หลายวันผ่านไป
แฟรงค์นั่งเหม่ออยู่ริมหน้าต่างห้องพัก สายตามองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย นับตั้งแต่เขากลับมาจากอัฟกานิสถานจนมาถึงตอนนี้ก็เกือบครึ่งปี แต่สภาพร่างกายและจิตใจของเขายังไม่กลับมาเป็นปกติอย่างที่หวัง เมื่อคืนผู้หญิงที่เขาไม่อยากเจอและได้ยินเสียงมากที่สุด โทรศัพท์มาหาเขา พร้อมกับคำขอโทษอีกยาวเหยียด ทุกคำพูดที่หล่อนพูดออกมา มันไม่ได้มีความจริงใจแม้แต่น้อย และผู้หญิงนิสัยแบบนี้แหละที่เขาเกลียดที่สุด
“คิดอะไรอยู่นะแฟรงค์” พีรวิทย์เดินกลับมาพร้อมกับกระป๋องเบียร์ในมือ วางลงบนโต๊ะตรงหน้าแฟรงค์ ขณะหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้
“เปล่า ว่าแต่คืนนี้นายจะพาฉันไปเที่ยวที่ไหน”
“ผับย่านรัชดา”
“พรุ่งนี้นายต้องไปทำงานหรือเปล่าพีท”
“พรุ่งนี้เป็นวันหยุดของฉัน” พีรวิทย์บอก เขารู้สึกเป็นห่วงแฟรงค์มาก ตั้งแต่แฟรงค์มาเมืองไทย ก็หลายวันเข้าไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย ช่วงนี้เขาก็ยุ่งอยู่กับปัญหาของหลานสาว จนไม่มีเวลาพาแฟรงค์ไปเที่ยว
แฟรงค์พยักหน้า หยิบกระป๋องเบียร์ขึ้นมาดื่ม สายตายังคงมองทิวทัศน์ของกรุงเทพยามเย็น สภาพความวุ่นวายของที่นี่ ไม่ต่างอะไรกับบ้านเกิดของเขาเลย บางทีเขาควรออกไปเที่ยวต่างจังหวัดอย่างที่พีรวิทย์แนะนำ
“นายไปอาบน้ำเถอะ”
“แล้วนายจะอาบที่นี่หรือกลับไปอาบที่บ้าน”
“เดี๋ยวฉันไปใช้ห้องพักของพี่ชายก็ได้ นายลืมไปแล้วหรือไงว่าฉันเป็นเจ้าของโรงแรม”
“ฉันลืมไปว่านายเป็นเจ้าของโรงแรมชื่อดังของเมืองไทย”
“น้องชายเจ้าของโรงแรมต่างหาก ไม่ใช่เจ้าของโรงแรม”
“มันก็เหมือนกันนั่นแหละ อีกไม่กี่ปีพาราไดซ์ แกรนด์ โฮเทลก็จะเป็นของนายแล้วไม่ใช่หรือพีท”
“ก็ยังไม่แน่หรอกแฟรงค์ นายลืมไปแล้วหรือไงว่าพี่ชายฉันยังมีลูกชายกับเมียใหม่อีกคน”
“ครอบครัวนายนี่ก็วุ่นวายดีนะ”
“อืมม์” พีรวิทย์พยักหน้าตอบ สิ่งที่แฟรงค์พูด เป็นเรื่องจริงแทบทั้งหมด คนภายนอกอาจมองว่าครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ ทุกคนมีความสุข เมียหลวงกับเมียน้อยรักใคร่ กลมเกลียวกัน แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย ทั้งคู่ต่างก็พยายามแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันแทบทุกเรื่อง เรียกได้ว่าคฤหาสน์ชัยประสิทธิ์แทบจะลุกเป็นไฟเข้าไปทุกวัน โชคดีที่หลานชาย เป็นคนดี น่ารักและไม่มีนิสัยทะเยอทะยาน อยากได้อยากมีเหมือนลูกเมียน้อยบ้านอื่นๆ
“เจอกันตอนสามทุ่มนะแฟรงค์” จู่ๆ พีรวิทย์ก็พูดขึ้น แล้วลุกจากเก้าอี้ เดินกลับเข้าไปในห้องพัก เพื่อกลับไปอาบน้ำยังห้องพักของบิดาที่อยู่ถัดออกไปจากห้องพักของเขา ซึ่งตอนนี้ยกให้แฟรงค์อาศัยอยู่ในช่วงที่แฟรงค์อยู่เมืองไทย
“โอเค” แฟรงค์ตอบ มองพีรวิทย์อย่างเห็นใจ ปัญหาภายในครอบครัวแต่ละครอบครัวนั่นไม่เหมือนกัน โชคดีที่บิดามารดาของเขารักใคร่ กลมเกลียวกันดี จึงไม่มีปัญหาเหมือนอย่างที่ครอบครัวของพีรวิทย์
///////
01 : 25 นาฬิกา ณ...ผับย่านรัชดา
โชติกาส่ายหน้าไปมาเมื่อเห็นสภาพของภัทริยา เธอต้องลุกออกมาจากเตียงนอนเพื่อมาเห็นสภาพน่าเวทนาชวนให้สงสาร ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมภัทริยาถึงเป็นไปได้ขนาดนี้ ผู้หญิงดีๆ คงไม่คิดทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้แน่
ปองธรรมมองร่างที่เมาแทบไม่ได้สติของเพื่อนสนิทพี่สาวคนใหม่อย่างรังเกียจเล็กน้อย เขาเข้าใจว่าเพื่อนสนิททุกคนของพี่สาวต้องนิสัยดีและน่ารักทุกคนเสียอีก เห็นทีเรื่องที่เขาคิดก่อนหน้านี้ คงผิดหมด เพราะผู้หญิงที่ชื่อ ภัทริยาไม่ได้เรียบร้อยน่ารักอย่างที่เขาเคยวาดฝันเอาไว้จริงๆ
“เราจะทำยังไงดีครับพี่ใบเตย”
“ฉันคงพาภัทรไปส่งที่บ้าน” โชติกาตอบน้องชายอย่างเบื่อหน่าย เธอเริ่มรู้สึกเหนื่อยกับการเป็นเพื่อนของภัทริยา นับวันภัทริยายิ่งทำตัวไม่มีเหตุผล เข้ามาวุ่นวายในชีวิตของเธอมากเกินไป
“ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทำไมเพื่อนพี่ใบเตยถึงได้ทำตัวแบบนี้ อกหักมาหรือไงครับ อืมม์...หน้าตาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ จะหาคนรักอีกสักกี่คนก็ได้”
“นายรู้หรือเปล่าว่าคนที่ภัทริยารักเป็นใคร”
“ไม่รู้ครับ” เขาจะรู้ได้ยังไง ในเมื่อเขาเพิ่งรู้จักและสนิทกับเพื่อนของพี่สาวคนใหม่ได้ไม่กี่วันเอง อีกอย่างคนที่เขาสนิทด้วยก็คือรวิพรไม่ใช่ภัทริยา
“คนที่ภัทริยารักก็คือฉัน”
“อะ...อะไรนะครับ” ปองธรรมร้องถามเสียงหลง ตกใจกับคำตอบที่หลุดออกมาจากปากของพี่สาว เป็นไปได้อย่างไรที่ผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนนี้ชอบพี่สาวของเขาแถมไม่ใช่ชอบแบบธรรมดา เรียกว่ารักเลยจะดีกว่า
“พี่ใบเตยพูดเล่นใช่ไหมครับ”
“เปล่า ฉันพูดจริง”
“ผมไม่อยากจะเชื่อเลย”
“เชื่อเถอะป้อง เพราะมันเป็นความจริง” โชติกาตอบ เริ่มกวาดสายตามองไปรอบๆ ผับ โชคดีหน่อยที่ตอนนี้ ผับเปิดเพลงช้า ทำให้เธอรู้สึกสบายหูบ้าง
ปองธรรมมองไปตามจุดที่พี่สาวมองอีกครั้ง ก็ไม่พบเห็นใครที่ผู้เป็นพี่สาวรู้จักเลย มีนักท่องราตรีเต็มไปหมด บางคนหน้าตายังดูเด็กอยู่เลย อาจไม่ถึงยี่สิบด้วยซ้ำ ถ้าเด็กไม่ถึงยี่สิบเข้าผับนี้ได้ เจ้าของผับคงเส้นใหญ่ใช่เล่น
“มองหาอะไรหรือครับพี่ใบเตย”
“เจ้าของผับ”
“พี่ใบเตยรู้จักเจ้าของผับนี้ด้วยหรือครับ”
“รู้จักสิ เจ้าของผับเป็นพี่ชายของเพื่อนสนิทฉันเอง”
“เพื่อนสนิท อย่าบอกนะครับว่าเพื่อนสนิทคนนี้ของพี่ใบเตยคือ...”
“ใช่ คนที่นายคิดน่ะถูกแล้ว” โชติกายิ้มก่อนหันซ้ายหันขวาเพื่อหาเพื่อนสนิทอีกคนของเธอ เพราะเมื่อสองชั่วโมงก่อน คนที่โทรศัพท์ไปบอกเรื่องที่ภัทริยามาดื่มเหล้า ร้องไห้และคร่ำครวญอยู่ในผับก็คือรวิพรนั่นเอง
ปองธรรมอึ้งเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าคนที่ภัทริยารักเป็นใคร ก่อนหน้านี้เขาก็เคยคิดและรู้สึกสงสัยในท่าทางและพฤติกรรมบางอย่างของภัทริยาแสดงออกเวลาอยู่กับพี่สาวคนใหม่ของเขา ตอนนี้เขาไม่สงสัยอะไรอีกแล้ว
“ทำไมถึงเพิ่งมาล่ะใบเตย” เสียงที่ดังมาจากด้านหลังเรียกสติของปองธรรมและโชติกา ร่างเพรียวระหงเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างโต๊ะที่ภัทริยานั่งเมาไม่ได้สติอยู่
“ฉันรอป้องอยู่” โชติกาบอกแล้วยิ้มให้รวิพร
“แล้วมาด้วยกันได้ยังไงล่ะเนี่ย ใบเตยนอนที่อยู่ที่คอนโดไม่ใช่เหรอ?”
“ก่อนออกมาจากคอนโด ฉันโทร.ไปหาป้องที่บ้าน แล้วบอกให้ป้องขับรถมาเจอฉันที่นี่” โชติกาอธิบาย ขณะเหลือบมองสีหน้าของน้องชายสลับกับเพื่อนสนิท เธอรู้สึกว่าสองคนนี้ทำตัวแปลกไปทุกครั้ง เวลาที่เจอกัน ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ เหมือนกับว่าเธอไม่อาจเข้าไปในโลกที่พวกเขาสร้าง และเป็นโลกที่เธอไม่อยากเข้าไปข้องแวะแม้แต่น้อย
////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...