ตอนที่2

1040 Words
กระท่อมยกพื้นสูงผุๆพังๆมีหญ้ารกร้างปกคลุมไปทั่วบริเวณคือที่พักพิงใหม่ของธยาดา "สภาพแบบนี้คุณยาดาอยู่ได้แน่นะครับ" กล้าถามขึ้นเป็นภาษากลางแต่ออกสำเนียงใต้หรือภาษาชาวบ้านใต้ๆก็คงเรียกว่ากันว่าแหรงทองแดง ธยาดาเมื่อเห็นสภาพที่อยู่ของเธอถึงกับกลืนน้ำลายลงคอฮึก ภูรินทร์คงตั้งใจให้เธออยู่ไม่ได้แล้วก็เผ่นหนีกลับไป เมื่อคิดได้แบบนั้นธยาดาก็มีแรงฮึดที่จะสู้และอยู่ให้ได้ "ต้องอยู่ให้ได้ ถ้าฉันหนีไปก็เป็นจริงอย่างที่เขากล่าวหา เอาไว้เขารู้ความจริงเมื่อไหร่ ถ้าเขายังเกลียดฉัน เมื่อถึงวันนั้นฉันจะไป" "งั้นเดี๋ยวกล้าจะไปเอาพวกจอบมาถากหญ้าให้ ที่ชื้นๆแบบนี้งูเงี้ยวเขี้ยวขอเยอะทีเดียว" "ขอบใจนะกล้า " กล้ามองกระเป๋าผ้าใบจิ๋วของธยาดา ก็พอจะรู้ว่าเธอมีเสื้อผ้าแค่สองสามชุด "คุณยาดามีของมาแค่นี้เหรอครับ" เด็กหนุ่มถามอย่างสงสัย ธยาดาก้มลงมองกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอที่มีแค่สามชุดจริงๆ เนื่องจากเธอเข้าใจว่าจะได้การตอบรับที่ดีจากภูรินทร์เลยไม่ได้เอาอะไรมามากมาย "อืม ฉันยังพอมีเงินเหลือติดตัวอยู่นิดหน่อย เดี๋ยวค่อยไปหาซื้อเอาตามตลาดนัดแถวๆนี้ก็ได้จ้ะ ฉันจำได้ว่ามีตลาดทุกวันอาทิตย์" "เดี๋ยวให้นังกาหยูเมียของผมพาไปครับ เอ่อ มันน่าจะไม่รู้จักคุณยาดาเพราะเพิ่งมาอยู่ปีที่แล้วเอง" "เขาคงสั่งคนงานเก่าๆไว้หมดแล้วล่ะ ว่าไม่ให้พูดถึงฉัน บอกเมียนายกล้าว่าฉันเป็นแค่คนงานใหม่ก็พอ เดี๋ยวฉันเข้าไปข้างใน ปัดกวาดเช็ดถูดูก่อนนะกล้า ขอบใจมากๆที่ยังใจดีกับฉัน" "คุณยาดาเคยดีกับครอบครัวของกล้ามากๆ ความจริงเป็นยังไงกล้าไม่รู้ แต่เมื่อคนที่เคยมีบุญคุณตกทุกข์ได้ยาก กล้าก็คงทนยืนมองเฉยๆไม่ได้หรอกครับ" ธยาดายิ้มให้กล้าพร้อมกับพยักหน้า อย่างน้อยเธอก็ยังพอมีมิตรภาพแล้วหนึ่งคน แม้ว่าคนอื่นๆที่จำเธอได้จะมองเธอด้วยสายตารังเกียจก็ตาม เพื่อหนูดี เธอจะอดทนให้ถึงที่สุด ไม่ต้องถึงขั้นกลับไปเป็นเมียของภูรินทร์เหมือนเดิมก็ได้ ธยาดาเพียงอยากได้มีโอกาสใกล้ชิดกับลูกบ้างแค่นั้นเอง ความทรงจำของเธอกลับมาครั้งนี้ เหมือนกับนอนหลับแล้วตื่นขึ้นมาพบกับฝันร้าย ทำไมชีวิตของเธอถึงต้องมาพบเจออะไรแบบนี้ด้วย มันเวรกรรมอะไรของธยาดานักหนา นายกล้าเอาไม้กวาดและไม้ถูพื้นมาให้ก่อนที่จะเดินจากไปเพื่อไปหาจอบมาถากหญ้า ส่วนธยาดาเมื่อได้ไม้กวาดกับไม้ถูพื้นมาแล้วก็เริ่มทำการกวาดขยะทำความสะอาดเพื่อให้พอมีที่ซุกหัวนอนได้ก่อน เธอทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจ ถึงแม้ว่าจะไม่เคยอยู่ในสภาพที่เป็นแบบนี้มาก่อนก็ตาม ฝากระท่อมเป็นไม้ไผ่สานที่เริ่มผุพัง พื้นก็ปูด้วยไม้กระดานธรรมดาๆ เดินทีนึงรับรู้ได้ถึงแรงสั่นของกระท่อม หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง "คงต้องรีบซ่อมพวกฝาบ้านก่อน ไม่อย่างนั้นฝนตกคงอยู่ได้ยาก" ธยาดาบ่นพร่ำกับตัวเอง เอาจริงๆเธอก็มองว่ามันท้าทายไปอีกแบบ ส่วนห้องน้ำห้องท่าก็แยกไปอยู่ข้างหลังของกระท่อม ห้องน้ำที่กั้นด้วยสังกะสีทั้งหลังมีรูร่องให้เห็นอยู่ประปรายตอนอาบน้ำคงระแวงน่าดู แต่มันก็ไม่เท่าที่เธอต้องไปหาบน้ำจากลำธารมาใช้เอง "คุณ!" มีเสียงผู้หญิงมาเรียกเธออยู่ด้านหน้าของกระท่อม "จ้า" ธยาดารีบเดินลงมาหา "ผัวฉันให้เอาผ้าถุงมาให้" ธยาดามองผู้หญิงตรงหน้า ผิวสีแทนผมหยักศกรูปร่างดี หล่อนสวมเสื้อแขนตุ๊กตาแนบชายเสื้อไว้ในผ้าถุงลายดอก หน้าตาก็ออกคมคายเป็นสาวใต้แท้ มองดีๆเธอสวยคมเลยเชียว "ขอบใจนะจ้ะ" ธยาดารับถุงผ้ามาพร้อมกับยิ้มให้อย่างเป็นมิตร "เธอเป็นคนกรุงเทพเหรอ ผิวพรรณขาวผ่อง แถมสวยอีกต่างหากทำไมถึงมาเป็นลูกกุลีที่นี่ได้" คนถามมองธยาดาตั้งแต่หัวจรดเท้า ธยาดายิ้มให้กาหยูอีกครั้งถึงแม้อีกฝ่ายจะพูดเสียงห้วนๆดูไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ก็ตาม "อย่าบอกนะว่า เธอจะมาจับนายหัว บอกไว้ก่อนเลยนะ นายหัวเหมือนจะมีคู่หมั้นแล้ว อย่า อย่าแม้แต่จะคิด" "คู่หมั้น" ธยาดาถามย้ำ "ใช่แล้วๆ คุณกานดาลูกสาวนายห้างในเมืองนครโน่นแหละ เป็นแฟนของนายหัว เหมาะสมกันราวกับผีเน่าโลงผุ" ธยาดาเผลอหัวเราะออกมากับคำเปรียบเปรยที่ไม่รู้ประสีประสาของกาหยู "กิ่งทองใบหยกจ้ะ อย่าไปพูดว่าผีเน่าโลงผุให้นายหัวได้ยินเชียวนะ เดี๋ยวเขาจะโกรธเอา" "เหรอ? มันไม่ได้หมายความว่าเหมาะสมกันเหมือนในเพลงเหรอ กาหยูได้ยินมาจากในเพลง" กาหยูเอามือกอดอกทำสีหน้าครุ่นคิดสงสัย "รู้แค่ว่าความหมายของมันไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ก็พอจ้า ส่วนเรื่องที่กาหยูกังวลว่าฉันจะมาจับนายหัวของกาหยูเลิกกังวัลได้เลย ฉันน่ะแค่มาหางานทำเท่านั้นแหละ ไม่ได้คิดจะมาจับใครหรอก" "เออๆ ให้จริงเถอะ นี่ๆๆไปกินข้าวกันก่อน เดี๋ยวจะมาช่วย" กาหยูพูดออกมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ซึ่งความจริงแล้วธยาดาสัมผัสได้ว่ากาหยูไม่ใช่คนใจดำอะไร แต่ด้วยอุปนิสัยคนใต้ชอบพูดตรงๆด้วยน้ำเสียงขาดๆห้วนๆแบบนี้แหละ แต่ฟังแล้วดูจริงใจสุดๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD