หลังจากรีบเผ่นออกจากบ้านหลังใหญ่ที่ไม่แพ้พระราชวังของเจ้าชายอาหรับแห่งทะเลทรายแล้ว ริคคาโดก็มุ่งหน้ามาที่บริษัทประกอบรถยนต์สาขาที่ครึ่งร้อยตนเองที่ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
รถสปอร์ตคันหรูสีดำเงาวับจอดสนิทที่หน้าตึกสูงหลายสิบชั้นที่ด้านหลังต่อด้วยตัวโรงงานขนาดใหญ่ที่บรรจุพนักงานเกือบหมื่นคนในนั้น ร.ป.ภ. วัยฉกรรจ์สองคนรีบวิ่งเข้ามาคำนับ ก่อนจะเปิดประตูรถให้ด้วยท่าทางยำเกรง
ช่วงขาเพรียวทรงพละกำลังที่ซ่อนอยู่ในกางเกงขายาวสีดำที่ผ่านการตัดเย็บมาจากช่างฝีมือเยี่ยมก้าวลงจากรถ ก่อนจะก้าวยาวไปยังลิฟท์ส่วนตัวสำหรับผู้บริหารระดับสูง มุ่งหน้าขึ้นสู่ชั้นบนสุดของอาคารซึ่งเป็นห้องทำงานของตนเอง
มือใหญ่ที่เปิดประตูห้องชะงักชั่วขณะ เมื่อพบแขกที่ไม่ได้รับเชิญนั่งเอกเขนกอยู่ในห้องทำงาน ชายหนุ่มแค่นยิ้มเล็กน้อย ขณะก้าวข้ามผ่านธรณีประตูเข้ามา
“ไม่เคยคิดว่าจะพบนายที่นี่นะลูเซียส...”
น้ำเสียงเข้มเอ่ยทักน้องชายคนที่สามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ ขณะพาดเสื้อสูทของตัวเองลงบนพนักเก้าอี้หนังแท้สีดำตัวใหญ่ ก่อนจะทรุดกายลงนั่ง
บุรุษที่มีใบหน้าหล่อเหลากระชากวิญญาณไม่แพ้ผู้เป็นพี่ชายระบายยิ้มน้อยๆ ให้กับริคคาโดผู้พี่
“ผมก็ไม่คิดว่าจะเจอพี่ริคที่นี่เหมือนกันครับ เพราะข่าววงในบอกว่าเจ้าสาวของพี่ริคสวยมาก...”
ใบหน้าของริคคาโดกระด้างขึ้นกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าในความคิดของลูเซียส “เอาล่ะ ผมไม่พูดเรื่องนี้ก็ได้... ว่าแต่ทำไมถึงมาทำงานล่ะครับ วันนี้คุณแม่ยายพาลูกสาวไปให้ถึงเตียงไม่ใช่หรือครับ...” บอกว่าจะไม่พูดแต่ก็ยังอดแหย่พี่ชายจอมเย็นชาไม่ได้
“ถ้าจะพูดเรื่องนี้ นายออกไปเลยลูเซียส...”
“โอเคครับ... ผมจะไม่พูดมันแล้ว... อย่าโมโหไปเลยน่าพี่ริค...”
ลูเซียสบุรุษรูปงามที่ไม่มีส่วนใดเลยที่ผิดแผกไปจากพี่ชาย หรือถ้าจะพูดให้ถูกพวกเขาทั้งห้าคน เหมือนกันยิ่งกว่าฝาแฝดที่เกิดจากไข่ใบเดียวกันเสียอีก
ทั้งนิสัย ทั้งหน้าตา รูปร่าง ราวกับโคลนนิ่งกันมาอย่างไรอย่างนั้น...
“แล้วทำไมถึงมาโผล่ที่นี่ได้ล่ะ ปกติอยู่นิวยอร์กไม่ใช่หรือ...”
ริคคาโดถามออกไปด้วยความสงสัย และนั่นก็ทำให้ผู้เป็นน้องชายถอนใจออกมาแรงๆ คล้ายกับกำลังเบื่อหน่ายอะไรอยู่
“ผมก็ไม่ได้อยากมาหรอกครับ แต่พอดีสายการบินของเราในเมืองไทยมีปัญหานิดหน่อย ก็เลยต้องมาเคลียร์ เสร็จแล้วก็ว่าจะรีบกลับ...”
ผู้เป็นพี่ยักไหล่ ขณะก้มลงมองแฟ้มเอกสารบนโต๊ะ “ก็ไม่เห็นต้องมาเองเลยนี่ ลูกน้องมีตั้งเยอะแยะ... หรือว่าอยากจะมาตามหาเจ้าสาว...”
ลูเซียสเบ้ปาก “การแต่งงานในความคิดของผมก็ไม่ต่างไปจากการถูกล่ามโซ่ไว้กับผู้หญิงน่าเบื่อคนหนึ่ง ผมไม่ยอมตกลงไปอยู่ในขุมนรกนั้นง่ายๆ หรอกครับ เชิญพี่ริคคนเดียวเถอะ...”
ริคคาโดเงยหน้าขึ้นจากแฟ้ม จ้องมองน้องชายเขม็ง “และใครว่าพี่เต็มใจ...”
“แต่พี่ริคก็ขัดคำสั่งคุณพ่อไม่ได้หรอกครับ คุณพ่อฉลาดมาก ทำพินัยกรรมรัดกุมทุกอย่างเอาไว้ ขนาดพวกผมไม่ใช่พี่ชายคนโตยังโดนหางเลขไปด้วยเลย...”
ลูเซียสคิดอย่างเบื่อหน่าย นึกถึงคำพูดในพินัยกรรมของพวกเขาทั้งสี่คนนอกเหนือจากริคคาโดที่โดนหนักที่สุด
‘คุณจาลอสได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ว่า พวกคุณทั้งสี่คนจะได้ทุกอย่างตามที่ท่านได้มอบให้ แต่หากวันใดที่พวกคุณคิดจะแต่งงาน เจ้าสาวจะต้องเป็นผู้หญิงไทยหรือถือสัญชาติไทยเท่านั้น หากเป็นผู้หญิงชาติอื่น ทรัพย์สมบัติทั้งหมดก็จะถูกมอบให้กับแผ่นดิน’
“และหากไม่แต่งล่ะ...”
นี่คือคำถามค้างคาใจที่แองเจลอสน้องชายคนสุดท้องร้องถามออกไปในตอนนั้น และคำตอบที่ได้ก็คือ...
“พวกคุณจะสนุกกันต่อไปได้จนกว่าจะอายุครบสามสิบห้าปี หากเลยจากนั้นพวกคุณยังไม่ได้แต่งงานกับผู้หญิงไทย ผลทุกอย่างก็จะเหมือนเดิมคือ... ทรัพย์สมบัติจะถูกมอบให้กับแผ่นดินกรีซ...”
“แต่เวลาของนายก็เหลืออีกไม่ถึงสองปีไม่ใช่หรือลูเซียส...”
“ผมคงหาทางออกได้ ก่อนจะถึงวันนั้น...”
ผู้เป็นน้องพึมพำออกมาอย่างเบื่อหน่าย ไม่เคยคิดเลยว่าความรักที่บิดามีต่อมารดาที่เป็นสาวไทยจะส่งผลต่อชีวิตของลูกๆ อย่างพวกเขามากมายถึงเพียงนี้
เสียงถอนในแรงๆ ของลูเซียสทำให้ริคคาโดที่ตกอยู่ในอาการเดียวกันก้มหน้าลงมองแฟ้มเอกสารบนโต๊ะไม้โบราณของตัวเองอีกครั้ง แต่ตัวเลขมากมายที่เรียงตัวกันเป็นแถว ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น คนที่เขาแสนจะขยะแขยง ความงามของหล่อนติดตาตรึงใจไม่คลาย หล่อนมีความเป็นอิสตรีเพศไปทั้งเนื้อทั้งตัว จนเขา...
ชายหนุ่มสบถในลำคอก่อนจะปิดแฟ้มเอกสารแรงๆ จนลูเซียสที่นั่งอยู่ตรงหน้าต้องร้องถามด้วยความแปลกใจ เพราะไม่เคยเห็นพี่ชายขาดสมาธิเวลาทำงานแม้แต่ครั้งเดียว ริคคาโดขึ้นชื่อในเรื่องของการมีวินัยสูง เวลาทำงานก็คือทำงาน เวลาสนุกริคคาโดก็สุดเหวี่ยง
แต่นี่... พี่ชายของเขากำลังทำงานอยู่ ทำไมถึงได้ทำท่าทางราวกับพึ่งกินยาขมเข้าไปเป็นกำมือแบบนี้นะ
“ผมไม่เคยเห็นพี่ริคเป็นแบบนี้...”
“นายว่างใช่ไหม ไปตีสควอชกันดีกว่า...”
ริคคาโดลุกขึ้นจากก้าวอี้ ตวัดเสื้อสูทที่พาดอยู่ไว้กับแขนกำยำ ขณะเดินอ้อมโต๊ะออกมา ลูเซียสลุกขึ้นยืนเช่นกัน
“ว่างครับ แต่คิดยังไงครับนี่ถึงจะเล่นสควอชตอนนี้ หรือว่ากำลังเครียด...”
ใบหน้าหล่อร้ายกาจของริคคาโดที่เรียบเฉยอยู่นั้นกระด้างขึ้นทันทีตาเห็น “เปล่า... แค่อยากปลดปล่อยพละกำลังที่มีอยู่ภายในตัวให้หายไปพร้อมๆ กับเหงื่อ... ก็แค่นั้น...” พูดจบก็ก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องทำงานของตัวเองทันที
ลูเซียสยกมือขึ้นเกาศีรษะทุยได้รูปสวยของตัวเองแกรกๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินตามร่างสูงใหญ่ของของพี่ชายที่เดินนำหน้าไปไกลแล้วอย่างรวดเร็ว