พิราสินีกระทืบเท้าปึงปังอย่างขัดใจที่ชายหนุ่มไม่เอาอกเอาใจเธอเลยสักนิดแถมเธอเองต้องลงมาง้อเขาถึงในร้าน
"อ่าว... เปลี่ยนใจแล้วเหรอครับคนสวย"
"ฉันหิวหรอกนะไม่งั้นฉันไม่กินหรอก สะอาดรึเปล่าก็ไม่รู้ฉันจะท้องเสียมั้ยอ่ะ"
หญิงสาวบ่นออกมาสารพัดจนชายหนุ่มต้องเอามือปิดปากของเธอไว้ไม่งั้นคนอื่นจะได้ยินเดี๋ยวเสียความรู้สึกกันหมด
"จะเสียงดังทำไมถ้ากินไม่ได้ก็ออกไปรอที่รถ อย่ามาพูดจาทำร้ายความรู้สึกคนอื่นที่นี่"
"พูดความจริงและพูดตรงๆด้วย"
"พูดตรงกับพูดให้คนอื่นรู้สึกไม่ดีมันมีเส้นบางๆกั้นอยู่ ถ้าจะกินก็เงียบอย่าพูดมากรักษาน้ำใจคนอื่นหน่อย"
พิราสินีเอามือปิดปากตัวเองไว้ก่อนจะยอมนั่งเงียบไม่พูดอะไรที่ทำให้คนอื่นรู้สึกแย่อีก ถ้าเธอโดนแบบนั้นก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกันเพราะฉะนั้นไม่พูดแล้วก็ได้
"จะกินอะไร"
"แล้วนายกินอะไรล่ะ"
"ผัดกะเพราหมูกรอบพิเศษไข่ดาวไม่สุก"
"มันอร่อยมั้ยไอ้ผัดกะเพราไรเนี่ย"
หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ เกิดมากินแต่ของดีๆแบบถูกสุดก็พวกต้มจืด แกงเขียวหวานอะไรแบบนี้แต่อาหารจานเดียวยังไม่เคยกินมาก่อนก็เลยไม่รู้ว่ารสชาติยังไง
"ลองชิมมั้ยล่ะ"
"ชิมของนายเหรอ ได้เหรอ..."
"อืม... เดี๋ยวให้ลองชิม"
เขายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะรับจานอาหารมาจากเด็กเสิร์ฟ เขาวางลงตรงหน้าหญิงสาวหยิบช้อนส้มส่งไปให้เธอลองชิมดู
"ลองชิมดูสิ"
พิราสินีหยิบช้อนมาจากชายหนุ่มมองหาทิชชู่มาเช็ดอีกรอบเพื่อความสะอาดก่อนจะลองตักชิมกะเพราหมูกรอบของเขาดู และดูท่าทางจะเผ็ดนะสีสดใสมากเลย
หญิงสาวกัดหมูกรอบเข้าไปในปากเคี้ยวอย่างเพลิดเพลินก่อนจะตักกินอีกเนื่องด้วยเธอหิวมากและรสชาติอาหารก็ไม่ได้แย่เลยสักนิด
"อร่อยล่ะสิ"
"ก็งั้นๆ... หิวข้าวหรอกงั้นจานนี้ขอนะ"
เธอแบ่งขายตรงหน้าไปทันทีตักกินอย่างเอร็ดอร่อยไม่สนใจคนที่สั่งมาเลยสักนิดเดียว เขายิ้มออกมาขำๆหันไปสั่งให้ตัวเองอีกจานเท้าคางมองหญิงสาวตรงหน้าที่กินอย่างเอร็ดอร่อย
"ก็กินได้นี่ไม่เห็นต้องไปกินอะไรแพงๆทุกมื้อเลย"
"ก็เพื่อนชวนไปกินนี่นา"
"แล้วจ่ายยังไงหารกันเหรอ"
เขาแอบสัมภาษณ์ชีวิตความเป็นอยู่ของเธอและจะได้รู้ว่าในแต่ละวันเธอใช้ชีวิตยังไงกันแน่ รวมถึงคนรอบข้างด้วย
"ไม่อ่ะฉันเลี้ยงตลอด เพื่อนไม่มีเงินจ่ายหรอกไปทีไรก็เลี้ยงไม่ได้คิดอะไร"
"ไหงงั้นอ่ะเป็นเพื่อนกันไปกินด้วยกันก็ต้องหารกันสิ คราวหลังไม่ต้องคบแล้วนะเพื่อนแบบนั้นอ่ะ"
"ยุ่ง! ยุ่งไรด้วย"
พิราสินีมองหน้าชายหนุ่มด้วยใบหน้าเซ็งๆเริ่มออกคำสั่งกับเธออีกแล้วน่าหมั่นไส้ชะมัดเลย
"ตามใจแล้วกันคราวนี้ไม่มีเงินไปเลี้ยงเพื่อนแล้ว ลองไปขอให้เพื่อนเลี้ยงดูบ้างสิจะได้รู้ว่าเพื่อนแท้หรือเพื่อนกินเฉยๆ"
"เพื่อนแท้สิถึงพวกนั้นจะไม่มีเงินมากแต่ไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก"
"งั้นมาพนันกันสิ ลองไปบอกว่าไม่มีเงินแล้วเพื่อนรักจะว่ายังไง"
พิราสินีจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่องมีสิทธิ์อะไรมาว่าให้เพื่อนสนิทของเธอทั้งสองคน พวกหล่อนไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาดหรอกเธอเชื่อใจพวกหล่อนนะ
"หึ... รีบกินสิ"
"รีบไปไหนอีกอย่างมันเยอะมากใครจะกินหมด"
"เดี๋ยวช่วยกิน"
"อือ... อิ่มแล้วอ่ะกินต่อให้หน่อย"
หญิงสาวขยับจานของเธอที่กินไปแค่หนึ่งในสามส่งคืนไปให้ กันนภัทรมองจานตรงหน้าอย่างมึนงงเขาว่ามันไม่ได้เยอะมากขนาดนั้นหรอกทำไมเธอถึงกินไปนิดเดียวเอง
"ทำไมกินแค่นี้"
"ปกติก็กินแค่นี้นะ กินเยอะกว่านี้มันจะอ้วนแต่งตัวไม่สวย อีกอย่างไอ้หมูกรอบเนี่ยอ้วนจะตายข้าวก็ไม่ใช่ไรซ์เบอรี่กินเยอะไม่ได้หรอก"
"เรื่องมาก!"
"ชิ!"
หญิงสาวกอดอกสะบัดหน้าใส่ชายหนุ่ม ก็เธอเป็นคนเลือกกินและรักสุขภาพมากอะไรที่ทำอ้วนไม่มีทางที่เธอจะกินมันลงหรอก
"ทีตอนหิวนะหน้ามืดกินไม่เลือก"
"หยุดพูดได้ป่ะรำคาญ"
"แล้วจะไปไหนต่อ กลับมั้ย"
หญิงสาวทำหน้าคิดหนักเธอไม่คิดว่าตัวเองจะอยากกลับบ้านเพราะโดยปกติตอนนี้ถ้าไม่เดินช็อปปิ้งก็ดูหนังอยู่
"อยากช็อปปิ้งแบรนด์เนมอ่ะพาไปหน่อยสิ"
"สองหมื่นมันพอซื้อเหรอ แล้วอีกอย่างสองหมื่นนี่ไม่ได้ใช้วันละสองหมื่นนะ เดือนละสองหมื่นต่างหาก"
หญิงสาวอ้าปากค้างอย่างตกใจ ให้เธอใช้เงินเดือนละสองหมื่นบาทฆ่าเธอดีกว่า มันจะใช้ยังไงให้พอปกติพ่อไม่เคยจำกัดวงเงินอยากใช้เท่าไหร่ก็สามารถรูดได้ไม่เคยบ่น ทำไมตอนนี้ท่านทำกับเธอแบบนี้ล่ะ
"จะบ้าเหรอไงมันจะไปพออะไร จะให้ฉันกินข้าวกับน้ำปลาไง"
"ถ้ากินแบบนั้นเดือนละสามพันบาทก็พอ"
"อะ...ไอ้บ้าฉันประชดนายอยู่นะ ให้กินอาหารสิ้นคิดแบบนี้ทุกวันฉันไม่กินหรอกเสียสุขภาพหมด"
หญิงสาวกำมือแน่นเตรียมจะโวยวายแต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อเขาดึงมือของเธอเข้ามาใกล้ก่อนจะเอ่ยเสียงข่มขู่
"หยุดโวยวายเดี๋ยวนี้คนเยอะเห็นมั้ย ทำตัวให้มันน่ารักหน่อย"
"ปล่อยนะ"
"มานี่เลยผู้หญิงอะไรปากเสียชะมัด"
เขาดึงเธอมาที่รถผลักหญิงสาวไปติดประตูก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างกั้นไว้เพื่อไม่ให้เธอหนีออกไปที่อื่น
"ผมบอกหลายรอบแล้วว่าให้ระวังคำพูดทำไมถึงไม่ยอมฟัง เกิดเป็นคนเหมือนกันทำไมจะกินเหมือนกันไม่ได้ อย่าดัดจริตให้มันมากนักได้มั้ย"
"แกกล้าพูดกับฉันแบบนี้เหรออย่าคิดเอาตัวเองมาเทียบชั้นกับฉันไอ้ผู้ชายชั้นต่ำ คนอย่างนายไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะมองฉันด้วยซ้ำ! ฉันเป็นใครนายเป็นใครรู้ป่ะ"
หญิงสาวจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างไม่ยอมเช่นกัน กันนภัทรบีบแขนหญิงสาวจนแดงแจ๋ เธอร้องโอดครวญพยายามดึงมือของตัวเองออกเพราะมันเริ่มเจ็บเพราะเขาบีบแขนเธอแรงมาก
"ผมทำได้มากกว่ามองอีก ถ้ายังปากดีไม่เลิกได้ผัวเป็นไอ้ชั้นต่ำคนนี้แน่!"
"กรี๊ดดดดดนายกล้าดียังไงมาพูดแบบนี้ อยากตายใช่มั้ยไอ้คนชั้นต่ำ"
"ปากดีมากนักใช่มั้ย สงสัยต้องหาอะไรให้อมจะได้เลิกเห่า"
เขาเอ่ยข่มขู่หญิงสาวขยับใบหน้าเข้าไปใกล้พยายามสะกดกลั้นอารมณ์โกรธไม่ให้ทำอะไรเธอในตอนนี้ เขาไม่ชอบรังแกผู้หญิงเอามากแต่ยัยเด็กนี่เป็นข้อยกเว้นเพราะปากดีเหลือเกินจนเขาอดใจไม่ไหว
"อะ...อมอะไรนายจะทำอะไร"
"หึ... เลิกนิสัยดูถูกคนอื่นและปากเสียให้ได้ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าไม่เตือน!"