ปิดงบปลายปีแล้ว อาลียารีบยื่นใบลาพักร้อนที่ลงรายละเอียดไว้ว่าขอลาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ให้คนที่ยังนั่งอ่านเอกสารอยู่บนโต๊ะภายในห้องทันที ด้านหลังของเบลคเป็นกระจกใสมองเห็นแท่งตึกสูงต่ำผุดขึ้นคล้ายหนุนหลังให้ยิ่งดูยิ่งรู้สึกว่าเขาทรงอำนาจและดูกร้าวแกร่งจนคนมองแทบลืมหายใจอยู่ทุกที ด้วยอดยำเกรงไม่ได้ในความเป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลอันดับต้นๆของโลกของปีที่ผ่าน ตำแหน่งนี้ถูกแนะนำโดยนิตยสารระดับโลกอย่างฟอกซ์ (fox)
แค่ชื่อนิตยสารก็ดูเจ้าเล่ห์แล้ว ใครกันจะนึกเชื่อถือเชื่อมั่นด้วยได้
เพราะเบลคแอบไปซื้อหุ้นกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของฟอกซ์เอาไว้แล้วแบบลับๆน่ะสิ เขาถึงได้ครองอันดับหนึ่งในสามเอาไว้ได้ อาลียานึกอย่างหมิ่นๆ
ถัดไปจากที่เธอนั่งรอลุ้นลายเซ็นของเขาอยู่นั้น มีนางแบบสาวคนใหม่หน้าตาบล็อกเดิมแบบที่เบลคชอบควง คงเพิ่งไปคั่วมาไม่วันหรือสองวันนี้เองกระมังเพราะเธอไม่คุ้นหน้า สาวเจ้ายกโทรศัพท์ถ่ายภาพแบบเซลฟี่อยู่หลายนาทีแล้ว ตั้งใจจะเอาไว้อวดคนอื่นๆ ด้วยการให้เห็นว่าเบลคเป็นแบ็คกราวน์ของภาพ และจงใจแบบไม่จงใจโพสต์ลงโซเชียลมีเดียให้คนตาดีทักเล่นเสียหน่อย ใครๆก็รู้ดีว่าเป็นข่าวกับเบลคเหมือนได้โชคหลายสิบชั้น งานรุม อีเว้นท์เพียบ แม้ชายหนุ่มจะแค่ควงเธอเล่นฆ่าเวลาก็ตามทีเถอะ แค่ขอให้เขากวักมือเรียกก็พอ
“อะไร” เบลคถามขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเพราะยังหงุดหงิดไม่หาย ที่ตื่นมาวันนั้น ร่างบอบบางของคนตรงหน้าก็อันตรธานหายไป ทำไมเธอไม่เป็นเหมือนพวกผู้หญิงพวกนี้บ้างนะที่เขาแทบจะไล่ไปจากห้อง ยัยเล็กแสบคอยแต่จะหลบลี้หนีให้เขาคอยตามตะครุบอยู่ร่ำร่ำ นึกถึงตรงนี้ทีไรเบลคก็คันยุบยิบในใจขึ้นมาทุกที เขาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลยสักนิด
“ใบลาพักร้อนค่ะ ฉันขออนุญาตลาพักร้อนหนึ่งอาทิตย์”
“เธอลาแล้วใครจะทำงาน ใช้ส่วนไหนคิดหืมลียา”
“เอมไงคะ เอมมาแล้วค่ะ ไหนจะผู้ช่วยอีกตั้งสองคน”
อาลียาอ้างถึงเอมิลี่ก่อนเพราะรายนั้นลาคลอดจนครบกำหนดแล้ว แถมยังเรียกได้ว่าเป็นมือขวาโดยแท้ของเบลค ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคล่องกว่าเธอราวฟ้ากับดิน พยายามตอบให้น้ำเสียงฟังดูราบเรียบที่สุด แผ่นหลังบอบบางเกร็งขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อสบสายตาสีเทาเอาเรื่องของคนที่นั่งฝั่งตรงกันข้าม
“นั่นมันงานในออฟฟิส”
เบลคตอบเสียงเยาะ ก่อนวางปากกาลง ยื่นหน้าเข้ามาถามใกล้ๆแ “แล้วงานบนเตียงใครจะทำ” อาลียาตาโตตกใจที่เขากล้าถามเธอทั้งๆที่มีคนอื่นอยู่ในห้อง อดปรายตามองนางแบบคนนั้นไม่ได้ แต่แล้วก็โล่งใจที่เห็นว่าเจ้าหล่อนยังง่วนกับการถ่ายภาพแบบเซลฟี่อยู่
“ฉันมีสิทธิ์ลาตามกฎหมายแรงงาน ฉันขอลาพักร้อนค่ะ ส่วนงานเอกสาร งานในออฟฟิสฉันเคลียร์หมดแล้ว” อาลียาร่ายยาว “ส่วนงานอื่น...ที่คุณบอกมา นั่นแทบจะไม่ใช่หน้าที่ของฉันด้วยซ้ำไป”
“ปากกล้าแล้วนี่นะเดี๋ยวนี้” เบลคย้อนเสียงแข็ง ส่งสายตาคมมองกลับมา มือหยิบปากกาด้ามทองขึ้นเซ็นต์ชื่อบนกระดาษแล้วส่งคืนให้ “เชิญ” อาลียารับมาเพ่งมองก่อนดันตัวลุกขึ้นยืน เบลครีบสั่งก่อนที่เธอจะเดินพ้นออกไปจากห้อง
“อ้อ เดี๋ยวจองห้องสวีทให้ด้วย ฮันนี่ ต้องการอะไรอีกไหม”
“ไม่ค่ะเบลค” นางแบบคนนั้นหันมาตอบพร้อมส่งยิ้มหวานให้
“ดี ออกไปได้แล้ว”
อาลียาพยักหน้ารับ ก่อนทำตามคำสั่งที่ได้รับมา ไม่ทันเห็นสีหน้าชายเจ้าของห้องที่เอนตัวพิงพนัก พึมพำด้วยความอยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะไปไหนกันแน่ ทิ้งเวลาครู่ใหญ่แล้วไล่นางแบบคนสวยให้ออกไปจากห้องเมื่อเขาเกิดอาการเบื่อขึ้นมาอีกจนได้ เพราะใจจริงๆไม่ได้ต้องการอยู่กับใครนอกจากยัยตัวแสบนั่น คนที่พยายามหนีหน้าเขาอยู่ตลอด
อาลียาเหม่อนึกถึงสายตาของคนที่มองเธอหลังจากเซ็นต์อนุมัติลาพักร้อน ขณะนั่งรถตู้จากสถานีขนส่งที่วิ่งตรงสู่สถานที่ที่ต้องการ ชายแดนไทยกัมพูชา เพื่อมาตามหาคนที่เธอได้ข่าวว่าอยู่ที่นี่ เขาจะรู้หรือเปล่าว่าเธอออกมาตามหาพล แล้วถ้ารู้เขาจะผิดคำพูดที่ให้ไว้หรือไม่
รถจอดสนิทคนอื่นทยอยกันลงไปเกือบหมดแล้ว เธอจึงขยับตัวลงรถตามไป พอเหยียบลงพื้นก็ได้แต่เดินเตร่ก่อนอึดใจเพื่อสำรวจสถานที่ หยุดสายตามองปลายแถวที่ยืนต่อกันยาวเหยียดเบื้องหน้า ที่มีทั้งคนไทยและต่างชาติปะปนกันอยู่ ตัดสินใจก้าวขาไปอยู่ตรงนั้นด้วย เธอต้องตามหาพลให้เจอก่อนเป็นอันดับแรก อยากถามว่าเขาผิดจริงอย่างที่เบลคว่าไว้หรือมีใครใส่ร้ายให้เสื่อมเสีย
ผ่านด่านข้ามแดนเข้ามาแล้วเดินปะปนไปกับกลุ่มคนตรงหน้า นึกถึงข้อมูลที่ได้มาว่าพลอยู่ในบ่อนที่มีชื่อว่า ‘เดอะริชชี่’ แม้ลลิลจะยืนยันว่าข่าวจากเฮียเล้งไม่มีทางมั่วแน่นอน แต่เธอก็ยังกังวลเพราะตัวเองไม่มีเบอร์โทรติดต่อของพลเลย ข่าวนั่นคงจริงเพราะลูกค้าที่ลลิลอ้างถึงเป็นลูกค้าวีไอพีของที่นี่ แล้วยังเคยรู้จักกับพลมาก่อนอีกด้วยจึงไม่มีทางที่จะพลาดไปได้
หญิงสาวเข้ามาจนถึงด้านในก่อนจะเข้าไปเช็คอิน และเดินวนเวียนไปยังหมายเลขห้อง 110b ที่ลลิลบอกไว้ เมื่อเห็นว่าคงไม่ได้ประโยชน์อะไรมากกว่านี้อีกแล้ว จึงลองเดินเข้าไปยังห้องที่มีโต๊ะพนันวางเรียงรายอยู่ มองไปยังป้ายไฟที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า ‘VIP’ ก็แอบคิดล่วงหน้าไปว่าพลจะอยู่ที่นี่จริงไหม หากจริงตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนและกำลังทำอะไรอยู่
เมียงมองอยู่นาน อาลียาไม่เห็นว่าจะมีใครที่รูปร่างท่าทางหน้าตาคล้ายพลสักคน จึงแอบยืนถอนหายใจอยู่ตรงนั้น ก่อนตัดสินใจหันหลังเพื่อกลับเข้าห้องพักของตนเองบ้าง แต่แล้วสายตาก็สะดุดเข้ากับใครบางคน ในที่สุดเธอก็ได้เจอเขาจนได้ เมื่ออีกฝ่ายเดินออกมาจากห้องน้ำที่ด้านหลังล็อบบี
‘นั่นพี่พลนี่นา’
อาลียามั่นใจว่านั่นคือพลตัวจริงแน่นอน เธอจำท่าทางการเดินของเขาได้ แล้วยังแจ็คเกตหนังสีน้ำตาลนั่น เธอก็ซื้อให้เจ้าตัวเมื่อวันเกิดของเขาสามปีก่อน หญิงสาวไม่ได้ตะโกนเรียกให้พลหยุด แต่เลือกที่จะเดินตามไป เธอรู้อยู่แล้วนี่ว่าเขาพักห้องไหน ซ้ำยังเดินสำรวจมาแล้วด้วย ว่าห้องพักของพลอยู่โซนไหน
อาลียายิ้มกริ่มเต็มใบหน้า หัวใจพองฟูจนเต็มอก ในที่สุดเธอก็หาเขาเจอจนได้ ขณะเดินตามไปจนเกือบพ้นหัวมุม ตั้งใจทิ้งระยะเอาไว้ไม่อยากให้อีกฝ่ายตกใจเมื่อหันมาเห็นเธอเสียก่อน แต่แล้วใบหน้าที่ยังคงประดับไปด้วยรอยยิ้มพลันชะงักค้างกึกทันที หัวใจหล่นวูบลงไปที่ตาตุ่มเมื่อแขนกลมกลึงถูกดึงรั้งทางด้านหลังจากใครบางคน คนที่ออกแรงเพียงน้อยนิดก็บดขยี้เธอเป็นผุยผงได้ง่ายดาย
“มาพักร้อนไกลเลยนะลียา”
“เบลค นี่คุณตามฉันมาเหรอ” หญิงสาวรนรานถามหน้าตาตื่น แต่ที่ทำให้เธอกังวลมากที่สุดนั่นคือ เบลคเห็นพลหรือไม่
“อย่าสำคัญตัวไปหน่อยเลย ใครจะตามเธอหืมลียา”
“ก็ถ้าไม่ตามมา แล้วคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“ฉันมาทำธุระ” เบลคตอบเสียงเอื่อยยักไหล่คล้ายไม่สนใจ เสหลบตาคนถาม “แล้วเธอล่ะลียา มาพักร้อนไกลถึงนี่เชียว”
“ใช่ คุณปล่อยแขนฉันได้แล้ว ฉันจะกลับห้องพัก”
“ถามดีดีทำไมต้องเสียงแข็งด้วยฮึ”เบลคกำรอบต้นแขนกลมกลึงแน่นขึ้นกว่าเก่า หน้าตาเจ้าเล่ห์แบบที่เธอเห็นบ่อยขึ้นในช่วงหลังลอยมาพร้อมคำถามเสียดสี “ที่นี่มีอะไรดีอย่างนั้นเหรอ ถึงได้กล้าทำเสียงแบบนี้ใส่คนที่นอนกกนอนกอดเธออยู่ทุกคืน หืมลียา”
“ไม่มีอะไรทั้งนั้น แล้วก็ปล่อยฉันได้แล้ว ฉันจะกลับห้อง” อาลียาพยายามกลบเกลื่อนความผิดหวังในน้ำเสียงและท่าทางลงด้วยการดึงดันจนหลุดจากมือของซาตานอย่างเบลค แล้วเดินจ้ำอ้าวไปยังห้องพักของตนเอง โดยไม่สนใจคนด้านหลังว่าจะตามมาหรือไม่ ปรากฏว่าอีกฝ่ายก็ตามมาไม่ห่างเช่นกัน พอเธอเปิดประตู เบลคก็พาร่างสูงใหญ่ตามเข้ามาติดๆ
“เบลค ออกไปเดี๋ยวนี้นะ”
“อย่ามาไล่ฉันเหมือนหมูเหมือนหมานะลียา แล้วนี่...เธอมาที่แบบนี้ทำไม” เบลคยืนเท้าสะเอวตำหนิพร้อมถามในประโยคเดียวกัน ตามคมจ้องมองคล้ายอยากเข้าไปตะครุบยัยตัวแสบเต็มแก่
“ฉันมาพักร้อน แล้วตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลางาน คุณไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่งกับฉัน ออกไปได้แล้วเบลค”
“ไม่ไป”
“ไม่ไปใช่ไหม ดี งั้นฉันออกไปเอง”
อาลียาตัดสินใจอย่างปัจจุบันทันด่วน คว้ากระเป๋าเสื้อผ้าของตนเอง แล้วเดินออกไม่สนใจคนคอยคุกคามเธอ ก่อนตรงไปเช็คเอาท์ ตลอดเวลาก็ยังเห็นคนหน้าหนาเดินตามมาตลอด แต่การอยู่ในสถานที่โล่งแจ้งเช่นนี้แน่นอนว่าย่อมปลอดภัยมากกว่าอยู่ในสถานที่รโหฐานแบบนั้นแน่
กว่าจะออกจากด่านได้ก็เป็นเวลาปิดทำการพอดี อาลียามองซ้ายขวา แล้วก็นึกยอมรับในชะตากรรมของตัวเองว่าใจร้อนเกินไปที่ตัดสินกลับออกมาแบบนี้แถมยังเป็นเวลานี้อีกต่างหาก ก่อนมองหาทางที่จะกลับไปยังที่พัก ทันใดนั้นเองรถซีดานขนาดใหญ่สีดำ ก็จอดเทียบที่ด้านหน้าเธอ โทนี่ลงมาเปิดประตูรอ จังหวะนั้นเองคนที่ตามหลังมาอยู่ตลอดก็ใช้แรงเพียงน้อยนิดดันจนร่างบอบบางเข้ามาอยู่ในตอนหลังขนาดโอ่อ่าได้ในที่สุด
“เบลค ฉันบอกว่าคุณไม่มีสิทธิ์ทำกับฉันแบบนี้ไง นี่มันเวลาพักของฉันนะ”
“ฉันมีสิทธิ์ในตัวคุณตลอดเวลาลียา ไม่ว่าจะพักหรือไม่พัก ลืมไปแล้วหรือไง หืม”
“คุณนี่มัน...เลวบริสุทธิ์จริงๆ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้เลยนะ”
เบลคคว้ามือคนที่ร้องเหยงๆในรถให้เข้ามาจนชิด ก่อนจะกดปุ่มปิดกระจกกั้นระหว่างที่นั่งด้านหน้ารถและหลังส่วนที่เขาและลียาอยู่ พร้อมกับเร่งเสียงเพลงให้ดังจนกลบเสียงที่อาจทำให้ลูกน้องของเขาเสียสมาธิ
“คิดจะหนีไปอยู่กับมันใช่ไหมลียา อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ว่าที่ยื่นใบลานั่นน่ะเธอใช้มันถ่วงเวลาแล้วก็จะหลบหนีจนพ้นฉันได้”
“ฉันไม่ได้คิดจะหนี” คนตัวเล็กเถียงเสียงแข็ง โกรธที่โดนเขาตามตอแยอยู่ตลอดจนแทบหายใจหายคอไม่ได้
“โกหก เลวทั้งคู่ คิดว่าจะหลอกฉันได้อีกอย่างนั้นเหรอ ไอ้พลมันเลวระยำ กล้าหักหลังแม้กระทั่งเพื่อน แล้วยังคิดเอาเธอมาบังหน้าฉันอีกอย่างนั้นใช่ไหม”
“คุณไม่มีหลักฐาน อย่าไปปรักปรำพลแบบนั้นนะ”
“ทำไมจะไม่มี กลับไปแล้วฉันจะเอาให้เธอดู ว่าแฟนเธอมันเลวระยำ หักหลังคนที่เป็นทั้งเพื่อนทั้งผู้มีพระคุณยังไงบ้าง”
“ไหนเราตกลงเรื่องนี้กันแล้วไงล่ะ ว่าถ้าฉันยอม...” อาลียาสงบอารมณ์แล้วท้วงขึ้น กระดากปากที่จะพูดถึงสิ่งที่เขาเอามาเป็นข้อต่อรอง “... แล้วคุณจะเลิกเอาเรื่องกับพล”
“ใช่ฉันจะไม่เอาเรื่องมัน แต่เธอก็ต้องเลิกติดต่อแล้วก็อยู่ให้ห่างๆมันด้วย”
“ก็...ฉันก็อยู่ห่างพลแล้วนี่ไง อีกอย่างฉันไม่ได้มาตามหาพลนะ”
“แน่ใจ” เบลคถามเสียงสูงอย่างที่ต้องการบีบให้คนในอ้อมกอดตอบรับ
“อือ แน่ใจ”
“เธอยังรู้จักพลน้อยเกินไปนะลียา รับปากฉันมาก่อนว่าเธอจะไม่ตามหามัน”
“ทำไมต้องมีเงื่อนไขมากมายแบบนี้ด้วยเบลค ที่ฉันยอมให้ นั่นมันก็มากพอแล้วนะ”
“ก็เพราะมันยังไม่พอไงล่ะ เธอควรรู้เอาไว้อีกเรื่องนะ ว่าไอ้สารเลวพลมันระยำตำบอนแค่ไหน”
“ไม่มีทาง พลไม่ทำแบบนั้นแน่ คุณคนเดียวเท่านั้นแหล่ะเบลค ที่คิดอะไรชั่วๆ”
“จะเลวยังไงก็เป็นผัวเธอแล้วล่ะลียา แล้วอย่าคิดจะกลับไปหาไอ้สารเลวพลอีกนะ”
“ฉันจะไป มีหนทางไหนไปได้ สาบานว่าฉันจะหนีไปกับเขา” พูดจบปากบางของเธอถูกบดจูบอย่างรุนแรงจากเบลค เขาช้อนตัวเธอให้ขึ้นนั่งคร่อมบนตัวเขา มือหนาดันท้ายทอยให้เธอรองรับลิ้นอุ่นหนาจากตนเอง มืออีกข้างไต่ไล้ไปจนทั่วแผ่นหลัง ก่อนจะสอดมันเข้าไปในเสื้อยืดสีขาวสัมผัสเนื้อแท้แสนนุ่มนวลละมุนมือ ก่อนปลดตะขอออกอย่างที่เจ้าตัวไม่รู้สึกได้อย่างช่ำชอง
“อื้ม ปล่อยฉันเถอะ เบลค”
คนที่นั่งทาบทับบนตัวเขาร้องบอก พร้อมเบือนหน้าหนีริมฝีปากร้อนผ่าว จนต้องสะดุ้งวาบเมื่อลิ้นร้อนแตะลงบนแอ่งชีพจร ตวัดไล้ทั่วลำคอระหง พร้อมฝากร่องรอยซ้ำปลุกเร้าไปในที แต่เธอยังออกแรงดิ้นรน แม้จะรู้ว่าตนเองอับสิ้นหนทางเอาตัวรอด แต่ยังฮึดสู้ อาลียาหันมาฝากรอยเขี้ยวกัดปลายจมูกโด่งของคนที่พยายามล่วงเกินเธอ
“ยัยตัวแสบ จำเอาไว้ว่าฉันห้ามอะไรเธอก็ต้องฟัง”
เบลคครางเสียงต่ำด้วยความเจ็บ แต่มือแข็งราวครีมเหล็กยังคงกดรัดรอบ เบลคใช้มือข้างเดียวของตนเองจับข้อมือทั้งสองของจอมกัดเอาไว้แน่น ก่อนจะดึงทึ้งเสื้อยืดจนขาดวิ่น เรียกเสียงร้องวี้ดจากร่างบอบบาง แล้วใช้พวกนั้นรัดรอบข้อมือของเธอแทน จัดการไพล่ไว้ด้านหลัง
“เธอเลือกเองนะลียา อยากให้ฉันทำแบบนี้ใช่ไหม”
เบลคจัดการกับกางเกงยีนส์สีซีดของร่างแน่งน้อย ดึงรั้งออกอยากทุลักทุเล แล้วจัดการกับตัวเอง ปลดปล่อยตัวตนของเขาออกมาเช่นกัน เขาจับเธอคร่อมทับอีกครั้ง ถูไถตัวตนของตัวเองกับแก่นกลางของเธอไปมา ปากอุ่นครอบครองเม็ดสีแดงกล่ำที่หดรัดตัวจนเป็นไต พร้อมทั้งดันตัวตนของเธอยกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะปล่อยให้เธอลงมาครอบครองเขาทั้งหมด
เสียงห้าวครางกระหึ่มทั่วตอนหลังของตัวรถ แม้จะเปิดแอร์จนฉ่ำแต่หน้าหวานก็ปรากฏเหงื่อขึ้นแล้วที่ไรผมรอบกรอบใบหน้า เขาเองก็เช่นกัน เบลคยกสะโพกงอนงามของเธอขึ้นเล็กน้อยแล้วปล่อยให้เธอลงมาครอบครองเขาตามแรงกำหนัดที่ธรรมชาติเสกสรร
“ดีมากลียา”
“เบลค เบลค”
เสียงเรียกชื่อเขาหลุดจากปากของเธอ พร้อมกับร่างน้อยขยับโยกตัวตามแรงเร่งเร้า มืออุ่นใหญ่จับประครองรอบเอวขอด ช่วยดึงดันให้จังหวะไปตามครรลอง ก่อนจะระเบิดตัวตนใส่ช่องแคบแสนฉ่ำหวาน
เบลคจูบซับทั่วใบหน้า รั้งร่างบอบบางลงมานอนอิงแอบ ที่ครั้งเดียวก็คงหมดฤทธิ์ คงเพราะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมาทั้งวัน ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอมาตามหาไอ้แฟนหนุ่มทรยศคนนั้น แต่เบลคไม่มีทางให้อาลียาได้เจอกับมันแน่ และที่เขาไม่ฆ่ามันตอนนี้ก็เพราะต้องการให้มันเจ็บปวด ถ้าเห็นว่าผู้หญิงที่มันรักอยู่ใต้ร่างของเขาทุกเวลาที่ต้องการ
ซาตานร้ายพาเธอกลับมาจริง แต่เขากลับพาไปยังห้องชุดแห่งใหม่ที่เธอเพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก จวบจนครบวันพักร้อนของเธอ อาลียาพาร่างสวยสดที่โทรมทั้งกายและใจกลับห้องของตัวเองเมื่อเขายอมปล่อยให้กลับ ใจนึกหาทางให้หลุดพ้นจากเงื้อมมือซาตานของเขาไปตลอดวินาทีไม่ลดละ
ลับร่างหญิงสาวที่พ้นจากหลังประตูห้องไปแล้ว เบลคต่อโทรศัพท์ถึงปลายสาย พอเชื่อมต่อสัญญาณแล้ว จึงกรอกเสียงถามลงไป
“ใช่มันไหม”
ก่อนเงียบไปอีกนานหลายวินาที คล้ายฟังปลายสายรายงาน
“ดี ถ้าฉันสั่งเมื่อไรค่อยจัดการมัน” เบลควางสายลงหลังจากนั้น นอนท้าวคางเคาะโทรศัพท์กับเบาะนอนอย่างคนใช้ความคิด เขากำลังหาทางจัดการกับไอ้สารเลวพลนั่นว่าจะทำอย่างไรดีให้หายแค้น ส่วนยัยแสบนั่นเขามีวิธีจัดการในแบบของเขาแล้วละ