Chapter VII : Marry me? แต่งงานกันเถอะ! Part II

3671 Words
. . . . . . . . “แต่งงานกันเถอะ!” . . . . . . . “เหอะ! ที่พูดออกมาน่ะคิดรึยัง” “ฉันคิดแล้ว แล้วฉันก็มีข้อเสนอดีๆให้เธอด้วย” สายตาคมกริบจับจ้องไปยังว่าที่เจ้าสาวของตัวเองพลางยกยิ้มอย่างมีนัย “ฉันว่าละ นายนี่มัน..”หญิงสาวกรอกตามองบนอย่างเอือมระอา “เอาน่า เธอจะไม่นั่งลงฟังข้อเสนอของฉันดีๆของฉันหน่อยหรอ?” ปากหยักยกยิ้มออกกว่างอย่างผู้มีชัยเมื่อคนตรงหน้านั่งลงตามคำเชื้อเชิญของตน “มีอะไรก็ว่ามา” “คืองี้ ป๊ากับแม่ฉันกลัวจะไม่ได้เจอหลานอีกทั้งสองก็เลยอยากให้ฉันรับผิดชอบ ฉันก็เลยคิดๆดูแล้วว่าเธอเลี้ยงลูกคนเดียวน่าจะเหนื่อยใช่ไหม? ฉันเลยมีข้อเสนอ~ ฉันจะแต่งงานกับเธอ เลี้ยงลูกช่วยกัน โอเคไหม? แล้วแถมมีสิทธิพิเศษด้วย ป๊าฉันจะจ่ายค่าเทอม ค่าใช้จ่ายให้เธอด้วย ไงล่ะข้อเสนอพิเศษสุดๆเลยใช่ไหม” “...นี่ ถามจริง นี่คิดว่าฉันเห็นแก่เงินรึยังไงห๊ะ! ไม่ต้องแต่งกับนายพ่อแม่ฉันก็มีปัญญาส่งฉันเรียนนะ” ร่างบางตอกกลับไปอย่างเคืองๆ “แต่เธอเหนื่อยใช่ไหมล่ะ? เรียนหมอก็หนักละต้องมาเลี้ยงลูกคนเดียวอีก?” “มันก็ใช่..” ปากบางเม้มเข้าหากันอย่างครุ่นคิดครู่หนึ่ง “งั้นก็รับข้อเสนอฉันไป” “แล้วเรื่องแสนดีล่ะ?” “อ่ะนั่นจะเป็นเรื่องถัดไปที่ฉันกำลังจะอธิบาย” มือหนาคว้าเอาเป้ประจำตัวมาค้นหาบางอย่างก่อนจะวางมันลงตรงหน้าระหว่างพวกเขาทั้งสอง “กระดาษกับปากกา?” คิ้วบางเลิกขึ้นเชิงตั้งคำถาม “ใช่ มาเขียนสัญญาของการแต่งงานของเรากัน” “สัญญา?” “ใช่ ก็อย่างเช่น การแต่งงานครั้งนี้จะเกิดขึ้นเพียง 5 ปี เพื่อเลี้ยงลูกช่วยกัน หลังจากนั้นเราจะหย่ากัน” มือหนาเริ่มจดบันทึกข้อความลงบนกระดาษแผ่นขาว “อ๋ออ ฟังดูน่าสนุกดีนี่ อย่างน้อยฉันก็จะได้ไม่ต้องเหนื่อยคนเดียว งั้นฉันเอาด้วย นายเขียนลงไปด้วยว่าเมื่อลูกโตแล้วให้ลูกเป็นคนเลือกว่าจะอยู่กับใคร” “โอเค แล้วก็ อืม.. เราจะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของกันและกัน” คนถือปากกาเขียนตามคำพูดของอีกคนก่อนจะบันทึกส่วนของตัวเองลงไปด้วย “เราต้องนอนแยกห้องกัน!” ร่างเล็กโพ่งออกมาอย่างดังจนคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาเขียนเงยหน้าขึ้นมามอง “ทำไมอ้ะ!” “แล้วจะนอนห้องเดียวกันเพื่อ! ..เราไม่ได้แต่งงานกันเพราะรักกันสักหน่อย” ประโยคหลังที่ตามมาเบาลงราวกับไม่ต้องการให้อีกฝ่ายได้ยิน “อ่ะๆตามใจเธอ แบบนั้นก็ดีเธอจะได้ไม่ท้องอีกคน” ร่างสูงพูดกวนติดตลกหวังให้อีกคนเขินแต่ผลที่ตามมากลับเป็นกำปั้นใหญ่ๆที่เคาะลงกลางหัว! โป๊กก “ไอ้บ้า! นี่นายหวังอะไรอยู่ห๊ะ เขียนๆลงไปด้วยว่างานบ้านต้องช่วยกันทำ!” “รู้แล้วน่า! ทำไมต้องรุนแรงด้วยอ่ะ = =” “แล้วตอนอ่านหนังสือสอบต้องผลัดกันดูแลลูก” “เข้าใจแล้วๆ แห่มทีตอนแรกบอกจะไม่เอาด้วยทีนี้สั่งเอาๆเลยนะแม่คุณ - -” “ก็นายเสนอมาเองนะ ช่วยไม่ได้”คุณแม่ป้ายแดงไหวไหล่เบาๆอย่างกวนประสาทคงตรงหน้า “ที่สำคัญ.. สัญญาฉบับนี้ต้องเป็นความลับระหว่างเราสองคน อ่ะเซ็นซะ” มือหนาลงชื่อตัวเองก่อนส่งให้คู่สัญญาอีกคนลงชื่อบ้าง “โอเค” มือเรียวรับกระดาษมาลงนามในสัญญาก่อนส่งคืนกลับไปให้อีกฝ่าย “ยินดีที่ได้ทำธุระกิจร่วมกันนะ~” ว่าแล้วก็ทำท่าดึงมืออีกคนมาเช็คแฮนด์ “พอเลย หมดธุระแล้วใช่ไหม งั้นฉันไปนะ” คนตัวเล็กดึงมือกลับแล้วลุกขึ้นจัดแจงเสื้อผ้าสัมภาระพลางเข็นรถเข็นเด็กเตรียมจะออกเดิน “เดี๋ยวๆสิ แปปนึง” ร่างสูงรีบผละออกจากเก้าอี้ตรงมายังรถเข็นเด็กก่อนจะค่อยๆย่อตัวลงส่องเจ้าทารกน้อยที่นอนตาแป๋วอยู่ในรถเข็น.. ตาคมจับจ้องพิจารณาดวงหน้ากลมแก้มยุ้ยของเด็กน้อยก่อนส่งนิ้วยาวไปเกลี่ยแก้มนุ่มอย่างทะนุถนอม “แอ๊~~ แอ้ๆ ” ทารกน้อยตอบสนองกับการกระทำของอีกคนราวกับรู้ว่าเขาผู้นี้คือผู้ให้กำเนิดอีกคน “....” ร่างเล็กยืนมองการกระทำของอีกคนอยู่ครู่หนึ่งพลางคิดในใจ ‘สิ่งที่ฉันทำลงไปมันถูกรึเปล่านะ...’ “ไว้เจอกันใหม่นะหนูน้อย” มือหนาหยิกแก้มอวบนั่นเบาๆก่อนผละออกจากรถเข็นเด็กเหยีดขึ้นยืนเต็มความสูง “ฉันไปนะ” ร่างเล็กกล่าวสั้นๆก่อนจะออกเดินไปอย่างไม่หันกลับมามอง “กลับดีๆนะ” ร่างสูงยืนมองตามสองแม่ลูกจนลับสายตา.. . . . . . . . . ‘ชีวิตของผมมันกำลังจะเปลี่ยนไป..’ . . . . . . . . ‘ไม่ใช่แค่ผมสินะ หากแต่มันคือชีวิตของเราทั้งสองกำลังจะเปลี่ยนไป..’ . . . . . . . . “ป๊าครับ แม่ครับ ผมกับรินตัดสินใจแล้วว่าเราจะแต่งงานกัน” ชายหนุ่มว่าพลางรวบช้อนกับส้อมเข้าหากันก่อนจะเงินหน้ามองผู้ปกครองทั้งสอง “จริงหรอรัน! จริงๆใช่ไหมลูกแม่ดีใจจังเลย” มีอาร์รีบลุกเข้ามาโผกอดลูกชายอย่างสุดรัก “พวกแกตกลงกันได้ก็ดีแล้ว เรื่องจัดงานเดี๋ยวป๊ากับแม่จะจัดการให้เอง” “ขอบคุณครับป๊า แม่” ร่างหนาโอบกอดร่างของมารดาแน่น “ดีจังเลยแม่จะได้มีหลานไว้ให้อุ้มแล้ว อ้อ! พอดีเลยจะได้บอกลูน่าด้วย เดือนหน้าลูน่ากับแอชก็จะกลับมากันแล้ว”ท่าทางดีใจของมารดาทำให้ชายหนุ่มเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว “แต่..ผมมีข้อเสนออยู่อย่างนึงครับ” “อะไร?” ผู้เป็นบิดาชะงักเล็กน้อยเมื่อโดนอีกฝ่ายยื่นข้อเสนอมาให้ “ผมขอย้ายออกไปอยู่ด้วยกันครับ ผมอยากอยู่บ้านของเรา” “อ้าวรัน แต่แม่อยากเลี้ยงหลาน...” “ถ้าป๊าตอบว่าไม่ได้หล่ะ ?” “งั้นผมก็จะไม่แต่ง” สายตาท้าทายถูกส่งไปหาคู่สนทนาและดูเหมือนว่ามันจะเป็นผล ก็แน่หล่ะเขารู้อยู่แล้วว่าพ่อแม่ของเขานั้นอยากเลี้ยงหลานและก็เอ็นดูเฟรินเช่นกัน “หึ ฉันว่าละว่าแกต้องมีอะไรต่อรองแน่ๆ งั้นก็ตามนั้นก็แล้วกัน จะบอกจาฟาหาบ้านให้” ผู้เป็นพ่อส่ายหัวเบาๆแต่ก็ยอมรับในข้อเสนอแต่โดยดี “ขอบคุณครับป๊า ขอบคุณครับแม่ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ไม่ว่าเปล่าชายหนุ่มหอมแก้มผู้เป็นมารดาฟอดใหญ่ก่อนจะลุกกลับเข้าห้องไป “คุณว่าลูกแปลกๆไปไหมคะซัน” มีอาร์มองตามลูกชายคนเล็กไปจนลับหลังพลางครุ่นคิดบางอย่างในหัว “คงงั้น ตั้งแต่มันรู้ตัวว่ามันมีเมียดูมันแปลกๆไปนะ โตขึ้นมั้ง” “นั่นสิ แต่ฉันว่าลูกคิดมากนะ” ผู้เป็นแม่รู้สึกเป็นห้วงลูกจับใจ “ก็คงจะใช่ด้วย แต่ก็นะมีอาร์ ลูกต้องรับผิดชอบสิ่งที่เขาก่อด้วยตัวเขาเอง.. ผมเชื่อว่าลูกต้องผ่านมันไปได้อยู่แล้วเขาจะต้องโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและเป็นพ่อที่ดีได้แน่ๆ” สามีดึงเอามือเล็กของภรรยามากุมไว้เบาๆก่อนจะออกแรงบีบมันแน่น “...อื้ม ^^” มีอาร์หันไปยิ้มให้สามีพร้อมกุมมือหนาตอบ “มันอาจจะเร็วเกินไปสำหรับรันแต่ผมเชื่อว่ารันทำได้” “ฉันก็เชื่ออย่างนั้นค่ะ” . . . . . “....เฮ้อ” อีกด้านของชายหนุ่มที่นอนแผ่อยู่บนเตียงภายใต้ความมืดมิดของห้องที่มี่แสงใดๆเล็ดรอดผ่านมาได้ ตาคมจับจ้องไปยังโมบายเครื่องบินที่กำลังหมุนอยู่เบาๆจากแรงลมของเครื่องปรับอากาศพร้อมถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง “....” ทั้งห้องไม่ได้มีเพียงความืดแต่หากมีความเงียบแผ่กระจายอยู่ทั่วห้องด้วย ชายหนุ่มหยิบเครื่องมือสื่อสารเครื่องหรือขึ้นมากดไล่ดูข้อความก่อนจะไปหยุดลงที่หน้าแชทของคนสำคัญของเขา “ฉันจะบอกเธอยังไงดีแสนดี” ปากหนาขบเข้าหากันอย่างคิดหนัก นิ้วยาวพิมพ์ข้อความต่างๆนานาเพื่อหวังอธิบายสิ่งที่เขากำลังจะบอกแต่ก็ต้องกดลบมันครั้งแล้วครั้งเล่า “โว้ยยย เอาไงดีวะไม่รู้จะเริ่มยังไงเลยว่ะ” ร่างสูงนอนเถียงอยู่กับตัวเองอยู่พักใหญ่ก่อนที่จู่ๆสายเรียกเข้าที่คาดไม่ถึงเด้งขึ้นมา ‘แสนดี♥’ “เห้ย!! = = อ เอาไงดีวะ” มือหนาสั่นรัวตามแรงสั่นของเครื่องมือสื่อสารในมือจนสุดท้ายเจ้าตัวกดเพื่อรับสาย ‘ฮัลโหลล’ “ฮัลโหล” ‘นายนอนรึยัง พอดีฉันพึ่งเรียนเสร็จน่ะ’ “อ๋อยังไม่นอนหรอก” ‘งั้นหรอ นี่ช่วงนี้ไม่เห็นโทรมาเลยไม่ค่อยว่างหรอ?’ “อื้มใช่ ช่วงนี้มีสอบน่ะ” ร่างสูงโกหกออกไปคำโตเพราะที่จริงแล้วเขามัวแต่คิดมากจนแทบจะลืมวันลืมคืน ลืมทุกสิ่งอย่างไปแล้วด้วยซ้ำแล้วยิ่งตัดสินใจเช่นนั้นไปแล้วเขายิ่งไม่รู้ว่าจะสรรหาคำพูดแบบไหนมาเพื่อบอกเธอคนนี้ ‘นี่รู้ไหมฉันคิดถึงนะ ~ นายเล่นหายไปไม่ตอบข้อความด้วย เดี๋ยวฉันก็ไปมีคนอื่นอีกหรอก~’ “คือ .. คือฉันไม่ว่างจริงๆขอโทษนะแสนดี” ทั้งๆที่รู้ว่าเจ้าหล่อนพูดเล่นแต่มันก็แอบจุกอยู่ลึกๆเช่นกัน ‘โกรธฉันรึเปล่าเนี่ย ? ฮ่าๆ ฉันล้อเล่นน่า อืมม เหมือนนายไม่ค่อยร่าเริงเลยนะมีอะไรรึเปล่า?’ “....” ‘ฮัลโหล? ว่าไงนายมีเรื่องอะไรรึเปล่ารัน’ “แสนดีคือ..” ‘คืออะไรล่ะ มีอะไรก็พูดมาสิ’ “ฉันกำลังจะแต่งงาน” ‘… อ อะไร แต่งงานอะไร นี่นายกำลังขอฉันแต่งงานหรอ ฉันบอกแล้วไงว่ารอให้เร....า..’ “ฉันกำลังจะแต่งงาน ..กับคนอื่น” ยังไม่ทันที่อีกฝั่งของปลายสายจะพูดจบเสียงทุ้มก็พูดตัดบทขึ้นมาเสียอย่างนั้น ‘น นาย นายว่าอะไรนะ นี่นายโกรธฉันถึงขนาดต้องเอาเรื่องแต่งงานมาขู่ มาล้อเล่นเลยหรอรัน!’ อีกฟากของปลายสายเริ่มขึ้นเสียงดังและแน่นอนว่าร่างสูงคงเดาได้ไม่ยากว่าเธอกำลังของขึ้นแต่เขาเองก็ทำอะไรไม่ได้ ..ก็ได้แต่ก้มหนายืนยันความจริงกับเธอไป “ฉันไม่ได้ขู่ ได้ล้อเล่นแต่ฉันพูดจริงๆ” เสียงทุ้มยืนยันกลับไปคำเดิม ‘……..’ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับจากอีกด้านของปลายสาย “แสนดี..แต่เธอช่วยรอฉันหน่อยได้ไหม?” ‘หึ.. นายเป็นบ้ารึไง! นายกำลังจะแต่งงานแต่มาบอกให้ฉันรอนายหรอ!? บ้าไปแล้ว!’ “ฉันแค่อยากขอเวลา..ให้เธอช่วยรอฉันหน่อย..ฉันรักเธอนะแสนดี” แม้จะพยายามรั้งไว้ทั้งๆที่รู้ว่าไม่เป็นผลแต่เขาก็อยากจะลองแม้ว่าคำตอบจะมีผลต่อใจของเขาให้เจ็บสาหัสแต่อย่างน้อยก็ได้ลองขอ ‘เหอะ! นายมันบ้า! ฉันจะไปเสียเวลารอผู้ชายที่แต่งงานแล้วทำไม! ไร้สาระ! นายจะไปไหนก็ไปเลยนะ! แค่นี้ละกัน!’ ตู๊ด...ตู๊ด..ตู๊ด.. “.....” เสียงปลายสายที่ถูกตัดไปทิ้งไว้เพียงความวูบโหวงเหวงว่างเปล่าในหัวใจของใครอีกคน อกแกร่งจุกไปทั้งบริเวณแต่หัวใจกลับบีบรัดตัวเองจนหน่วง.. ร่างสูงค่อยๆพ่นลมหายใจออกมาเบาๆเพื่อระบายความอึดอัดในอกก่อนตาคมจะค่อยๆหลับลงเพื่อทบทวนคำพูดตั่งต่างๆนาๆที่เจ้าหล่อนได้ฝากไว้และหลับไปพร้อมกับความช้ำระบมในอก.. . . . . . ‘ฉันไม่น่ามาเสียเวลากับนายเลย! ’ . . . . . . . . 1 เดือนต่อมา.. “ไงรัน หล่อเฟี้ยวฟ้าวมากเลยวุ้ยยย” เสียงเพื่อนรักที่เอ่ยทักทายก่อนจะพุ่งเข้ามากอดคออย่างรักใคร่ “เออขอบใจว่าเธนส์ มึงเองพอแต่งดีๆกับชาวบ้านเขาก็ดูดีเหมือนกันนี่หว่ากะจะมาฟาดสาวในงานกูว่างั้น?” เจ้าของงานเลิกคิ้วมองกวนราวกับรู้ทัน “แห่มม สมเป็นเพื่อนกูจริงจริ๊ง รู้ดีตลอดดด” “ไม่รู้ก็บ้าละ ละนี่ฮันไปไหนวะ? ตั้งแต่งานเริ่มกูยังไม่เห็นมันเลย” `ว่าพลางสอดส่ายสายตาหาเพื่อนรัก “เอ่อมันไปรับแสนดีน่ะ” ตอบไปอย่างกล้าๆกลัวๆพร้อมเหลือบมองคู่สนทนา “อ้าวแสนดีกลับมาแล้วหรอ..” แม้ชื่อที่ถูกกล่าวถึงจะทำให้ความจุกวิ่งมาจ่อที่อกแต่เขาเองก็ต้องกดมันไว้ให้ลึกสุดใจเพื่อจะไม่เผลอแสดงอาการใดๆ “กลับาแล้วเมื่อวันก่อน เขาบอกอยากมาร่วมงานนาย นั่นไง! มาพอดีเลย ทางนี้ๆเว้ยฮันน” ว่าแล้วก็โบกไม้โบกมือไปด้วยเพื่อแสดงตำแหน่งของตัวเองให้เพื่อนเห็น “โทษทีมาช้าไปหน่อย พอดีแวะไปรับแสนดีมา ยังไงก็ยินด้วยนะมึง” ว่าจบก็เดินเข้าไปกอดเพื่อนรักทีนึงเพื่อแสดงความยินดี “ยินดีด้วยนะคะเจ้าบ่าว” เสียงของหญิงสาวที่ตามมาติดๆเรียกให้คนที่ถูกทักรีบหันไปมองทันที “แสนดี..” ตาคมจับจ้องหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ปากหยักเผลอเรียกชื่อคนตรงหน้าออกมาเบาๆ ทั้งๆที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะแสดงอาการแต่ใจเจ้ากรรมมันก็สุดแสนจะดื้อดันเสียเหลือเกิน “ไม่เจอกันแปปเดียวนายดูดีขึ้นเยอะเลยนะ (: ” หญิงสาวว่าพลางส่งยิ้มให้ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างคุ้นเคย “ขอบคุณนะ..เธอก็..สวยมากเลยนะวันนี้” “เฮ้ยๆๆ พูดงี้เดี๋ยวเจ้าสาวมึงมาได้ยินเขาก็เสียใจแย่เลยดิวะ ฮ่าๆๆ” เพื่อนเธนส์พูดติดตลกแต่ดูเหมือนว่ามันจะผิดเวลาไปหน่อย “ฮ่าๆ นั่นสิเจ้าสาวต้องสวยที่สุดในงานสิเนอะ งั้นฉันขอตัวไปทักทายเพื่อนเก่าๆหน่อยนะ เห็นมาหลายคนเลย” ว่าแล้วเจ้าหล่อนก็ผละออกไปจากวงสนทนาทันทีทิ้งให้ชายหนุ่มเจ้าของงานมองตามอย่างเศร้าๆ “กูว่ามึงอย่าทำหน้าแบบนี้ในงานแต่งตัวเองจะดีกว่านะรัน” มือหนาของเพื่อนฮันกับเข้ากับบ่ากว้างก่อนจะเดินหลบหายไปในกลุ่มเพื่อนคนอื่นๆ ‘ติ๊งๆ’ “ยินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่านนะครับ ผมขอแจ้งว่าพิธีกำลังจะเริ่มแล้วครับ”  คำกล่าวประกาศของผู้ดำเนินพิธีเรียกความสนใจจากแขกมากมายก่อนที่พวกเขาจะทยอยกันกลับเข้าไปนั่งประจำที่ของตนเอง “ขอเชิญเจ้าบ่าวตรงเวทีด้วยครับ” “ครับ” ตามคำเชิญ ร่างสูงตรงขึ้นไปยืนบนเวทีพร้อมทอดสายตาลงมามองเหล่าญาติสนิทมิตรสหายมากมายที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเขาในครั้งนี้แต่แล้วสายตาก็ยังไปสะดุดเข้ากับหญิงสาวที่ชวนให้หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะเสมอก่อนที่สีหน้าเจ้าบ่าวจะหมองลงโดยอัตโนมัติ “รัน ยิ้มๆหน่อยลูก ^^ ” มีอาร์ที่นั่งอุ้มหลานน้อยอยู่ติดขอบเวทียกยิ้มกว้างให้ลูกชายพร้อมชูนิ้วโป้งให้กำลังใจลูกชาย “ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยเจ้ารัน วันนี้นายหล่อสุดๆไปเลยย” เสียงของพี่สาวอีกคนที่ช่วยให้กำลังใจน้องชายสุดที่รัก “ครับ ^^” เหนือสิ่งอื่นใดกำลังใจจากครอบครัวคือพลังวิเศษแม้จะผิดหวังจากสิ่งใดมาก็ตามพวกเขาคือยาดีที่จะชวนเยียวยากันและกัน ร่างสูงสูดหายใจเข้าลึกๆอีกครั้งเพื่อตั้งสติให้อยู่กับพิธีกำลังจะเริ่ม “เบิกตัวเจ้าสาว” เสียงผู้ดำเนินพิธีประกาศก่อนที่ประตูโบสถ์จะค่อยๆเปิดออกและมีขบวนของเหล่านางฟ้าตัวน้อยที่เดินโปรยดอกไม้ออกมาเป็นทางและตามมาด้วยเจ้าสาวของงานที่เดินคล้องแขนของบิดามาตามเหล่านางฟ้า “....” เจ้าบ่าวของงานยืนนิ่งราวกับถูกหยุดเวลาสายตาจับจ้องหญิงสาวในชุดเดรสสีขาวเข้ารูป รับกับใบหน้าเรียวเด่นชัดเนื่องจากการเกล้าผมขึ้น ‘สวย..’ หญิงสาวค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่องๆก่อนจะหยุดลงตรงหน้าว่าที่สามี ดวงหน้าหวานค่อยๆช้อนตาขึ้นมองคนตรงหน้าและพบว่าเขานั้นนิ่งไปสนิททั้งๆที่ยังไม่ละสายตาจากเจ้าหล่อน ‘ตึกตัก...’ เพียงเสี้ยววินาทีที่เขารู้สึกว่าหัวใจมันเต้นผิดจังหวะแปลกๆราวกับมันลืมความเจ็บปวดที่พึ่งผ่านมา “....” ร่างสูงเอื้อมมือไปรับมือเจ้าสาวมาจากบิดาก่อนค่อยๆพยุงหญิงสาวขึ้นมายืนเคียงข้างกัน ยิ่งพวกเขายืนเคียงกันยิ่งเป็นที่กล่าวขวัญกันว่าทั้งสองนั้นเหมาะสมกันเหลือเกิน “เอาล่ะครับเรามาเริ่มพิธี” เพียงเท่านั้นพิธีก็เริ่มดำเนินไปตามขั้นตอนจนมาถึงขั้นตอนสุดท้าย “เจ้าบ่าวจะยอมรับเจ้าสาวเป็นภรรยาของคุณหรือไม่” บาทหลวงผู้ดำเนินพิธีกล่าวถามในขนาดที่ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบสงบเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของพิธี “....” เจ้าบ่าวยืนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนค่อยๆเหลือบไปมองหญิงสาวด้านล่างซึ่งเจ้าหล่อนก็มองมาทางเขาอยู่เช่นกัน.. “รัน...” เฟรินเอ่ยเรียกชายหนุ่มตรงหน้าเบาๆก่อนจะหันไปมองตามสายตาของอีกคน..และเมื่อเห็นว่าเขากำลังมองหญิงสาวคนสำคัญ.. ร่างเล็กค่อยๆหันกลับมามองบุคคลตรงหน้าก่อนจะเม้มปากบางเข้าหากันและค่อยๆดึงมือเล็กออกมาจากมือหนาที่กำลังถือมือของเจ้าหล่อนไว้ การกระทำนั้นคงเรียกสติอีกคนให้กลับคืนมา “รับครับ” เสียงทุ้มตอบกลับไปชัดถ้อยชัดคำก่อนค่อยๆดึงมือเล็กกลับมาจับไว้แน่นและสวมแหวนน้ำงามให้อย่างเบามือ.. “เจ้าสาวจะยอมรับเจ้าบ่าวเป็สามีของคุณหรือไม่” “....” คราวนี้เป็นทีของเจ้าหล่อนที่เงียบไปทั้งๆที่ทั้งสองยังคงมองหน้ากันอยู่อย่างนั้น..และเหตุใดร่างสูงถึงสัมผัสได้ถึงความเศร้าสร้อยที่ถูกเก็บซ่อนไว้นัยตาคู่นั้น “รับค่ะ” เสียงใสตอบกลับไปจู่ๆเจ้าตัวก็รับรู้ถึงน้ำนัยตาที่มันเริ่มอุ่นจนจะกลายเป็นร้อนผ่าวและพร้อมจะไหลลงมาทุกเมื่อ “ขอประกาศให้ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้อง” ประโยคประกาศิตที่ถูกป่าวประกาศเรียกเสียงปรบมือจากแขกดังกึ่งก้องไปทั่วบริเวณจัดงาน . . . . . . ‘ริน..ฉันขอโทษ’ . . . . . . . “พ่อกับแม่ขอให้ลูกทั้งสองอยู่ครองคู่กันด้วยความเข้าใจ ประคับประครองกันไปตลอดนะลูก รินขอให้ลูกเป็นภรรยาที่ดีเหมือนที่แม่คอยสอนหนูมาตลอดนะลูก เป็นแม่ที่ดีของลูกเหมือนที่แม่ทำให้หนูเห็นนะลูก.. แม่รักลูกนะ” หญิงวัยกลางคนโผเข้ามากอดลูกสาวในชุดแต่งงานอ่างปลื้มปิติก่อนจะมอบคำอวยพรให้กับคู่สามีภรรยาป้ายแดง “ค่ะแม่.. หนูก็รับแม่นะคะ” ร่างบางกอดผู้มีพระคุณแน่น “ริน พ่อกับแม่เคยผิดหวังให้ตัวลูกนะ พ่อกับแม่ไม่เคยโกรธลูกเลยสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น..แต่พ่อกับแม่ก็อยากขอโทษที่ไม่ได้อยู่ข้างลูกในวันนั้น .. รันพ่อขอฝากลูกสาวของพ่อด้วยนะ” ว่าจบชายวัยกลางคนหันไปกล่าวกับลูกเขยป้ายแดงอีกเช่นกัน “ครับพ่อ” ชายหนุ่มยิ้มรับคำก่อนจะโผเข้าไปรับกอดจากพ่อตา “แม่ก็ขอให้ทั้งสองคนมีความสุขมากๆนะลูก อาจจะเร็วไปสำหรับลูกทั้งสองแต่ตอนนี้ทั้งสองคนเป็นพ่อเป็นแม่คนแล้วนะ จะทำอะไรแม่อยากให้นึกถึงริเอลมากๆนะลูก” คราวนี้เป็นมีอาร์บ้างที่อวยพรคู่บ่าวสาวพร้อมสวมกอดพวกเขาแน่น “ครับแม่/ค่ะแม่” “รัน ป๊าอยากให้แกเป็นผู้ใหญ่กว่านี้และป๊าก็หวังว่าแกจะทำได้เพื่อลูกกับเมียของแก เข้าใจมั้ย?” “เข้าใจแล้วครับป๊า” ชายหนุ่มโผรับกอดจากผู้เป็นพ่อที่เฝ้าพร่ำสอนเขามาตลอดในวิถีชีวิตของลูกผู้ชายแต่หลังจากนี้เขาต้องเรียนรู้มันเองแล้ว “รินถ้าเจ้ารันมันไม่ฟังก็จัดการมันเลยนะ หรือถ้ามันไม่ไหวจริงๆก็บอกพี่ก็ได้ ยินดีช่วยจ้า ^^” ลูน่าเองก็โผเข้าไปกอดน้องสะใภ้เบาๆให้กำลังใจเพราะแน่ใจเลยว่าเจ้าหล่อนต้องเจอกับศึกหนักแน่เพราะน้องชายตัวดีของเจ้าหล่อน “เจ๊! ยินดีช่วยเลยนะเรื่องรังแกน้องเนี่ย” “ก็แกมันไม่ได้เรื่อง!” คำกล่าวหาจากพี่สาวเรียกเสียงหัวเราะจากญาติผู้ใหญ่ได้ไม่น้อย “อ่ะๆ พอละสองพี่น้อง เดี๋ยวให้น้องพักผ่อนเถอะ เรามีธุระต้องไปคุยกันอีก งั้นพวกแม่ไปละนะลูก” ว่าแล้วเหล่าญาติผู้ใหญ่ต่างพากันทยอยออกไปจากห้องหอที่คู่ข้าวใหม่ปลามันต้องพักคืนนี้ “บายฮะ” ร่างสูงโบกมือหยอยๆตามจนประตูห้องปิดลงสนิท “.... เฮ้อออ!! / เฮ้ออออ!” ทั้งสองนอนแผ่ลงเตียงอย่างพร้อมเพียงโดยไม่ได้นัดหมาย . .. . . . . . . . ‘เหนื่อยชะมัดเลยโว้ยยยยย!!!’ . . . . .
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD