อาลียากัดปากล่างที่ถูกคนเอาแต่ใจขบเม้มดูดจนแดงไว้แน่น อยากเถียงใจแทบขาดว่าเขาขู่เธอแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว แต่กลับไม่กล้าต่อปากต่อคำกับเขา รวบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายไปทั่วแล้วสวมใส่อย่างรีบๆกลัวเขาตื่นมาเห็นแล้วเธอจะไม่มีโอกาสไปไหนได้ทัน
นึกแล้วช้ำใจไม่หาย ถ้าไม่เพราะว่าเขาเอาความเป็นความตายของพลมาบีบบังคับเธอ อาลียาไม่มีทางยอมตกเป็นเบี้ยล่างของคนอย่างเบลคเด็ดขาด ใครต่อใครพากันหลงใหลชื่นชมว่าเขาหล่อเหลา แข็งแกร่ง ดูสมาร์ทและหากได้เป็นคนที่เบลคเพรียกหาคงมีความสุขไม่น้อย แต่ทั้งหมดนั่นไม่เคยอยู่ในความคิดของเธอเลย เพราะรู้ดีว่าเบลคขี้โมโห จอมบงการ ไม่ต่างจากซาตานร้ายดีดีนี่เอง
ใช่แล้วเขาร้ายกาจ ร้ายแบบไม่มีดีเอาเสียเลย
ก่อนพาร่างกายบอบบางแทบปลิวลมของตัวเองออกจากห้องชุดที่ทำซุกซ่อนไว้ในนั้นอีกที ร็อบยืนรอที่หน้าห้องอยู่ตลอดนั้นจะไม่ขยับไปไหนเพราะหากไม่มีคำสั่งผู้ช่วยข้างกายอย่างเขาไม่เคยก้าวก่ายเรื่องของนายเป็นอันขาด แต่เมื่อเห็นสภาพของหญิงสาวที่ตนแอบมีใจให้มานานแรมปี ก็อดใจเกวี่ยงแทบหลุดจากขั้วทีเดียว ช้ำใจไม่น้อยไม่ต่างจากเธอเท่าใดนัก
“ให้โทนี่ไปส่งไหมครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะร็อบ ฉันกลับเองได้”
อาลียายิ้มจางๆส่งให้แล้วเดินเข้าลิฟต์ไปทันทีเมื่อประตูเปิดออกพอดิบพอดี ร็อบมองตามจนกระทั่งประตูโลหะนั่นปิดลงและคงพาเธอลงไปถึงไหนแต่ไหนแล้ว แต่ตนเองยังคงยืนกำมือแน่นจนข้อนิ้วสีซีดปราศจากเลือด ใจสลายเมื่อรู้ว่าเธอถูกกระทำจากผู้เป็นนายอย่างไรบ้าง
อาลียาโบกรถแท็กซี่ตรงดิ่งกลับที่พักของตนเองในเวลาถัดมา
“ไปไหนมาน่ะพี่ลียา กลับสะดึกเลย ทำโอเหรอ”
ลลิลเพื่อนรุ่นน้องที่สนิทกันตั้งแต่สมัยเรียน แล้วยังตกลงแชร์ห้องอยู่ด้วยกัน ทักขึ้นเมื่ออาลียาเปิดประตูเข้ามาแล้ว “จ้ะ แล้วนี่เลี้ยงอะไรกันเอ่ย” อาลียาวางกระเป๋าลงแล้วเดินมาสมทบกับอีกสองสาวที่กำลังง่วนอยู่ในครัว เตรียมอาหารซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผักสด และอาหารเพื่อสุขภาพเสียเยอะวางรอบนโต๊ะกลางอพาร์ทเมนต์ไกลจากแหล่งชุมชนไม่เท่าไร แต่ยังคงพลุกพล่านอยู่พอควร
“ก็ยัยลิลลี่น่ะสิคะพี่ลียา ดีอกดีใจอะไรกันนักหนากับแค่เอ็ดมาขอแต่งงาน”
เพื่อนสาวร่วมอาชีพพริตตี้กับลลิล แซวด้วยน้ำเสียงปนอิจฉาปิดไม่มิด เมื่ออีกฝ่ายเล่าให้ฟังว่า หนุ่มหล่อลูกเสี้ยวไทย ไต้หวัน อเมริกัน นายแบบชื่อดังซ้ำยังพ่วงด้วยตำแหน่งกรรมการบริหารของ S&G มาหลงใหลได้ปลื้มเพื่อนสาว พอคบกันได้ไม่นาน ฝ่ายชายก็เตรียมแหวนมาขอหมั้นไว้ก่อนเสียอย่างนั้น สุดท้ายก็อดรนทนไม่ไหวขอแต่งงานมันเลย คิดแล้วน่าอิจฉาชะมัดเลย
“เดี๋ยวนะ เอ็ดนี่เอ็ดไหน”
อาลียาที่กำลังหยิบเบบี้แครอทเข้าปากชะงักค้างไว้อย่างนั้น ก่อนถามด้วยสีหน้าเหมือนรอลุ้น หัวคิ้วขมวดแทบจะผูกเป็นโบว์ได้อยู่แล้ว ในใจภาวนาว่าอย่าให้เป็นเอ็ดเวิร์ดคนที่เธอนึกเอาไว้เลยเทียว
“จะเอ็ดไหนล่ะคะพี่ลียา ก็เอ็ดเวิร์ดน้องชายของเบลคไง”
ชนิกานต์เฉลยยาวเหยียดเสมือนตนเป็นหญิงสาวที่แสนโชคดีคนนั้นเสียเอง แล้วถามด้วยสีหน้าอยากรู้มากยิ่งขึ้น “พี่ลียา พี่ทำงานให้เบลคใช่มั้ย กี้ถามหน่อยสิ เขามีตัวจริงรึยังพี่ ยัยเมลานี แจคเกอรีน หรือ นางแบบเด็กๆที่ชื่อลิฟ คนไหนกันแน่พี่ รึเขาแค่ควงเล่นๆ”
อาลียานึกถึงชายในหัวข้อสนทนา คนที่ชนิกานต์ถามถึงแล้วคิดต่อว่าผู้ชายแบบนั้นน่าสนใจตรงไหนกัน เพราะตลอดเวลาตั้งแต่เล็กจนโตเขาข่มขู่ คุกคามเธอมาตลอด สุดท้ายแล้วเขาก็ทำในสิ่งที่เลวร้ายที่สุดนั่นคือให้เธอรองรับความต้องการด้านมืดของเขาเพื่อแลกกับความปลอดภัยของพล ก่อนจะนิ่วหน้าเล็กน้อย เพราะถ้าถามว่าเขามีตัวจริงหรือยังเธอก็สรรหาคำตอบมาให้อีกฝ่ายได้ยากเหลือเกิน
“ไม่มีหรอกมั้ง พี่เห็นควงแต่นางแบบ ดารา ร่อนไปร่อนมา”
“แล้วพี่ลียาว่า อย่างเค้าเนี่ยมีโอกาสเข้าตาเบลคบ้างมั้ย” คนถามยกมือขึ้นมาเท้าเอวขอด เอียงไหล่ซ้ายไปข้างหน้าเล็กน้อยทำนองยั่วเย้า ห่อปากแบบเซ็กซี่รอคำตอบจากอีกฝ่าย
ลียายิ้มพยักหน้าให้ “จริงๆแล้วพี่ว่า เธอสวยกว่าพวกนั้นเยอะเลยนะกี้ ทำไมไม่ลองมองคนอื่นดูล่ะ อย่าไปเอาเลยเบลคน่ะ”
“เค้าชอบแบบเบลคนี่นาพี่ลียา ผู้ชายอะไรไม่รู้เซ็กซี่ ดิบๆ เถื่อนๆ แล้วยิ่งตอนที่ขึ้นปกนิตยสารกับเอ็ดนะพี่ลียา ได้ข่าวว่าทั้งสาวน้อยสาวแก่สาวเทียมพากันแย่งซื้อจนหมดแผงเลย แบบนี้แล้วกี้ว่าตัวจริงต้องแซ่บแน่ๆเลยอ่ะ”
เอาเถอะ ใครจะแย่งเบลค เธอคนนึงละขอผ่าน เพราะเธอรู้เช่นเห็นชาติเขาดี ว่าเบลคน่ะไม่ต่างจากซาตานร้ายเลย คนนอกไม่รู้ก็พากันหลงใหลในรูปร่าง หน้าตา สถานะทางสังคม รวมถึงทรัพย์สินของเขาทั้งนั้นแหล่ะ
“กี้เคยได้ยินว่าเขาใช้บริการของคลับฟอร์เมน ด้วยใช่มั้ยพี่ลียา” ชนิกานต์ถามต่อ สีหน้าอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งขึ้น
“อืม ก็คงงั้นมั้ง”
“พี่พอจะบอกได้ไหมว่าเขาไปวันไหน แล้วเขาชอบผู้หญิงยังไง อะไร ประมาณไหน”
“ท่าจะอาการหนักนะเนี่ย” ลลิลหันมาแซวบ้างขณะคนอาหารในหม้อไปด้วย เพราะเงียบฟังมานาน
“ใช่ซี้ เธอได้คนน้องไปควงแล้วนี่ก็พูดได้สิยะยัยลิล ฉันเองก็อยากได้บ้างนี่นา ผู้ชายดีๆ หล่อๆ รวยๆน่ะ มันผิดด้วยเหรอยะ”
“จ้า จ้ะ พี่ลียา ช่วยสงเคราะห์มันทีเถอะค่ะ”
ลลิลบอกรับยิ้มระบายเต็มใบหน้าอย่างคนมีความสุขด้วยหัวใจเป็นสีชมพู ท้ายประโยคบอกอาลียาด้วยแววตาเป็นประกาย จนอาลียาพลอยดีใจไปด้วยเพราะรู้ว่าลลิลลำบากมาแต่เด็ก แทบจะไม่เคยหาความสุขใส่ตัวเลยแล้วก็ไม่เคยมองผู้ชายคนไหนมาก่อน เอ็ดเวิร์ดเองก็ใช่จะเป็นคนไม่เอาไหน ดูดูไปทั้งคู่ก็เหมาะสมกันไม่น้อย
“พี่ไม่รู้จริงๆนะกี้ ว่าเบลคเขาจะไปคลับฟอร์เมนวันไหน แล้วเรื่องที่ว่าเขาชอบผู้หญิงแบบไหนนี่พี่ยิ่งไม่รู้ใหญ่เลย” ถ้าถามว่าเขาชอบนอนกับผู้หญิงแบบไหน อาลียาคิดว่าเบลคคงนอนด้วยหมดนั่นแหละ
“พี่ลียาน่ะ หวงเขาไว้กินคนเดียวใช่มั้ยล่ะ กี้รู้นะ”
“บ้าเหรอแก พี่ลียาน่ะเป็นลูกพี่ลูกน้องกะเบลคนะยะ”
“อ้าว เหรอคะ” ชนิกานต์หันมาถามหญิงสาวที่ตนเองแขวะเมื่อครู่เสียงหวานหยดย้อยต่างจากเมื่อครู่ลิบลับ ยังไม่ทันที่เจ้าตัวจะตอบว่าอะไร ลลิลก็ชิงตอบแทน “ใช่สิยะ ก็ปู่สมิธน่ะเป็นปู่ของพี่ลียา แล้วก็ยังเป็นปู่ของเบลคกับเอ็ดเวิร์ด ด้วย”
เป็นปู่ของพี่ลียา แล้วยังเป็นปู่ของเบลคกับเอ็ดเวิร์ดด้วยอย่างนั้นเหรอ ชนิกานต์ทวนคำ หน้านิ่วคิ้วขมวด เพ่งมองหน้าอาลียาจนเจ้าตัวต้องท้วงขึ้นมา
“ทำไมมองพี่แบบนั้นล่ะกี้”
“ก็พี่ลียาหน้าออกไท้ไทย จะมีปู่คนเดียวกันกับเบลคและเอ็ดเวิร์ดได้ยังไงกันคะ”
“ปู่สมิธอุปการะพี่จ้ะ พี่ไม่ได้เป็นหลานแท้ๆหรอก แต่ท่านก็ไม่ได้พูดถึงหรอกนะว่าพ่อแม่ของพี่เป็นใคร ท่านบอกให้พี่เริ่มต้นครอบครัวใหม่ด้วยการเป็นหลานของท่าน ท่านให้พี่ทุกอย่างไม่ต่างจากหลานแท้ๆเลยล่ะ แล้วยังรักและบอกให้คนในบ้านทำตัวเหมือนพี่เป็นครอบครัวเดียวกันตั้งแต่นั้นมาเลยจ้ะ”
“กี้ก็นึกว่าเป็นญาติจริงๆ” ชนิกานต์บ่นงึมงำ มีเรื่องตะหงิดใจอยู่หน่อยแต่ไม่กล้าท้วง ได้แต่พูดทีเล่นทีจริงไป “ว้าว ถ้าอย่างนี้ กี้ก็จะมีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้ใช่ไหมคะเนี่ย แก นังลิลลี่ แกก็เป็นน้องสะใภ้ ส่วนฉันเป็นพี่สะใภ้ อะไรมันจะเพอร์เฟคขนาดนี้เนี่ย”
“พี่ไม่คิดจะกินญาติตัวเองใช่ไหมพี่ลียา” สุดท้ายชนิกานต์ไม่วายระแวงส่งคำถามที่ตะงิดอยู่เมื่อครู่ในใจออกไป
“นังกี้ แกนี่ลามปามพี่ลียามากไปแล้วนะ พี่ลียาน่ะเค้าไม่มีทางมีใครได้หรอกย่ะ เพราะมีคนนั้นอยู่ในใจแล้วใช่ไหมคะพี่” ลลิลแก้ต่างให้อย่างคนรู้ดี “อีกอย่างนะ ฉันว่าเบลคเองเขาก็คงไม่ชอบของเทียมๆแบบแกหรอกกี้ ให้พี่ลียาช่วยยังไงก็คงดันไม่ขึ้นหรอกย่ะ”
“แอร้ย นังชะนี เกลียดนักเชียว ทำไมยะ ของเทียมแบบฉันก็ทำให้ขึ้นสวรรค์ได้ก็แล้วกัน”
“เหรอยะ” ลลิลขำแล้วหันมาคุยกับ อาลียาต่อ “เออ พี่ลียา วันก่อนลิลไปออกบูทเจอเฮียเล้งด้วย แกว่าแกเห็นคนคลับคล้ายคลับคลาจะเป็นพี่พลด้วยน่ะค่ะ”
“เหรอ ที่ไหนลิล” คนถามที่กำลังยกเครื่องดื่มขึ้นจรดปาก วางลงแล้วถามท่าทางกระตือรือร้นขึ้นมาทันที
“พี่ถามเหมือนจะไปหาเขาอย่างนั้นแหล่ะ”
“ใช่สิลิล พี่ต้องไปดูให้เห็นกับตาว่าเขาปลอดภัยดี แล้วพี่ก็มีอะไรตั้งหลายเรื่องต้องคุยกับเขา”
“พี่ยังรักพี่พลจริงๆเหรอคะ” ลลิลถามขึ้นอย่างที่นึกสงสัยมานาน
“พี่รักพี่พลเสมอ แม้ว่าเขาจะทำตัวแย่แค่ไหนพี่ก็รัก” อาลียาบอกด้วยสายตาเต็มไปด้วยความหนักแน่น ลลิลที่อดใจไม่ไหวอีกต่อไปถามขึ้นว่า “แล้ว...พี่พลเขาไปก่ออะไรไว้คะ ถึงต้องหนีตายขนาดนั้น
อาลียาถอนหายใจทีหนึ่งก่อนเล่า “พี่พลน่ะ...เขาโดนใส่ร้ายว่าแอบเอาข้อมูลลับไปขายให้ Htech แล้วข้อมูลนี้มันก็มีผลต่อยอดขายของไตรมาศสุดท้ายของปีนั้นด้วย ทางผู้ใหญ่ใน S&G รู้เข้าก็เลยใช้ศาลเตี้ยตัดสินกันเสียเลย แต่พี่เชื่อนะว่าพี่พลต้องถูกใส่ร้ายแน่นอน พี่พลไม่มีทางทำเรื่องเลวร้ายขนาดนั้นแน่” หญิงสาวจงใจใช้คำเรียกคนที่เอาผิดพลด้วยสรรพนามว่า ‘ผู้ใหญ่’ แทนที่จะเป็น ‘เบลค’
“อ้อ...ถ้าเป็นอย่างนั้น พี่ลียาก็ลองไปตามที่เฮียเล้งบอกก็แล้วกันค่ะ ว่าเห็นอยู่ในบ่อนแถวชายแดนนู่น”
“ลิล เฮียเล้งแน่ใจใช่ไหมว่าพี่พลอยู่นั่นจริงๆ”
“แน่ใจสิคะพี่ ระดับเฮียเล้งบอกข่าวแล้วไม่มีทางมั่วซั่วแน่นอน ว่าแต่พี่จะไปจริงๆเหรอ”
“พี่ต้องไปลิล แล้วพี่จะรู้ได้ยังไงว่าพี่พลเขาอยู่ตรงไหน”
“เฮียเล้งบอกว่า พี่พลจะออกจากห้องพัก 101b ในบ่อนชื่อเดอะริชชี่ ตอนสิบเอ็ดโมง มานั่งตรงห้องอาหาร หลังจากนั้น จะลงที่โต๊ะวีไอพี ถึงบ่ายสามค่ะพี่ โต๊ะเดียวกับเฮียเล้งเลยค่ะ แต่เฮียว่าแกไม่เคยทักพี่พลนะคะ พี่พลเองก็ไม่ทักเฮียด้วยเหมือนกัน”
“ขอบใจมากนะลิล พี่ฝากขอบคุณเฮียเล้งด้วย”
“ค่ะพี่ ว่าแต่... พี่จะไปวันไหนคะ”
“พี่คงต้องเคลียร์งานก่อน ปิดงบปลายปี แล้วว่าจะลาพักร้อนอีกห้าวัน ถึงไป”
“โชคดีค่ะพี่”
ลลิลลอบมองหน้ารุ่นพี่คนสนิทด้วยสายตาเป็นห่วงแบบที่เคยมีมาแต่ไหนแต่ไร ด้วยว่าตนเองไม่รู้เรื่องราวของทั้งคู่มากนัก เพราะอาลียาค่อนข้างเก็บงำเรื่องส่วนตัวไม่เอามาพร่ำบ่นเหมือนเพื่อนสาวคนอื่นๆ รู้แต่ว่าพลหายไปจะด้วยเรื่องอะไรเธอก็สุดจะคาดเดาได้ ก่อนถอนหายใจแล้วหันหลังไปจัดการอาหารบนเตาอีกครั้ง