บทที่ 13 อย่ากีดกันฉันกับลูก

1324 Words
บทที่ 13 อย่ากีดกันฉันกับลูก สองวันต่อมา เจ๊หวังเห็นมีนาลงจากรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และตรงไปเกาะรั้วโรงเรียนบริเวณสนามเด็กเล่น นางจึงรีบเปิดประตูก้าวลงจากรถ กระชากแขนเธอให้เดินไปด้วยกันที่อื่น “ทำอะไรของคุณน่ะ” มีนาฝืนตัวแล้วกระชากแขนกลับเมื่อหายตกใจ “จะ..จะ..เจ๊หวัง” “เอออั๊วเอง ทำไม ตกใจมากเหรอที่เจออั๊ว คิดไม่ถึงล่ะสิว่าอั๊วจะรู้ กลับมาอีกทำไม เงินสิบล้านที่ได้ไปด้วยเหตุผลอะไรจำไม่ได้เหรอ” เจ๊หวังถามทวนความจำของอีกฝ่าย ‘จำได้แล้วไง ลื้อจะทำอะไรอั๊ว แก่ ๆ อย่างลื้อจะทำอะไรอั๊วได้ อีแก่เอ๊ย!’ มีนามองหน้าสตรีตรงหน้า ไม่พอใจต่อการกระทำอันหยาบคายของอีกฝ่าย แต่ก็ได้แต่ผรุสวาทอยู่ในใจ “อยากด่าอั๊วก็ด่าออกมาดัง ๆ เลยสิ อย่ามาด่าอยู่ในใจแบบนี้ อั๊วไม่ชอบ ไอ้หยา!” เจ๊หวังขยับเท้าหลบแทบไม่ทัน เมื่อหญิงสาวที่ทำท่าทางเกรี้ยวกราดคุกเข่าลงไปกับพื้น “ลื้อทำอะไรของลื้อเนี่ย ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะ อั๊วไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาคนอื่น” นางต่อว่าหญิงสาวหน้าดำหน้าแดง “ฉันผิดไปแล้วเจ๊หวัง เจ๊ยกโทษให้ฉันเถอะนะ ให้ฉันได้พบหน้าลูกบ้าง อย่ากีดกันฉันกับลูกเลยนะคะเจ๊” “อั๊วไม่ใจอ่อนให้คนอย่างลื้อหรอก ไปให้พ้นหน้าอั๊วได้แล้ว อย่ามาให้คุณอีริคเห็นหน้าลื้ออีกเป็นอันขาด ถ้าลื้อรักลูกจริงอย่าให้เขาต้องรับรู้ว่ามีแม่เป็นผีพนันอย่างลื้อเลยนะ” “ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าการพนันเป็นสิ่งที่ไม่ดี มันมีแต่สร้างความหายนะให้ฉัน ฉันเข็ดแล้วจริง ๆ นะคะเจ๊” การพนันทำให้เธอเปลืองทั้งเงินและเปลืองทั้งตัว เธอรู้ซึ้งแล้วตอนนี้ “ให้โอกาสฉันสักครั้งนะคะเจ๊หวัง” “ไม่เด็ดขาด ลื้อไปได้แล้ว อย่าให้อั๊วเห็นหน้าลื้ออีก” เจ๊หวังทำใจแข็งเดินจากไปโดยไม่มองหน้าอีกฝ่ายแม้แต่นิด “เจ๊หวังคะ เห็นใจฉันเถอะค่ะเจ๊หวัง ให้ฉันได้เจอหน้าลูกบ้างนะคะ” มีนาคร่ำครวญตามหลังทั้งน้ำตา แต่อีกฝ่ายก็ไม่เหลียวหลังกลับมาแม้แต่นิด มีนาขยับตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง 155 เซนติเมตร มองตามท้ายรถยนต์คันที่เจ๊หวังนั่งจากไปด้วยสายตาโกรธแค้น “ขอให้รถคว่ำตายไปเลยอีแก่เอ๊ย!” หลังจากวันนั้นมีนาก็ไม่มีโอกาสได้พบกับลูกชายอย่างใกล้ชิดอีกเลย ทางเดียวที่เธอทำได้ก็คือการยืนเกาะรั้วโรงเรียน หวังว่าจะได้พบเขาในเวลาพักกลางวัน... วิโมกข์ละสายตาจากหนังสือพิมพ์ในมือ ชำเลืองมองสตรีสูงวัยที่ดูแลตนมาตั้งแต่เด็ก ที่หย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม.. เขารู้ได้ทันทีจากการกระทำของนาง เพราะนางจะไม่นั่งร่วมโต๊ะกับเขาเด็ดขาดถ้าไม่มีเรื่องสำคัญต้องคุยด้วย “มีอะไรหรือครับป้า” “คุณหนูทำงานเหนื่อยไหมคะ” ชายหนุ่มวางหนังสือพิมพ์ในมือลง เริ่มให้ความสนใจกับเจ๊หวัง “ทำไมถึงถามผมแบบนี้ล่ะครับป้า” “ตอบหวังก่อนสิคะ” “ก็เหนื่อยบ้างในบางวัน แต่ผมก็มีความสุขกับทุกวันนี้ดีครับ” “หวังอยากให้คุณหนูออกงานสังคมให้มากขึ้นกว่านี้ อย่ามัวแต่หมกมุ่นอยู่กับงานมากนัก” ที่พูดแบบนี้เพราะงานของเขามีคนช่วยดูแลเป็นระบบระเบียบอยู่แล้ว เขาไม่ต้องเข้าไปดูแลเองก็ยังได้ “ผมก็ไปอยู่นะครับป้า” “แต่หวังอยากให้คุณหนูไปให้มากกว่านี้ ทุกวันนี้คุณหนูเลือกไปแต่งานที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น หวังยังเคยคิดว่าพวกนั้นคงคิดว่าผู้จัดการเป็นคุณหนูซะมากกว่า” เธอหมายถึงผู้จัดการสำนักงานที่เป็นตัวแทนของเขาออกงานอยู่เสมอ เขาหัวเราะเบา ๆ “ทำไมถึงอยากให้ผมไปล่ะครับป้า ป้าไม่อยากให้ผมพักผ่อนมาก ๆ เหรอ” “อยากสิคะ แต่หวังอยากให้คุณออกงานให้มากกว่านี้อีกสักหน่อย” “ป้ามีอะไรจะบอกผมหรือเปล่าครับ” เขาถามเข้าประเด็นไม่อ้อมค้อมอีกต่อไป “หวังอยากให้คุณหนูมีแฟนค่ะ ถ้าคุณหนูมัวแต่หมกมุ่นอยู่ในสวนในไร่แบบนี้ แล้วเมื่อไหร่จะได้เจอล่ะคะ” เจ๊หวังตอบอย่างตรงไปตรงมา “หึ ๆ ๆ ป้าอยากให้ผมมีแฟนแล้วเหรอ ไม่อยากดูแลผมแล้วล่ะสิ” “ไม่ใช่นะคะ ถึงคุณหนูจะแต่งงานไปแล้ว หวังก็ยังอยู่ดูแลคุณหนูไปตลอดแหละค่ะ หวังแค่อยากเห็นคุณหนูมีความสุขให้มากกว่านี้ต่างหากล่ะ.. หรือว่าเพราะ..” เจ๊หวังใจหายไปเล็กน้อยเมื่อคิดถึงหญิงสาวที่นางกำลังจะพูดถึง “คุณหนูยังรักคุณมีนาอยู่เหรอคะ” ถ้าเป็นเพราะหล่อนจริง นางจะล้มเลิกความตั้งใจนี้เสีย “ไม่ใช่หรอกป้า ผมจะไปรักผู้หญิงแบบนั้นได้อย่างไรอีก นอกจากที่เธอทำกับผมแล้ว ป้าก็เห็นว่าเธอทำกับหลุยส์กับอีริคไว้ยังไงบ้าง” เจ๊หวังลูบอกด้วยความโล่งใจ “ได้ยินแบบนี้หวังสบายใจขึ้นเยอะเลยค่ะ ถ้าอย่างนั้นหวังขอเข้าเรื่องจริง ๆ แล้วนะคะ” “ว่ามาสิครับป้าหวัง” “เรื่องคุณมีนาค่ะ” นางบอกแล้วสังเกตดูท่าทีของเขา เห็นดวงตาสีดำนิลของเขาหรี่ลง สีหน้าเต็มไปด้วยความแคลงใจ “ที่หวังพูดเพราะหวังเห็นแก่เด็กตาดำ ๆ นะคะ ไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนั้น” “พูดมาได้เลยครับป้า” “เมื่อสองอาทิตย์ก่อนเธอแอบไปหาคุณอีริคที่โรงเรียนค่ะ หวังก็เลยไปบอกกับครูว่าไม่ให้เธอพบกับลูก และได้คุยกับเธอตรง ๆ ด้วย เธอร้องห่มร้องไห้บอกว่าสำนึกได้แล้ว จะปรับปรุงตัวเองเสียใหม่ และจะเลิกเล่นการพนัน แต่ขอให้เธอได้อยู่กับลูกด้วย แต่หวังก็ไม่ได้ยอมรับเธอนะคะ หวังปฏิเสธเธอแล้วสั่งห้ามไม่ให้เธอพบกับคุณอีริค แต่สองอาทิตย์มานี้เธอก็ยังแอบไปพบลูกทุกวัน หวังคิดว่าเธอคงสำนึกผิดแล้วจริง ๆ... หวังก็เลยอยากให้แม่ลูกเขาได้อยู่ด้วยกันค่ะ” “แต่ผมไม่คิดแบบป้านะ กี่ปีมาแล้วที่เธอหลงงมงายอยู่กับการพนัน ที่เธอเป็นแบบนั้นเพราะหมดตัวแล้วมากกว่า ถ้าลองมีเงินขึ้นมาอีกเธอก็จะกลับไปใหม่แน่นอน” เจ๊หวังมองชายหนุ่มผู้เย็นชาผิดจากหลายปีก่อนด้วยความเศร้า เขาจริงจังกับชีวิตมากเกินไปหรือเปล่าในตอนนี้ “ให้โอกาสเธอสักครั้งนะคะคุณหนู หวังเองก็ยังไม่ได้ให้อภัยเธอนะคะ แต่หวังอยากให้โอกาสเธอเท่านั้น” นึกถึงสภาพซอมซ่อของมีนาวันนั้นแล้วรู้สึกอดสูยิ่งนัก เธอคงจะหมดตัวจริง ๆ นั่นแหละถึงได้อยู่ในสภาพแบบนั้น “...ผมเคารพการตัดสินใจของป้าก็แล้วกัน แต่ป้ามั่นใจแค่ไหนที่จะให้อีริคกลับไปอยู่กับแม่เขา” ถึงแม้เขาจะไม่ใช่พ่อหรือเครือญาติของเด็กน้อย แต่การอยู่ร่วมกันมาเกือบสองปีก็ทำให้รู้สึกผูกพันจนไม่อยากให้จากไป “คุณหนูเข้าใจผิดแล้วค่ะ หวังไม่ได้คืนคุณอีริคให้แม่เขานะคะ แต่หวังจะให้อีมาอยู่กับลูกที่นี่ต่างหาก” ถ้านางจะให้เด็กออกไป นางคงไม่เกริ่นถามเรื่องคนรักกับเขาหรอก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD