Chapter IX : Bad Honeymoon Part I

3924 Words
. . . . . ‘ฮือออออออออออ!!! แม่ครับรีบกลับมาทีครับบบบบ!!! ㅠㅠ’ . . . . . . “เอาไงดีล่ะทีนี้” สองสามีภรรยานั่งหันหน้าเข้าหากันเพื่อปรึกษาปัญหาเรื่องลูกน้อยเพราะถ้าหากปล่อยไว้แบบนี้นอกจากพวกเขาจะไม่ได้หลับได้นอนแล้วเรื่องคะแนนสอบแทบจะไม่ต้องพูดถึงเลย “จ้างพี่เลี้ยงได้ไหมอ่ะ? สักอาทิตย์นึง” ร่างบางเสนอความคิดบ้าง “เอาเงินไหนมาจ้างล่ะ? ลำพังแค่ค่ากินอยู่รายอาทิตย์พวกเราก็แทบจะไม่พอแล้วเนี่ย” “(._.) เฮ้อนั่นสินะ...” คนตัวเล็กนั่งคอตกเมื่อไอเดียที่เจ้าหล่อนพึ่งเสนอโดนปฏิเสธไป “เอ้อ! เอาไปฝากพี่ชายเธอดีไหม!? ปกติเฮียแกก็เคยเลี้ยงหลานอยู่แล้วนี่ ” ร่างสูงตาลุกวาวอย่างมีความหวังขึ้นมาทันทีเมื่อนีกถึงตัวช่วยอีกคน “ไม่! ไม่เด็ดขาด! จะให้ฉันเอาลูกไปฝากไว้กับคนที่เห็นผู้หญิงดีกว่าหลานน่ะหรอ เห๊อะ! ไม่มีทาง!” คนตัวเล็กรีบค้านเสียงแข็งแทบจะทันที “งั้นเอาไงล่ะ!” “ก็บอกให้จ้างพี่เลี้ยงไง!” “เลี้ยงลูกกันเองก็ได้! ลูกแค่คนเดียวเองไม่ตายหรอกน่าริน ช่วยๆกัน” “- -; เหอะ นายคิดว่าเลี้ยงเด็กคนนึงมันง่ายนักรึไง งั้นก็เชิญเลี้ยงไปคนเดียวเถอะ!” ว่าจบร่างเล็กก็ลุกพรวดพลาดเข้าห้องไปทิ้งให้อีกคนได้เพียงแต่มองก่อนจะหันมามองทารกน้อยที่หลับอยู่ในเปลเด็ก “ไม่เห็นเป็นไรเลยเนอะริเอลอยู่กับป๊ะป๋าสองคนก็ได้ ป๊ะป๋าของหนูเก่งอยู่แล้ว!” ว่าแล้วดวงตาคมก็ฉายแววมุ่งมั่นดั่งมีใครไปจุดไฟในร่างกายมันลุ่มร้อน ร่างหนาลุกไปขนหนังสือออกมากองไว้ข้างๆเปลทารกก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งอ่านข้างๆลูกน้อยที่นอนมาตาแป๋ว “ฮ..ฮึก.. อุแว๊~~~!! แอ๊!!!” เด็กน้อยเริ่มแผดเสียงร้องไห้ดังลั่นจนผู้เป็นพ่อต้องรีบวางมือมาอุ้มทารกน้อยเดินไปเดินมาแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะสงบลงเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะลองเอานมให้กิน เช็คดูความสะอาดในแพมเพิสแต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่ว่าจะทำยังไงก็เป็นผลทั้งนั้น “ㅠㅠ ริเอลเงียบเถอะนะลู๊กก ป๊ะป๋าเหนื่อยแล้วนะลูก” “แงงงงงงงง๊! ฮึกกก อุแว๊!!!” แค่หย่อนก้นลงจะนั่งลูกน้อยกลับยิ่งแผดร้องออกมาราวกับว่าไม่ต้องการให้เขาได้พัก “ฮืออ ริเอลไม่สงสารป๊ะป๋าหรอลูก ป๊ะป๋าขอนั่งหน่อยนะๆๆ” ว่าจบก็หย่อนก้นลงนั่งอยู่ดีแม้ว่าลูกน้อยจะไม่ยอม คุณพ่อมือใหม่โยกตัวไปมาทั้งๆที่ลูกน้อยยังคงร้องโยเยจนในที่สุดการกระทำก็เป็นผล..ทารกก็ค่อยๆสงบลงจนเข้าสู่ห้วงนิทราไปในที่สุด “....” “หึ..คุณแม่ของหนูคงอ่านหนังสือลัลล้าสบายไปคนเดียวแล้วหละนั่น” ปากหยักเบ้ออกมาอย่างหมั่นไส้พร้อมมองไปยังประตูห้องของอีกคนที่ปิดไว้ “เอาล่ะป๊ะป๋าก็ต้องอ่านบ้างแล้วล่ะ” ว่าแล้วก็หยิบยกหนังสือขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะเพื่อง่ายต่อการอ่านเพราะมือของเขาทั้งสองข้างนั้นยังคงอุ้มลูกน้อยไว้กับอกพร้อมโยกตัวไปมาเบาๆเพื่อกล่อมให้ทารกหลับอย่างสงบ.. . . . . . . . . แทบไม่ได้มองว่าเข็มนาฬิกาเดินผ่านจุดเดิมไปกี่รอบแล้ว รู้แต่เพียงว่าเขาเหนื่อยเหลือเกิน... . . . . . . . ‘ฉันรู้แล้วว่าการเลี้ยงเด็กคนนึงนั้นมันไม่ง่ายเลย..’ . . . . . . . . . “อุแว๊ อุแว๊ อุแววววววววววววววว๊!” เสียงแรกที่เข้ามากระทบในโสตประสาทค่อยๆเรียกสติของร่างหนาที่นอนอยู่บนพื้นให้กลับคืนมาช้าๆ “อือออออ.. ริน ไปดูลูกทีฉันเหนื่อยแล้ว” เสียงทุ้มพูดออกมาอู้อี้ๆทั้งๆที่ตาก็ยังคงหลับอยู่และมุดหมอนเพื่อหลบแสงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง “อื้ออออ นายนั่นแหละไปดูฉันเหนื่อยเหมือนกัน” ร่างเล็กที่นอนอยู่บนพื้นข้างๆเช่นกันค่อยพลิกขยับตัวทั้งๆที่ตายังไม่ลืม “....” “เร็วดิรัน” แขนเล็กค่อยๆเอาศอกกระทุ้งลำตัวคนข้างๆเบาๆแต่ก็เหมือนว่าจะไร้ผล “อื้ออ เธอนั่นแหล่ะ” “....” ไร้การตอบรับจากร่างบาง “เร็วๆดิลูกร้องใหญ่แล้ว” ไม่ว่าเปล่าใช้เท้าสะกิดขาคนข้างๆและดูเหมือนว่าจะไม่เลิกเตะสะกิดง่ายๆแน่ “โว๊ะ!! นายนี่มัน!! ฮึ่ยย!” ร่างบางลุกขึ้นอย่างหัวเสียก่อนเดินกระทืบตึงตังผ่านร่างอีกคนไปโดยที่เท้าเล็กกระทืบลงกลางลำตัวหนาๆนั่นเต็มแรง !! “ อึกก!! ธ เธอ! เธอนั่นมัน! เจ็บนะโว้ย” ร่างหนารีบเด้งตัวขึ้นมาทันทีที่ตัวเองโดนทำร้าย “อ๋อหรอ โทษทีฉันรีบไปดูลูกน่ะเลยไม่ทันมอง -___,-” ร่างบางเหลียวกลับมามองพร้อมยกยิ้มมุมปากอย่างผู้กุมชัย “ฮึ่ยย เธอนี่มัน !!+@(($)&*^$*&)^)*&” ร่างหนาที่เด้งตัวขึ้นมาได้แต่โวยวายอยู่กับตัวเองต่อไป “เลิกโวยวายได้แล้ว! เพราะนายนั่นแหละเมื่อคืนฉันเลยต้องออกมาดูลูกตอนนายหลับแล้วปล่อยลูกหิวนม!- -” “.... -.-a” เมื่อโดนอีกคนชะโงกหน้าออกมาบ่นคืนร่างสูงก็สงบปากสงบคำลงทันทีเพราะเมื่อคืนเขาเองนั่นแหละที่เผลอหลับและทิ้งลูกไว้จนอีกคนต้องออกมาดูแลลูกแทน และนั่นก็เป็นอีกอาทิตย์ยุ่งๆของคนเป็นพ่อเป็นแม่ในคาบของนักศึกษา เวลาแต่ละวินาทีกว่าจะผ่านไปใยมันถึงยาวนานเสียเหลือเกินเมื่อความเหน็ดเหนื่อยเข้ามาจู่โจมทั้งสองแต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังมีกันและกันและช่วยกันจนผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ไปได้ “ในที่สุด.. ฉันก็สอบเสร็จแล้ววว ปิดเทอมแล้ววว !!” ร่างหนาที่พึ่งวางกระเป๋าลงทิ้งตัวลงกับโซฟาในบ้านก่อนโห่ร้องออกมาเสียงดังด้วยความดีใจจนคนที่นั่งเล่นกับลูกอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมามอง “แต่ฉันยังไม่เสร็จ! เหลืออีกหนึ่งวิชาแหน่ะ TT” “ไม่ต้องห่วง~ ฉันจะดูแลยัยหนูให้เธอเอง~ อ่านหนังสือให้เต็มที่ล่ะ” “นายพูดจริงๆหรอ!! จริงนะ!!? >‘ที่ฉันยอมก็เพราะข้อเสนอของนายต่างหากล่ะ!’ . . . . . . “ฮันมึงว่ารันมันจะขอเมียออกมาได้ป้ะวะ” เพื่อนรักที่กำลังยกแก้วขึ้นกระดกเอ่ยถามออกมาลอยๆ “มึงคิดว่ารันมันเป็นคนกลัวเมียรึไง ต้องได้อยู่แล้วล่ะ ฮ่าๆ” ชายหนุ่มอีกคนตอบกลับไปอย่างติดตลก “นั่นสินะ รินมันก็ออกจะใจดี ฮ่าๆๆๆ แล้วพี่แสนดีล่ะครับคิดว่าไง?” วางแก้วในมือลงก่อนหันไปถามความเห็นจากหญิงสาวหนึ่งเดียวในโต๊ะ “ฉันว่าก็คงมาได้แหละเฟรินออกจะใจดีอย่างนายว่านั่นแหละ เนอะฮัน” กล่าวจบร่างบางก็หันไปถามหาแนวร่วมจากชายหนุ่มอีกคนแต่ได้กลับมาเพียงการเปรยตามองจากอีกฝ่ายและเธอเองก็ไม่ค่อยเข้าใจมันเสียเท่าไหร่ “....” “งั้นฉันไปห้องน้ำก่อนนะ” หญิงสาวขอตัวลุกเดินออกจากโต๊ะไป “ตามสบายเลย” ฮันเปรยตามองร่างบางเดินที่ออกไป “มึงเป็นไรวะฮันเห็นตึงๆกับแสนดีจัง” เพื่อนร่วมโต๊ะอีกคนเอ่ยถามเมื่อเขานั่งสังเกตเหตุการมาพักใหญ่ “ก็ไม่มีอะไรหรอก” “ก็ไม่เคยเห็นมึงเป็นอย่างนี้นี่หว่า กูก็แค่สงสัย” “มึงอ่ะคิดมากละเธนส์” “เฮ้ยนั่นไงตายยากว่ะ มานู่นละ ทางนี้ๆ” เมื่อเห็นเพื่อนรักรีบโบกมือเรียกให้สัญญาณว่าพวกเขานั่งอยู่ตรงนี้ “ไงพวกมึงมานานละหรอ” ชายผู้ที่พึ่งมาถึงนั่งลงร่วมโต๊ะโดยไม่ต้องรอให้ใครเชิญ พนักงานเสิร์ฟรีบจัดแจงเครื่องดื่มให้อย่างรู้หน้าที่ “ก็มาได้สักพักละอ่ะ กะว่าถ้าแก้วนี้หมดละมึงยังไม่มาพวกกูก็จะกลับละ” ฮันยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นว่าคำพูดของตนทำเพื่อนรักหัวเสียได้ “พวกมึงนี่! แค่ช้าไปนิดๆหน่อยๆเองทำมาเป็นงอน โถ่วว แล้วนี่มากันแค่นี้ใช่ไหม?” ร่างสูงกวาดตามองแล้วแก้วบนโต๊ะมันมีอยู่ 4 ใบ ไหนจะจานรองอาหารอีก 4 ที่ ทั้งๆพวกเค้านัดกันแค่ 3 คน มันก็ไม่แปลกที่เขจะต้องสงสัยว่าใครจะมาเป็นแขกรับเชิญพิเศษในครั้งนี้ “ก็ใช่” ฮันตอบเพียงสั้นๆก่อนยกแก้วน้ำสีอัมพันขึ้นดื่ม “เฮ้ย ใช่ที่ไหนล่ะฮัน มึงก็พูดไป จริงๆมีแขกพิเศษเว้ยย สำหรับมึงโดยเฉพาะเลยรัน” เธนส์พูดปลายส่งสัญญาณให้เพื่อนหันไปมองทางด้านหลัง “สวัสดีรัน ^^” ร่างบางที่ไปห้องน้ำมาเมื่อครู่เดินเข้ามาซ้อนอยู่ด้านหลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ “..ส แสนดี” ตาคมหันไปมองตามเสียงเรียกอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง.. ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาหลังจากแต่งงานเขาก็มัวยุ่งอยู่แต่กับลูกกับการย้ายบ้าน การสอบและใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับครอบครัวจนเขาแทบลืมเรื่องของเจ้าหล่อนไปแล้ว..แต่เหตุใดเมื่อได้กลับมาพบกันอีกครั้งหัวใจที่ไม่รักดียังคงเต้นผิดจังหวะอยู่เสมอๆแม้มันจะเคยบาดเจ็บจนสาหัสจากน้ำมือของเจ้าหล่อนมาแล้วครั้งนึงก็ตาม.. “อ่ะๆ มองอยู่ได้ มองขนาดนั้นแดกเข้าไปเลยไหมมึง ไอ้รัน!” เมื่อเพื่อนเห็นว่าร่างสูงเอาแต่จ้องคนด้านหลังไม่กระพริบตาก็อดที่จะแซวไม่ได้ “เอ่อ..เอ่อ เธอมานั่งก่อนสิ” ร่างสูงสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อโดนเพื่อนแซว “ขอบใจจ้า” ว่าจบเจ้าหล่อนก็อ้อมมาค่อยๆนั่งลงระหว่างรันและฮันซึ่งฝั่งตรงข้ามเธอก็เป็นเธนส์หนุ่มทะเล้นเจ้าประจำ “ว่าแต่เธอมานานแล้วหรอ” “มาพร้อมฉัน” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้ตอบคำถามเสียงทุ้มข้างๆก็รีบตอบขึ้นแทน “เฮ้ยฮัน รันมันถามพี่แสนดีเว้ยมึงนี่เจือกจริง - -;” “เอ่านึกว่าถามกู” การกระทำของเพื่อนคนนี้เรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบโต๊ะและช่วยดึงบรรยากาศให้ไม่อึครึมจนเกินไป  พวกเขาทั้งใช้เวลาส่วนมากไปกับการนั่งคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันไปกันตามประสาและแน่นอนว่าสายใยบางอย่างที่มันยังตัดไม่ขาดมันก็ยังคงมีอยู่.. เพียงแค่พวกเขาทั้งสองมองตาต่างก็รู้ว่าอีกฝ่ายก็ยังคงมีใจแต่ใช่ว่าร่างสูงเองจะไม่มีอำนาจในการหักห้ามใจและร่างสูงเองก็รู้ตัวว่าพวกเขาอยู่ในสถานะไหน เหตุการณ์ต่างๆแน่นอนว่ามันอยู่ในสายตาของเพื่อนทั้งสองตลอดเวลา..โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘ฮัน’ “รันกูขอคุยอะไรด้วยหน่อย” ว่าจบก็เดินนำไปรออยู่หน้าห้องน้ำและเพียงไม่นานคนที่นัดหมายไว้ก็ตามมา “ว่าไงฮัน มีอะไรจะคุย” “มึงรู้ใช่ไหมว่าตอนนี้มึงมีครอบครัวแล้ว” ชายหนุ่มมองมายังเพื่อนรักอย่างเรียบเฉยจนอีกฝ่ายไม่สามารถเดาได้ว่าเขาต้องการจะพูดสิ่งใดต่อไป “กู..รู้” “กูเองก็รู้นะว่าพวกมึงคิดอะไรกันอยู่ ทั้งมึงทั้งแสนดี กูเห็นสายตาที่พวกมึงมองกัน” “มึงต้องการอะไร?” รันเองก็เริ่มไม่แน่ใจว่าที่เพื่อนรักเรียกมาคุยนี่เพื่ออะไรเพราะโดนปกติแล้วฮันแทบจะไม่ยุ่งเรื่องอะไรแบบนี้เลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของเขาและแสนดี “แค่อยากจะเตือนเฉยๆว่ามึงมีลูกมีเมียแล้ว” “กู..พยายามอยู่” เสียงทุ้มอ่อนลงถนัดตา “อย่าทำให้รินกับลูกเสียใจ” จบประโยคร่างสูงก็เดินจากไปทิ้งให้อีกคนยืนปรับอารมณ์กับตัวเองอยู่คนเดียว “เฮ้ยไปไหนมาวะ ห้องน้ำคนเยอะอ่อ เนี่ยฮันกับแสนดีจะกลับแล้ว” เธนส์ร้องทักเพื่อนที่พึ่งเดินกลับมาโต๊ะ “อ่อ เออห้องน้ำคนเยอะว่ะ เดี๋ยวกูก็ว่าจะกลับแล้วล่ะ จะตีหนึ่งแล้วเดี๋ยวรินไม่มีคนช่วยดูลูก ยัยนั่นยังเหลือสอบอีก” ปากก็ว่าไปแต่ตาก็ยังคงมองไปยังหญิงสาวร่วมโต๊ะราวกับว่าเขาต้องการบอกอะไรกับเธอแต่พูดออกไปไม่ได้.. “เอ้า ทิ้งกูกันไปให้หมด! ราตรีนี้ยังอีกยาวนานว่ะสำหรับกู มาๆๆจะกลับไปแล้วก็ถ่ายรูปกันหน่อยเว้ย ว่ามาฉลองสละโสดให้เจ้าบ่าวป้ายแดง” ไม่ว่าเปล่าเธนส์ล้วงเอาเครื่องมือสื่อสารราคาแพงขึ้นมาถือพร้อมตั้งกล้องเตรียมถ่าย “เห้ย พวกมึงขยับๆเข้ามาชิดๆกันหน่อยดิวะอยู่ห่างกันเป็นกิโลยังกะเป็นเอดส์” ตากล้องจำเป็นจัดแจงลำดับบุคคลในภาพทำให้พวกเขาทั้งสามที่เหลือต้องขยับเข้ามาใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยมีหญิงสาวหนึ่งเดียวของโต๊ะอยู่ตรงกลาง “เร็วๆหน่อยดิวะพวกกูเมื่อย” รันร้องบอกเพพื่อนที่ถือกล้อง ไม่ใช่เพราะเขาเมื่อยจริงๆเสียเมื่อไหร่แต่ลมหายใจเขามันเริ่มติดๆขัดๆเพราะต้องอยู่เบียดเสียดกับคนข้างๆหัวใจมันก็เริ่มสั่นเต้นระรัวอีกครั้งราวกับว่าจะกระเด็นออกมาอยู่ด้านนอก เขากลัว... กลัวว่าหัวใจตัวเองจะทนไม่ได้ “เออๆๆ เอาละนะ หนึ่ง.. สอง..ชีสสสส!” ทันทีที่กดชัตเตอร์ภาพที่ไม่คาดคิดก็ถูกบันทึกลงในกล้องอย่างช่วยไมได้ ‘ฟอด..’ ปลายจมูกคมของหญิงสาวหันมาจรดลงบนแก้มของชายหนุ่มคนข้างๆอย่างตั้งใจ “! ส แสนดี เธอทำอะไรของเธอ!” ร่างสูงรีบผละออกทันทีด้วยความตกใจ ใบหน้าคมที่แดงระเรื่อไม่ใช่เพราะความโกรธแต่หากเป็นความเขินอายยิ่งทำให้คนกระทำยกยิ้มพอใจ “^^ ของขวัญสละโสดจากฉันไง” “...” โต๊ะทั้งโต๊ะเงียบลงสงัดจนกระทั่ง “กลับกันได้แล้ว เดี๋ยวฉันไปส่ง.” เสียงทุ้มเข้มของชายอีกคนดังขึ้นทำลายความเงียบก่อนดึงข้อมือเล็กของหญิงสาวให้เดินตามอย่างไม่ค่อยจะเบามือเสียเท่าไหร่แสดงถึงอารมณ์ที่เกรี้ยวกราดของชายหนุ่ม “ขับรถดีๆนะมึง” เธนส์โบกมือลาเพื่อนทั้งๆที่ร่างสูงอีกคนที่เหลือได้แต่จับแก้มตัวเองข้างที่ถูกลุกล้ำพลางมองตามแผ่นหลังบางของหญิงสาวที่มอบมันให้เขาไปจนลับสายตา “ไอ้รัน! กลับบ้าน ส่วนมึงเดี๋ยวกูไปส่งเมาล่ะสิท่าหน้าแดงเป็นตูดลิงเลย รถมึงเดี๋ยวไปจอดไว้บ้านกูใกล้ๆเนี่ยละเดี๋ยวขับไปส่ง ” ว่าจบกือเอาสัมภาระก่อนดึงมือเพื่อนรักที่ไม่พูดอะไรให้เดินตาม.. . . . “ขอบใจนะที่มาส่ง ^^” หญิงสาวหันไปยิ้มขอบคุณบุรุษที่มาส่งเธอ “นี่ เลิกทำเป็นแสนดีแบบนี้สักทีเถอะ” เสียงทุ้มตอบกลับมาอย่างรู้ทัน “...ก็เปล่านี่” “ฉันรู้นะว่าจริงๆแล้วเธอไม่ได้แสนดีเหมือนชื่อเธอ” คราวนี้สารถีรูปหล่อหันมาประชันหน้ากับผู้โดยสารแสนสวยข้างๆ “นายหมายความว่ายังไง” “หมายความว่าฉันรู้น่ะสิว่าจริงๆแล้วเธอคบกับเพื่อนฉันเพราะอะไร” “....” ไม่มีคำโต้แย้งใดๆหลุดออกมาจากปากสวยนั่นเลยแม้แต่แอะเดียว “และที่เธอกลับมาเพราะอะไร..” “ใช่แล้วแหละ ฉันคบกับเพื่อนนายเพราะเขารวย แต่ฉันก็รักรันนะ” “รักเพราะมันรวย.. ใช่ไหม” “หยุดเดี๋ยวนี้นะ! นายจะหยาบคายกับฉันมากเกินไปแล้วนะฮัน!” “แล้วที่เธอทำมันไม่สารเลวเกินไปหน่อยหรอ รู้อยู่แล้วว่ารันมันมีครอบครัวแล้วเธอก็ยังจะทำแบบนั้น ฉันรู้ว่าเธอคิดอะไร” “ก็รันเขารักฉัน! แล้วมันผิดตรงไหน” “เหอะ...แล้วพ่อฝรั่งเศรษฐีตาน้ำข้าวของเธอไปไหนแล้วหละ?” “ก็ฉันเลิกกับเขาแล้วไง เพราะฉันเลือกรันไงแต่หมอนั่นก็ดันหนีฉันไปแต่งงานก่อน” “หึ.. ผู้หญิงสกปรก..” ปากหนาเอ่ยออกมาเบาๆแต่มันดังกึ่งก้องในใจคนฟังเหลือเกิน “เพี๊ยะ!! มันจะมากเกินไปแล้วนะฮัน!” มือบางฟาดลงบนใบหน้าของชายหนุ่มจนแรงทำให้ใบหน้าหล่อเหลาหันไปตาม “งั้นเธอก็เลิกยุ่งกับรันซะแซนดี้!” เสียงทุ้มหันมาตะคอกใส่คนตรงหน้าอย่างแรงจนอีกฝ่ายสะดุ้งอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว “ไม่.. เพราะรันเขารักฉัน” ปากบางตอบออกมาเสียงเบาพร้อมจ้องหน้าอีกคนตรงหน้าเพื่อยืนยันคำพูด “ลงไปซะ” “....” “บอกให้ลงไปซะ!” “ !!!!” คราวนี้คนถูกไล่ไม่นิ่งดูดายรีบลงจากรถไปก่อนปิดประตูกระแทกใส่เสียงดัง . . . . . . ‘ไม่ว่าจะนานแค่ไหนฉันก็ยังเชื่อว่านายรักฉันคนเดียวนะรัน..’ . . . . . . . . . “ขอบใจพรุ่งนี้ไว้จะไปเอารถ” ใช้เวลาไม่นานพาหนะคันหรูก็จอดลงที่หน้าบ้านเพื่อส่งผู้โดยสารให้ถึงที่หมาย “เออ ฝากฟัดแก้มหลานกูทีนึง ฟัดแก้มเมียมึงด้วยทีนึงก็ดี ฮ่าๆๆๆ” “พ่อง - - จะขับรถกลับไปดีๆหรืออยากตายอยู่นี่” “กูพูดเล่นหรอกน่า! ทำเป็นหึงไปได้ทีตอนจะแต่งละไม่อยากแต่ง” “!!!!” ร่างสูงง้างมือขึ้นเตรียมพร้อม “เฮ้ยๆๆ กูไปละๆๆๆๆ เกรี้วกราดใส่กูตลอด” ว่าจบก็ออกรถไปส่วนร่างสูงเองก็เดินกลับเข้าบ้านที่มือสนิทเป็นสัญญาณว่าคนในบ้านเข้าสู่ห้วงนิทรากันแล้ว “....” ร่างหนาค่อยๆย่องเข้าบ้านอย่างเงียบๆเพื่อไม่ให้คนที่หลับอยู่ตื่นขึ้นมา เมื่อสวิซไฟถูกเปิดขึ้นปรากฏร่างบางนอนขดอยู่บนโซฟาพร้อมหนังสือเรียนอยู่สองสามเล่ม เมื่อเห็นดังนั้นร่างสูงก็อดยิ้มไม่ได้..แม้ไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนตั้งใจมารอเขาหรือแค่นอนอ่านหนังสือแล้วเผลอหลับไป แต่มันรู้สึกดีที่กลับมาบ้านละมีคนที่กำลังรอเขาอยู่.. “ริน ฉันกลับมาแล้ว” มือหนาค่อยๆสกิดร่างบางตรงหน้าให้รู้สึกตัว “อือ... กลับมาแล้วหรอ อืมม ก็ดีแล้ว..” ร่างบางตอบกลับมาอู้อี้พร้อมรอยยิ้มทั้งๆที่ยังลืมตาแสดงว่าเจ้าหล่อนคงจะเพลียไม่นอนเลย “ไปนอนในห้องดีไหมจะได้สบาย” “.....” คราวนี้ไม่ได้รับการสอบสนองใดๆกลับมา “....” ร่างสูงตัดสินใจค่อยๆช้อนร่างเล็กขึ้นมาอุ้มอย่างเบามือที่สุดก่อนจะตรงไปยังห้องของเจ้าหล่อนและวางร่างบางลงให้เบาที่สุด ตาคมจับจ้องใบหน้าหวานยามหลับไหลก่อนจะใช้มือปัดปอยผมเบาๆ “ถ้าเราได้รักกันก่อนทุกอย่างมันคงจะดีกว่านี้..” ว่าจบก็ค่อยๆผละออกมาก่อนจะแวะไปหอมแก้มลูกน้อยที่หลับปุ๋ยอยู่เบาๆและกลับไปยังห้องของตัวเอง คืนนั้นช่างเป็นค่ำคืนที่ทั้งสุขและเจ็บปวดไปในเวลาเดียวกันสำหรับเขา . . . . . . . . ‘ถ้าเรารักกันก่อนทั้งเธอและฉันคงไม่ต้องมาเจ็บปวดแบบนี้..’ . . . . . . . .เช้าตรู่ของวันใหม่มาเยือนพร้อมกับแสงแดดที่สาดส่องสว่างไปทั่วบ้านพร้อมกับกลิ่นอาหารเช้าที่คุณแม่บ้านจัดเตรียมไว้ให้สามีที่ยังนอนจมกองผ้าห่มอยู่ในห้อง หลังจากนั้นร่างเล็กรีบไปอาบน้ำแต่งตัวจจัดการธุระส่วนตัวตนเองก่อนจะจบลงด้วยการอุ้มลูกน้อยที่ยังหลับปุ๋ยมาไว้ห้องอีกคน ก่อนออกจากห้องคุณแม่ก็ไม่ลืมหอมแก้มยุ้ยของลูกเพื่อเป็นกำลังใจในการสอบวันสุดท้าย “อื้มม เดี๋ยวแม่มานะคนดีของแม่” ร่างบางคุยกับลูกที่ยังคงหลับสนิทเบาๆก่อนจะเดินไปแปะกระดาษโน๊ตบางอย่างไว้หน้าประตูหวังให้อีกคนตื่นมาเจอตอนที่เขาจะออกจากห้อง ‘อาหารเช้าฉันเตรียมไว้ให้นายแล้ว แล้วฉันจะรีบกลับนะ (: ’ . . . ใช้เวลาเกือบทั้งเช้ากว่าที่การสอบจะเสร็จสิ้น ร่างเล็กที่ส่งกระดาษคำตอบแล้วออกมานั่งหน้าห้องรอเพื่อนร่วมชั้นที่นัดกันว่าจะถกเรื่องข้อสอบหลังสอบเสร็จ นิ้วเรียวไถหน้าจอโทรศัพท์ไปเรื่อยเพื่อฆ่าเวลาแต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักมองโพสบางอย่างหน้าฟีดของเธอเอง ‘ฉลอง ฉลอง! สละโสดก่อนเพื่อน ยินดีด้วยนะมึง!’ พร้อมกับปรากฏรูปของเหล่าเพื่อนๆที่คุ้นตารวมไปถึงรูปของชายหญิงคู่หนึ่งในนั้นที่ฝ่ายหญิงหอมแก้มและฝ่ายชายยิ้มอย่างหน้าระรื่น.. “นาย...” มีเพียงคำพูดคำนี้ที่หลุดออกมาจากปากสวยเพราะคำอื่นๆมันโดนกลืนลงคอไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ก้อนเหนียวหนืดติดอยู่ที่คอ หน้าอกที่เคยหายใจสะดวกกลับจุกขึ้นมาเสียดื้อๆ สายตาที่เริ่มพล่ามัวเพราะของเหลวบางอย่างที่เริ่มเอ่อล้นออกมา แม้ว่าเจ้าหล่อนจะเรียนแพทย์ก็จริงแต่กลับกลายเป็รว่าอาการแบบนี้เจ้าหล่อนเองก็ไม่สามารถวินิจฉัยได้ “ฮึก..นาย..” ความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ต่างมาจุกอยู่ที่อกจนตอนนี้ความคิดในหัวตีกันให้วุ่นไปหมด.. . . . . . . . ‘บางทีหัวใจฉันมันก็เจ็บแบบไม่มีสาเหตุ..’ . . . . . . . .
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD