ตอนที่3 ซ่องเจ๊หวาน
ผมไอขลุกแทบสำลักกาแฟที่ดื่มเข้าไปเพราะเฮียหลอดแกดันพูดแทงใจดำของผมเข้าเต็มๆ เปา ก็จะอะไรซะอีกละครับ เมื่อสองสามคืนก่อนนี่เองไอ้มานะเพื่อนตัวดีที่คบกันมาตั้งแต่สมัยประถมมันเพิ่งจะพาผมไปเจิมซ่องเจ๊หวานมาหมาดๆ
ขอเท้าความไปตอนสมัยเด็กๆ ผมเคยย้ายตามครอบครัวมาเรียนอยู่ที่นี่ได้สองสามปี พอผมจบชั้นประถมศึกษาปีที่หกกำลังจะขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งพ่อของผมก็มีอันต้องย้ายไปรับราชการที่ต่างจังหวัด ผมเลยห่างกับไอ้มานะไปนานจับพลัดจับพรูมาเจอมันอีกทีผมก็ถูกส่งตัวมายังจังหวัดแห่งนี้แหละครับ
ไอ้มานะบ้านมันเป็นร้านขายอุปกรณ์การเกษตรอยู่ในตลาดถัดจากร้านกาแฟเฮียหลอดไปอีกสองสามซอย บ้านมันค่อนข้างมีฐานะดีเลยแถมมันยังเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลอีกเลยเฮงไปกันใหญ่ ชนิดที่เรียกได้ว่าเตี่ยมันตามใจอยากได้อะไรแทบจะใส่พานมาถวายให้เลยทีเดียว
“อ้าวๆ ๆ กาแฟติดคอเหรอครับคุณปลัด”
ตาต่ายร้องแซวสีหน้าระรื่น
“ผมคงรีบดื่มไปหน่อย”
ผมบอกแก ก่อนจะหันไปคว้าแก้วน้ำเปล่ามากระดกเป็นการล้างคอ
มาว่ากันถึงเรื่องซ่องเจ๊หวานดีกว่า ซ่องเจ๊หวานหรืออีกชื่อที่คนในย่านนี้เรียกว่าดงกล้วย สาเหตุก็มาจากทางที่จะเข้าไปยังซ่องของแกชาวบ้านเขานิยมทำสวนกล้วย ปลูกต้นกล้วยกันเยอะมากจนเต็มสองข้างทาง แล้วทีนี่สถานบันเทิงสำหรับชายกลัดมันแห่งนี้มันก็ดันไปปลูกอยู่กลางดงกล้วย ก็เลยกลายเป็นที่มาของดงกล้วยนั่นเอง หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่นักเที่ยวนักท่องราตรีผู้นิยมเสพกามทั้งหลายเหล่พอพูดถึงดงกล้วยก็เป็นอันรู้กันว่าเป็นสถานที่แห่งใด
เรื่องของเรื่องที่ได้ไปเสพความบันเทิงในสถานที่อโคจรแห่งนั้นมาก็เพราะให้ความเมาและคำว่าเพื่อนนี่แหละ ผมแวะไปหาไอ้มานะมันแล้วไอ้เพื่อนตัวดีมันก็เลยชักชวนผมไปทัศนาจรความบันเทิงในซ่องเจ๊หวานเข้าให้ ก็ด้วยความเมาบวกกับความหงี่ที่มันผุดขึ้นมาเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ในกระแสเลือด ผมก็ไม่ได้ตอบปฏิเสธมัน ไปไหนก็ไปกันอยู่แล้วเหมือนเพลงพี่ปูพงษ์สิทธิ์ที่ร้องว่า
* ‘แกจะไปทางไหน แกจะทำอะไร ไปไหนไปกันเพื่อนจ๋า เพราะแกเกิดมาชาตินี้เพื่อเป็นเพื่อนกันฉัน’ * หลังจากกระดกเบียร์ขวดที่หกหมดเกลี้ยงสองเพื่อนซี้ก็แว๊นมอเตอร์ไซด์ไปกันสองคนกะหนุงกะหนิง
“ซ่องเจ๊แกมีตัวแจ่มๆ เยอะโว้ยไอ้ลามก เดี๋ยวกูจะแนะนำดาราของซ่องนี้ให้มึงได้รู้จัก กูไม่อยากจะบอกว่ากูก็มาขึ้นครูที่ซ่องเจ๊หวานนี่แหละโว้ยไอ้เกลอรัก”
เสียงอ้อแอ้ของไอ้มานะดังปะปนกับเสียงลมที่ผ่านเข้ามาในหูของผม ระหว่างที่มันเป็นคนขี่มอเตอร์ไซด์พาลัดเลาะเลี้ยวจากถนนสายหลักตัดเข้ามาในซอย เพื่อพาผมไปทัวร์สวรรค์บนดินตระเวนราตรีตามประสาหนุ่มโสด
“มึงมาเสียตัวครั้งแรกที่ซ่องนี้เลยเหรอวะไอ้หมานะ”
ผมแกล้งกระเซ้ามันไป คำว่าขึ้นครูก็คือการเปิดซิงครั้งแรกของลูกชายอย่างพวกผมนี่แหละ มันเป็นการเริ่มประสบการณ์แห่งความเป็นหนุ่มผลัดเปลี่ยนจากเด็กชายกลายเป็นหนุ่มขึ้นมาทางพฤตินัยนั่นเอง
“เออสิวะ ตอนนั้นเจ๊หวานยังสาวขาวอวบอยู่เลย”
“นี่อย่าบอกนะว่ามึงโดนเจ๊หวานเจ้าของซองเปิดบริสุทธ์เข้าให้”
ผมพูดกลั้วหัวเราะให้เพื่อนรัก
“ไอ้สาสลามก มึงก็อย่าเสือกพูดไป”