ตอนที่ 9

1235 Words
อรลออค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ เมื่อแสงแดดยามบ่ายแก่ๆ ที่ลอดผ่านม่านหน้าต่างราคาแพงมากระทบกับผิวแก้มเนียนของตัวเอง หญิงสาวกะพริบตาถี่ๆ สมองเริ่มต้นทำงานอีกครั้ง และความทรงจำก่อนที่หล่อนจะสิ้นสติไปก็ไหลบ่ากลับเข้ามาราวกับสายน้ำเชี่ยวกราก ร่างอรชรผุดลุกขึ้นนั่ง ดวงตาหวานซึ้งก้มลงมองสำรวจร่างกายของตัวเองด้วยความตื่นตระหนก สุดท้ายก็ต้องพ่นลมออกจากปากด้วยความโล่งอก เมื่อสภาพของตนยังปกติดีทุกประการ ผู้ชายที่หน้าตาแสนอัปลักษณ์คนนั้นไม่ได้ทำอะไรหล่อน ทั้งๆ ที่เขามีโอกาส รวมถึงมีสิทธิ์ที่จะทำทุกอย่างตามความต้องการ แต่เขากลับไม่ทำ... รอยยิ้มละไมผุดขึ้นที่มุมปากโดยไม่รู้ตัว สมองนึกย้อนไปถึงดวงตาคมข้างขวาของริคคาโด แม้สายตาที่มองมานั้นจะเต็มไปด้วยความเป็นอริ เย็นชา แต่หล่อนก็พอจะสัมผัสได้ถึงหัวใจที่พอจะมีความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่มั่งของเขา เพราะถ้าเขาไม่ใช่มนุษย์ ป่านนี้หล่อนก็คงมีราคีไปแล้ว... ร่างอรชรค่อยๆ ขยับตัวลงไปยืนที่พื้นห้องช้าๆ ความหวาดกลัวต่อริคคาโดจางหายไปกว่าครึ่ง เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าผู้ชายอัปลักษณ์อย่างริคคาโดมีความเป็นสุภาพบุรุษไม่แพ้ผู้ชายคนอื่น หรือบางทีอาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ “ขอบคุณค่ะ ที่ปรานีฉัน...” พึมพำแผ่วเบา ขณะมุ่งหน้าเดินไปที่ประตูห้อง หล่อนควรจะบอกความจริงกับเขา ควรจะบอกให้ริคคาโดรู้ว่าหล่อนไม่ใช่รุจิรา ไม่ใช่เจ้าสาวของเขา หล่อนเป็นเพียงแค่เด็กในบ้าน และถูกหลอกมาเท่านั้น มือบางกำลังเอื้อมไปจับลูกบิดประตูต้องชะงัก เมื่อบานประตูไม้เบื้องหน้าถูกกระชากให้เปิดออกเสียก่อน พร้อมๆ กับการปรากฏตัวขึ้นของสาวใช้คนเดิมคือ ลิเดีย “มีโทรศัพท์หาคุณ...” ลิเดียมองสตรีที่ปล่อยผมดำขลับให้สยายอยู่เต็มแผ่นหลังด้วยสายตาไม่เป็นมิตร อิจฉาในความงามที่ไม่ได้ปรุงแต่งของหญิงสาวตรงหน้ายิ่งนัก ผู้หญิงคนนี้สวยมาก รูปร่างอ้อนแอ้นน่าถนอม และหล่อนก็คิดว่าริคคาโดก็คงคิดเช่นเดียวกัน ถึงได้รีบแจ้นหนีออกไปจากบ้านราวกับถูกไฟเผาแบบนั้น คิ้วเรียวไร้การตัดแต่งที่โก่งดุจคันธนูเลิกขึ้นน้อยๆ ขณะจ้องสตรีตรงหน้าด้วยสายตากลมโตไร้จริต แต่ลิเดียกลับคิดว่าสิ่งที่ได้เห็นคือมายา หล่อนจึงไม่คิดจะญาติดีกับอรลออแม้แต่น้อย “ฉันจะไปรู้เหรอ ถ้าคุณอยากรู้ก็ไปรับโทรศัพท์สิ ข้างล่างนู้น...” อรลออเม้มปากแน่น ก้มหน้ามองพื้น ก่อนจะค่อยๆ เดินออกจากห้อง มุ่งหน้าไปที่บันไดบ้านที่ทอดยาวคดเคี้ยวเล่นระดับ ลิเดียมองตามไปด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะหันไปพูดกับแคทเธอรีนที่เดินผ่านมาพอดี “เคท ฉันฝากให้เธอดูแลคุณผู้หญิงหน่อยนะ มีโทรศัพท์มาหาคุณเธอ...” แคทเธอรีนหยุดเดิน เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ ขณะปลายตามองร่างอรชรของนายผู้หญิงของบ้านนิ่ง “คุณผู้ชายมอบหน้าที่ให้เธอไม่ใช่หรือลิเดีย...” “ก็ใช่ แต่ฉันไม่อยากเข้าใกล้ผู้หญิงเจ้ามารยา เห็นแก่เงินแบบนี้นะสิ กลัวจะระงับปาก ระงับคำไว้ไม่อยู่” แคทเธอรีนถอนใจออกมา ลิเดียเคยเล่าสิ่งที่ตัวเองได้ยินให้กับหล่อนฟังหลายครั้งแล้ว แต่หล่อนไม่เคยเชื่อเพราะคิดว่าลิเดียอคติเกินไป “บางทีสิ่งที่เธอได้ยินมามันอาจจะผิดก็ได้นะลิเดีย คุณผู้หญิงดูน่ารักดีออก...” ลิเดียเบ้ปากมองแคทเธอรีนด้วยความหมั่นไส้ เมื่อเห็นเพื่อนคนสวยทอดสายตามองอรลออด้วยสายตาชื่นชม “มันก็แค่เปลือกนอกเท่านั้นแหละเคท ข้างในเน่าจนหนอนไชหมดแล้ว...” พูดจบลิเดียผู้ฝังใจกับสิ่งที่แอบได้ยินริคคาโดคุยกับนักสืบก็เดินไปอีกทางหนึ่ง แคทเธอรีนถอนใจออกมากับความคิดของเพื่อน ก่อนจะรีบเดินตามอรลออในคราบของรุจิราที่กำลังเดินลงบันไดไปด้านล่างทันที “คุณผู้หญิงคะ โทรศัพท์อยู่ทางด้านซ้ายมือค่ะ” แคทเธอรีนร้องบอกเมื่อเห็นอรลออยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ที่พื้นหน้าบันได สุ่มเสียงที่แตกต่างออกไปเดิมทำให้อรลออหันกลับไปมอง และนั่นก็ทำให้หญิงสาวต้องแปลกใจเมื่อเห็นสาวใช้อีกคนที่ไม่ใช่ลิเดียยืนยิ้มให้อยู่อย่างเป็นมิตร อรลออรีบยิ้มตอบไปทันที “ขอบคุณมากจ๊ะ เอ่อ...” “ดิฉันชื่อแคทเธอรีนค่ะ เรียกเคทเฉยๆ ก็ได้ เป็นสาวใช้ของคุณริคคาโดเหมือนกับลิเดีย...” อรลออระบายยิ้มน้อยๆ เดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู แต่แล้วก็ต้องตกใจจนหน้าซีดเมื่อได้ยินเสียงคู่สนทนา “น้า... เอ่อ... คุณแม่...” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองสาวใช้ด้วยท่าทางไม่สบายใจ แคทเธอรีนจึงรีบเดินเลี่ยงออกมาทันที เพราะดูจากท่าทางแล้วว่าที่คุณผู้หญิงของบ้านคงต้องการความเป็นส่วนตัว เมื่ออยู่ตามลำพังอรลออจึงเอ่ยขึ้นกับนางราณีด้วยน้ำตานองหน้า ความผิดหวังกระแทกอยู่ในอกจนหัวใจยับเยิน “น้าณีไม่น่าทำกับอรอย่างนี้เลยนะคะ... เอาอรมาขายทำไม...” นางราณีเบ้หน้าผ่านโทรศัพท์ “น้าไม่ได้ขายแกนะอร แต่น้าไม่กล้าบอกความจริงให้อรรู้ กลัวอรจะไม่ช่วยน้า อรก็รู้นี่จ๊ะว่ายายรุไม่มีทางยอมไปเป็นเมียคนหน้าตาอัปลักษณ์แบบคุณริคคาโดนั่นแน่...” “น้าณีเลยหลอกให้อรมาแทน...” อรลออเอ่ยขึ้นด้วยความเจ็บช้ำ “ก็ถือว่าตอบแทนบุญคุณแล้วกันนะอรลออ น้าเลี้ยงแกมาตั้งแต่สามสี่ขวบจนตอนนี้แกจะสิบเก้าอยู่แล้ว แถมน้ายุธก็ยังดีกับแกยิ่งกว่าลูกแท้ๆ อย่างยายรุเสียอีก...” เมื่อถูกนางราณีนำเอาอยุธผู้มีพระคุณประดุจบุพการีขึ้นมาบีบบังคับ อรลออผู้อ่อนต่อโลกก็จำต้องยอมจำนนเสียทุกครั้งไป “แต่ครั้งนี้... น้าณีคะ ให้อรทำอย่างอื่นไม่ได้หรือคะ... อรกลัว...” “แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะอร... แล้วน้าจะไม่กดขี่ข่มเหงแกอีก น้าจะปล่อยแกไป บุญคุณระหว่างเราจะหมดสิ้นกัน...” นางราณีที่อยากจะออกไปเล่นไพ่ใจจะขาดพยายามข่มเสียงทำเป็นอ่อนโยน ทั้งๆ ที่ภายในใจแสนจะไม่พอใจอย่างยิ่ง “แต่ว่าอร...” “นะ ถือว่าช่วยน้ายุธของแกก็แล้วกัน เพราะสาเหตุทั้งหมดเกิดจากน้ายุธสุดที่รักของแกคนเดียว... และอย่าได้บอกว่าแกไม่ใช่ยายรุล่ะ เพราะหากคุณริคคาโดเขารู้ว่าพวกเรารวมหัวกันโกหกเมื่อไหร่ พวกเราทุกคนได้เข้าซังเตแน่...” นางราณีข่มขู่เป็นที่น่าพอใจแล้วก็รีบวางสายไปทันที อรลออจนด้วยคำพูดได้แต่ยืนกำกระบอกโทรศัพท์แน่น น้ำตาไหลออกมาตามร่องแก้ม หัวใจปวดร้าวจนสมองไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีก นอกจากความเจ็บปวด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD