บทที่ 12 แม่ลูก

1407 Words
บทที่ 12 แม่ลูก วันต่อมา มีนาคุกเข่าลงกับพื้นแล้วดึงลูกชายมากอดแนบอก ทำท่าอาลัยอาวรณ์ไม่อยากจะจากไปทั้งน้ำตา “ลูกรักของแม่ อยู่กับคุณอาต้องเป็นเด็กดีนะลูก อย่าดื้อ อย่าซน อย่าเอาแต่ใจ ตั้งใจเรียนหนังสือให้ดี คุณอาจะได้รักและเอ็นดู” “คุณแม่ต้องกลับมาหาอีริคนะครับ” เด็กน้อยทวงสัญญาที่มารดาให้ไว้เมื่อคืนนี้ หญิงสาววัยสามสิบสองปีมองไปที่ชายหนุ่มทั้งสองด้วยแววตาเศร้าสร้อย แล้วจึงฝืนยิ้มแจ่มใสให้ลูกชาย “จ้ะลูก แม่ไปก่อนนะจ๊ะ” เธอบรรจงหอมแก้มลูกชายทั้งซ้ายขวา ปล่อยน้ำตาเม็ดโตร่วงรินเป็นสายดั่งใจจะขาด วิโมกข์และบารมีเมินหน้าหนีไปทางอื่น เพราะทนมองภาพน้ำตานองหน้าของเธอไม่ไหว แต่เจ๊หวังกลับมองจ้องด้วยแววตาจับผิดไม่วางตา และคิดว่าเธอเสแสร้งแกล้งทำมากกว่า “คุณอีริคมาอยู่กับยายหวังนะคะ ปล่อยให้คุณแม่ไปนะคะ” นางเดินเข้าไปหาเด็กชายตัวน้อยพร้อมรอยยิ้ม “ครับคุณยาย” เด็กชายตอบรับอย่างว่าง่ายตามที่มารดาสั่งสอน มีนานึกเคืองลูกชายที่ยอมเชื่อฟังยายแก่โดยดี แต่เธอก็ยังปั้นหน้าเศร้าเคล้าน้ำตา มองลูกชายที่เดินจากไปอย่างตัดใจไม่ลง “รีบไปเถอะค่ะคุณมีนา ร้องไห้ไปก็ทำให้เด็กใจเสียเปล่า ๆ” เจ๊หวังพูดแบบไม่คิดจะถนอมน้ำใจหล่อนสักนิด “เข้าไปในบ้านกันนะคะคุณอีริค ยายหวังจะทำขนมอร่อย ๆ ให้ทานนะคะ” “ครับคุณยาย” เด็กชายตัวน้อยยิ้มร่าเดินตามเจ๊หวังเข้าไป “การพนันทำให้คนรวยกลายเป็นคนจน การงานทำให้คนจนกลายเป็นคนรวย ฉันหวังว่าเธอจะใช้เงินสิบล้านให้เป็นประโยชน์” วิโมกข์เตือนสติหญิงสาวที่ยืนมองลูกด้วยสายตาอาวรณ์แล้วเดินจากไปทันที “โชคดีนะมีน” บารมีส่งยิ้มให้หญิงสาวเล็กน้อยแล้วเดินตามวิโมกข์กลับเข้าไปในบ้าน มีนามองทุกคนเดินจากไปจนเหลือแต่ความว่างเปล่า แล้วจึงบันทึกภาพบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้สไตล์รีสอร์ตหลังใหญ่ไว้ในความทรงจำ มองต้นยางพาราที่ปลูกเรียงรายเป็นระเบียบสุดลูกหูลูกตา มองไปตามทางคอนกรีตที่พาไปยังบ่อเลี้ยงหอยเป๋าฮื้ออีกหลายร้อยบ่อ “สักวันฉันจะกลับมาเป็นเจ้าของพวกแกให้ได้” เธอตั้งปฏิญาณแล้วขึ้นรถขับไปตามเส้นทางที่พาออกนอกอาณาเขตฟาร์มสวนยาง ฟาร์มโชคอนันต์ หรือฟาร์มสวนยางโชคอนันต์ตามแต่คนจะถนัดเรียก... วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป เด็กชายอีริคเข้ามาอยู่ในความดูแลของวิโมกข์ถึงวันนี้ก็เป็นเวลาสองปีกว่าแล้ว เขาถูกส่งให้เข้าโรงเรียนอนุบาลที่ดีที่สุดของจังหวัด โดยมีเจ๊หวังและพี่เลี้ยงคนเก่าที่ชื่อหนึ่งคอยดูแลอย่างดี วิโมกข์มุ่งมั่นกับการพัฒนาคุณภาพสินค้าของเขาต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสวนยางหรือการเลี้ยงหอยเป๋าฮื้อ เขาเริ่มกระจายรายได้ให้ชาวบ้านด้วยการสอนวิธีเลี้ยงสาหร่ายผมนาง อาหารสุดโปรดของหอยเป๋าฮื้อ และรับซื้อในราคาที่แพงกว่าที่อื่นเล็กน้อย หรือถ้าใครอยากจะเลี้ยงหอยบ้างเขาก็ยินดีให้คำแนะนำโดยไม่หวงความรู้ และยังรับซื้อหอยของชาวบ้านในราคาที่ยุติธรรม ส่วนบารมีก็เริ่มขยายร้านบาร์เบียร์ของตัวเองเพิ่มอีกหลายสาขาทั้งในสงขลาและภูเก็ต รวมถึงการทำธุรกิจรีสอร์ตระดับห้าดาว และใครบางคนที่หลงระเริงไปกับการพนันเพราะอยู่ในช่วงขาขึ้นมานานนับปี ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงดิ่งลงเหวจนน่าใจหาย มีนาตะเกียกตะกายเดินลงจากเตียงด้วยร่างกายที่บอบช้ำ เพราะถูกเจ้าหนี้รายหนึ่งทวงเงิน แต่เมื่อไม่มีเงินต้นก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยด้วยการร่วมหลับนอนอย่างซาดิสต์ผิดมนุษย์ มันทำให้เธอหวนคิดถึงสามีที่แสนจะอ่อนโยนอย่างหลุยส์ เซียะ เธอหยิบกระเป๋าเงินที่มีแต่เหรียญขึ้นมา เปิดหารูปภาพของเขาและลูกชายขึ้นมาดูด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ.. นี่แหละหนามนุษย์ พอตกทุกข์ขึ้นมาก็โหยหาอดีตที่เคยหวานชื่น อยากให้วันคืนหมุนเวียนกลับไป “สองปีแล้วสินะที่คุณทิ้งฉันกับลูกให้ลำบากแบบนี้ คุณรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันคิดถึงคุณแค่ไหน และเพิ่งคิดได้วันนี้เองว่าการพนันมันไม่ใช่สิ่งที่ดีเลยสักนิด ฉันต้องกลายเป็นแบบนี้ก็เพราะมัน” เธอคร่ำครวญกับรูปภาพน้ำตานองหน้า “เกือบสองปีแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้ไปหาลูกของเรา เพราะมัวแต่หลงระเริงกับการพนัน ฉันไม่ยอมยกเขาให้ครอบครัวคุณเพราะเขารังเกียจฉัน และฉันกลัวว่าเขาจะไม่รักลูกของเรา ฉันจึงเอาเขาไปฝากเลี้ยงกับเพื่อนสนิทของคุณแทน ตอนนี้ฉันคิดถึงเขามาก ฉันอยากจะกลับไปอยู่กับเขา คุณต้องช่วยฉันนะหลุยส์ ช่วยให้ฉันได้อยู่กับลูกด้วยนะ” เธอกอดภาพถ่ายแนบอก ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยน... โรงเรียน “อีริค” เด็กชายอีริคที่กำลังเล่นกับเพื่อน ๆ อยู่ในสนามหญ้าหันไปมองเมื่อได้ยินชื่อตน แล้วทำหน้าสงสัยเมื่อเห็นผู้หญิงคนหนึ่งส่งยิ้มมาให้ แต่ในความสงสัยนั้นยังมีความรู้สึกคุ้นเคยแฝงอยู่ จึงเดินเข้าไปใกล้อีกนิดเพื่อดูให้แน่ใจ “..คุณ..แม่..” เด็กน้อยเรียกอย่างไม่มั่นใจนัก เพราะแม่ที่อยู่ในความทรงจำและรูปถ่ายสวยกว่าคนนี้มาก แต่เพราะความรู้สึกผูกพันที่มีอยู่ลึก ๆ ทำให้เขาคิดว่าผู้หญิงต้องเป็นแม่แน่นอน “ใช่จ้ะอีริค แม่เองจ้ะ” มีนาน้ำตาริน ดึงลูกชายมากอดด้วยความคิดถึง เธอเสียเวลาในการแอบติดตามลูกชายอยู่หลายวัน และตอนนี้เธอก็สมความปรารถนาแล้ว “คุณแม่จริง ๆ เหรอครับ” เด็กน้อยยังลังเล “จริงสิจ้ะ นี่คือคุณแม่มีนของอีริคไงลูก” มีนาตบอกยืนยันกับลูกชายหลายทีซ้อนกัน “แม่คิดถึงลูกมาก แล้วลูกล่ะจ๊ะคิดถึงแม่บ้างไหม” เด็กน้อยเบะปาก น้ำตาเริ่มคลอเบ้าแล้วพยักหน้ารับ กอดตอบมารดา ซบหน้ากับบ่าบอบบางนั้นอย่างโหยหาไออุ่น... เจ๊หวังมองเด็กชายตัวน้อยที่กระโดดโลดเต้นเข้ามาในห้องอาหาร หลังจากอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าท่าทางของเขาดูมีความสุขมากเป็นพิเศษอย่างเห็นได้ชัด “วันนี้ที่โรงเรียนมีอะไรพิเศษเหรอคะ คุณอีริคถึงมีความสุขมากขนาดนี้” นางถามพร้อมกับวางถ้วยเยลลี่ผลไม้และแก้วนมสดลงบนโต๊ะ “วันนี้อีริคเจอแม่มีนด้วยครับคุณยายหวัง” “..จริงเหรอคะ” เจ๊หวังถามพร้อมรอยยิ้มฝืนหลังจากหายตกตะลึง “จริง ๆ ครับคุณยายหวัง แม่มีนสัญญาว่าจะกลับมาอยู่กับอีริคด้วยนะครับ” เด็กน้อยมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าตลอดเวลาขณะตอบคำถาม “คุณอีริคทานขนมกับนมให้หมดนะคะ เดี๋ยวยายหวังมานะคะ” “ครับคุณยายหวัง” เมื่อเด็กน้อยรับคำแล้ว เจ๊หวังจึงส่งสายตาบอกใบ้ให้พี่เลี้ยงของเด็กน้อย ให้เดินตามออกไปข้างนอกด้วยกัน “เป็นเรื่องจริงเหรอหนึ่ง ลื้อเห็นอีกับตาเลยไหม” เมื่ออยู่กันตามลำพังแล้วหวังจึงถามพี่เลี้ยงของอีริค “หนึ่งไม่เห็นคุณมีนนะคะคุณแม่บ้าน ตอนที่หนึ่งไปถึงหนึ่งก็เห็นคุณอีริคเล่นอยู่กับเพื่อน ๆ ตามปกติ” “พรุ่งนี้ลื้อไปถามครูประจำชั้นของเขาดูซิว่าแม่เขามาหาจริงไหม ถ้ามันจริงก็บอกกับครูไปเลยว่าอย่าให้เธอพบกับเขา เพราะเขาไม่ได้อยู่ในความดูแลของเธอตั้งนานแล้ว ลื้อเข้าใจที่อั๊วพูดไหมอาหนึ่ง” “เข้าใจค่ะคุณแม่บ้าน” “ถ้าเป็นไปได้ลื้อก็แอบดูให้แน่ใจว่าใช่เธอจริง ๆ หรือเปล่า แล้วรีบโทรมารายงานอั๊วทันทีเลยนะ” ถ้าใช่จริง ๆ เห็นทีนางต้องไปเจรจากับหล่อนสักหน่อย...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD