ใช้เวลาไม่นานธยาดาก็กล่อมหนูน้อยจนหลับปุ๋ย เธอดึงผ้าห่มมาห่มร่างเล็กของลูกสาวอย่างถนุถนอมและอ่อนโยน ไม่ลืมที่จะหอมสูดกลิ่นแก้มของลูกอย่างโหยหาจนเต็มปอดรู้สึกชื่นใจดั่งได้รับพลังวิเศษเพื่อต่อลมหายใจให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกหนึ่งวัน มือเรียวลูบศีรษะเล็กเบาๆ ในใจได้แต่พร่ำบอกลูกซ้ำๆว่า 'แม่รักและคิดถึงลูกเหลือเกิน'
"แม่ขอโทษที่หายไปห้าปีเต็มๆ เวรกรรมอะไรของเราสองคนนะลูกรัก ที่เกิดเรื่องราวเหล่านี้ขึ้น แม่จำไม่ได้เลยว่าแม่..แม่ความจำเสื่อมได้ยังไงกัน"
ธยาดาพูดขึ้นเบาๆ น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็ไหลรินลงมา เธอพยายามแล้วที่จะเข้มแข็ง แม้จะสับสนและไม่เข้าใจว่าใครที่ลักพาตัวเธอไป เพราะเหตุการณ์ตอนนั้นธยาดายังจำไม่ได้ เธอจำได้เพียงเหตุการณ์หลังจากที่ฟื้นมาแล้วเท่านั้น ตอนนี้ธยาดากลับรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนกำลังงมเข็มอยู่ในมหาสมุทร เพราะไม่สามารถบอกเล่าเรื่องนี้กับใครได้เลย
ภูรินทร์น่ะเหรอ? เขาตัดสินธยาดาและเกลียดธยาดาไปแล้ว ใครกันนะที่ต้องการให้ธยาดาหายไปจากชีวิตภูรินทร์ ธยาดาคิดไม่ออกเลยจริงๆ
"กลับไปได้แล้ว"
เสียงดุเอ่ยขึ้น เขาเข้ามาตอนไหนธยาดาแทบจะไม่รู้ตัว
"ค่ะ"
"ต่อไป ถ้าไม่ใช่คำสั่งก็ไม่ต้องเสนอหน้ามา"
ธยาดาไม่อยากต่อปากต่อคำเขา เธอหยิบถาดอาหารแล้วเดินออกมาจากห้องของลูกสาวทันที แต่ไม่วายว่าคนตัวสูงยังเดินตามมา ไม่รู้ว่าคู่ขาของเขาไปไหนเสียแล้วถึงได้มีเวลามาหาเรื่องธยาดาได้
"ฉันยังพูดไม่จบ เธอไม่มีสิทธิ์เดินหนี"
หมับ!
ถาดอาหารถูกดึงเหวี่ยงไปวางบนโต๊ะที่อยู่ใกล้มือ แขนของธยาดาถูกเขาดึงรั้งไว้อย่างแรง หญิงสาวเซปะทะไปชนกับแผงอกกว้างแข็งแรงของเขาตามแรงดึงกระชากทันที ธยาดาได้กลิ่นของแอลกอฮอล์แตะเข้าปลายจมูก ก็พอจะรู้ว่าเขาเมา แต่ถึงไม่เมาก็ร้ายพอๆกัน
"ยาดาไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ เมื่อคุณสั่งเสร็จแล้วยาดาขอตัวกลับก่อนค่ะ"
ธยาดาเอ่ยอธิบาย เมื่อกี้บอกให้กลับ แต่พอเธอจะกลับบอกยังคุยไม่เสร็จ สงสัยจะเป็นประสาท!
"เธอไม่มีสิทธิ์จะเดินหนีฉัน ถ้าอยากอยู่ที่นี่คำสั่งเดียวของฉันก็ห้ามขัด หัดเจียมกะลาหัวไว้เสียบ้าง"
"ภูคะ ยาดาไม่รู้หรอกนะว่าทำไมคุณถึงได้เกลียดชังยาดาขนาดนี้ แต่ยาดาขอพูดอะไรหน่อยเถอะ ช่วยสงสารลูกบ้าง ลูกไม่ชอบผู้หญิงคนนั้น และอีกอย่างการที่คุณเอาผู้หญิงมาทำประเจิดประเจ้อในบ้านต่อหน้าลูก มันน่ารังเกียจ"
ธยาดาสะบัดแขนที่ถูกเขาจับไว้ ก่อนจะเดินหนี
"อย่ามาสั่งสอนฉันว่าไม่สงสารลูก เพราะคนที่ทิ้งลูกไปไม่เคยเหลียวแลมันคือเธอ ทิ้งลูกไปกับชายชู้ แต่ยังมีหน้ามากล่าวหาคนอื่นว่าน่ารังเกียจ ด่าคนอื่นก็น่าจะให้พ้นตัวเองซะหน่อยนะธยาดา!"
น้ำเสียงนั้นตะคอกธยาดาด้วยความโกรธขึ้ง สายตานั้นก็แฝงไปด้วยความโกรธมากมาย แขนทั้งสองข้างของธยาดาถูกเขากุมเอาไว้และบีบอย่างแรงจนธยาดารู้สึกเจ็บ
"ถ้าคุณไม่ฟังก็อย่ามากล่าวหากันเลย เกิดเรื่องอะไรขึ้นคุณยังไม่ถามยาดาสักคำ"
"ฮ่าๆ ไม่ถามงั้นหรือ มานี่ มาแหกตาดูนี่"
ภูรินทร์หัวเราะหยันในลำคอก่อนจะลากธยาดาเข้าห้องเขาไป
"ยาดาเจ็บนะภู!"
ธยาดาพยายามขัดขืนแต่เขาไม่ฟัง
ตุ้บ! ร่างเล็กถูกโยนลงไปบนเตียงนอน ภูรินทร์หยิบรูปในลิ้นชักปาใส่ธยาดา
"แหกตาดูสิ"
ธยาดาหยิบรูปที่ภูรินทร์ปาใส่หน้าเธอด้วยมือที่สั่นพร่า ในรูปเป็นรูปแต่งงาน เหมือนถ่ายเป็นพรีเวดดิ้ง ผู้หญิงในรูปเหมือนเธอไม่มีผิด แต่ธยาดาไม่รู้จักผู้ชายคนนั้นที่เป็นเจ้าบ่าวเลย
"ไม่ใช่ยาดานะภู"
ธยาดารีบปฏิเสธ เธอจำได้ว่าเธอไม่เคยไปถ่ายรูปพวกนี้เลย
"ตอแหล!"
"ยาดาไม่รู้จักผู้ชายในรูป"
"ฉันไม่ได้โง่ หยุดพล่ามสักที หลักฐานชัดขนาดนี้เธอยังไม่ยอมรับ ฉันไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าหลงไปคบกับผู้หญิงแบบเธอได้ยังไง"
ภูรินทร์มองธยาดาด้วยสายตาชิงชังแค้นเคืองเหมือนเดิม ธยาดารู้สึกเจ็บปวดกับสายตาเกลียดชังคู่นั้นที่ส่งมานัก เธอพูดไม่ออกเพราะในรูปผู้หญิงคนนั้นหน้าเหมือนเธอทุกอย่าง หรือว่า ฝาแฝด! แต่ธยาดาจำได้ว่าเธอไม่เคยมีฝาแฝดมันก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
"ตอบฉันสิธยาดา เธอจะชดใช้ชีวิตพังๆของฉันที่เธอทำพังยังไง?"
ภูรินทร์ขึ้นคร่อมมาบนร่างของธยาดา แขนทั้งสองถูกเขาตรึงเอาไว้แน่น
"คุณเมาแล้ว ปล่อยยาดาเถอะค่ะ"
"เดี๋ยวนี้ทำสะดีดสะดิ้ง แท้จริงในใจของเธอมันก็สั่นระริก อยากได้จนตัวสั่น ครั้งนี้ฉันจะยอมสนองให้สักครั้งก็แล้วกัน"
"อย่านะ! ภู ไม่เอา"
ภูรินทร์ไม่ฟัง ริมฝีปากหยักบดขยี้ลงมาปิดเรียวปากบางของธยาดาทันทีอย่างที่เธอไม่ทันได้ทั้งตัว ไม่คาดคิดว่าภูรินทร์จะมาหน้ามืดอะไรตอนนี้
อุ๊บ!
จูบป่าเถื่อนเหมือนเดิม ธยาดารู้สึกว่าปากของเธอระบมจนเหมือนจะมีเลือดไหลซิบๆออกมา ก่อนที่เธอจะรู้สึกว่ากำลังจะขาดใจตาย ภูรินทร์ก็เปลี่ยนสัมผัสดุเดือดเป็นผ่อนคลายและนุ่มนวลมากขึ้น จากตอนแรกที่เธอดิ้นอย่างสุดชีวิต ก็เริ่มโอนอ่อนผ่อนตามกับสัมผัสที่เริ่มอ่อนหวาน
ธยาดาหลับตาพริ้มเมื่อเขาซุกไซ้เข้ามาที่ซอกคอ มืออุ่นร้อนก็เริ่มลูบไล้ไปทั่วร่างนวลเนียน ธยาดาคุ้นชินกับสัมผัสนี้จากเขาดี สัมผัสที่เธอโหยหามาตลอดและคิดว่าจะไม่มีโอกาสได้รับจากเขาอีกแล้ว มันยากเหลือเกินที่จะปฏิเสธในเมื่อใจของเธอมันร่ำร้อง ถึงแม้ว่าภูรินทร์จะทำมันตอนไม่มีสติก็ตาม