ตอนที่ 18
แล้ววันเดินทางไปดูงานที่ญี่ปุ่นก็มาถึง ตรีอัปสรตื่นเต้นมากเพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่ได้ใกล้ชิดกับชายคนที่เธอรักมากที่สุดตามลำพัง เมื่อคืนหลังจากจัดกระเป๋าเสื้อผ้าเสร็จ ตรีอัปสรก็คุยไลน์เกือบเพื่อนต่อ จริยาแนะนำการแต่งตัวของตรีอัปสร เสื้อผ้าทุกชุดที่เธอแนะนำตรีอัปสรซื้อมา รวมไปถึงชุดนอน ที่ตรีอัปสรยังสองจิตสองใจว่าจะใส่ดีหรือเปล่า เพราะมันเซ็กซี่เหลือเกิน
'ยังไงแกก็ต้องใส่ ถ้าแกใส่ชุดนอนที่ฉันเลือกให้ ยาปลุกเซ็กซ์ที่คุณวาทิตให้ก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปแล้ว เชื่อฉันสิ'
'คิดไปคิดมาก็ไม่อยากทำเลย ฉันกลัว กลัวว่าพี่วายุจับได้แล้วเขาจะเกลียดฉันไปเลย'
'อย่าคิดมากสิเพื่อน เชื่อใจตัวเองสิ แกก็มีดีตั้งหลายอย่าง ทำไมเขาจะไม่รักไม่ชอบแกเล่า ที่ผ่านมาฉันว่าพี่วายุไม่ค่อยชอบให้ใครมาสั่งเฉย ๆ เขาโดนคุณพ่อบังคับก็เลยต่อต้าน แล้วอีกอย่างแกก็ไม่ยอมแต่งเนื้อแต่งตัวเลย แต่ครั้งนี้ฉันรับรองเลยว่า แกได้เสียตัวให้เขาแน่ ๆ '
'บ้าน่า!..แกก็พูดเกินไป ฉันเป็นผู้หญิงนะ เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า'
'เอาน่า ฉันอยากให้แกสมหวังซะที อย่าดูถูกปั๊บปี้เลิฟของตัวเองสิเพื่อน'
พอลงจากเครื่องที่สนามบินนาริตะที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย สิ่งหนึ่งที่หญิงสาวมองเห็นแล้วสะดุดตา คือป้ายภาษาไทยที่ชูขึ้นจากหญิงสาวชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ป้ายนั้นเขียนว่า คุณวายุ ธาราภัค
“เค้าส่งตัวแทนมารับเราแล้วค่ะ....” ตรีอัปสรชี้ไปที่ป้ายนั่น
“อืมมม...พี่เห็นล่ะ....เรารีบไปกันเถอะ” วายุกล่าว
ตรีอัปสรสามารถสื่อสารกับหญิงชาวญี่ปุ่นที่มารับได้อย่างคล่องแคล่ว วายุค่อนข้างยอมรับในความสามารถของตรีอัปสรอยู่ไม่น้อย เลขาสาวรู้มาว่าคนที่มาต้อนรับวายุในครั้งนี้ คือตัวแทนของคุณทาเคชิ ยามาดะ ที่คุณวาทิตติดต่อเพื่อทำการค้าเอาไว้ หลังจากทักทายกันเสร็จเรียบร้อย ตัวแทนของคุณทาเคชิก็พาทั้งสองไปยังรถที่จอดรออยู่ ชายที่ทำหน้าที่สารถีขับรถเลี้ยวเข้าไปยังโรงแรมหรูแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว
แล้วตรีอัปสรก็ต้องควันออกหูเพราะเมื่อมาถึงโรงแรมแล้วพบว่าห้องพักที่เธอจองล่วงหน้ากับทางเวปไซด์ของโรงแรมเอาไว้ เป็นห้อง Double room ซึ่งมันเกิดการผิดพลาด เพราะจองเอาไว้ 2 ห้องแต่ดันได้ห้องเดียวและในห้องก็มีเตียงนอนใหญ่เตียงเดียวเท่านั้น วายุฟังภาษาญี่ปุ่นไม่รู้เรื่องแต่เห็นหญิงสาวอารมณ์เสีย จึงสนทนาภาษาอังกฤษกับพนักงานโรงแรมคนนั้นไป จนได้รู้ว่า
“ห้องที่คุณตรีอัปสรจองไว้ ทางเราต้องขอโทษด้วย มีคนจองเอาไว้ก่อนหน้าคุณไปแล้วหนึ่งห้อง” ชายชาวญี่ปุ่นพนักงานโรงแรมบอกกับวายุ วายุลอบยิ้ม เมื่อทุกอย่างเป็นใจไปเสียหมด
“ไม่เป็นไรหรอกครับ อันที่จริงเราพักห้องเดียวกันก็ได้ เพราะผมเป็นแฟนกับเธอ” วายุรีบบอกพร้อมกับโอบไหล่หญิงสาว ตรีอัปสรทำหน้างงและยิ้มแห้ง ๆ จนพนักงานส่ายหัวที่โดนหล่อนต่อว่าก่อนหน้านี้
“ถ้ายังไงผมต้องขอโทษอีกครั้ง” วายุรีบบอกกับพนักงานคนนั้นไป แต่ตรีอัปสรก็ยังเอ่ยขึ้นมาอีก
“แล้วที่เหลือเป็นห้องแบบไหนคะ”
“ห้อง Connecting Rooms ครับ”
“เอายังไงครับ..ที่รัก หรือว่าคุณอยากจะย้ายไปห้องนี้” วายุแกล้งพูดขึ้นด้วยภาษาอังกฤษในขณะที่โอบไหล่หญิงสาวตลอดเวลา
“อืม!...ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวอัปสรเสียสละนอนพื้นเองค่ะ” เมื่อมันเกิดจากความผิดพลาดของตัวเอง เธอก็ต้องยอมรับมัน ซึ่งถ้าไปห้องแฝดค่าใช้จ่ายจะต้องเยอะตามมา ซึ่งเธอก็เกรงใจคุณวาทิต เมื่อพนักงานโรงแรมมาส่งทั้งคู่ที่หน้าห้อง วายุก็รีบลากกระเป๋าเอาไปไว้ตรงตู้เสื้อผ้า ก่อนจะเอ่ยขึ้นกับหญิงสาว
“พี่จะออกไปรออัปสรข้างนอก ระหว่างนี้ให้อัปสรจัดการอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วก็ฝากเอาเสื้อผ้าของพี่ออกจากกระเป๋าแล้วก็แขวนให้ด้วย”
“ทำไมพี่ไม่ทำเองละคะ” หญิงสาวเลิกคิ้วถาม
“ก็เรามาแบบคู่รักนี่ครับ ฟิลแฟนน่ะ รู้จักมั้ย” วายุบอกพรอมหมุนตัวออกจากหองนั้นทันที แต่ก็ยังเปิดประตูเข้ามาบอกเลขาฯ สาวอีกรอบ ดีว่าที่เธอยังไม่ได้ถอดชุดอะไรตอนนี้ ตรีอัปสรได้แต่มองค้อน
“ถ้าอัปสรอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว พี่จะพาไปกินข้าว” สงสัยว่านี่คือรางวัลการเอาชุดออกจากกระเป๋าอย่างแน่นอน ตรีอัปสรรีบตรงไปล๊อกห้องก่อนเป็นอันดับแรก
ระหว่างที่ทั้งสองรออาหารอยู่ วายุก็เอ่ยถามขึ้น
“พี่ถามอะไรหน่อยสิ”
“อะไรเหรอคะ”
“การมาญี่ปุ่นครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นแผนการของคุณพ่อพี่ใช่มั้ย”
“ไม่ใช่แน่นอนค่ะ” หนาตาของชายหนุมที่เครงขรึมทำให้ตรีอัปสรรู้สึกหวั่น ๆ
“แล้วทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ หรือว่าอัปสรหิวข้าว” วายุถามและเงยหนามองนาฬิกาก็เกือบหาทุมเขาไปแลว
“อัปสรทานบนเครื่องมาบ้างแลว ไมคอยหิวเทาไหรหรอกคะ” หญิงสาวตอบอย่างเกรงใจ
“พี่ถามจริง ๆ นะ ไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกับคุณพ่อพี่ใช่มั้ย” แล้วชายหนุ่มก็วนกลับมาถามอีก นี่จะคาดคั้นเอาให้ได้เลยใช่มั้ย
“อัปสรก็เสียหายนะคะ ที่ต้องมาอยู่กับพี่สองต่อสอง” เธอกัดริมฝปากพูดอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ภายในห้องเดียวกัน ตรีอัปสรและวายุ ต่างคนต่างนอนกันคนละที่ วายุนอนบนเตียง ส่วนตรีอัปสรนอนอยู่บนโซฟา ก่อนวายุจะเอ่ยถาม
“ถ้ามันแคบไป ก็มานอนบนเตียงด้วยกันสิ อุ่นดีออก”
“ไม่เอาค่ะ อัปสรไม่ไว้ใจพี่วายุ”
“ทำไมเหรอ กลัวพี่จะปล้ำขนาดนั้นเชียว”
“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ”
“งั้นก็มานอนสิ”
“ไม่เอาค่ะ อัปสรง่วงแล้ว ฝันดีนะคะ” หญิงสาวรีบตัดบทสนทนาทิ้ง แล้วนึกถึงคำพูดของเพื่อนสาว ‘เล่นตัวเยอะ ๆ สิ ยังไงเขาก็หลงแกจนโงหัวไม่ขึ้นเชื่อฉัน แล้วก็อย่าลืมชุดนอนใส่ที่ฉันซื้อให้นะ’
สรุปตรีอัปสรไม่กล้าใส่ชุดที่เพื่อนซื้อให้จริง ๆ มันคือชุดนอนไม่ได้นอนเลยก็ว่าได้
หญิงสาวนอนคิดอะไรเพลิน ๆ จากนั้นจึงเผลอหลับไปด้วยความเพลีย วายุเอาผ้าห่มมาห่มให้จากนั้นก็แอบหอมแก้มเธอแล้วกลับไปยังที่นอนของตัวเอง หญิงสาวยิ้มแก้มปริ และสัญญากับตัวเองว่าพรุ่งนี้หล่อนจะใช่ชุดนอนที่เพื่อนซื้อให้ เป็นไงเป็นกัน!