9
“อืม หวัดดี” อเล็สซานโดรทักทายไม่เต็มเสียงและไม่เต็มใจนัก
“ซานโดร มิสเตอร์ทอมมี่นักธุรกิจที่ต้องการเช่าพื้นที่ท่าเรือของนาย” ทอมมี่นักธุรกิจเชื้อสายอเมริกัน เดินทางมาขอเช่าพื้นที่บริเวณท่าเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ ที่เขาเป็นเจ้าของอยู่ ทอมมี่ต้องการเช่าพื้นที่ระยะยาวยี่สิบปี มูลค่าของจำนวนเงินที่อเล็สซานโดรจะได้รับมากมายนักจนเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จึงได้แต่มองหญิงสาวที่อยู่ร้านฝั่งตรงข้าม ด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
“นายมองอะไร ซานโดร” รุจน์เอ่ยถามด้วยความสงสัยระคนอยากรู้ เมื่อเห็นเพื่อนรักมองไปที่ร้านฝั่งตรงข้ามเป็นระยะๆ
“เปล่า” อเล็สซานโดรตอบสั้นๆ ก่อนจะเริ่มสนทนาเรื่องการค้าทันที หากแต่สมาธิที่พูดคุยกลับไม่ค่อยมีมากนัก เป็นเพราะร่างบางที่อยู่ร้านตรงข้าม คุยหยอกล้อและหัวเราะกับชายรูปร่างสูงโปร่งอยู่ตลอดเวลา
“ร้านฝั่งตรงข้ามมีอะไรดี นายถึงมองอยู่ตั้งนานแล้ว” รุจน์กระซิบถามเพื่อนรัก เมื่อทอมมี่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ หลังจากที่เจรจาเรื่องการค้าเสร็จสิ้นแล้ว จึงสะดวกในการพูดคุยเรื่องส่วนตัว
“ยุ่ง” อเล็สซานโดรตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความ รุจน์มองตามสายตาของเพื่อนรักไป ภาพของสาวน้อยนางหนึ่งรูปร่างหน้าตางดงาม แม้มองในระยะไกล กำลังหยิบสินค้าบางอย่างขึ้นมาพิจารณา
“สวยอย่างนี้นี่เอง นายถึงลอบมองอยู่ตลอดเวลา ฉันชักอยากเห็นหน้าใกล้ๆ ซะแล้วสิ เผื่อถูกใจจะได้จีบเป็นแฟน” รุจน์อดกระเซ้าเพื่อนรักไม่ได้ ผู้หญิงที่เพื่อนรักสนใจเขาไม่สามารถมองเห็นได้ชัดมากนัก เห็นเธอเพียงเสี้ยวหนึ่งของใบหน้าเท่านั้น แต่รับรู้ได้จากสายตาของเขาว่า ผู้หญิงคนนี้มีความสวยที่ไม่เป็นรองใคร
“อย่ายุ่งกับลูกแมวน้อยของฉัน” เขาเตือนเสียงเข้ม
“ของนายเหรอ ลูกแมวน้อยคนนั้นเป็นของนายตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมฉันไม่รู้” รุจน์รู้ชื่อและรู้จักหน้าตาของคู่ควงและคู่นอนของเพื่อนรักทุกคน และรู้ด้วยว่าตอนนี้อาหารว่างของอเล็สซานโดรคือ อแมนดานางแบบสาวพราวเสน่ห์เชื้อสายฝรั่งเศส
“กำลังจะเป็น นายนี่ชอบยุ่งเรื่องของฉันเสียจริง ทำตัวอย่างกับเป็นพ่อ เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ หาแฟนได้หรือยัง” อเล็สซานโดรค่อนขอดเพื่อนรักกลับไป
“ฉันกำลังมองหาอยู่ไม่แน่ฉันอาจจะเจอแล้วก็ได้” รุจน์พูดหากสายตาของเขาจับจ้องร่างของลูกแมวน้อยที่เพื่อนรักหมายปองไม่วางตา เพียงแค่มองเสี้ยวใบหน้าหวานของเธอ ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก หากอยู่ชิดใกล้จะทำให้ใจของเขาสั่นไหวมากแค่ไหน เขาเองไม่อาจรู้ได้
“นายอย่ามองลูกแมวน้อยของฉันอย่างนั้นรุจน์ ฉันไม่ชอบ” อเล็สซานโดรพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เมื่อเห็นสายตาของรุจน์มองที่ทิพย์ธารา
“ฉันแค่มองซานโดร ไม่ได้กินเสียหน่อย”
“ถ้านายกินฉันจะฆ่านาย” อเล็สซานโดรพูดโดยไม่คิด ว่าคำพูดที่พูดออกไปนั้นบ่งบอกถึงความหวงแหนอย่างชัดเจน เขาไม่เคยทะเลาะกับรุจน์เรื่องผู้หญิง ต่างคนต่างมีคู่ควงของตัวเอง หากแต่ครั้งนี้เขายอมเสียเพื่อน หากรุจน์คิดจะแย่งลูกแมวน้อยไปจากเขา
“คนนี้นายหวงเหรอ ทุกทีไม่เห็นหวง” รุจน์รู้นิสัยของอเล็สซานโดรดีว่า ผู้หญิงที่ผ่านมาของเพื่อนรัก เขาไม่เคยห่วงหรือหวงเลยแม้แต่น้อย เมื่อคบกันและอิ่มหนำกับอาหารจานว่าง อเล็สซานโดรจะจ่ายเงินเป็นค่าตัวที่คุ้มแสนคุ้มให้กับสาวเหล่านั้น และถ้าหากรุจน์เกิดพอใจสาวคนไหนจะเอาไปเป็นอาหารว่างต่อ อเล็สซานโดรไม่เคยขัดข้อง เพราะถือว่าจบๆ กันไปแล้ว
“ไม่รู้สิ แต่สำหรับฉันผู้หญิงเป็นเพียงอาหารว่างให้ฉันได้ลิ้มลอง จนกว่าฉันจะเจออาหารจานหลักที่ฉันต้องกินทุกมื้อและขาดอาหารจานนั้นไม่ได้”
“แล้วเมื่อไหร่นายจะเจอ ฉันเห็นนายกินอาหารว่างมานานแล้วนะ ยังไม่เจออีกเหรอ”
“ยัง แต่ละคนที่ฉันเจอ หิวเงินทั้งนั้นไม่เหมาะที่จะเป็นแม่ของลูกฉัน” อเล็สซานโดรพูดจากใจจริง เพราะผู้หญิงที่ผ่านมาของเขา มีแต่ผู้หญิงประเภทรักสนุก หิวเงิน ไม่รู้จักพอ
“แล้วลูกแมวน้อยคนนี้ล่ะ” รุจน์ถามตรงจุด
“แค่อาหารว่างจานต่อไป ไม่คิดไปไกลขนาดนั้นหรอก ยังไม่ถึงเวลา” อเล็สซานโดรพูดเสียงเรียบ ก่อนที่เขาและรุจน์จะหยุดการสนทนา เมื่อทอมมี่ที่เดินไปเข้าห้องน้ำ กลับมานั่งที่โต๊ะอาหารตามเดิม อเล็สซานโดรและรุจน์ ได้แต่มองตามร่างของทิพย์ธาราที่เดินออกมาจากร้านแห่งนั้น ก่อนจะแยกทางกับชายหนุ่มที่มาด้วย โดยที่อเล็สซานโดรยังไม่ลืมความผิดของเธอ ที่ขัดคำสั่งของเขา และต้องจัดการลงโทษให้สาสมกับความผิดครั้งนี้ เมื่อนึกถึงบทลงโทษที่เขาจะมอบให้เธอ ใบหน้าคมเข้มคลี่ยิ้มบางๆ อย่างไม่รู้ตัว และไม่รู้ตัวว่าเพื่อนรักมองทุกอิริยาบถของเขาไม่วางตา
ทิพย์ธาราเดินทางกลับมายังบ้านพักที่ตัวเองอาศัย ในมือถือถุงขนมปังยี่ห้อดังที่วิลสันซื้อมาให้น้องของเธอทั้งสอง เมื่อวิภาดาเด็กหญิงวัยสิบปีเห็นร่างของพี่สาว เธอรีบวิ่งโผเข้ามากอดด้วยความดีใจ
“วิลสันเค้าซื้อขนมปังมาฝากวิกับเดชด้วย แบ่งกันกินคนละชิ้นนะ” ทิพย์ธาราพูดก่อนจะหยิบขนมปังหน้าตาน่าทานออกมาจากกล่องเบเกอรีและยื่นตรงหน้าวิภาดาหนึ่งชิ้นใหญ่ ส่วนอีกชิ้นยังคงวางอยู่ในกล่องเหมือนเดิม เพื่อให้เดชดวงรับประทาน วิภาดารับขนมปังที่พี่สาวยื่นให้ และรับประทานขนมปังอย่างเอร็ดอร่อย เพราะไม่บ่อยครั้งนักที่เธอจะได้ทานขนมปังที่อร่อยและราคาแพงเช่นนี้ ทิพย์ธารามองน้องสาวที่รับประทานขนมปัง ด้วยความรู้สึกสงสาร เธอรู้ว่าน้องคนนี้อยากทานอะไรหลายอย่าง หากแต่เธอไม่สามารถทำความปรารถนาของน้องสาวให้เป็นจริงได้ เธอต้องใช้เงินอย่างประหยัด เก็บออมเท่าที่จะเก็บออมได้ ให้มากพอที่จะเป็นค่าตั๋วเครื่องบินของคนสามคนเพื่อเดินทางกลับบ้านเกิด และต้องมีเงินอีกสักก้อนเพื่อเป็นทุนรอนในการใช้ชีวิต เมื่อเธอและน้องกลับประเทศไทย ซึ่งน้องทั้งสองก็เข้าใจดี