มพึมพำออกมาด้วยรอยยิ้ม เมื่อนึกถึงสีหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขของบิดามารดาของลูกศิษย์สาว
/////////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...