บทนำ ภารกิจลับ
"พวกแกเลือกเลยนะ ฉันซื้อให้คนละใบ"
พิราสินียิ้มสวยมองกระเป๋าแบรนด์เนมราคาหลักล้านด้วยแววตาเป็นประกายระยิบระยับ ของแพงต้องคู่กับคนสวยอย่างเธอมันถึงจะเหมาะสมกัน นิ้วเรียวแตะแบรนด์เนมหลักล้านอย่างกระหายหยิบยกขึ้นมาเชยชมก่อนจะส่งไปให้พนักงาน
"เอาใบนี้นะแล้วก็ใบนั้นอีกใบหนึ่ง ส่วนของเพื่อนฉันสองคนรวมยอดของฉันเลยจ้ะ พวกแกเลือกเลยนะของฉันได้แล้ว ขอฉันออกไปดื่มกาแฟให้ชื่นใจก่อนแล้วกันยืนนานปวดขา"
"ได้จ้ะเพื่อนรัก แกใจดีที่สุดเลย"
"นั่นสิ พริ้วพราวคนสวยและใจดีที่สุดในโลก"
หญิงสาวยกยิ้มเชิดหน้าตั้งก่อนจะเดินตามพนักงานไปยังห้องรับรอง หลับหลังเพื่อนซี้ทั้งสองคนก็กระซิบกระซาบกันทันที
"มีเพื่อนเป็นยัยพริ้งพราวนี่ดีจริงๆเลยอ่ะ ได้ใช้แต่ของแพงๆเงินก็ไม่ต้องออกสักบาทเดียว"
"นั่นสิยัยนี่มันโง่นะ เราพูดยกยอมันหน่อยก็เปย์แทบทุกอย่างแล้ว อาทิตย์หน้าฉันจะให้มันซื้อรองเท้าให้อีกแกว่าดีป่ะ"
เพื่อนสนิทที่พริ้งพราวรักมากหนักหนาแต่ลับหลังนั้นไม่มีใครจริงใจกับเธอสักคน เธอก็แค่คุณหนูเอาแต่ใจที่เพื่อนคบเพราะหวังผลประโยชน์ ไม่มีใครอดทนกับความเอาแต่ใจของเธอหรอกนอกจากคบเพราะผลประโยชน์
"ดีสิฉันเอาด้วย จะเอาให้หมดตัวเลย"
ท่านพยัคฆ์ที่กำลังนั่งประชุมพรรคร่วมอยู่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูหน้าจอ ข้อความแจ้งเตือนเงินออกจากบัญชีของเขาใช้จ่ายที่ร้านแบรนด์เนมดังระดับประเทศ
'บ/ช xxxxx9999 เงินออก 2,490,000บาท'
"พริ้งพราว... เอาอีกแล้วนะ!"
ท่านพยัคฆ์สบถออกมาอย่างหัวเสียที่ลูกสาววันๆเอาแต่ช็อปปิ้งใช้เงินเดือนหนึ่งหลักสิบล้าน เขาร่ำรวยแต่ใช่ว่าลูกจะใช้เงินเท่าไหร่ก็ได้ หามาได้ก็สามารถหมดได้ถ้าเธอยังใช้เงินเป็นเบี้ยแบบนี้
"มีอะไรรึเปล่าครับท่าน"
"พริ้งพราวใช้เงินวันนี้สองล้านกว่า เมื่อวานสามแสนฉันจะทนไม่ไหวแล้วนะกับยัยลูกคนนี้"
เขาเอ่ยเสียงรอดไรฟันพยายามที่จะรักษาภาพลักษณ์ไม่ให้ตัวเองดูไม่ดี ลูกน้องของเขากดโทรศัพท์เพียงแค่แป๊บเดียวก็ได้เรื่องราวตามที่อยากจะรู้
"คุณหนูไปช้อปปิ้งกับเพื่อนครับ ซื้อกระเป๋าให้เพื่อนด้วยคนละใบ"
"ฉันคงต้องทำอะไรสักอย่างไม่อย่างนั้นเงินที่ฉันหามาพริ้งพราวจะเอาไปเที่ยวเล่นหมด ตั้งแต่เรียนจบมางานการก็ไม่ยอมทำเอาแต่ใช้เงินเที่ยวไปวันๆ ถ้าฉันตายขึ้นมาคงใช้ชีวิตลำบากแน่"
ท่านพยัคฆ์กุมขมับด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ไม่ได้หวงเงินที่มีแต่ลูกไม่รู้จักโตสักทีเขาผิดที่เลี้ยงลูกโดยใช้เงินไม่ได้ให้ความรักความอบอุ่นเท่าที่ควร คงต้องทำอะไรสักอย่างไม่อย่างนั้นลูกสาวคนเดียวได้เสียคนแน่
"แล้วท่านจะเอายังไงครับ"
"ตามกันต์ธีมาเจอฉันหน่อย สงสัยคงต้องหาคนมากำราบเด็กดื้อซะแล้ว"
เขารู้จักลูกชายของเพื่อนสนิทคนนี้ดีเพราะเขาเป็นตำรวจหน่วยรบพิเศษ ความเด็ดขาดและความใจแข็งคนนี้มีเต็มเปี่ยม เขาจะขอร้องให้กันนภัทรมารับหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดให้ลูกสาวและภารกิจลับที่เขามอบให้คือทำยังไงก็ได้ให้พริ้งพราวโตเป็นผู้ใหญ่สักที
"ตอนนี้คุณกันต์ธีอยู่ในห้องรับรองครับ มาส่งท่านนายพลทำธุระพอดี งั้นผมไปนัดให้นะครับ"
"ไม่ต้องฉันจะออกไปตอนนี้แหละ"
"งั้นเชิญเลยครับท่าน"
ท่านพยัคฆ์รีบตรงไปยังห้องรับรองของสำนักงานพรรคเนื่องจากร้อนใจเรื่องของลูกสาวมากจนเกินจะทนไหว และเมื่อเข้ามาข้างในกันนภัทรที่เห็นเขาก็รีบลุกขึ้นก่อนจะโค้งตัวเล็กน้อย
"สวัสดีครับคุณอาพยัคฆ์"
"สวัสดีกันต์ธี ทุกคนออกไปก่อนฉันมีเรื่องจะคุยกับกันต์ธีแบบส่วนตัว"
ลูกน้องของเขาและกันนภัทรโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปทันทีและตอนนี้ทั้งห้องรับรองเหลือกันอยู่แค่สองคนเท่านั้น ท่านพยัคฆ์เดินไปนั่งลงตรงโซฟาเชิญชวนให้กันนภัทรนั่งลงข้างกายก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
"คุณอามีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ บอกผมได้นะถ้าช่วยได้ผมยินดีช่วยครับ"
กันนภัทรเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแห่งความห่วงใย เขาหวังดีกับเพื่อนพ่อคนนี้เสมอท่านทั้งสองคนรู้จักกันมานานและเขาได้ร่วมงานกับท่านบ่อยจึงกลายเป็นสนิทกันโดยปริยาย
"ลูกสาวอานะสิสร้างแต่เรื่อง"
"น้องพริ้งพราวเหรอครับ จริงๆผมไม่เจอน้องนานแล้วนะครับตั้งแต่เด็ก ผมเอาแต่ทำงานจนไม่ได้คุยกับใครเลย"
เขายอมรับว่าตัวเองงานยุ่งมากแทบไม่มีเวลาได้คุยกับใคร แม้กระทั่งผู้หญิงเขายังไม่มีเวลาไปสานความสัมพันธ์กับใคร ส่วนพริ้วพราวหรือพิราสินีเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของท่านพยัคฆ์ ล่าสุดได้ยินชื่อเสียงมาบ้างว่าสวยมากและเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆทั่วกรุง
"รู้มั้ยตั้งแต่เรียนจบมาไม่ยอมทำงาน เอาแต่เที่ยวใช้เงินไปวันๆ อาอยากให้กันต์ช่วยอาหน่อยดัดนิสัยน้องให้เป็นผู้เป็นคนขึ้นหน่อยช่วยอาหน่อยได้มั้ย"
กันนภัทรมีสีหน้าที่กังวลอย่างเห็นได้ชัดเจน เขาไม่ได้มีเวลาถึงขั้นมาตามเฝ้าผู้หญิงคนหนึ่งได้นานมากขนาดนั้น ส่วนเรื่องดัดนิสัยเขาไม่รู้ว่าเธอเป็นหนักมากขนาดไหนคนเป็นพ่อถึงขั้นต้องให้คนอื่นมาจัดการ
"ทำไมถึงเป็นผมครับอา"
"กันต์เป็นคนเด็ดขาดและไม่ตามใจใคร อาเชื่อนะว่ากันต์จะไม่ใจอ่อนกับน้องและจะไม่ตามใจเหมือนที่อาทำอยู่"
"ผมทำอะไรก็ได้ใช้มั้ยครับ... ผมจะกำราบน้องยังไงก็ได้เหรอครับ"
ท่านพยัคฆ์นิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะพยักหน้าออกมาเล็กน้อย ถ้ามันทำให้ลูกสาวของเขาดีขึ้นและมีความคิดเป็นผู้ใหญ่แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
"ทำได้ทุกอย่างตามขอบเขตที่เราวางไว้ แต่ถ้าเกินขอบเขตเรารู้ใช่มั้ยว่าต้องทำยังไง"
"ทราบครับ งั้นผมจะจัดการให้เองแต่ไม่รับปากนะครับว่าน้องจะดีขึ้นรึเปล่า ว่าแต่ให้ผมเข้าไปเจอน้องเลยเหรอครับผมว่ามันจะแปลกๆไปรึเปล่า"
ท่านพยัคฆ์ตบบ่ากันนภัทรก่อนจะยิ้มออกมา เขาคาดหวังกับชายหนุ่มมากเพราะเป็นคนเดียวที่เขาไว้ใจให้ดูแลพิราสินีลูกสาวคนเดียว ถึงเธอจะเอาแต่ใจและไม่เอาไหนก็เถอะแต่เขารักและหวงเธอมากจนต้องจ้างคนติดตามเป็นขบวน
"พ่อจะให้กันต์ไปเป็นบอดี้การ์ดคนใหม่ของน้อง แต่เราห้ามให้น้องรู้เด็ดขาดว่าเป็นใครไม่งั้นจะจัดการยาก เราจะทำยังไงก็ได้ให้ลูกสาวของอาเป็นผู้เป็นคนสักที อาตามแก้ปัญหาไม่ไหวแล้ว!"
คนเป็นพ่อได้แต่คิดหนักกับลูกสาวคนเดียว ถ้าภรรยายังอยู่เธอคงช่วยได้มากกว่านี้ เขาเป็นผู้ชายที่เลี้ยงลูกคนเดียวพอจะมีเมียใหม่ลูกสาวก็ไม่ยอมรับอีก
"ได้ครับผมจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ คุณอาไม่ต้องเป็นห่วงนะครับเรื่องน้องผมจัดการเอง"